CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    The Tears -- Here Come The Tears ...ฟังแล้วเป็นไงกันบ้างจ๊ะ?

    ข้อความต่อไปนี้ COPY มาจาก http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=20489

    The Tears – Here Come The Tears (A)

    -- ความรู้สึกแรกที่เห็น CD แผ่นนี้ที่ร้าน CD WAREHOUSE สาขาเวิลด์เทรดก็คือ อยากได้มากๆ จนสามารถวิ่งออกไปปล้นเอาเงินใครสักคนแถวนั้นมาซื้อให้ได้ (พอดีตอนนั้นเงินหมดพอดี ก็เลยได้แต่ลูบๆ คลำๆ แผ่น จนพนักงานในร้านมองด้วยสายตาไม่ไว้ใจ)

    -- ตอนที่ฟังอัลบั้มนี้รอบแรก ก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆ เพราะเพลงมันไม่ค่อยเปรี้ยวอย่างที่คิด หรืออย่างที่ซิงเกิ้ล Refugees หรือ Lovers ทำไว้

    -- อย่างไรก็ตามหลังจากฟังไปอีกประมาณ 8 รอบ ก็รู้สึกชอบอัลบั้มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่าซาวด์ของอัลบั้มชุดนี้จะอยู่ระหว่างกลางอัลบั้ม Dog Man Star (1994, A+) กับ Coming Up (1996, A+) โดยในขณะที่ Dog Man Star มีเนื้อหาที่หม่นหมองและเสียงกีต้าร์แตกๆ กดประสาท (บทวิจารณ์ของเมืองนอกบอกว่าสำเนียงกีต้าร์ที่ให้ความรู้สึก DOOM) ชุด Coming Up ก็ให้อารมณ์ที่แร่ดแตกมากๆ ทั้งเนื้อเพลงและทำนอง ดังนั้นงานของ The Tears จึงเป็นส่วนผสมของเสียงแร่ดๆ ของเบรท แอนเดอร์สัน และสำเนียงกีต้าร์ที่ลดความมืดลงของเบอร์นาร์ด บัทเลอร์ โดยอิทธิพลจากงานเดี่ยวของบัทเลอร์ก็มีให้เห็นด้วย เช่น การใช้วงเครื่องสายวงหลายๆเพลง

    นักวิจารณ์ในเวบ allmusic.com ให้ข้อสังเกตว่า ถ้าเกิดแอนเดอร์สันและบัทเลอร์ไม่แตกคอกันซะก่อน และจับมือกันทำเพลงต่อจากอัลบั้ม Dog Man Star ก็คงจะได้เพลงออกมาประมาณนี้ ดังนั้นจึงถือว่าอัลบั้มชุดนี้เป็นการรอคอยของแฟนเพลงถึง 11 ปีทีเดียว (แฟนพันธุ์แท้ของ Suede บางคนมักพูดว่า “ตั้งแต่เบอร์นาร์ดออกไปจากวง Suede ก็ไม่ใช่ Suede อีกต่อไปแล้ว”) แต่ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าเหตุของการเกิดอัลบั้มหรือแนวเพลงในอัลบั้มชุดนี้เกิดจาก ‘อีโก้’ ของทั้งสองคนที่ลดลงอย่างมากไปตามกาลเวลามากกว่า ถ้าเป็น 11 ปีที่แล้วเพลงคงจะออกมารุนแรงและมีความขัดแย้งกว่านี้อย่างมาก

    -- อัลบั้มชุดนี้จะว่าไปแล้ว ก็สอนอะไรเราหลายๆ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือเรื่องประมาณ “เพื่อนกันจริงๆ ไม่มีวันเกลียดขี้หน้ากันไปตลอดชาติ” หรือ “เพื่อนยังไงก็ตัดกันไม่ได้” …ลองมาทบทวนวีรกรรมของสองคนนี้กันดีกว่า

    1. ชื่อเสียงของ Suede เริ่มโด่งดังไปทั่วเกาะอังกฤษ สมาชิกในวงเริ่มเข้าสู่วงจร “sex drug rock&roll” ออกปาร์ตี้ เที่ยวเล่น พี้ยากันทั้งวันทั้งคืน บัทเลอร์ไม่ค่อยพอใจกับวิถีชีวิตแบบนั้นนัก เขาจึงเก็บตัวแต่งเพลงอยู่คนเดียว

    2. แอนเดอร์สันเริ่มมีปากเสียงกับบัทเลอร์ ด้วยความเห็นที่ไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับตัวเพลง (ด้วยความอีโก้จัดของทั้งคู่ และพ่อของบัทเลอร์ช่วงนั้นก็ป่วยหนักด้วย)…บัทเลอร์แต่งเพลง The Asphalt World มาในความยาว 11 นาที แอนเดอร์สันไล่ให้เขากลับไปทำเพลงให้สั้นลง แต่บัทเลอร์ดันกลัมมากับเพลงนี้ด้วยความยาว 19 นาที!! ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงแตกหักในทันที

    3. พ่อของบัทเลอร์เสียชีวิต เขาแต่งเพลง Stay Together อุทิศให้พ่อ แล้วก็เดินจาก Suede ไป

    4. บัทเลอร์ไปร่วมงานกับนักร้องโซลผิวดำ David McAlmont (เพลงดังตอนนั้นคือ YES) แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แตกคอกัน มีข่าวลือว่าบัทเลอร์เหยียดเพศเกย์ของเดวิด (แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลืนน้ำลายหันมาจูบปากกันออกอัลบั้มชุดที่สอง Bring It Back เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว)

    5. ปี 1996 Suede ออกอัลบั้มชุดที่ 3 Coming Up ซึ่งเป็นชุดที่ดังที่สุดและขายดีที่สุด

    6. หลังจากนั้นกราฟชีวิตของทั้ง Suede และ บัทเลอร์ก็ดิ่งลงเรื่อยๆ สองอัลบั้มหลังของ Suede (Head Music, A New Morning) ไม่ประสบความสำเร็จนัก (แต่ก็ยังมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยอยู่เสมอ…อิอิอิ) ส่วนงานเดี่ยวของบัทเลอร์ทั้งสองชุดก็ได้เสียงตอบรับกลางๆ

    7. ในขณะที่ Suede ยังคงเล่นเพลงจากชุด Dog Man Star ในคอนเสิร์ตเพียงนิดเดียว และแอนเดอร์สันยังชอบพูดเล่นอยู่บ่อยๆว่า “นี่คือเพลงจากอัลบั้มที่ห่วยที่สุดของเรา” (ฮา) แต่ช่วงนั้นบัทเลอร์กลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาคิดผิดที่ออกจากวงมาในปี 1994 (โถ พ่อคุณเพิ่งคิดได้)

    8. ประมาณปี 2003 Suede ตัดสินใจพักวง แยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง (และตอนนี้มือกลอง Simon Gilbert ก็มาอยู่กับวง FUTON ของบ้านเรานี่แหละ)

    9. ปี 2004 แอนเดอร์สันและบัทเลอร์ประกาศจับมือกันทำวงใหม่ในนาม The Tears (เย้!)

    จำได้ว่าตอนที่อ่านข่าวเจอเรื่องวง The Tears ในเวบครั้งแรก รู้สึกดีใจมากๆ ประหนึ่งได้ดูฉากจบที่ Happy Ending ของละครซีรี่ย์เรื่องยาวที่ติดตามมาหลายปี …ดังนั้นความรู้สึกที่มีต่ออัลบั้มของ The Tears จึงเป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆ เพราะไม่มีใครที่จะทำเพลงแบบนี้ได้ นอกจากคู่หูสองคนนี้ หวังว่าชุดต่อไปคงไม่ต้องรอนานถึง 11 ปีหรอกนะ

    -- เพลงที่ชอบมากๆ ในอัลบั้มชุดนี้ ได้แก่ Refugees, Co-Star, The Ghost of You, Two Creatures, Lovers, Apollo 13 และ A Love As Strong As Death

    ชอบเพลง The Ghost of You ที่บอกเล่าความรู้สึกของ ‘คนรักเก่า’ ได้เห็นภาพและโดนใจมากๆ (แม้ชั้นจะทิ้งข้าวของวัตถุของเธอให้หมดสิ้นไป แต่วิญญาณของเธอก็คงจะหลอกหลอนชั้นอยู่), เพลง Two Creatures ที่พูดถึงคู่รักที่ข้ามโพ้นข้ามทวีปข้ามน้ำทะเล และรู้สึกว่าเพลง Brave New Century พูดถึงเนืองๆ ถึงเหตุการณ์ 9/11

    -- เนื้อเพลงที่ชอบมากๆ

    Two Creatures
    “We’ll fly over the endless ocean, we’re heading for the winter sun, Cos you and me we’re just two creatures on the run”

    Lovers
    “Cos we are the lovers, we are the lovers
    We’re different colours but we stand up as one
    We are the lovers, we are the lovers
    Two different colours but we stand up as one”

    Apollo 13
    “If you follow me, I will follow you into the unknown
    Like Apollo, like Apollo we’ll fly to the moon
    If you follow me, I will follow you into the unknown
    Like Apollo, like Apollo 13 we’ll explode”

    A Love As Strong As Death
    “We’re all looking for a love as strong as death
    That’s equally heart and equally head
    And we wonder if this love that people say
    Is as strong as death is out there somewhere
    Or just in their heads”

    ---------------------------------

    มิวสิกวิดีโอที่ชอบมากในช่วงนี้

    4. The Tears -- Lovers
    ผมใช้เวลาวันนี้ทั้งวันนั่งเฝ้าหน้าจอทีวีเพื่อรอดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เลยครับ ตามจริงแล้ว MV เพลงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด้งมากมายหรอกครับ แต่แค่ได้เห็น เบรท แอนเดอร์สัน กับ เบอร์นาร์ด บัทเลอร์ มาโยกย้ายส่ายสะบัดให้ดูหน้าจอ แค่นี้ก็กรี๊ดแตกลั่นบ้านแล้ว

    เบอร์นาร์ดยังหล่อเหมือนเดิมเลย (ไม่รู้ใช่ครีมยี่ห้อเดียวกับ ‘ป้า’ คนนั้นรึป่าวนะ) ส่วนฝั่งป๋าเบรทนี่แก่ไปเยอะทีเดียวล่ะ แต่ก็ยังเต้นสะบัดเหมือนเดิม ดูแล้วชื่นใจจริงๆ …ว่าแล้วอยากให้ The Tears มาเล่นในบ้านเราจริงๆน้อ

    พูดถึง เบรท แอนเดอร์สัน แล้วนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งสมัยมัธยม หมอนี่มันหน้าเหมือน เบรท แอนเดอร์สัน มากๆ ผมก็เลยแอบมองหน้ามันบ่อยๆ (อ๊ะ อ๊ะ มองแบบไม่ได้คิดอะไรนะ) อยากเดินเข้าไปบอกกับมันตลอด 3 ปีที่อยู่ห้องเดียวกันเลยว่า “มรึงหน้าเหมือนเบรท แอนเดอร์สันชิบฮายเลยว่ะ” แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะบอกไปมันก็คงงงๆ จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยได้ยุ่งกับมันเท่าไร เพราะเมีย (แฟน) มันดุมาก

    http://www.thetears.org

    ------------------------------

    ขอเชิญพี่ๆ น้องๆ แสดงความคิดเห็นจ้ะ

    แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 48 00:21:30

    จากคุณ : merveillesxx - [ 8 ส.ค. 48 00:20:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป