ความคิดเห็นที่ 1 มาแบ่งยุคประวัติศาสตร์กันเถอะ 1.ยุคก่อนประวัติศาสตร์ -ยุคหิน มีเก่า,กลาง,ใหม่ --แยกตามเครื่องมือเครื่องใช้ -ยุคโลหะมี ทองแดง,สำริด,เหล็ก --แยกตามเครื่องมือเครื่องใช้ (สำริดคือดีบุก+ทองแดง) 2.ยุคประวัติศาสตร์(ใช้ตัวอักษรแบ่งยุคเริ่มในอารายธรรมเมโสโปเตเมีย) -สมัยโบราณ อารยธรรมตะวันตก อียิปต์/เมโสโปเตเมีย กรีก/โรมัน อารยธรรมตะวันออก จีน/อินเดีย -สมัยกลาง(เริ่มตั้งแต่อาณาจักรโรมันล่มสลาย) ศิลปะก็มี ไบเซนไทน์ /โรมาเนสท์ /โกธิค -สมัยใหม่(เริ่มสมัยศตวรรษที่15 ระบบฟิวดัลเสื่อม) ศิลปะก็ เรเนซอง /บาร็อค/นีโอคลาสิก -สมัยปัจจุบัน(ศษวรรษที่17 ปฎิวัติวิทยาศาสตร์) ศิลปะก็ โรแมนติก, สัจนิยม,อิมเพรสชั่นนิส จากคุณ : มหายมยักษ์ - [ 9 ก.ค. 48 19:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไบเซนไทน์ อลังการ วหารจะเป็นรูปโดม หรูหรา ฟุ่มเฟือย เกี่ยวข้องกับศาสนา เช่นวิหารเซนต์โซเฟีย โรมาเนสท์ เกิดขึ้นโดยพระเพื่อความศรัทธาและสอนศาสนา เรียบง่ายต่อต้านไบเซนไทน์เป็นที่มาของโกธิค โกธิค ศิลปะที่มีความอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ เป็นมนุษย์นิยมหลุดพ้นจากกรีก-โรมัน  ยอดแหลม(สูงไปถึงสวรรค์) กระจกสี เช่นวิหารโนตรดาม วรรณกรรมก็เป็นแบบสะท้อนให้เห็นชีวิตในระบบฟิวดัล มีอัศวิน เช่นDecameronของบอลคัดชิโอ เรเนสซอง(ฟื้นฟูศิลปะวิทยา) มีความรู้สึกอิสระของมนุษย์แสดงให้เห็นความเป็นปัจเจกชน มีธรรมชาตินิยม+ศาสนา บารอค หรูหราฟุ่มเฟือย ทำเพื่อกษัตริย์ เช่นแวร์ซาย นีโอคลาสสิก เป็นแบบเหตุผลกฏเกณฑ์ มีความเชื่อทางวิทยาศาตร์ โรแมนติก อารมณ์+จิตนาการ+ความรู้สึก สัจนิยม ความจริงล้วนๆ อิมเพรสชั่นนิส ความประทับใจ ถ้าผิดก็ของประทานอภัย จากคุณ : มหายมยักษ์ - [ 9 ก.ค. 48 19:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปได้สั้น ได้ใจความมั่กๆ จากคุณ : ## WoodStock ## - [ 9 ก.ค. 48 22:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดีมากๆ เลยคับ จากคุณ : Altermetal - [ 10 ก.ค. 48 01:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปรบมือให้เลยค่ะ กระชับ รัดกุม ได้ใจความและครอบคลุม จากคุณ : พระจันทร์ทรงกลด - [ 10 ก.ค. 48 02:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พระเจ้ายอด มันจอร์จมาก ขอจดไปใช้ด้วยค่ะ แหะแหะ กะลังเรียนเรื่องนี้อยู่พอดี จากคุณ : ++[S]ataN Circu[S]++ - [ 10 ก.ค. 48 02:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ............แวะมาดู บังเอิญเจอกระทู้นี้เข้าจะมาขอเสริมจากคุณ มหายมยักษ์ ซึ่งสรุปได้ใจความแล้วค่ะ แต่จะมาขอเพิ่มเติมรายละเอียดและ รูปภาพ ให้คุณเจ้าของกระทู้ ได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น... ...........เริ่มต้นกันที่ Baroque นะคะ เป็นแบบศิลปสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองมาก ในยุโรปกับอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17 มีลักษณะเด่นคือการเคลื่อนไหวแบบการไหลของของเหลว และการวางลวดลายที่ดูสง่า เริ่มในอิตาลี แล้วแพร่หลายไปทั่วยุโรปที่ต่างก็สอดใส่เอกลักษณ์ของตนเพิ่มเติมเข้าไป บางครั้งเราจะเห็นว่า ศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยนี้ เน้นความอลังการ หรูหรา ฟุ่มเฟือย จนเกินพอดี ซึ่งก้อเป็นอย่างที่เข้าใจกันว่า ศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยนี้มีขึ้นเพื่อ กษัตริย์ และราชวงศ์เพียงเท่านั้น ศิลปินกับสถาปนิก Baroque มีอาทิ คาราวัจจิโอ (Caravaggio) และจี เบอร์นินี (G.Bernini) ในอิตาลี เอ็น ปูสแซง (N.Pousin) ในฝรั่งเศส พี รูเบน (P. Rubens) ในฟลานเดอร์ รอมบรองดท์ (Rembrandt) และเวอร์เมียร์ (Vermeer) ในฮอลแลนด์ เวลาสเกซ์ (VelasQuez) ในสเปนและวังดีค (Van Dejck) กับซีเรน (C.Wren) ในอังกฤษ คำว่า Baroque ถูกนำไปใช้เรียกชื่อดนตรีแห่งสมัยนั้นด้วย...มาดูรูปกันค่ะ จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 18:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ............ความจริงเราเรียงยุคให้ผิดนะเนี่ย แต่พอดีในเครื่องมีรูปสถาปัตยกรรม  Baroque อยู่พอดีเลยลงให้ก่อน ไม่ว่ากันนะ จะเรียงยุคดูที่กระทู้ของคุณ มหายมยักษ์ ได้เลยค่ะ .............มาต่อกันที่ Byzantine กันเลยค่ะ...ไบเซนไทน์ " เรียกตามชื่อ จักรวรรดิไบเซนไทน์ ที่มีกรุงคอนสแตนติน โนเปิล (Constantine Nople)เป็นเมืองหลวง    (ปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูลเมืองหลวงของประเทศตุรกี) ลักษณะศิลปะไบเซนไทน์ มีลักษณะคาบเกี่ยวกับศิลปะคริสเตียนอยู่มาก และยัง มีสืบเนื่องกันต่อมาเป็นเวลาอีกยาวนาน  โดยมีลักษณะศิลปะแบบตะวันออกมา ผสมผสานอยู่ด้วย... ...........เลยต้องขอลงศิลปะคริสเตียนในยุคแรกด้วยค่ะ... ศิลปะคริสเตียนในยุคแรกรับอิทธิพลมาจากศิลปะโรมัน อาคารในสมัยแรก จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ถูกฆ่าเรื่องศาสนา วิหารพิธีเจิมน้ำ ผนังภายนอก อาคารจะถูกปล่อยไว้เรียบๆ ทื่อๆ ผนังภายในอาคารจะประดับด้วยเศษหินสี แวววาว ส่วนต่างๆ ของอาคารเช่น เสารายแบบโรมัน เสาก่ออิฐ หลังคาทรงโค้ง แผนผังอาคารมี 2 แบบ คือ แบบชนิดตามยาว และแบบชนิดศูนย์กลาง ซึ่งมีราก ฐานมาจากสถาปัตยกรรมโรมัน อาคารที่มีแนวยาวเหมาะสำหรับขบวนพิธีการ ที่สง่างาม อาคารชนิดมีศูนย์กลาง สำหรับเป็นสถูปสถานของนักบุญคนสำคัญ แต่ต่อมานิยมสร้างโบสถ์แบบมีศูนย์กลางกันมาก อาคารแบบมีศูนย์กลางอาจมี หลายรูปทรง เช่น ทำเป็นรูปทรงไม้กางเขนกรีก อยู่ภายในรูปจัตุรัส หรือไม่ก็รูป วงกลม โบสถ์ที่มีผังชนิดมีศูนย์กลางมักทำหลังคาทรงโค้ง หรือทรงกลมด้วย อิฐหรือหิน อาคารทรงเรือนโถงขนาดใหญ่มักทำเครื่องบนหลังคาด้วยไม้ท่อน จิตรกรรมมีทำบนฝาผนังและแผงไม้ ตลอดจนทำเป็นภาพประกอบเรื่องใน หนังสือ เขียนด้วยสีฝุ่น สีขี้ผึ้งร้อน และสีปูนเปียกอย่างแห้ง แสดงรูปคนกำลัง สวดมนต์ และภาพปาฏิหารย์ตอนสำคัญของพระผู้เป็นเจ้าที่นำมาจากพระคัมภีร์ เก่าและใหม่ หนังสือในสมัยแรก ๆ ทำมาจากหนังสัตว์และเป็นหนังสือม้วน ภาพประกอบเรื่องในหนังสือแสดงให้เห็นความเป็นธรรมชาติ โดยแก้ไขให้ เป็นเชิงสัญลักษณ์มากกว่าจะเป็นธรรมชาติแท้ๆ ลักษณะของภาพเป็นรูปแบน และเป็นการใช้สีอย่างประหลาด .............ซึ่ง งานประติมากรรมในยุคคริสเตียนถูกลดความสำคัญ อันเนื่องมากจากบทบัญญัติในพระคัมภีร์ เกี่ยวกับรูปเคารพบูชา ประติมากรรมมักจำกัดอยู่กับงาน ขนาดเล็ก ๆ ............มาดูรูปกันนะคะ อันแรกเป็น Byzantine ค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 48 19:29:49 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 48 19:20:29 จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 .........อันนี้เป็นงานสถาปัตยกรรม Byzantine ค่ะ นั่นก้อคือ Constantine Nople นั่นเอง จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.arch.montana.edu/classes/arch322/earlychristian.html .............ต่อมาเป็นภาพของยุค Early Christian แต่มันมีหลายภาพที่อยากให้ดูค่ะ เลยส่ง link ให้แทน เดี๋ยวกระทู้จะรกเปล่าๆอ่ะค่ะ จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...........มาต่อกันที่ Romanesque กันเลยนะคะ ...........เป็นสถาปัตยกรรมที่อธิบายอิทธิพลของพระเหนือประชาชนทั้งปวง และถือว่าพระเป็นผู้นำทางศาสนาด้วย วัดเป็นอาณาจักรของพระ และเป็นศูนย์กลางการสร้างศรัทธากับการสอนศาสนา ในการสร้างวัดแบบRomanesqueจึงต้องมีพระเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง เช่น วิหารแซงค์ ปิแอร์ (Cathedral of St.Pierre) เป็นสถาปัตยกรรมรูปโค้งแบบประทุนเกวียน และโดมเป็นหัวใจของการก่อสร้าง ถ่ายทอดมาจากไบแซนไทน์กับโรมัน รูปแบบดูหนาทึบ และคงทน ..........สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์เป็นการก่ออิฐฉาบปูน มีหลังคาทรงโค้งกากบาท และมีลักษณะสำคัญ คือ    1. มีความหนักแน่น ทึบคล้ายป้อมโบราณ    2. มีโครงสร้างวงโค้งอย่างโรมัน    3. มีหอสูง  2  หอ หรือมากกว่านั้น    4. มีช่องเปิด ตาหน้าต่างหรือประตูทำเป็นโครงสร้างวงโค้งวางชิด ๆ กัน    5. มีหัวคานยื่นออกนอกผนัง เป็นคิ้วตามนอนนอกอาคาร    6. มีหน้าต่างแบบวงล้อ เป็นรูปวงกลมที่ถูกแบ่งออกเป็นซี่     ..........สำหรับงานศิลปกรรมอื่น ๆ  ส่วนมากมักเป็นงานแกะสลักงาช้างขนาดเล็ก ๆ หรือไม่ก็เป็นงานที่เขียนบนหนังสือแบบวิจิตร เรื่องราวของงานศิลปะจะนำมา จากพระคัมภีร์ฉบับเก่าและใหม่   ตำนานโบราณ ชีวประวัตินักบุญ  รูปเปรียบ เทียบความดีกับความชั่ว หรือลวดลายต่าง ๆ เป็นรูปดอกไม้ และรูปเราขาคณิต จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ..............มาต่อกันที่ Gothic นะคะ ซึ่งของ Gothic นี่เราเคยโพสไว้ใน กระทู้นึงของ คุณมหายมยักษ์ แล้วค่ะ ขอนำ link มาลงก้อแล้วกันนะคะ เพราะว่ามีคห.ของคนอื่นๆด้วย http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/A3568020/A3568020.html จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ...........เพิ่มเติมสำหรับ Gothic อีกนิดหน่อยค่ะ ...........เป็นแบบสถาปัตยกรรมที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของยุคกลาง เนื่องจากมีการสร้างยอดปลายแหลมชี้ตรงไปสวรรค์ และพระเจ้าซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในเมืองโดยได้รับการสนับสนุนจากชุมชน วัดโกธิคจึงเป็นสัญลักษณ์ของการย้ายชุมชนจากชนบทเข้าสู่เมือง แสดงความรู้สึกของมนุษย์ในการเทิดทูนพระเจ้า เป็นศิลปะที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามครูเสด (Crusade: 1095-1291) ที่มีผลต่อการถ่ายทอดวัฒนธรรมระหว่างยุโรปกับ Byzantine และตะวันออกกลาง ...........เครื่องตกแต่งวิหารโกธิคจะมีทั้งประติมากรรมกับการประดับหน้าต่างด้วยกระจกสี โครงสร้างของโบสถ์พัฒนาจากโค้งธรรมดา (arch) มาเป็นโค้งยอดแหลม (Pointed Arch) มีผลให้อาคารดูมีน้ำหนักเบาสามารถสร้างได้สูงมาก ให้แสงสว่างภายในเต็มที่ ส่วนภายนอกจะมีสองหอคอย ปลายแหลมสูง เน้นผลทางศาสนา คือการนำพาไปสู่สรวงสวรรค์ ...........สถาปัตยกรรมแบบโกธิคได้แพร่ขยายจากฝรั่งเศสไปยังอังกฤษกับยุโรปอื่นๆ ซึ่งในอังกฤษจะเป็นสถาปัตยกรรมโกธิคแบบย่อส่วน คือลดความสูงลงเป็นแบบโกธิคอังกฤษ ส่วนแบบโกธิคในอิตาลีจะปนแบบโรมันด้วย จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ............จะบอกเจ้าของกระทู้ว่า ถ้ารู้สึกสนุกกับวิชานี้คุณจะชอบมากเป็นพิเศษเลยค่ะ ถ้าเรียนแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง พยายาม skecth รูปของแต่ละยุคไว้เยอะๆ แล้วจะพบความแตกต่างในแต่ละยุค ทำให้เราจำได้ และอย่ายึดติดกับตำราเล่มเดียวค่ะ เพราะมีหลายเล่มนะที่รายละเอียดสนุกมาก อย่างเช่นของ ดร.วิจิตร เจริญภักตร์ แต่ของท่านจะเน้นทางด้านสถาปัตยกรรมมากกว่าค่ะ ............ส่วนยุคที่เหลือจะมาต่อให้ในวันพรุ่งนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะคะ อย่าเพิ่งท้อล่ะเห็นบอกว่าเป็นวิชาหลักด้วย สู้ๆค่ะV('.^) จากคุณ : Vizenz@ n' Bossa - [ 13 ก.ค. 48 19:59:03 ]