ความคิดเห็นที่ 1 ก็เป็นการหัดออกเสียงเรียกชื่อกันก่อน แล้วพิธีกรก็บอกว่าภาพถ่ายของเจอรี่นี่เป็นหัวข้อว่า "โตเกียวในแบบผู้ใหญ่" (Otona no Tokyo) แล้วคนที่นั่งร่วมรายการก็พูดตลกๆว่า ถ่ายรูปยืนอยู่หน้าต้นไม้เนี่ยนะ เรียกว่าโตเกียวในแบบผู้ใหญ่ พิธีกรก็เลยบอกว่าเป็นแบบผู้ใหญ่เพราะว่าเป็นภาพแบบเซ็กซี่ (Sexy Shot) ไง จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วก็มาที่ไจ๋ ก็หัดออกเสียงกันอีก แล้วคนที่ร่วมรายการผู้หญิงก็ถามว่า คนนี้ดังที่สุดในสี่คนใช่มั๊ย พิธีกรก็บอกว่าเรื่องความดังนี่ แต่ละคนก็ดังทั้งนั้นนะ แต่ถ้าจะให้พูดถึง ตอนนี้ที่ดังสุดคงเป็นเจอรี่ คนที่ถ่ายรูปโตเกียวในแบบผู้ใหญ่นั่นไง คนร่วมรายการก็ร้องอ่อๆๆ แล้วก็บอกว่าหัวข้อการถ่ายรูปของไจ๋เป็นโตเกียวในแบบโบราณ (คำนี้ไม่แน่ใจ ฟังไม่ค่อยออก) จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วก็เฮีย คนในรายการจะเรียกเฮียว่าเคนซัง (ไม่รู้เป็นชื่อดาราที่ดังๆของญี่ปุ่นรึเปล่า เห็นรายการไหนพอพูดถึงเคนจูซัง เค้าจะเปลี่ยนไปเรียกว่าเคนซังทุกที) คนในห้องส่งก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้เลยหัวเราะกันใหญ่ แล้วคนในรายการผู้ชายก็บอกว่าจำได้ คนนี้จำได้ พิธีกรก็บอกว่าใช่ๆ เคนผีอุด้งไง (จำไฟล์ผีอุด้งกันได้ละเปล่า รายการเดียวกันนี้แหละ) แล้วคนร่วมรายการก็พูดว่าอ๋อเคนที่พกร่มเอาไว้ในกระเป๋านะเหรอ (อ้างอิงจากไฟล์ผีอุด้งอีก) พิธีกรก็บอกว่าใช่แล้ว เคนซังคนนี้แหละ (ท่าทางทุกคนยังขำเฮียจากตอนกินอุด้งไม่เลิก) จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .... ..... ...... ...กรุณาสงบนิ่งและไว้อาลัยให้คลิปนี้สามวิ ในฐานะที่ไม่มีตี๋ ฮืออออ... หามาแปะเองก็ได้ (เดี๋ยวน้อยหน้าชาวบ้านเค้า) จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วก็มาโฆษณาหนังสือภาพ บอกว่าทั้งสี่คนนานๆถึงจะได้ทำงานร่วมกันซักทีนึง แล้วก็โชว์ภาพสี่คนที่หน้าโตเกียวทาวเวอร์ แล้วก็โฆษณาว่าหนังสือเล่มนี้มีดีวีดีเบื้องหลังด้วยนะ ว่าแล้วก็โชว์ให้ดูซักหน่อยดีกว่า จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตี๋ปัดๆๆๆ ในใจคงแอบคิดว่าถ่ายเสร็จถ้าเค้าให้เลยจะขอยืมมาใส่มั่ง อุอุ จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นานๆโผล่มาที แปะซักหน่อย เดี๋ยวโดนหาว่าลำเอียงอีก อิอิ จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่อยๆ จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ช่วงนี้มีแต่พิธีกรก็วิจารณ์กันเอง แล้วก็มีคนคอยบอกว่าคนไหนชื่ออะไร จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ฟิตจังเฟร้ยยย วี๊ด...วิ๊วววววว  หุหุ.....นานๆๆโผล่ก้อยังดีก่าม่ายมีให้โผล่ล่ะวะ.... เอียงนิดเอียงหน่อยเค้ารับด้าย..... จุ๊บๆๆแปลดีมีรางวัล..... 5566 โอเคมั๊ย แว๊บเข้ามาทักก่องจาแว๊บปายยยย พรืดถึงอุด้ง วินยานผีอุด้งกาลังจาเข้าสิง อยากกิงอุด้งซะแล้นน แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 48 12:32:58 จากคุณ : @lovelyken@ - [ วันเข้าพรรษา 12:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เสร็จแล้วพอช็อตสุดท้าย คนก็ชมกันใหญ่เลยว่าเจอรี่นี่หล่อเนอะ (ตรงที่พูดว่า Jerry, Otoko-mae) พิธีกรก็บอกว่าใช่ๆเจอรี่หล่อ แล้วก็รีบบอกว่าทุกคนก็หล่อนะ (จริงๆแล้วพิธีกรเคยบอกในคลิปก่อนๆนี้ว่าเป็นแฟนเจอรี่) จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ (คุณข้างบนนั้นโผล่มาได้ไงนี่ ตกใจแปะรูปซ้ำเยย เค้ามะได้ลำเอียงแปะเฮียน้อยนะ เฮียออกมาน้อยเอง ความผิดเฮีย 555) แล้วก็มีการอธิบายว่าเจอรี่เป็นนายแบบมาก่อน เค้าจะเก่งมากในการโพสท่า แล้วก็เฮียก็จะเก่งเรื่องเจรจากับผู้คน แล้วตี๋ก็จะเป็นคนทำให้ทุกคนสนุกสนาน (เค้าใช้คำว่า Mood-maker นึกไม่ออกว่าแปลไทยว่าไงดี) แล้วก็ไจ๋เป็นเหมือนน้องชายของทุกคน จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วก็มีโฆษณาอัลบั้มที่พึ่งวางขาย แล้วก็บอกว่าในเอเชียขายกันมานานแล้ว แต่ในญี่ปุ่นพึ่งจะออก แต่ว่าหน้าปกนี่เป็นรูปใหม่ เป็นเอฟ 4 ที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แล้วก็คุยกันถึงการร้องเพลงจีน ว่าร้องออกเสียงยาก ขนาดมีเนื้อร้องแบบคาราโอเกะ ก็ยังร้องไม่ค่อยได้ แล้วก็ฉายมิวสิค Ask For More ให้ดู แล้วก็พูดปิดรายการแล้วก็จบค่ะ ++++++++ End +++++++++ จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 12:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 5566556655665566 ท่าทางจาตกจายมั่กๆๆ ม่ายกวนล่ะ ออกจากบ้านหาเรื่องเสียเงินก่องเน้อ เด๋วงานอาทิตหน้าตรูม่ายเสด แกกลับมางานเร๊วๆๆ(ที่มห้กลับมาเนี่ยให้กลับมาช่วยทำงานนะ 555) เค้ามะได้ลำเอียงแปะเฮียน้อยนะ เฮียออกมาน้อยเอง ความผิดเฮีย 555 /// น่านนน ออกน้อยก้อแคปถี่ๆๆจิ 5555 ช่วยกันทำมาหากินหน่อยหน่อยยยยยยย เฮียก็จะเก่งเรื่องเจรจากับผู้คน // หาเรื่องหรือเจรจากันแน่อ่า.... จากคุณ : @lovelyken@ - [ วันเข้าพรรษา 12:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๆแปลดีมีรางวัล..... 5566 โอเคมั๊ย// เอา 5566 ก็เอา มีให้จริงป่าวเหอะ 555 //เฮียก็จะเก่งเรื่องเจรจากับผู้คน // หาเรื่องหรือเจรจากันแน่อ่า....// อ่า คลิปเค้าว่างั้นนี่ (วันนี้วันพระ งดกัดเฮียหนึ่งวัน) ไปมั่งแล้ว วันนี้ก็วันพระ อย่าลืมทำบุญรักษาศีลกันนะคะ (ได้ข่าวว่าเผลอแอบกัดตี๋ไปแล้ว ขออำภัย เป็นความเคยชินอ่ะ) ตี๋รูปนี้ก็ขอบคุณป้า bonsoir ณ รูเม้งอีกรอบค่ะ จากคุณ : JewelChanInLove - [ วันเข้าพรรษา 13:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 งี๊ดดดด   ป้อ...กะตี๋... ซื้ดอ้า.......................... (หื่นแม้วันพระ) จากคุณ : ก็เค้าเป็งคริสะเตียนนี่นา (บีม..) - [ วันเข้าพรรษา 13:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โทษฐานที่แปลได้ดีมั่ก ๆๆๆๆ เจอร์รี่หล่อเนอะ........ เอารูปคุงตี๋มาฝาก.....ค้าบบบบ จากคุณ : Baolinyan - [ วันเข้าพรรษา 15:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งจะรู้สีกชักแด่วๆ ตรูไม่ได้สั่งหนังสือ จากคุณ : susijang - [ วันเข้าพรรษา 17:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะ  เข้ามาอ่าน จริงๆก็อ่านทุกทู้แปลละค่ะ แต่ไม่มีคลิบดู  เดี๋ยวไปขุดๆๆ  ก่อน จากคุณ : แม่มดจิ๋ว - [ วันเข้าพรรษา 19:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แวะเข้ามาอ่านค่า ......ตั้งกะเห็นภาพชุด F4@Tokyo  เกิดฟามรู้สึกอยากกินทาโกะยากิอ่ะ...(สงสัยผีทาโกะแรงก่าผีอุด้ง) อ้วนจ๋า  อ้วนอยู่หนายยยยยยย.......มาทำทาโกะให้เค้ากินหน่อย !! จากคุณ : fly-girl (fly-girl) - [ วันเข้าพรรษา 19:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณจ้า.... อาริกาโต้..จ้า...Jerry, Otoko-mae...กรี๊ดดดดดดด จากคุณ : jimmy_jerry - [ วันเข้าพรรษา 20:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับคำแปลค่ะ จากคุณ : bigbee (Bas) - [ 23 ก.ค. 48 22:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อุอุ ...................................อ้ากกกกกกกกกก เข้ามาชักกะเวๆให้เหมือนชาวบ้านเค้า (ตกข่าวไปงมอยู่ก่าไอเอ็มเอฟและระเบิดสาระพัดประเทศอยู่นาน ) ไว้อาลัยให้กับชีวิตการไร้เนตไปสามชขั่วอายุขัย ก่อนจะทำใจแล้วบอกว่า เอาน่า ตรูจะได้มีเวลาอ่านหนังสือทำรายงานมะบร้าปู้จาย ..... ขอบคุงปี้เจมั๊กๆกั้บป๋ม .... จากคุณ : แมวจรจัด - [ 24 ก.ค. 48 17:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ต่อด้วยสัมภาษณ์คุณตี๋ใน dvd เบื้องหลัง (ลงใน booklet ที่มากับหนังสือภาพฮับ) ยังแปลไม่เสร็จ กะลังเศร้ากะข่าวตี๋กะเจ๊วิ ซิกๆๆๆ ทำไมไม่รักกันให้ดีๆ ทำไมไม่รักกันให้นานๆ โฮฮฮฮฮฮฮฮ เดี๋ยวข้ามไปแปลของเฮียให้ก่อน (ตกลงยังไม่มีคนแปลใช่ป่าว) ขอบคุณปิกาจูสแกนหนังสือมาให้แปลฮับ จุ๊บๆๆ F4 Talk about Tokyo & Myself V A N N E S S Translated by JewelChan @ Vanness Cool Club Special thanks to Pikachu @ F4-Bo Thailand for scanned text & pics ๑. จริงแล้วผมชอบประเทศญี่ปุ่นมาตั้งนานแล้ว ผมชอบบรรยากาศตามท้องถนนของญี่ปุ่น แล้วอากาศที่ญี่ปุ่นก็ดีด้วย ผมชอบเดินเล่นชมเมืองไปเรื่อยๆ แล้วที่ชอบมากกว่าอะไรอื่นก็คืออาหารญี่ปุ่น ชอบมากๆเลย คราวนี้ได้มาทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกก็เลยรู้สึกดีใจมากๆ นอกจากนี้สต๊าฟทุกคนที่นี่ยังเป็นมืออาชีพกันมากๆ ก็เลยยิ่งทำให้ผมประทับใจกับการมาโตเกียวคราวนี้มากขึ้นไปอีก ๒. ผมเคยมาที่โตเกียวหลายครั้งแล้ว พอได้ยินคำว่าโตเกียวปุ๊บ ในหัวผมก็จะนึกถึง ซาชิมิ (ปลาดิบ) ขึ้นมาทันที ในบรรดาอาหารญี่ปุ่นทั้งหมด ที่ผมชอบที่สุดคงเป็นซาชิมิล่ะมั๊ง พูดอย่างงี๊ผมเลยดูเหมือนพวกตะกละตะกรามไปเลยใช่มั๊ยเนี่ย (หัวเราะ) ๓. นอกจากนี้แล้วเพลงญี่ปุ่นผมก็ชอบนะ ตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมพวกเพื่อนๆผมไม่ได้มีแค่คนจีนแต่ว่ามีทั้งอเมริกัน เกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่นด้วย ผมคลุกคลีอยู่กับพวกเค้าก็เลยมีโอกาสได้เรียนรู้ทั้งวัฒนธรรมอเมริกันรวมไปจนถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็เลยได้ฟังเพลงญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยนั้นเลย ตอนมาถ่ายทำหนังสือภาพผมก็ได้ไปเดินช๊อปปิ้งที่ Shimokitasawa ด้วย ผมก็เดินเข้าร้านขายซีดีก่อนเลย ๔. อย่างเพลง "Shima Uta" ของ THE BOOM นี่ ผมก็ชอบมานานแล้วนะ ขนาดที่เอาไปทำเสียงเรียกของมือถือเลย แล้วก็ยังมีเพลง "Memories" ด้วย นอกจากนั้นก็มี X-JAPAN แล้วก็ Tokunaka Hideaki  ก็ฟังเหมือนกัน แล้วก็คนที่จางเซี๊ยะโหย่ว (Jacky Cheung) เอาเพลงของเค้ามาร้องใหม่นี่ชื่ออะไรนะ อ้อ Koji Tamaki เพลงของเค้ายอดเยี่ยมมากจริงๆ แล้วอย่างวง X-JAPAN นี่ผมก็รู้จักมาตั้งแต่ตอนอายุสิบกว่าขวบ ทรงผมของพวกเค้าจะตั้งๆแบบนี้ แล้วก็ชี้ๆแบบนี้ (ทำท่าให้ดู) แล้วยังเสื้อผ้า รวมไปถึงเมคอัพบนหน้าพวกเค้าอีก มันสุดยอดมากเลย ตอนนั้นผมเห็นแล้วถึงกับอึ้ง ถึงขั้นไม่แน่ใจว่ามีแบบนี้อยู่จริงๆด้วยเหรอ ตอนแรกผมเห็นแต่รูปก็เลยคิดอยู่แค่นั้น แต่พอได้ลองฟังเพลงของพวกเค้าเข้าผมถึงได้รู้ว่าพวกเค้าสุดยอดจริงๆ ๕.พวกเราสี่คนไม่ได้ทำงานด้วยกันมานานพอสมควรแล้ว ได้มาทำงานร่วมกันอีกครั้งคราวนี้ผมทั้งสนุกทั้งมีความสุขเลย จริงๆแล้วพวกเราเริ่มต้นมาจากการรวมตัวกันของคนสี่คน ตั้งแต่ตอนที่เริ่มงานครั้งแรกจนถึงตอนที่เริ่มมีชื่อเสียงพวกเราก็อยู่ด้วยกันสี่คนมาตลอด แต่หลังๆนี้กลับกลายเป็นว่าโอกาสที่เราจะทำงานร่วมกันกลับมีน้อยลงๆ มีอยู่บ่อยครั้งที่ผมคิดถึงเวลาเก่าๆที่พวกเราได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นครั้งนี้สามารถได้มาทำงานร่วมกันอีกผมถึงดีใจมากๆ ผมรู้สึกว่าผมกับอีกสามคนที่เหลือมีอะไรบางอย่างที่ผูกพันกันอยู่ ซึ่งความรู้สึกที่มีให้กับแต่ละคนก็ต่างกันไป อย่างสามคนนั้นแต่ละคนก็มีข้อดีที่ต่างกัน มีข้อเสียที่ต่างกัน แล้วก็มีบางอย่างที่น่าสนใจต่างๆกัน นานๆทีได้มาเจอกันครบทั้งสี่คนทีนึงก็เหมือนกับเป็นการ refresh ความรู้สึกต่อกันด้วย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงๆนะ ๖. จากตอนที่เข้าวงการครั้งแรก นี่ก็ผ่านมาแล้วสี่ปี เวลามีคนถามว่าผมโตขึ้นบ้างมั๊ย ผมก็จะ... อืม... จะตอบยังไงดี ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมคิดว่าความรู้สึกของผมก็ยังเป็นเด็กอยู่ตลอด คนเรานี่ถึงเวลาจะเติบโตเดี๋ยวก็เติบโตเอง ถึงเวลาจะเป็นผู้ใหญ่เดี๋ยวก็เป็นผู้ใหญ่เอง ผมคิดอย่างนี้นะ เพราะอย่างนั้นบางทีผมก็คิดแค่ว่าถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมมีความสุขดีแล้วนั่นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ คนเราพออายุมากขึ้นหมายความว่าเราจะต้องสูญเสียความเป็นเด็ก สูญเสียความไร้เดียงสา รวมไปถึงหัวใจที่ใสซื่อบริสุทธิ์ด้วยอย่างนั้นเหรอ นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่าการเติบโตอย่างนั้นเหรอ... ถ้าจะให้ผมพูดตามตรงแล้ว ผมก็ต้องบอกว่าผมไม่รู้ว่าผมโตแล้วหรือยัง ผมไม่รู้แม้แต่ว่าผู้ชายที่ชื่อแวนเนสในตอนนี้เป็นคนยังไง เค้าเป็นคนยังไงน่ะเหรอ... ก็คงเป็นแค่คนธรรมดาคนนึงเท่านั้นเอง... ๗. ในการถ่ายทำนี้ก็มีบางตอนที่ผมต้องยืนร้องเพลงอยู่คนเดียวหรือเต้นรำอยู่คนเดียว การใช้ชีวิตตามลำพังหรือการทำอะไรตามลำพังก็เป็นเป็นการให้เวลากับตัวเองให้ได้อยู่สงบๆบ้าง เหมือนกับเวลาออกไปเดินเล่นตามท้องถนน ถ้าเราไปคนเดียวเราจะเลือกเดินไปไหนก็ได้ ตัวผมเองคิดว่าการที่ได้ไปในสถานที่ต่างๆที่ตัวเองยังไม่เคยไปนั้นเป็นความสุขอย่างนึง ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ได้ซึมซับสิ่งต่างๆเข้ามา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความรู้สึกใหม่ๆบางอย่างในตัวเราตื่นขึ้นมา ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ตั้งแต่เด็กๆผมก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมากเท่าไหร่อยู่แล้ว ก็เลยต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ทั้งๆที่อยู่คนเดียวนี่ล่ะ (หัวเราะ) (ข้างบนนี้อ่านแล้วเศร้าๆยังไงไม่รู้ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮออ ตี๋จ๋า โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ) จากคุณ : เจเวลน้ำตาตก (JewelChanInLove) - [ 25 ก.ค. 48 12:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตี๋ ตี๋ ตี๋ ..................................... อ่านแรกๆร่าเริง เริงร่า ตี๋ชอบเอ็กซ์เจแปนเหมือนแมวด้วย ...... แต่ อ่านๆไปหลังๆ เริ่มน้ำตาตก .... มะรู้ว่าจะตกทำไม แต่เหมือนพี่เจว่า อ่านๆไปแย้วรู้สึกว่า ... ตี๋ขา .. ตี๋เหงาอ่ะ ปล. ดีใจที่ตี๋ก่าเจ้เลิกกัน(อีกรอบ) เพราะเหตุผลมันเดิมๆ เดินกันบนทางเดิมๆ แล้วตี๋ก้อต้องเจ็บอีก .......... แบบเดิมๆ ขอให้เจ็บเป็นหนสุดท้าย เพื่อจะเจอความสุขภายหน้านะตี๋นะ ................ ขอบคุงพี่เจงับสำหรับคำแปล จากคุณ : กลับมาเป็นองค์ (แมวจรจัด) - [ 25 ก.ค. 48 13:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ของเฮีย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮออ เค้าเศร้าอ่ะ คิดถึงตี๋ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมอ่ะ ทำไมต้องตี๋ ไม่เข้าใจ ฮือๆๆๆๆ F4 Talk about Tokyo & Myself K E N Translated by JewelChan @ Vanness Cool Club Special thanks to Pikachu @ F4-Bo Thailand for scanned text & pics ๑. ความรู้สึกของผมตอนนี้ค่อนข้างสับสนนะ ในแง่หนึ่งก็คือพวกเราสี่คนได้มาทำงานร่วมกันที่ญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งแรก แล้วโตเกียวก็เป็นเมืองที่สวยมาก การที่ได้มาทำงานที่นี่ต้องถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมจะจดจำเอาไว้ตลอดไป แต่ในอีกแง่หนึ่งผมก็รู้สึกเศร้าๆขึ้นมาพอคิดว่าต่อไปนี้ผมคงไม่สามารถเดินในท้องถนนที่ญี่ปุ่นได้อย่างอิสระอีกต่อไปแล้ว โตเกียวเป็นเมืองที่มีความหมายเป็นพิเศษสำหรับผม แค่คิดว่าต่อไปนี้พอมีคนรู้จักผมมากขึ้นผมก็จะไม่ได้เดินอย่างเป็นอิสระในเมืองนี้อีกก็ทำให้ผมปวดใจแล้ว ผมอยากจะใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นให้เหมือนกับชาวบ้านในท้องถิ่นคนนึง ถ้าทำได้อย่างนั้นผมจะดีใจมากเลย อย่างการที่ได้เดินเล่นไปตามท้องถนน หรือว่าการได้ค้นพบร้านอาหารอร่อยๆ เดินดูนู่นดูนี่ตามร้านค้าหาซื้อข้าวของที่ตัวเองชอบ ได้แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้ว ผมคิดว่าสินค้าจากญี่ปุ่นค่อนข้างจะมีคุณภาพดีกว่าที่อื่นๆ อย่างของใช้ในชีวิตประจำวันของผมส่วนใหญ่แล้วจะเป็นของญี่ปุ่นนะ ๒. ผมมาโตเกียวครั้งแรกเมื่อตอนอายุสิบแปดหรือสิบเก้านี่ล่ะ ที่ไต้หวันตอนนั้นเป็นยุคที่กำลังบ้าญี่ปุ่นกันพอดี พวกเพื่อนที่บ้ามากๆขนาดว่าตั้งชื่อตัวเองอีกชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นก็มีเยอะ แต่ตัวผมเองโตขึ้นมาที่สิงคโปร์ก็เลยชินกับอะไรๆที่เป็นตะวันตกมากกว่า ตอนนั้นพอพูดถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผมก็จะรู้สึกว่า "นี่มันอะไรกันเนี่ย" แล้วก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร จนกระทั่งได้มาที่ญี่ปุ่นผมถึงเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพวกเพื่อนผม ถึงจะไม่ถึงขั้นตั้งชื่อญี่ปุ่นให้ตัวเองแต่ก็เริ่มเข้าใจพวกเค้าแล้ว ๓. ครั้งแรกที่มาโตเกียวผมก็อาศัยว่าเปิดแผนที่แล้วเดินตามหาร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยๆ แต่พอมาครั้งหลังๆแผนที่ก็ไม่จำเป็นแล้ว แค่อาศัยความคุ้นเคยก็พอ ขนาดว่าตอนนี้ผมมีร้านบะหมี่กับร้านขนมหวานเจ้าประจำที่อาโอยาม่าแล้วก็รอปปงงิเลยนะ เวลาผมไปเที่ยวผมก็จะมี"กิจวัตร"ของผม อย่างทุกครั้งที่ผมมาโตเกียวตอนเช้าผมก็จะต้องตื่นไปเดินที่ตลาดไปหาอะไรกิน ไม่ถึงกับต้องไปกินร้านที่ขึ้นชื่ออะไรมากก็โอเคแล้ว ผมอยากจะทำตัวให้คุ้นเคยกับถนนหนทางในโตเกียว  ซึ่งถึงตอนนี้ผมว่าผมก็คุ้นเคยในระดับนึงแล้วนะ ในขณะเดียวกันโตเกียวก็ทำให้ผมรู้สึกว้าเหว่ด้วย ทั้งๆที่เมืองนี้มีผู้คนมากมายแต่ก็ไม่มีใครรู้จักผมซักคน แต่จริงๆแล้วในความว้าเหว่แบบนั้นก็ทำให้ผมมีความสุขด้วยเหมือนกัน (อ่านแล้วสับสนกับความคิดของเฮียจริงๆ ตกลงเฮียชอบเดินไปไหนมาไหนแล้วไม่มีคนรู้จักจะได้รู้สึกว้าเหว่เพราะว้าเหว่แล้วมีความสุขเหรอนี่ ฮ่วยยย งง แปลเอง งงเอง) ๔. ผมมีคำจำกัดความของคำว่า "การท่องเที่ยว" ของตัวเอง ซึ่งก็คือ "การไปในสถานที่แห่งนึง แล้วได้เห็นและได้ซึมซับถึงสิ่งต่างๆในสถานที่นั้นในช่วงเวลาขณะนั้นๆ" เค้ากินอะไรกัน เค้าใช้อะไรกัน เค้าคิดยังไงกัน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ถ้าได้เรียนรู้ถึงความคิดจิตใจของผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆก็จะเข้าใจได้ ถ้าเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้เราก็จะทำตัวได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของพวกเค้า การที่เราสามารถเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและความคิดของผู้คนในส่วนต่างๆของโลกหรือการที่เรามีการได้พูดคุยหรือทำกิจกรรมกับคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรๆเพิ่มขึ้นมากมาย ผมเลยคิดว่าการไปเที่ยวแบบดูอะไรนิดๆหน่อยแล้วก็กลับนี่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อมาก ๕. ยกตัวอย่างเช่นว่าในโลกเรานี่มีผู้คนมากมายหลายเผ่าพันธุ์ แต่ผมคิดว่าทั่วโลกก็รู้จักการกินปลาในแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งนี้เมื่อผมได้มาที่ญี่ปุ่นและได้ลองกินดูจริงๆถึงจะได้รู้ว่า อ้อ การกินปลาด้วยวิธีนี้ก็มีด้วยนะ วิธีปรุงอาหารแบบนี้ก็มีด้วยนะ ต้องแบบนี้ผมถึงจะได้เรียนรู้และเข้าใจกับสิ่งต่างๆได้อย่างถ่องแท้ ซึ่งผมว่าการท่องเที่ยวก็เป็นอะไรที่คล้ายๆแบบนี้เหมือนกันนะ (ยังมีต่อ) เค้าไม่อยากให้เลิกกันอ่ะ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ เศร้าจริงจังนะนี่ ฮืออออ นั่งแปลไป ฟังเพลงพี่เดฟไป โฮฮฮฮ พี่เดฟร้องเพลงเศร้าๆ น้ำตาจาไหล แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 48 13:28:14 จากคุณ : JewelChanInLove - [ 25 ก.ค. 48 13:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๖. ระหว่างการถ่ายทำคราวนี้ผมเอากล้องที่ผมพึ่งซื้อติดไปถ่ายรูปด้วย การที่ผมเข้ามาทำงานในวงการนี้ทำให้ส่วนใหญ่แล้วผมจะเป็นฝ่ายถูกถ่ายมากกว่า ตอนแรกๆที่ยังไม่มีประสบการณ์การถ่ายแบบผมยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรก็เลยรู้สึกว่าการถ่ายรูปนี่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน ตอนนั้นไม่รู้แม้แต่ว่าจะต้องโพสท่ายังไงดี แต่ว่าพอทำงานไปเรื่อยๆจะไม่พยายามปรับปรุงตัวเองให้เก่งขึ้นก็ไม่ได้ เพราะอย่างนั้นก็เลยเริ่มคิดว่าถ้าเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายภาพก็จะเข้าใจอะไรๆมากขึ้นแล้วก็จะเป็นผลดีกับตัวเองด้วย อย่างเช่นจะได้รู้ว่า "อ้อ ถ้าทำแบบนี้จะทำให้รูปออกมามีเอฟเฟ็คแบบนี้ได้" อะไรอย่างนี้ พอเริ่มเข้าใจกระบวนการพวกนี้ก็เริ่มสนุกกับการทำงานมากขึ้น ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าจะซื้อกล้องดีมั๊ยนะ จริงๆแล้วตอนแรกนี่ก็แค่สนใจเฉยๆ แต่พอได้เริ่มถ่ายรูปจริงๆแล้วก็กลับกลายเป็นว่าชอบมากๆไปเลย อย่างคราวนี้พวกเรา F4 ได้มาทำงานที่ญี่ปุ่น ผมก็อยากจะเก็บความทรงจำตรงนี้เอาไว้ ก็เลยเอากล้องมาด้วยเอาไว้คอยถ่ายสิ่งต่างๆ อะไรแบบนี้ ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็เลยพกกล้องติดตัวไปด้วยตลอด ๗. พูดถึงดนตรีแล้วผมฟังแค่เพลงแจ๊สอย่างเดียว ซึ่งเพลงแจ๊สค่อนข้างบูมมากที่ญี่ปุ่นในช่วงสองสามปีมานี่ สาเหตุอย่างนึงที่ผมชอบประเทศญี่ปุ่นก็เพราะคนที่นี่มีโอกาสได้ฟังเพลงแจ๊สอยู่บ่อยๆ แล้วก็มีคนมาเปิดการแสดงบ่อยๆด้วย ผมเคยศึกษาเกี่ยวกับเพลงแจ๊สอยู่นิดหน่อยก็เลยรู้ว่าภาษาจีนนี่ไม่เข้ากับเสียงของเพลงแจ๊สเลยแต่ว่าภาษาญี่ปุ่นกลับเข้ากับเพลงแจ๊สได้อย่างน่าประหลาด ตอนนี้ที่โตเกียวก็มีงาน "Blue Note Tokyo" ซึ่งผมอยากจะลองไปซักครั้งแต่ว่ายังไม่มีโอกาส นักดนตรีแจ๊สหลายๆคนจะชอบมาที่ญี่ปุ่น ผมอิจฉามากๆเลย ๘. ที่พูดมาทั้งหมดก็อยากจะบอกว่าผมชอบญี่ปุ่นมาก ครั้งแรกที่ผมมาญี่ปุ่นนี่ผมมาเพื่อดูคอนเสิร์ตของลูน่าซี กับ Chage&Aska ถึงตอนนี้ดนตรีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ถึงขนาดว่าถ้าโลกนี้ไม่มีดนตรีผมคงคิดว่าชีวิตนี้น่าเบื่อถึงขนาดว่าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมเลยทีเดียวล่ะ ๙. ตั้งแต่ผมเข้าวงการก็ผ่านมาหกปีแล้ว ผมถามตัวเองอยู่เสมอว่าผมเติบโตขึ้นบ้างมั๊ย พอมาลองคิดดูว่าในหกปีนี้ผมเปลี่ยนแปลงไปบ้างมั๊ย ผมต้องบอกว่าผมดีใจมากเพราะคนที่รู้จักผมมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้วก็คนที่ผมรู้จักหลังจากเข้าวงการส่วนใหญ่จะบอกผมว่า "นายนี่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ" ๑๐. ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมีปัญหากับบุคลิกของผมบ้าง แต่ทุกคนก็มองว่าผมยังคงเป็นตัวของผมเอง ตราบใดที่ผมยังเป็นตัวเองถึงแม้จะจับผมมาใส่เสื้อผ้าหรูหราแค่ไหนผมก็เป็นแค่ผู้ชายปอนๆเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ถึงผมจะเป็นคนในวงการบันเทิงแต่ผมก็อยากจะเป็นของผมแบบนี้ อยากจะให้คนได้สัมผัสตัวตนที่จริงของผม ในวงการบันเทิงนี้มีผู้คนหลากหลายและก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย คนที่พอเข้าวงการมาแล้วต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปก็มีเยอะ ผมดีใจที่กรณีนั้นไม่เกิดขึ้นกับผม ไม่ว่าจะเมื่อก่อนนี้หรือตอนนี้ผมก็ยังคงเหมือนเดิม (มีต่อ) จากคุณ : JewelChanInLove - [ 25 ก.ค. 48 14:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กิ้ด .................... อิเสีย้วชอบลูน่าซีลด้วยเหรอ ... (ทั้งเสี้ยวทั้งตี๋ ชอบสุดที่รักเกาะเก่าเค้ากันหมดเยยง่ะ ....) ปล. แถวนี้เค้าเปิดแต่เพลงนู๋พี ................แมวจาประสาทกิน ................ คือชอบนะ แต่ออกไปส่งงานมเสเซนเจอร์ข้างนอกก้อเปิด เข้ามาโต้ะข้างๆก้อเปิด ดูหลอนๆไงบอกมะถูก เด่วตรูเปิดเทนชั่นแข่งซะเนี่ย แงบๆๆ จากคุณ : แวะมาเที่ยว (แมวจรจัด) - [ 25 ก.ค. 48 14:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ๑๑. ผมไม่เคยรู้สึกอยากจะใส่เสื้อผ้าดีๆพวกสูทหรืออะไรพวกนั้น ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ตัวผมเองธรรมดาแล้วบางทีหนวดก็ไม่โกนผมก็ไม่ได้หวี หรือเวลาที่ไม่มีงานผมตื่นตอนเช้ามาแล้วก็จะอยู่ในสภาพโทรมๆแบบนั้นไปเรื่อยๆ หน้าร้อนก็ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วก็รองเท้าผ้าใบไม่ก็รองเท้าแตะ แต่พอเวลาทำงาน พูดแล้วก็แปลกดี ผมก็จะรู้สึกเหมือนโดน"บอมบ์" อยู่ทุกวัน คือโดนบอมบ์แบบโดนให้ใส่ไอ้นู่นโดนให้ใส่ไอ้นี่อยู่เรื่อยๆ พองานเลิกผมจะรู้สึกอยากจะรีบถอดเสื้อผ้าแล้วกลับมาเป็นตัวเองซะเดี๋ยวนั้นเลย ๑๒. ผมก็มีความเครียดของผมอยู่บ้างเหมือนกัน จริงๆผมว่าร่างกายของผมมีระบบตอบสนองต่อความเครียดแล้วก็ความกดดันนะ คุณสังเกตมั๊ยล่ะว่าพักนี้คิ้วของผมบางลงไป นี่ก็เพราะว่าผมเครียดมากไง เวลาเครียดมากๆแล้วขนคิ้วของผมจะร่วง แต่ว่าตอนนี้คิ้วยังหนาอยู่ก็เลยยังไม่ต้องห่วงเท่าไหร่ (หัวเราะ) อันนี้ก็เป็นอาการอย่างนึงนะ ตอนผมอายุซักสิบเจ็ดสิบแปดตอนนั้นขี่จักรยานบ่อย มีทีนึงที่ต้องรีบปั่นจักรยานฝ่าฝนเพื่อจะไปทำงานให้ทัน แล้วพอเห็นขนคิ้วตัวเองร่วงก็คิดว่านั่นต้องเป็นฝนกรดแน่ๆเลยก็เลยไปหาหมอ หมอก็บอกว่า "ไม่นะ นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฝนกรดเลย แต่สงสัยจะเป็นเพราะว่าคุณเครียดมากกว่า" (หัวเราะ) เคยได้ยินว่าคนอื่นๆเค้าโดนกดดันมากๆหรือเครียดมากๆแล้วผมร่วงแต่ของผมนี่กลับกลายเป็นคิ้วร่วงแทน (หัวเราะ) +++++++++++++ จบ ++++++++++++++ ของตี๋ที่เหลือรอทำใจได้ก่อนแล้วจะแปลต่อ ฮืออออ ของป๋ามีคนแปลละยังไม่รู้ ถ้าไม่มีก็ไว้จะมาแปลให้ ของไจ๋มีแปลเป็นอังกฤษแล้ว น่าจะมีคำแปลไทยที่ทู้บ้านไจ๋ฮับ จากคุณ : เจเวลปวดใจ (JewelChanInLove) - [ 25 ก.ค. 48 14:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้องเจเวลจ๋า....ของป๋าเท่าที่ควานหาดูยังมะมีนะค้าบบบบบ ยังไงช่วยแปลของป๋ามาฝากหน่อยนะค้าบบบบบ ปวดใจทำไมเหรอ...ตี๋ทำไรให้ปวดใจ......พี่ว่าของพี่ปวดกว่าอีกนะ....ปวดมาหลายวันแล้วด้วย.....อือ......อือ... ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : Baolinyan - [ 25 ก.ค. 48 15:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โถ.... พี่(ลำ)เคน จีวีดจ่างน่าจ๋งจ๋านจังเยยยยย มาม่ะ มาฟังเพลงแจสที่ไท่กั๋วก้อล่าย ตอนนี้ก้อเริ่มบูมนิดๆๆ เหมือลลกัลล ที่นี่ก้อมีผับเพลงแจสดีๆๆ เด๋วเราจาส่งรายชื่อร้านปายห้ายยยยยย รับรองม่ายปายกวน เพราะสงสายหูเราจาม่ายถึง ไปทีไรตรูอยากหลับทุกที.... อย่าเครียดมากเน้อ เด๋วคิ้วจาบางเปงขีดเดียว แทงแกหลายๆๆ น้าเจ....จุ๊บๆๆ ขอให้ตี๋มีฟามสุข ขอให้ตี๋ปายลี จากคุณ : @lovelyken@ - [ 25 ก.ค. 48 17:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กี๊ดดดด้วย อ้วนชอบลูน่าซี แล้วคิดจะฟังลาร์คบ้างป่าวคะเนี่ย หุหุ   ขอบคุณพี่เจเวลด้วยนะค๊า จากคุณ : v_wi - [ 25 ก.ค. 48 17:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 //ยังไงช่วยแปลของป๋ามาฝากหน่อยนะค้าบบบบบ// มาแล้วค๊าบ (แต่ยังไม่เสร็จ) //ปวดใจทำไมเหรอ...ตี๋ทำไรให้ปวดใจ......// ตี๋ไม่ได้ทำอะไร แต่คนอื่นทำตี๋ เจเลยปวดใจแทน โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ เศร้า F4 Talk about Tokyo & Myself J E R R Y Translated by JewelChan @ Vanness Cool Club Special thanks to Pikachu @ F4-Bo Thailand for scanned text & pics ๑. ผมเคยมาโตเกียวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่การมาถ่ายทำหนังสือภาพคราวนี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป... การถ่ายทำโดยที่มีฉากเป็นโตเกียวเหรอ... โตเกียวเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อทางด้านแฟชั่น มาทีไรผมก็ได้เปิดหูเปิดตากับอะไรใหม่ๆมากมาย แล้วเด็กหนุ่มสาวที่นี่ก็จะมีเซนส์ทางด้านการแต่งตัวดีมาก เป็นแบบที่ “เป็นสไตล์ของตัวเอง” คือต่างคนต่างก็แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมา เวลาผมเดินไปตามท้องถนนได้คอยมองดูพวกที่แต่งตัวสไตล์ที่ผมชอบแค่นี้ก็สนุกมากแล้ว ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ผมคิดว่าโตเกียวเป็นเมืองที่ล้ำหน้ากว่าที่อื่นๆอยู่เสมอ ๒. ก่อนหน้านี้ผมเคยมาทำงานที่นี่แล้ว แล้วก็รู้สึกชอบสวนสนุกของโตเกียว ตอนนั้นสนุกมากเลยนะ แล้วตอนที่ได้ไปเดินแถวๆฮาราจูกุ ทาเคชิตะโดริ หรือชิบุย่านี่ก็สนุกมาก คนที่เห็นผมแล้วจำผมได้ก็พอมีบ้าง แต่ว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่นหรอกนะท่าทางจะเป็นแฟนๆที่มาจากประเทศอื่นมากกว่า ๓. ตอนที่ได้ยินว่าผมจะได้มาถ่ายทำหนังสือภาพที่โตเกียวโดยจะได้ร่วมงานกับทีมงานชาวญี่ปุ่นผมดีใจมากเลย ทำไมน่ะเหรอ ก็งานของชาวญี่ปุ่นน่ะเป็นระดับมืออาชีพอยู่แล้วผมก็เลยวางใจได้ ตอนทำงานเวลามีอะไรชี้แนะพวกเค้าก็จะพูดแบบสุภาพมาก งานคราวนี้ผมก็เลยทำด้วยความสบายใจ งานหนังสือภาพนี่เป็นงานที่ไม่ได้ทำมานานพอสมควรแล้วจริงๆ  แล้วก็....(คำว่า “แล้วก็” นี่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น พูดเสร็จแล้วก็หัวเราะเอง) การได้ทำงานกับสต๊าฟชาวญี่ปุ่นนี่ผมค่อนข้างตื่นเต้นมากนะ ผมไม่ได้จำกัดเฉพาะเจาะจงไปว่าจะต้องให้รูปผมออกมาเป็นแนวไหน เค้าเห็นผมเป็นแบบไหนก็ให้ถ่ายผมออกมาแบบนั้นเลย ในหนังสือภาพเล่มนี้ผมก็เลยคิดว่าจะได้เห็นตัวเองในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน อยากรู้เหมือนกันว่าพวกเค้าจะถ่ายผมออกมาเป็นยังไงตอนนี้ก็เลยอยากจะดูรูปเร็วๆ คราวนี้ผมคิดว่าผมมาเพื่อเรียนรู้นะ ได้ทำผลงานดีๆร่วมกับทุกคนแบบนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ผมดีใจมากๆ ๔. เมื่อก่อนนี้เวลาที่ F4 ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนก็จะออกมาพร้อมกันทั้งสี่คน เวลาทำงานส่วนใหญ่ก็ทำด้วยกัน เวลาถ่ายละครหรือไปอัดเพลงก็จะเป็นบรรยากาศแบบที่ได้พูดคุยล้อเล่นกันขำๆ ได้หัวเราะกัน พอนึกย้อนกลับไปถึงเวลาช่วงนั้นแล้วผมก็รู้สึกว่าเป็นความทรงจำที่ดีมากๆเลย คราวนี้ได้มาทำงานด้วยกันทั้งสี่คนผมคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้กลับไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้นอีก เพราะว่าเวลาที่ต้องออกคอนเสิร์ตคนเดียวหรือเล่นหนังเล่นละครคนเดียวเวลาไปโปรโมตผลงานผมก็ต้องเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชนอยู่คนเดียว จนถึงตอนนี้ผมว่าผมก็ยังไม่ค่อยชินกับอะไรแบบนั้นอยู่ดี (หัวเราะ) ๕. เวลาว่างส่วนใหญ่ผมก็จะอ่านหนังสือไม่ก็เล่นบาสเกตบอล ผมกับเพื่อนๆฟอร์มทีมกันขึ้นมาเองเลยนะ ผมมีเพื่อนที่ชอบเล่นบาสเยอะพอควร ก็มีการจัดการแข่งขันกันด้วย มีทั้งเพื่อนเก่าๆแล้วก็เพื่อนที่พึ่งรู้จักกันระหว่างเล่นบาส ทุกอาทิตย์เราก็จะชวนกันแบบ “เฮ้ย มาเล่นกันเหอะ” แบบนี้แล้วก็ออกมาเล่นด้วยกัน... แต่เรื่องจะให้ผมไปเล่นบาสแข่งจริงจังน่ะเหรอ ผมยังเล่นไม่เก่งนี่นา (หัวเราะ) ผมว่าการเล่นกีฬามันทำให้ผมได้ปลดปล่อยความเครียดออกไปนะ เวลาไปพวกฟิตเนสผมไม่ได้ไปออกกำลังอย่างคนอื่นหรอกแต่ไปเล่นบาสไม่ก็เล่นพวกเทนนิส สควอช แบดมินตัน ปิงปองอะไรแบบนี้มากกว่า แต่ว่าถึงผมจะไม่ค่อยได้ไปออกกำลังแต่ว่ารูปร่างผมก็ไม่ค่อยเปลี่ยนถือว่าโชคดีจริงๆเพราะว่าผมน่ะขี้เกียจจะตาย (หัวเราะ) การที่ผมกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนนี่สงสัยว่าจะเป็นเพราะท้องไส้ไม่ค่อยจะแข็งแรงมั๊ง เวลาเค้าพูดๆกันว่ากินเยอะๆจะได้อ้วนๆ ผมก็พยายามแล้วแต่ก็กินได้ไม่เยอะขนาดนั้น แถมกินเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอีก สงสัยว่าร่างกายจะมีปัญหาอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้ ๖. ในวันๆนึงเวลาผมจะทำอะไรก็มักจะขึ้นกับอารมณ์ในตอนนั้น แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วผมจะชอบอ่านหนังสือนะ แต่ว่าช่วงที่มีงานเข้ามาเยอะๆผมก็ไม่ค่อยมีเวลาได้อ่านเหมือนกัน ที่บ้านผมมีหนังสือเยอะมาก ช่วงนี้ผมชอบผลงานของนักเขียนไต้หวันที่ชื่อว่า (อ่านไม่ออก เดี๋ยวแปะลิงค์ให้ด้านล่างละกันเผื่อใครสนใจนะคะ) งานของเค้าดีมากๆเลย เค้าเขียนทั้งนิยายแล้วก็บทความ ผลงานของเค้าไม่ว่าแบบไหนก็มักจะมีเรื่องที่ตอบคำถามเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์แฝงอยู่ด้วยเสมอ (ถ้าใส่ชื่อไม่ผิด นักเขียนที่พูดถึงก็คือคนนี้ http://www.crown.com.tw/book/wenyong/aut.htm ) ๗. ผู้ชายที่ชื่อเจอรี่ก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่รู้เดียงสาคนนึงเท่านั้นเอง ยังมีความเป็นเด็กอยู่เยอะมากๆ ซึ่งจะแตกต่างรูปลักษณ์ที่มองเห็นจากภายนอกทุกอย่างเลย  ในสี่คนผมจะเป็นคนที่ตัวสูงที่สุดแล้วก็ตัวก็ใหญ่สุด แถมยังอายุมากที่สุดอีกตะหาก ก็เลยมีคนพูดอยู่เรื่อยๆว่า "คุณดูเป็นผู้ใหญ่จัง" แต่ว่าถ้าเทียบกันในหมู่พวกเราสี่คนแล้วผมเนี่ยแหละที่เป็นเด็กมากที่สุด จริงๆแล้วผมก็อยากจะลดความแตกต่างระหว่างรูปลักษณ์ภายนอกกับสิ่งที่ผมเป็นจริงๆให้ต่างกันน้อยลงคืออยากจะเป็นผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้ซักนิด ผมอยากจะเป็นผู้ใหญ่แบบที่สุขุมรอบคอบแบบที่เวลามีปัญหาอะไรเข้ามาก็จะรับมือได้อย่างสงบเยือกเย็น เหมือนอย่าง "Hen na Ojisan" อะไรทำนองนี้ (แปลไทยได้ประมาณว่า คุณลุงประหลาดๆ ย่อหน้าต่อไปจะพูดถึงละครเรื่องนี้ แต่ว่ายังแปลไม่เสร็จ) (ยังมีต่อ) จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 01:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หน้าคุณตี๋ตอนตอบคำถามนี้ //๖. จากตอนที่เข้าวงการครั้งแรก นี่ก็ผ่านมาแล้วสี่ปี เวลามีคนถามว่าผมโตขึ้นบ้างมั๊ย ผมก็จะ... อืม... จะตอบยังไงดี ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมคิดว่าความรู้สึกของผมก็ยังเป็นเด็กอยู่ตลอด คนเรานี่ถึงเวลาจะเติบโตเดี๋ยวก็เติบโตเอง ถึงเวลาจะเป็นผู้ใหญ่เดี๋ยวก็เป็นผู้ใหญ่เอง ผมคิดอย่างนี้นะ เพราะอย่างนั้นบางทีผมก็คิดแค่ว่าถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมมีความสุขดีแล้วนั่นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ คนเราพออายุมากขึ้นหมายความว่าเราจะต้องสูญเสียความเป็นเด็ก สูญเสียความไร้เดียงสา รวมไปถึงหัวใจที่ใสซื่อบริสุทธิ์ด้วยอย่างนั้นเหรอ นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่าการเติบโตอย่างนั้นเหรอ... ถ้าจะให้ผมพูดตามตรงแล้ว ผมก็ต้องบอกว่าผมไม่รู้ว่าผมโตแล้วหรือยัง ผมไม่รู้แม้แต่ว่าผู้ชายที่ชื่อแวนเนสในตอนนี้เป็นคนยังไง เค้าเป็นคนยังไงน่ะเหรอ... ก็คงเป็นแค่คนธรรมดาคนนึงเท่านั้นเอง...// คิดนานมาก สมกะเป็นตี๋จริงๆ จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คิดม่ายออกกกกกก จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อิอิ น่ารัก ถูมือจนมือสากหมดแย้ว จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 นึกม่ายออก ขอตัวช่วยได้ม๊ายยยย จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 งี้ดๆ จากคุณ : wu-noofah - [ 26 ก.ค. 48 12:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แว๊ก นู๋ฟร้ามาจากไหน นึกว่ามะอยู่ ถามยากๆ เค้าตอบมะได้ จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ///ถามยากๆ เค้าตอบมะได้ /// บร้า ............. ตี๋ตอบได้นะ ขอเวลาสักสามสิบปีแย้วกัน ..... ตรูฉลาดเกิ้น .......... รักนะตะเอง ............... เลยเหยอกเล่น คริ คริ จากคุณ : ง่วงนอน (แมวจรจัด) - [ 26 ก.ค. 48 12:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หลังจากสงสารตี๋อยู่สองวัน วันนี้เค้าเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ๊ถึงเลิก อืมมมมม จริงๆแล้วก็สมควรอยู่ (หายเศร้าไปหน่อยนึงแล้น) จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 12:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สภาพหลังยัดตัวเองลงไปในหุ่น สงสัยว่าเจ๊พึ่งได้ดูดีวีดีอันนี้ป่าวถึงขอเลิกอ่า ขนาดเค้ารักตี๋เค้ายังอึ้งเยย จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 13:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นู๋เจเวล.....พี่ยังโง่อยู่อ่ะ (ทำตาปริศนา  ใสซื่อสุดชีวิต) ตกลงนู๋สงสารตี๋เรื่องไร......ใครทำไรตี๋ !! ..... จากคุณ : fly-girl (fly-girl) - [ 26 ก.ค. 48 13:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อะจ๊าาาาาาาา..............เข้าใจแย้ว !! โธ่เอ๋ย    ทำไมปู้จายหล่อพวกนี้ มันไม่มีโชคด้านความรักกันเลยน๊อ จากคุณ : fly-girl (fly-girl) - [ 26 ก.ค. 48 13:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ///ตกลงนู๋สงสารตี๋เรื่องไร......ใครทำไรตี๋ !! ..... จากคุณ : fly-girl (fly-girl/// ยกมาตอบให้ค่า กะซิกกะซิก ตี๋โดนทิ้งอีกแย้ว .................. ยัดตัวลงในหุ่นแค่นี้ ต้องทิ้งตี๋ด้วย ฮือๆๆๆๆ (ที่รักคะ อายุเท่าไหร่แย้วคะที่รัก หงิงๆๆๆ) Chinese Fortune Teller Breaks it all, Vivian Breaks her Silence Apple Daily Taiwan July 26, 2005 Translated by vivianhsu of onlyvanness Previously, Vivian admitted her long time relationship with Vanness Wu, admitting what we see is what we get. Obviously, we see a more-than-friends relationship between the 2. As she recently attended a zhu cheng fuji event, she openly and honestly (?) admitted that she is done with Vanness, and that she is very much available now, to the surprise of the audience, she also said that her heart is now occupied....this time with work!! "The hardest part of this is that nothing keeps a relationship on its toes and that it goes to a much more than a debate because 2 of us are celebrities, and because of one thing, Vanness & I agree on absolutely one thing' Vivian expressed. Vanness Wu while he is in the States working on his album came to know about this matter and he said "whatever we have right now is our own thing, its a very personal matter to talk about with public, if she said that I am gentleman enough to accept her decision, but we are still friends and we communicate. I'm far from her, working also, so I don't want to debate on that matter. We still will talk soon." Indeed, both their common friends are not in anyway making it a big deal because they are used to this situation already. They are not only separated by heart, but also because of work. They do understand that both celebrities cannot have a lasting relationship, but they are still positive things will work out the way they want it to be. According to some sources, Vivian already wants to get married but Vanness who is very much attached :-) to his blooming career cannot grant her hopes and wishes. Meanwhile, Vivian also made a big deal when she asked a chinese fortune teller about her future and the card holder told her that if she gets married, all the things she has right now like fame, popularity will doom. Due to that Vivian got scared and changed her mind, but she clarified that she is not choosing career over love life, its just that she is not ready :-) to face any consequences thanks to onlyvanness for translation จากคุณ : ที่รักเศร้า เค้าเศร้าก่า หงิงๆ (แมวจรจัด) - [ 26 ก.ค. 48 13:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แง้วๆ ตี๋อยู่ไต้หวันแหงมๆ จากคุณ : wu-noofah - [ 26 ก.ค. 48 13:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 //นู๋เจเวล.....พี่ยังโง่อยู่อ่ะ (ทำตาปริศนา  ใสซื่อสุดชีวิต) ตกลงนู๋สงสารตี๋เรื่องไร......ใครทำไรตี๋ !! ..... // ไม่ยู้ ใครทำไรตี๋ ตี๋ทำไรใคร รู้แต่ว่าเค้ารักตี๋ๆๆๆๆๆ แงๆๆๆๆ แปะรูปไปแล้วเริ่มคิดได้ว่าแปะได้ป่าวหว่า ถ้าใครเห็นมะสมควรกรุณาหลังไมค์บอกนะคะเดี๋ยวเจมาลบรูปเอง อย่าลบทู้เลยอ่ะ กว่าจาแปะไอ้ที่แปลข้างบนครบนี่เหนื่อยใช้ได้นะ ไปแล้นดีก่า จากคุณ : JewelChanInLove - [ 26 ก.ค. 48 13:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตี๋ในหุ่น ออกจาน่าร้าก จากคุณ : wu-noofah - [ 26 ก.ค. 48 13:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ///ตี๋ในหุ่น ออกจาน่าร้าก /// ออกจะน่าอนาถมากก่ามะน้อง .................. ที่รักคะ ............. อายุเท่าไหร่แย้ว ... หงิงๆๆ เอาว่ะ ๆๆๆ ตรุรักมันๆๆๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 48 13:26:51 จากคุณ : แมวจรจัด - [ 26 ก.ค. 48 13:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากจ้า... จากคุณ : jimmy_jerry - [ 26 ก.ค. 48 17:16:50 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ข้อมูลเพิ่มเติมฮับ (มานั่งหาศัพท์ตัวที่อ่านมะออก) //อย่างทุกครั้งที่ผมมาโตเกียวตอนเช้าผมก็จะต้องตื่นไปเดินที่ตลาดไปหาอะไรกิน // ในสัมภาษณ์เฮียเจาะจงว่าเป็นตลาดสดอันนี้อ่ะ Tsukiji Market (ตอนแปลทีแรกอ่านชื่อมะออก) http://www.tsukiji-market.or.jp/tukiji_e.htm อันนี้วงที่คุณตี๋พูดถึง (มั๊ง มะค่อยเชี่ยววงการบันเทิงญี่ปุ่น) //อย่างเพลง "Shima Uta" ของ THE BOOM นี่ ผมก็ชอบมานานแล้วนะ ขนาดที่เอาไปทำเสียงเรียกของมือถือเลย แล้วก็ยังมีเพลง "Memories" ด้วย // จากคุณ : JewelChanInLove - [ 27 ก.ค. 48 10:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 // ระหว่างการถ่ายทำคราวนี้ผมเอากล้องที่ผมพึ่งซื้อติดไปถ่ายรูปด้วย // อันนี้ก้อบอกด้วยว่าเป็นกล้องยี่ห้อ Leica (ขอบคุณป้าเน่ชี้ทางสว่าง เค้าอ่านมะออก) มะเคยเห็นเพราะได้ข่าวว่าแพงลิบลิ่ว เดี๋ยวไว้แปลครบแบบถูกๆมะไหร่จะไปหาที่แปะให้เป็นที่เป็นทางฮับ จากคุณ : JewelChanInLove - [ 27 ก.ค. 48 10:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Blue Note Tokyo ที่เฮียอยากไป http://www.tokyo.to/bluenote/ //ตอนนี้ที่โตเกียวก็มีงาน "Blue Note Tokyo" ซึ่งผมอยากจะลองไปซักครั้งแต่ว่ายังไม่มีโอกาส// จากคุณ : JewelChanInLove - [ 27 ก.ค. 48 10:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โอ้ยโหย๋ว.. น้องเจ.. ข้อมูลเพียบเยย.. เก็บๆๆๆๆ.. จากคุณ : nene (จ้ายโหยว่) - [ 28 ก.ค. 48 12:30:34 ]