CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ***** The Hospital ตอนที่ 10-11 (จบ) *****

    (ต่อจากกระทู้ที่แล้ว)

    รถแท็กซี่จอดที่หน้าประตูบ้านกวานซิน กวานซินแย่งจ่ายเงินก่อน ซูอี๋หวาชิงกระโดดลงจากรถแท๊กซี่ก่อน
    “เธอก็นั่งรถคันนี้กลับไปเถอะ ฝนตกหนักขนาดนี้” กวานซินก็กระโดดลงจากรถ
    “ผมไม่รีบ” ซูอี๋หวาส่งสัญญาณให้รถแท็กซี่ไปได้แล้ว “ส่งคุณเข้าบ้านเสร็จ ผมค่อยไป”
    ทั้งสองวิ่งเข้ามาที่ตึกที่กวานซินอาศัยอยู่ เป็นตึกตอนโดแฝด 5 ชั้นแบบเก่า
    “ฉันจะไปเอาร่มมาให้เธอ” กวานซินล้วงกุญแจจากกระเป๋ามาเปิดประตูใหญ่ “เอาร่มแล้วค่อยไปนะ”
    หลังจากเปิดประตูเสร็จ ซูอี๋หวาก็เดินตามกวานซินขึ้นมาถึงชั้น 3
    “รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันออกมา” กวานซินเปิดประตูเหล็กของห้องพักของตัวเอง แล้วก็เดินลับหายไปหลังประตู
    ซูอี๋หวายืนรอที่หน้าประตูได้ไม่นาน จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของกวานซินดังออกมาจากภายในห้อง
    “กวานซิน” ซูอี๋หวาเรียกเธออย่างร้อนรน แต่ว่าไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ซูอี๋หวาตัดสินใจเข้าไปในห้องดูว่าเกิดอะไรขึ้น
    “โอ พระเจ้า” พอซูอี๋หวาเดินเข้ามาในห้อง ก็ร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ห้องรับแขกที่เขามองเห็นเป็นเหมือนกับเพิ่งเกิดภัยพิบัติขึ้น มีโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ล้มระเนระนาดทั่วห้อง ทีวีที่ล้มอยู่กับพื้น ทั่วห้องเต็มไปด้วยเศษกระจกและของตกแต่งที่ตกลงมาจากตู้

    ซูอี๋หวาวิ่งเข้ามาในห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว ทุกๆ ที่มีสภาพอนาถไม่ต่างกัน
    “กวานซิน” เขาร้องเรียกอย่างร้อนรน “กวานซิน”
    เขาเดินไปทางห้องนอนของกวานซิน ค่อยๆ ผลักประตูเข้าไป กวานซินนั่งอยู่หน้าเตียงหันข้างให้ซูอี๋หวา นิ่งงันไปทั้งตัว ไม้ได้รับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของซูอี๋หวาเลย มีรอยน้ำตาเต็มหน้าของเธอ
    “กวานซิน”
    กวานซินไม่ตอบ ค่อยๆ เอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตาที่หน้า ดวงตาทั้งสองของเธอเหมือนไร้ความรู้สึก จ้องนิ่งไปข้างหน้า ซึ่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เหนือโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกบานใหญ่ติดอยู่ บนกระจกมีคนใช้ลิปสติกสีแดงเขียนตัวหนังสือไว้ว่า “หนี้เลือดต้องใช้ด้วยเลือด”
    “พระเจ้า! เป็นคนพวกนั้นอีกแล้ว” ซูอี๋หวาร้องออกมาด้วยความตกใจ “ผมจะไปแจ้งความ”
    “ไม่มีประโยชน์หรอก” กวานซินเรียกสติกลับคืนมา พูดอย่างเรียบๆว่า “ฉันรู้ว่าพวกเค้าต้องการอะไร”
     
    ซูอี๋หวาช่วยกวานซินยกตู้ตั้งคืนเข้าที่ จัดเก็บทีวีที่ล้มอยู่ที่พื้น กวานซินไปเอาไม้กวาดออกมา แต่ถูกซูอี๋หวาแย่งไป
    “คุณไปเก็บกวาดในห้องเถอะ ที่นี่มีเศษกระจก ผมจะจัดการเอง”
    ซูอี๋หวาแย่งไม้กวาดมาได้ ก็เก็บกวาดเศษกระจกในห้องรับแขก กวานซินเข้าไปในห้อง แล้วก็กลับออกมาพร้อมผ้าขี้ริ้ว พอดีเห็นซูอี๋หวากำลังก้มตัวอยู่ที่พื้นหน้าโซฟา เอียงตัวเอาไม้กวาดเข้าไปกวาดเศษกระจกที่อยู่ใต้โซฟา แต่กวาดไม่มีเศษกระจกอะไรออกมาเลย กวาดออกมาได้แต่ขี้ฝุ่นกองโต
    “ขอโทษนะ ช่วงนี้งานยุ่งไปหน่อย เลยไม่ได้ทำความสะอาดห้องรับแขกซะนานเลย”
    กวานซินรีบเข้าไปในห้องน้ำ บิดผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ มาผืนหนึ่ง กลับออกมาที่ห้องรับแขก พอเธอเห็นหน้าตาที่มอมแมมของซูอี๋หวา ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ซูอี๋หวารับผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าอย่างไม่รู้ตัว แล้วพูดอย่างพอใจว่า “ในที่สุด คุณก็หัวเราะออกมาได้”
    “เฮ้อ มาคิดดูจริงๆ แล้วมันก็น่าขำมาก” กวานซินส่ายหัว “ทุกคนพูดว่าเป็นหมอเพื่อช่วยคน ผลลัพธ์ก็คือช่วยจนต้องเป็นแบบนี้”
    ซูอี๋หวาเช็ดหน้าเสร็จ พอเขาเห็นผ้าขนหนูที่เต็มไปด้วยฝุ่น ก็หัวเราะออกมาอย่างรู้กัน
    “ออกไปหาอะไรกินกันหน่อยไม๊” กวานซินเสนอ “ฉันเลี้ยงเอง”
    “ตอนนี้เหรอ” ซูอี๋หวามองออกไปนอกหน้าต่าง “ฝนตกหนักขนาดนี้นะ”
    กวานซินพยักหน้า “เธอไม่หิวเหรอ”
    “แล้วที่นี่ทำยังไงล่ะ”
    “บางทีเดี๋ยวรอให้กลับมาก่อน แล้วก็วางเพลิงเผาห้องซะเลย จะได้ใส่ร้ายคนพวกนั้นว่าเจตนาวางเพลิงไง”
    ซูอี๋หวาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะดีหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามพอได้ยินเธอพูดจาตลกในแบบของ “กวานซิน” แล้ว เขาก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาก
    -----------------------------
    เนื่องจากฝนตกหนัก ในผับจึงมีลูกค้าอยู่บางตา บนหน้าต่างกระจกบานยาวจรดพื้นหน้าร้านมีไฟนีออนเขียนว่า “Italian Food” พวกเขาทั้งสองนั่งที่ที่นั่งติดหน้าต่าง กวานซินยกแก้วเบียร์ของเธอขึ้น เบียร์ในแก้วใบใหญ่ตอนนี้ได้ถูกเธอดื่มจนพร่องไปไม่น้อยแล้ว
    “เรื่องเฉินซินอวี๋ ฉันต้องขอโทษอย่างมาก ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องเป็นแบบนี้ ไม่มีโอกาสได้บอกเธอเลย”
    “จะทำยังไงได้ เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเธอเลย” ซูอี๋หวาใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ปากคี้ยว อย่างช้าๆ “ตอนนี้คุณคิดว่าจะทำยังไงต่อไป”
    “ฉันไม่ใช่คนที่จะถูกขู่จนกลัวง่ายๆ หรอก” กวานซินยกแก้วขึ้น ดื่มเบียร์ที่เหลือในแก้วจนหมดรวดเดียว “วันนี้เศร้ามาพอแล้ว พวกเราอย่าคุยเรื่องพวกนี้อีกเลย”
    บริกรเดินเข้ามาเก็บแก้วเบียร์ และถามว่า “จะรับอีกแก้วไม๊ครับ”
    กวานซินพยักหน้า
    “วันนี้คุณดื่มไปไม่น้อยแล้วนะ”
    “มาดื่มกับฉันอีกแก้ว” กวานซินมองซูอี๋หวา พอพูดจบเธอก็หันไปบอกบริกรว่า “เอามาอีก 2 แก้ว”
    “จำได้ไม๊ว่าตอนที่พวกเราไปภาคตะวันออกทำวิจัยเรื่องพยาธิได้ไปพักที่ฮวาเหลียน ตอนนั้นคุณดื่มจนเมาเลย”
    “เหล้าอูเหมย ฉันจำได้” กวานซินหัวเราะเล็กน้อย “นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันดื่มเหล้า รู้แต่ว่าเหล้าอูเหมยหวานๆ น่าดื่มดี ไม่รู้มาก่อนเลยว่าอาการแฮงมันจะน่ากลัวขนาดนั้น”
    “คุณเมาจนเดินไม่ไหว พวกเค้าให้ผมส่งคุณกลับไปพักผ่อนที่ห้อง คุณรู้ไม๊ว่าตลอดทางที่เดินกลับ คุณพูดอะไรกับผม”
    “ฉันจำไม่ได้เลยจริงๆ” กวานซินตาเป็นประกาย “ฉันพูดอะไรเหรอ”
    “คุณก็คำนับผมพูดว่า ขอบคุณ ขอบคุณตลอดเวลา”
    “ฉันงี่เง่าขนาดนั้นจริงๆ เหรอ”
    “ไม่หรอก ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยนะ เมื่อกี๊ตอนที่คุณอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องฉุกเฉินก็ทำท่าแบบนั้น”
    “หา” กวานซินหัวเราะออกมาดังลั่น “เมื่อกี๊ฉันคงดูงี่เง่ามากๆ”
    บริกรยกแก้วเบียร์ 2 แก้วมาเสริฟ หยิบบิลที่โต๊ะมากรอกรายการเพิ่ม พอบริกรเดินกลับออกไป กวานซินก็ยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของซูอี๋หวา “หมดแก้ว”
    แล้วพวกเขาทั้งสองก็ดื่มเหล้ากันเข้าไปรวดเดียวประมาณครึ่งแก้ว แล้วก็วางแก้วลงบนโต๊ะ มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ เงียบกันไปสักครู่ กวานซินพูดกับซูอี๋หวาว่า “ขอบคุณจริงๆ นะ”
    ซูอี๋หวาเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่พูดไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าต่อไป

    หญิงสาวผมยาวคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวทีแสดง นั่งลงหน้าเปียโน  สักพัก เสียงเปียโนก็ดังพลิ้วออกมา ท่ามกลางเสียงเปียโน หญิงสาวคนนั้นยังได้ร้องเพลงด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
    “เปลี่ยนให้ความคิดถึงของฉัน กลายเป็นเมฆที่ล่องลอย
    ลอยพลิ้วข้ามท้องทุ่ง ข้ามป่าเขา ไปยังหน้าต่างบ้านของเธอ
    ส่งบทกวีแห่งความรักของฉันให้เธออย่างเงียบงัน
    เป็นพันครั้ง เป็นหมื่นครั้ง”

    หญิงสาวคนนั้นอายุยังน้อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดจึงได้ร้องเพลงเก่ายุคที่พวกเขายังเป็นนักเรียน ซูอี๋หวาดื่มเบียร์เข้าไปอีกอึกใหญ่ แล้วนั่งพิงพนักอย่างสบาย เขาฮัมเพลงคลอตามไปเบาๆ และก็พบว่ากวานซินก็ร้องคลอไปด้วยเหมือนกัน

    ตลอดคืนนั้น พวกเขาไม่รู้ว่าดื่มเข้าไปมากน้อยเท่าไร ตอนเดินออกจากผับ ซูอี๋หวารู้สึกหวิวๆ งงๆ เล็กน้อย เขาสังเกตได้ว่ากวานซินพูดจาอ้อแอ้ ก็เลยยืนกรานจะไปส่งเธอที่บ้าน  ฝนในยามค่ำคืนยังตกอยู่ ไม่มีวี่แววว่าจะซาลง พวกเขานั่งรถแท๊กซี่ กลับไปยังซอยยาวที่มีป้ายรถเมล์สาย 32 อยู่ที่ปากทาง กวานซินร้องขึ้นมาว่า “หยุดรถ”
    เธอกระโดดลงจากรถอย่างทันทีทันใด “ฉันอยากจะเดินกลับบ้าน”
    ซูอี๋หวารีบจ่ายเงิน เอาร่มที่หลังรถออกมากาง แล้วก็วิ่งโซเซตามไป
    เธอตากฝนจนเปียกทั้งตัว แต่กวานซินก็ยังคงร้องเพลงอย่างดีใจ “ซูอี๋หวา มาร้องเพลงกับฉันดังๆ ไม่ต้องกลัว ฝนตกหนักขนาดนี้ ไม่มีใครได้ยินหรอก”
    ซูอี๋หวากางร่ม เดินโซซัดโซเซไปตามซอยยาวที่เขาเคยคุ้นเคย ป้ายรถเมล์สาย 32 ก็ยังคงมองเห็นได้ตะคุ่มๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำฝนทำให้ภาพพร่ากระจาย หรือว่าแอลกอฮอล์ในเลือดทำให้ความคิดของเขาแตกซ่านกระเจิงไปหมด ในที่สุดเขาก็ร้องเพลงตามกวานซิน

    “ลอยพลิ้วข้ามท้องทุ่ง ข้ามป่าเขา ไปยังหน้าต่างบ้านของเธอ
    ส่งบทกวีแห่งความรักของฉันให้เธออย่างเงียบงัน
    เป็นพันครั้ง เป็นหมื่นครั้ง”
    ---------------------------
    กวานซินจำได้ว่าตัวเองเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เปลี่ยนชุดนอน หลังจากนั้นเธอก็จำได้เลือนรางมาก เมื่อคืนคงดื่มมากไปจริงๆ
    เธอบิดขี้เกียจ เดินออกมานอกห้องนอน แสงแดดส่องเข้ามาแยงตาจนเธอลืมตาไม่ขึ้น เธอเดินเข้าห้องรับแขก พบว่าบนโซฟามีหมอนและผ้าห่มพับวางอยู่อย่างเรียบร้อย บนผ้าห่มมีกระดาษโน้ตเล็กๆ อยู่ใบหนึ่งเขียนว่า
    “กวานซิน:
    เช้านี้แสงแดดส่องเข้ามาสว่างมาก ผมแทบไม่อยากจะลุกขึ้นมาจากโซฟา ไม่อยากจะยอมรับว่าเมื่อคืนได้ผ่านไปแล้ว คุณก็รู้ ถ้าเป็นไปได้ ผมยอมเสียได้ทุกสิ่งเพื่อหยุดวันเวลาที่งดงามพวกนั้นเอาไว้

    ขอบคุณตัวคุณและค่ำคืนที่งดงามนี้ คุณมักจะทำให้ผมได้รับรู้ถึงความหวานชื่นของชีวิต รสชาติที่แทบจะถูกลืมเลือนไปแล้วพวกนั้น

    ซูอี๋หวา 5.30 น.”

    กวานซินวางกระดาษโน้ตลง มองไปรอบๆ ห้องรับแขก พบว่าซูอี๋หวาช่างเอาใจใส่เก็บกวาดเศษกระจกที่อยู่เต็มพื้นทิ้งไปจนหมด แสงแดดส่องเข้ามาที่ทีวี เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ตอนนี้ทุกสิ่งได้กลับไปอยู่ยังสภาพเดิมของมันแล้ว

    กวานซินหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านแล้วอ่านอีก จนกระดาษแทบไหม้กลายเป็นเถ้าถ่าน อ่านไป อ่านไป  ก็ราวกับมีภาพแห่งความทรงจำที่มีสีสันสดใสผ่านเข้ามา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ลายมือที่เขียนอยู่บนกระดาษโน้ตยิ่งมองก็ยิ่งพร่าเลือน สิ่งที่กวานซินมองอยู่ตรงหน้าก็ล้วนพร่าเลือนไปหมด

    จบตอนที่ 10-11 (จบเล่ม 3)

    ขอสงวนสิทธิ์ในข้อความข้างต้น ห้ามมิให้นำไปทำซ้ำหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ในเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ---------------------------

    เมื่อกี๊เจอบทความที่แฟนๆ เล่าเรื่องที่สนามบินต่างๆ น่ารักมากเลย แต่ยังไม่มีเวลาแปลเลย มีใครเห็นรึยังคะ

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 48 22:46:15

    แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 48 21:09:14

    จากคุณ : Bam (Wen Wen) - [ วันต่อต้านยาเสพติดโลก 21:04:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป