CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ***** The Hospital ตอนที่ 10-11 (1) ****

    ตอนที่ 10-11

    สวีต้าหมิงอาศัยช่วงเวลาพักระหว่างการประชุม 2 นัดในช่วงบ่าย โทรศัพท์ให้ซูอี๋หวา ให้กำลังใจซูอี๋หวาว่าอย่าเพิ่งหมดกำลังใจ คนหนุ่มสาวทำอะไรต้องเอาจริงเอาจังมั่นคง ไม่ต้องรีบร้อนแสดงตัวให้โดดเด่น แผนกอายุรกรรมยังมีอีกหลายเคส ที่ต้องขอให้เขาช่วยเหลือ

    สวีต้าหมิงบอกว่า “ค่ำวันนี้ที่บ้านผมทำกับข้าวธรรมดาไว้” สวีต้าหมิงหยุดสักครู่แล้วพูดต่อว่า “คุณสามารถมาบ้านผมทานอาหารง่ายๆ กันสักมื้อได้ไม๊ พอดีผมมีปัญหาบางอย่างอยากขอคำแนะนำจากคุณ”
    “ค่ำนี้ เกรงว่าจะไม่ได้” ซูอี๋หวาตอบ
    “เหรอ”
    “บ่ายนี้มีการแข่งขันเทนนิสประจำฤดูร้อนชิงถ้วยของผอ. โรงพยาบาล รอบก่อนชิงชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ ผมกับหมอเฉินควานลงแข่งคู่กันสู้กับทีมของผอ. ถังกว๋อไท่”
    “ถังกว๋อไท่เหรอ ผมเข้าใจแล้ว” สวีต้าหมิงหัวเราะแล้วบอกว่า “งั้น เป็นวันมะรืนแล้วกัน จำไว้นะ จัดการถังกว๋อไท่ให้ผมด้วย”

    แล้วสวีต้าหมิงก็วางสาย จากนั้นก็โทรกลับบ้านเพื่อยกเลิกเรื่องอาหารค่ำ คนที่มารับสายคือภรรยาของสวีต้าหมิงชื่อหูรุ่ยเชี่ยน ลูกสาวสวีต้าหมิงชื่อสวีชุ่ยฟ่งก็กำลังฟังโทรศัพท์กับแม่อย่างตื่นเต้น พอหูรุ่ยเชี่ยนวางสาย สวีชุ่ยฟ่งก็ลากแขนแม่มาถามว่า “เป็นยังไงคะ” หูรุ่ยเชี่ยนตอบว่า “คุณหมอซูมีธุระ ยกเลิกเรื่องอาหารค่ำแล้ว”
    “จริงเหรอ” สวีชุ่ยฟ่ง ดีใจจนทั้งร้องทั้งกระโดด ผมของเธอยาวสยาย “ฉันเป็นอิสระแล้ว”
    “เธออย่าเพิ่งดีใจไป ได้ยินมาว่าคุณหมอซูหน้าตาหล่อมาก ความรู้ก็ดี” หูรุ่ยเชี่ยนบอก
    “หนูไม่อยากรู้จักสนิทด้วยหรอก” สวีชุ่ยฟ่งพูด
    “พวกหมอในแผนกอายุรกรรมของพ่อเธอ ไม่มีคนไหนที่เข้าตาเธอ” หูรุ่ยเชี่ยนพูดกับลูกสาว “แต่คราวนี้เป็นหมอแผนกศัลยกรรมนะ ไม่เหมือนกันหรอก”
    “ยังไงก็ช่าง หนูไม่อยากแต่งงานกับหมอ” สวีชุ่ยฟ่งตอบอย่างงอนๆ
    -------------------------------------------------
    การแข่งขันเทนนิสที่ดุเดือดในเซ็ตที่ 3 จบลง ผู้ชมปรบมือกันดังสนั่น ผลคะแนนคือ 3 ต่อ 1  ความหวังของซูอี๋หวาไม่เป็นผล ซูอี๋หวากับเฉินควานนั่งติดกันที่ม้านั่งริมสนาม ได้แต่ดูคู่ของถังกว๋อไท่ลงแข่งในรอบต่อไปกับทีมจากแผนกสูตินรีเวช ซูอี๋หวาดื่มน้ำแร่เข้าไปอึกใหญ่ จนบัดนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเขากับเฉินควานแพ้ให้กับคู่ของถังกว๋อไท่ ความรู้สึกโถมทับเข้ามา เขาเพิ่งแพ้และเสียคนไข้ไป ตอนนี้ยังมาแพ้เทนนิสอีก เขาคิดไม่ตกว่าที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เขาต้องแพ้ให้กับคู่ปรับรายเดียวถึงสองครั้ง ทั้งๆ ที่เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

    ผนังกำแพงด้านในของสนามเทนนิส มีโฆษณาเป็นรูปเด็กชายชาวอัฟริกันนั่งร้องไห้อยู่ข้างถนน เป็นโฆษณาเพื่อสังคมของบริษัทยาแห่งหนึ่งที่ต้องการให้คนบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนอาหารในอัฟริกา แต่ในความจริงแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าการโฆษณาแบบนี้ไม่ได้ผลมากนัก แต่มีอาจารย์แพทย์และหมอใหญ่มาเล่นเทนนิสที่นี่มากมาย โฆษณาก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปแต่ละบริษัท บริษัทยาส่วนใหญ่ที่มาโฆษณาที่นี่ก็ไม่ได้มีปัญหาต่อว่าอะไร

    ขณะที่กำลังดูลูกเทนนิสสีเขียวเหลืองกระดอนไปมา ซูอี๋หวาก็นึกถึงพีท แซมพรัส เขาชื่นชอบแซมพรัส แซมพรัสมักจะมีสมาธิจัดการกับลูกเทนนิสแต่ละลูกที่ตีออกไปอย่างดี ไม่ว่าคะแนนจะนำอยู่หรือตามอยู่ก็ตาม แซมพรัส จะไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา ไม่ว่าลูกใด นาทีใด เขามักจะมีสมาธิ ราวกับไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด ซูอี๋หวาเล่นเทนนิส เทนนิสช่วยให้เขามีสมาธิ ทำให้เขาลืมเรื่องร้ายๆ ในวันนี้ แต่ว่าในขณะที่วันนี้กำลังจะจบลง เขาก็ต้องมาแพ้ให้กับถังกว๋อไท่และชิวชิ่งเฉิงอีก ซึ่งเป็นการทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่ไม่มีความสุขในวันนี้ขึ้นมาอีก

    “นายกำลังคิดอะไรอยู่” เฉินควานจู่ๆ ก็หันหน้ามาถามเขา
    “จริงๆ แล้ว อีกนิดเดียว พวกเราก็ชนะแล้ว” ซูอี๋หวาวางขวดน้ำแร่ลง หันหน้ามาถาม “ทำไมช่วงท้ายๆ นายถึงจัดการกับลูกพวกนั้นไม่ได้ ไม่เหมือนตัวนายเลย”
    เฉินควานไม่ได้ตอบ สักครู่หนึ่ง ซูอี๋หวาก็เหมือนจะรู้ด้วยตัวเอง
    “นายจงใจเหรอ” เขาชี้ที่เฉินควาน
    เฉินควานยิ้มแล้วบอกว่า “ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนที่แผนกศัลยกรรมแพ้เทนนิส ถังกว๋อไท่ก็มุ่งมั่นมากที่จะต้องคว้าชัยชนะให้ได้ในปีนี้ นายคิดดู การที่จะเข้ามาเป็นหมอเวรในแผนกศัลยกรรมยากแค่ไหน แต่ว่าขอเพียงเป็นนักกีฬาเทนนิสของวิทยาลัย ก็เข้ามาได้แล้ว ถังกว๋อไท่ไม่สนใจผลการเรียนของพวกนั้นเลย”
    เฉินควานนิ่งไปสักครู่ “ตอนนี้คนที่จะสมัครขอเป็นหมอเวรในแผนกศัลยกรรมทุกคนรู้ว่าขยันฝึกเล่นเทนนิสสำคัญกว่าผลการเรียน นายคิดดูเขาพยายามที่จะชนะมากขนาดนั้นเพื่ออะไร ถ้าตอนนี้นายทำให้เขาแพ้ จะมีผลดีอะไรกับนาย”
    “ดูเหมือนความแพ้ชนะจะไม่มีความหมายอะไรกับนายเลยนะ” ซูอี๋หวาถามเขา
    “ฉันเป็นศัลยแพทย์ ไม่ใช่นักเทนนิส” เฉินควานส่ายหัว “ความแพ้ชนะของฉันไม่ได้อยู่บนสนามเทนนิส”
    ซูอี๋หวาโยกหัวไปมาอย่างช้าๆ ราวกับได้ยินเรื่องเหลือเชื่อที่สุดในโลก
    “สองสามวันมานี้ มันแย่มากสำหรับนาย ใช่ไม๊” เฉินควานถาม
    “นายก็ได้ยินมาด้วยเหรอ” ซูอี๋หวาถามเขา
    “จริงๆ แล้วนายน่าจะดีใจ..” เฉินควานตบบ่าเขา “ฉันจะบอกนาย การแพ้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีสำหรับนาย”
    ซูอี๋หวามองฟ้าที่กำลังจะมืด หัวเราะอย่างเศร้าๆ กับตัวเอง
    “บางทีฉันอาจจะไร้เดียงสาเกินไป  คิดเรื่องต่างๆ แบบง่ายๆ เกินไป”
    “นายดูเด็กอัฟริกันคนนั้นสิ” เฉินควานชี้ที่กำแพง “นายคิดว่าเค้าร้องไห้เพราะอะไร”
    ซูอี๋หวาดูรูปที่กำแพงและคิด “เค้าหิวไง”
    เฉินควานส่ายหัว “นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เค้าต้องนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น”
    “งั้นคืออะไรล่ะ.
    “เพราะว่าเค้าตกอยู่ในสงครามการสู้รบของคนอื่นอย่างไม่รู้ตัวน่ะสิ” เฉินควานย้ำอีกครั้ง “สงครามของคนอื่น นายเข้าใจไม๊”

    บนสนามมีเสียงโห่ร้องและปรบมือ คงจะมีคนตีลูกที่สวยงามได้ ซูอี๋หวานึกถึงสวีต้าหมิง ถังกว๋อไท่ ผอ. โรงพยาบาล เจ้า ที่ลงจากตำแหน่งแล้ว และบุญคุณความแค้นต่างๆ นานา แล้วก็พยักหน้าตอบเฉินควาน
    “ทำไมสงครามพวกนี้ถึงไม่มีวันสิ้นสุด”
    “ถ้าฉันรู้คำตอบก็คงจะดี” เฉินควานยักไหล่ “ยังไงก็ตาม ถ้าจะต้องเข้าสงครามต่อสู้ อย่างน้อยฉันจะยอมต่อสู้เพื่อตัวเอง ต่อให้สู้แพ้ก็ยังดีกว่ามานั่งร้องไห้ข้างถนนอย่างไม่รู้ตัว”
    “ต่อสู้เพื่อตัวเองเหรอ”
    “แต่ละวันนายก็อยู่ในสงคราม แต่นายไม่เคยคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก่อนเอง เหมือนจอกแหนที่ลอยไปมาตามแรงลม ตำแหน่งของนายยิ่งมาก็ยิ่งสูงขึ้น แต่นายเป็นเหมือนวิญญาณโดดเดี่ยวพเนจร ในแผนกศัลยกรรมแม้แต่เพื่อนที่ไว้วางใจได้ซักคนยังไม่มีเลย”
    “แล้วนายไม่ใช่เพื่อนฉันเหรอไง” ซูอี๋หวาถาม
    เฉินควานหันหน้ามา ส่ายหัว “พวกเราถือได้ว่าเป็นเพียงเพื่อนที่เล่นเทนนิสด้วยกันเท่านั้น”
    “เพื่อนเล่นเทนนิสเหรอ”
    “นายเคยได้ยินเรื่องของผังเต๋อในสามก๊กไม๊”
    ซูอี๋หวาส่ายหัว

    ผังเต๋อเป็นขุนพลของม้าเฉียว อยู่ในก๊กของโจโฉ เพื่อความก้าวหน้าทางการเมือง ผังเต๋อพร้อมลูกชายก็อาสาออกรบไปสู้กับทัพของเล่าปี่ แต่โชคร้ายที่นายเก่าของผังเต๋อ ม้าเฉียวได้ไปเข้าสวามิภักดิ์กับเล่าปี่แล้ว ในขณะเดียวกันพี่ชายของผังเต๋อก็อยู่กับก๊กของเล่าปี่ ทำให้โจโฉเกิดความระแวงผังเต๋อ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ผังเต๋ออยู่ต่อหน้าโจโฉก็ด่าหม่าเชาและพี่ชายของตัวเองใหญ่  แล้วก็ประกาศตัดความสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังสั่งให้ช่างวัดตัวและต่อโลงให้กับตัวเอง แล้วแบกโลงศพไปออกรบด้วย แสดงให้เห็นว่ายอมสู้ตาย

    “ในยามสงครามที่สับสนวุ่นวาย ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง คนที่คุ้นเคยมานาน หรือแม้กระทั่งเพื่อน ล้วนแต่เปราะบาง ไม่มีความสัมพันธ์ใดจะสำคัญไปกว่าความสัมพันธ์ทางการเมือง มีเพียงผลได้ผลเสียทางการเมืองร่วมกันเท่านั้นที่ควรค่าแก่การไว้วางใจ และเป็นพลังของการรวมกลุ่ม สามารถทำให้คนอื่นยอมแบกโลงศพไปออกรบเพื่อนาย” เฉินควานพูด
    “ฉันไม่ชอบการเล่นพรรคเล่นพวก” ซูอี๋หวาหัวเราะ
    “ไม่มีใครชอบการเล่นพรรคเล่นพวก แต่มีแต่คนเท่านั้นที่จะถูกการเล่นพรรคเล่นพวกเล่นงาน”
    “เฮ้อ” ซูอี๋หวาถอนหายใจ  “ทำไมเรื่องราวมันถึงต้องถูกทำให้ซับซ้อนแบบนี้”
    “นี่ไม่ได้ซับซ้อน” เฉินควานหัวเราะ “แต่ว่า นายต้องเตรียมตัวให้พร้อมไว้”
    “เตรียมตัวอะไร”
    “เตรียมตัวต่อสู้เพื่อตัวเอง แบบนี้แล้ว ฉันก็อาจจะสามารถเป็นเพื่อนทางการเมืองกับนายได้ ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนาย”
    “เพื่อนกับเพื่อนทางการเมืองมันแตกต่างกันยังไง”
    “ย่อมมีข้อแตกต่างแน่นอน อย่างน้อยเพื่อนทางการเมืองจะไม่ปล่อยให้เพื่อนที่มีส่วนได้เสียร่วมกันต้องยอมแพ้อย่างง่ายๆ เหมือนกับการเล่นเทนนิส ที่จงใจแพ้ให้กับถังกว๋อไท่”
    ซูอี๋หวาตะลึงงัน
    “ฉันต้องไปแล้ว” เฉินควานมองนาฬิกาข้อมือ “พรุ่งนี้ค่ำๆ ว่างรึเปล่า มากินข้าวกันซักมื้อไม๊”
    “พรุ่งนี้ค่ำเหรอ” ซูอี๋หวาคิดสักครู่ “ก็ได้”
    “สถานที่กับเวลาไว้ฉันจะเขียนอีเมล์บอกนายนะ จำไว้ ฉันเป็น “เพื่อนของนาย””
    “เพื่อนของนาย เหรอ” ซูอี๋หวาตาโต เขาคิดถึง “เพื่อนของคุณ” ที่เคยส่งอีเมล์มาให้เขาก่อนที่เฉินซินอวี๋จะได้รับการผ่าตัดขึ้นมาในทันที  “นายเคยส่งอีเมล์ให้ฉันใช่ไม๊”
    เฉินควานไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มเท่านั้น

    (ยังมีต่อ)
    -------------------------------------

    แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 48 23:31:30

    แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 48 22:04:05

    แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 48 22:00:00

    จากคุณ : Bam (Wen Wen) - [ 25 มิ.ย. 48 21:58:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป