คอลัมน์ บันเทิงต่างประเทศ
^{http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01ent04140648&day=2005/06/14}

raikorn@hotmail.com

ถ้าเธอคิดได้ ทำได้อย่างที่พูดจริงๆ ก็ต้องบอกว่า "มาดอนนา" ในวันนี้ เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ และ "เปลี่ยนไปมาก" ซะด้วย จากอดีตนักร้องซุปเปอร์สตาร์จอมเฮี้ยว ที่ชอบแต่งตัวหวือหวา และกล้าทำอะไรบ้าบิ่น โดยไม่แคร์สายตาใครมาแล้วหลายอย่าง ทั้งในจอและนอกจอทีวี

แต่วันนี้เธอกลับเป็นคุณแม่ 2 ที่ดูสุขุมขึ้นเป็นกอง และมีความเข้าใจชีวิตเพิ่มขึ้นมากมาย กระทั่งสามารถประคับประคองชีวิตคู่กับสามีหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าตั้ง 10 ปีมาได้ 5 ปีแล้ว มิหนำซ้ำยังเขียน "หนังสือเด็ก" ควบคู่กับการทำงานเพลง ออกมาได้เป็นเล่มที่ 5 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!

ลอตซา เดอ คัตชา(Lotsa de Casha) คือหนังสือนิทานเด็กเล่มที่ 5 และจะเป็นเล่มสุดท้ายจากฝีมือของมาดอนนา ที่ตั้งใจทำออกมาให้เด็กๆ ได้อ่านกัน ซึ่งในวันเปิดตัว วางแผงเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นักร้อง-นักเขียนหญิงวัย 46 ก็ได้ไปนั่งอ่านหนังสือของเธอให้เด็กๆ ได้ฟังกันตาแป๋ว

แต่ไม่รู้ว่า แฟนหนังสือตัวน้อยทั้ง 25 คน ที่ได้ใกล้ชิดกับมาดอนนาในวันนั้น จะสามารถเข้าใจถึง "หัวใจ" สำคัญของหนังสือที่ผู้เขียนตั้งใจจะบอกหรือเปล่าว่า เงินไม่สามารถซื้อความสุขได้ ด้วยว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ยังลึกซึ้งเกินกว่าเด็กๆ จะเข้าใจ

ทั้งนี้ มาดอนนาได้บอกเล่าหัวใจสำคัญของหนังสือผ่านทางลอตซา สุนัขซึ่งเธอสร้างขึ้นมาให้เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ไม่ว่าเขาจะมีทุกอย่างที่เงินสามารถหาซื้อได้ แต่ปัญหาหนึ่งก็คือ ไม่ว่าลอตซาจะหาเงินมาได้มากมายเท่าไร เขาก็ไม่เคยมีความสุขในชีวิต!!!

อันเป็นที่มาของบทสรุปปิดท้ายที่คุณแม่คนสวยได้ฝากต่อไว้ในหนังสือให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ก็คือ "เมื่อไรก็ตามที่เธอรู้จักเผื่อแผ่ แบ่งปันให้ผู้อื่น ไม่ใช่แค่ความสุขเท่านั้นที่เธอจะได้ แต่เธอยังจะได้มิตรเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย"

ฟังดูจับใจมากๆ เลย เพราะมาดอนนาได้หยิบจับ "ความจริง" ในชีวิตมาพูด แต่ไม่รู้ว่าเธอจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้น่าอ่านขนาดไหน ซึ่งก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิจารณ์เขาว่ากันต่อไป แต่สำหรับข้อมูลจากสำนักพิมพ์ Nicholas Callaway of Callaway Arts & Entertainment ที่พิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือนิทานเด็กของมาดอนนาก็ว่า ขณะนี้หนังสือทั้ง 5 ตอนของมาดอนนาขายไปได้แล้วราว 2 ล้านเล่ม ขณะที่มีการนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ แล้ว 40 ภาษา และดิ อิงลิช โรสเซส(The English Roses) หนังสือตอนแรกของเธอยังจะถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ซีรีส์ทางทีวี ออกฉายราวกลางปี 2549

ในโอกาสที่มีหนังสือใหม่คลอดออกมาวางแผง คุณแม่คนเก่งก็ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ตามธรรมเนียม หนังสือเดอะ บอสตัน โกลบ ที่ได้สัมภาษณ์มาดอนนาทางโทรศัพท์ เล่าว่า ได้พูดคุยกับเธอถึงเรื่องการเขียนหนังสือ และชีวิตครอบครัวเป็นส่วนใหญ่

ในเดอะ บอสตัน โกลบ มาดอนนาเล่าถึงการใช้เวลาสร้างสรรค์งานเขียนนิทานของเธอว่า "ฉันจะใช้เวลาช่วงบ่ายวันละ 4 ชั่วโมง หรือตอนที่เงียบๆ ลูกๆ ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว ฉันก็จะไปนั่งพิมพ์งานที่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งบนโต๊ะจะมีรูปปั้นตัวโปรดที่ฉันชอบมาก เป็นรูปปั้นผู้หญิงนั่งคุกเข่า หลับตา เธอดูมีสมาธิมาก และเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ของฉัน"

ส่วนชีวิตประจำวัน หากเธอไม่เขียนหนังสือ หรือนั่งทำงานเพลงในอัลบั้มใหม่ "ฉันก็จะตื่นนอนราว 07.15 น. ลงไปข้างล่าง ทานอาหารเช้ากับลูกๆ เถียงกับลูกสาวคนโตเรื่องหวีผม ทำทรงผมให้เธอ แล้วก็ส่งพวกเขาไปโรงเรียน บางครั้งฉันก็จะขับรถไปส่งพวกเขาเอง แต่ฉันต้องบอกตามตรงว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบทำ เพราะฉันไม่ชอบที่ต้องตื่นขึ้นมาแต่งตัว เพื่อไปปรากฏตัวที่โรงเรียนทุกวัน"

มาดอนนายังเล่าถึงชีวิตการเป็นแม่ เมื่อถูกนักข่าวถามว่า ลูกเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเธอ และเธอยังนึกไม่ออกว่าชีวิตจะเป็นยังไงหากขาดลูกไป "ขนาดตอนนี้ที่ฉันไม่ได้อยู่กับลูก เพราะต้องมาโปรโมตหนังสือ ฉันยังคิดถึงพวกเขาเป็นบ้า"

เธอยังเล่าถึง ลัวร์เดส ลูกสาววัย 8 ขวบ ที่เกิดจากอดีตสามีนักเต้นว่า ตอนนี้ชอบทำห้องรก ชอบถอดเสื้อผ้า แล้วทิ้งไว้เกลื่อนพื้นห้องนอน นิสัยที่ทำให้คุณแม่อย่างเธอหงุดหงิดมาก เธอจึงคิดวิธี "ดัดนิสัย" ไม่เป็นระเบียบของลูกสาว โดย "ฉันก็จะบอกกับลูกว่า หากหนูออกจากห้องไปโรงเรียนตอนเช้า โดยทิ้งเสื้อผ้าไว้เกลื่อนพื้นห้อง เมื่อหนูกลับมาตอนเย็น หนูก็จะไม่ได้เห็นเสื้อผ้าเหล่านั้นอีกต่อไป ดังนั้น ในบ้านเราก็จะมีถังขยะใบเบ้อเริ่มไว้ใส่เสื้อผ้าของเธอ แล้วพอเธอทำดี เราก็จะคืนเสื้อผ้าให้เธอทีละชุด แรกๆ มันก็ได้ผลนะ แต่สักพักเธอก็เริ่มทิ้งเสื้อผ้ากองเกลื่อนพื้นห้องอีก"

สำหรับเคล็ดลับครองเรือนกับ กาย ริชชี สามีผู้กำกับฯชาวอังกฤษ ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในกรุงลอนดอน มีลูกชายด้วยกัน 1 คน มาดอนนาเล่าว่า อย่างหนึ่งที่เธอเปลี่ยนไปก็คือ ความคิด จากที่เคยแต่งงานกับ ณอน เพนน์ พระเอกฮอลลีวู้ดเจ้าบทบาท แล้วต้องหย่ากันไปก็เพราะ "ตอนนั้นฉันไม่สนใจที่จะประนีประนอม ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน นึกอยากทำอะไรฉันก็ทำ เขานึกอยากทำอะไรเขาก็ทำ"

"แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เวลาจะทำอะไรคุณต้องนึกถึงอีกฝ่ายไปโดยอัตโนมัติ และอย่างเวลามีปัญหา ฉันเป็นคนประเภทต้องเคลียร์ปัญหากันเดี๋ยวนั้นเลย แต่สามีฉันเป็นประเภท เดี๋ยวอีก 2 วันเราค่อยมาพูดถึงปัญหานี้ก็แล้วกัน ทำให้บางครั้งฉันก็ต้องรู้จักกัดลิ้น สงบปาก สงบคำไว้บ้าง"

ส่วนเรื่องการเล่นบทพ่อแม่ เธอเล่าว่า "ฉันจะเป็นคนเจ้าระเบียบ แต่กายจะเป็นพ่อที่ตามใจลูกมาก ฉันจะเป็นคนดูแลเรื่องนัดหมอ สอนการบ้านลูก ดูแลเรื่องงานบ้าน แต่เขาจะเล่นบทเป็นตำรวจดี ส่วนฉันเป็นตำรวจบ้านใจร้าย"

ระหว่างสัมภาษณ์ นักร้องคนดังยังถูกถามถึงหนังสือภาพเซ็กซ์(Sex) ที่เธอเคยโพสท่าถ่ายรูปหวือหวาออกวางขายเมื่อปี 2535 ว่า ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจที่ทำลงไปมั้ย?

คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่เลย คุณน่าจะรู้จักฉันดีกว่านั้น ฉันไม่เคยเสียใจ มีประโยชน์อะไรที่คุณจะไปนั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำไปแล้ว? และถ้าหากฉันไม่ได้ทำอะไรต่างๆ ที่เคยทำมา ฉันก็คงไม่สามารถมาเป็นฉันในวันนี้ได้หรอก"

หากอดีตคือบทเรียนอันล้ำค่า มาดอนนาก็นับว่าเป็นนักเรียนที่สอบผ่านได้คะแนนดีเลยทีเดียวล่ะสำหรับวันนี้

------

จบข่าว