CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    แจ๊สคาเฟ่ 23 ส.ค. 48: แจ๊สร็อคฟิวชั่น...จากจุดกำเนิดถึงจุดประกายสิบเอ็ด...เปลี่ยนไปมาก

    จุดประกาย 10 ที่ผ่านมาทำให้ผมนึกย้อนไปถึง เรื่องราวของจุดกำเนิดแจ๊สร็อคฟิวชั่น และอัลบั้มอย่าง in the silent way และ bitches brew ที่เคยฟังมา รวมถึงแจ๊สจีอาร์พีอย่าง spyro gyra ชุด breakout (ถ้าจำไม่ผิด) และงานเพลงของ rippingtons แทบทุกชุด

    จริงๆแล้ว แจ๊สร็อคฟิวชั่น เป็นแจ๊สสสสส..มากเลยครับ หากเราใช้การบรรเลงแบบ อิมโพรไวเซชั่น มาเป็น criteria แรกในการ define ดนตรีที่เรียกว่าแจ๊ส

    ไมลส์ เดวิส หลังจากผ่านการสร้างสรรค์งานแบบ modal music และ cool ในช่วงสัก 1-2 ทศวรรษก่อนหน้าปีคศ. 1968 อันเป็นปีที่ลุงไมลส์ได้พูดคุยกับลุงจิมิ ตามคำบอกเล่าใน timelines ของ allaboutjazz ดังนี้

    "Miles Davis meets the amazing rock guitarist Jimi Hendrix. Miles is impressed with Jimi's playing and begins to see the guitar in a new light. With this revelation, Miles begins to see new directions for Jazz"

    อาจกล่าวได้ว่า การเล่นกีต้าร์ของลุงจิมิในแนวทางร็อค บนสายธารอารมณ์ดิบที่หลั่งไหลออกมาอย่างปัจจุบันทันด่วน นั้นเป็น muse หรือผู้สร้างแรงบันดาลใจของลุงไมลส์ในการคิดค้นดนตรีแจ๊สร็อคฟิวชั่น ที่นักดนตรีแจ๊สหลายๆคนที่มีวิสัยทัศน์เชิงอนุรักษ์นิยมสูงแบบ น้าวินตั้น มาแซลลิส ถึงกับกล่าวว่า ลุงไมลส์ทำให้แจ๊สหลงทาง!

    แต่สำหรับผม เห็นว่า มันคือการแตกสายธารดนตรีที่ชื่อว่า แจ๊ส ให้แตก tributaries ออกไปแบบไม่มีที่สิ้นสุดต่างหาก นีโอบ็อพ หรือโพสต์บ็อพ นะสูงส่ง และดีแน่ แต่มิได้หมายความว่า แจ๊สร็อคฟิวชั่นจะเป็นผู้หลงทางสักกะหน่อย

    ในปีเดียวกันนี้ ลุงไมลส์ขัดใจลูกน้องในวงโดยการจับน้า ชิค โคเรีย ที่ติดยึดกับอคูสติกเพียโนมาตลอด มาเล่นเพียโนไฟฟ้า

    Miles Davis records Filles de Kilimanjaro. Chick Corea is on electric piano. It appears here that Miles is beginning to flirt with Rock. Jazz-Rock Fusion here we come. Miles third wife, singer Betty Mabry, appears on the cover of this one.

    ก่อนหน้านี้หนึ่งปี คือคศ. 1967 ลุงโคลเทรนแกลาจากโลกไป! โดยทิ้งผลงานอย่าง interstella space ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังๆอย่าง ผม จารย์เชอร์ฯ ดมด็อก บิ๊กบอยด์ ได้ปวดหัวกับดนตรีประกอบพิธีกรรมของพ่อมด (ฮา) มันเกินขีดจำกัดความสามารถที่พวกเราจะรับได้ ผมรัก the sign of 4 ของน้าดิเรกมากกว่าแล้วกัน!

    แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 48 22:05:08

     
     

    จากคุณ : Younger Pat - [ 22 ส.ค. 48 11:45:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป