ความคิดเห็นที่ 1 บทสัมภาษณ์ไจ่ไจ๋ในนิตยสารญี่ปุ่น “ไต้หวัน ทีวี ดรามา” ถอดความจากจีนเป็นอังกฤษ : laiou2002 @vicpower.net รูปประกอบ : zhenzhen @ vicpower.net บทสัมภาษณ์ที่ยาวและน่าสนใจชิ้นนี้มีขึ้นในเดือนมีนาคม 2548 ตอนที่ไจ่ไจ๋เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อโปรโมทมาร์ส และรักใสใสฯ จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พวกเขามาญี่ปุ่นกันจริงๆ!! การแถลงข่าวแบบรีบด่วนที่ญี่ปุ่นของเอฟโฟร์มีขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2548 เหตุผลที่พวกเขามาญี่ปุ่นก็เพื่อถ่ายสมุดภาพเอฟโฟร์ที่มีกำหนดวางแผงในเดือนกรกฎาคม พวกเขามาถึงสนามบินนาริตะกันทีละคน เจอร์รีกับแวนเนสมาถึงเมื่อวันที่ 23 เม.ย. เคนกับไจ๋มาวันที่ 24 เม.ย. ยกเว้นเคนซึ่งอยู่ญี่ปุ่นต่อแล้ว คนที่เหลือต่างเดินทางออกจากญี่ปุ่นด้วยความเร่งรีบในวันที่ 27 เม.ย. งานแถลงข่าวจัดขึ้นตอนเช้าของวันสุดท้ายที่พวกเขาอยู่ญี่ปุ่น หลังจากล่วงเข้าปี 2548 เอฟโฟร์ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกับสื่อมวลชนญี่ปุ่น ดังนั้น จึงมีสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากเข้าร่วมงานนี้ พวกเขามีแฟนๆที่คลั่งไคล้อยู่เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่เปิดตัวในญี่ปุ่น เชื่อได้เลยว่าคนจำนวนมากจะต้องคิดว่า : ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก้าวขึ้นเวที เจ้าชาย 4 คนก้าวขึ้นบนเวทีโดยเรียงลำดับจากเคน ไจ๋ เจอร์รี และแวนเนส ทุกคนสวมสูท หล่อเหลาจนคุณขาแทบขวิด จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กล่าวคำทักทาย ทั้ง 4 คนกล่าวคำทักทายสื่อมวลชนเป็นภาษาญี่ปุ่นกันทีละคน ฉันประทับใจกับทักษะทางภาษาของแวนเนสเป็นพิเศษ จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อำลา การถ่ายรูปครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลงแล้วเอฟโฟร์ก็จากไป...อยู่นานกว่าเดิมนิดหน่อย จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นิสัยที่เรียบง่ายไม่เหมาะกับวงการบันเทิง แต่เกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติในการเป็นดารา เสน่ห์ที่ขัดแย้งของน้องคนสุดท้องแห่งเอฟโฟร์ ครั้งแรกที่ฉันได้เห็นไจ่ไจ๋แบบใกล้ชิด ฉันหลงใหลกับสีหน้าท่าทางที่เหมือนเด็กของเขามากเสียยิ่งกว่าเครื่องหน้าอันงดงาม เขาดูขี้อายมีเพียงนัยน์ตาของเขาเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไปมา เนื่องจากมีแวนเนสกับเคนซึ่งพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อยืนประกบอยู่ ไจ๋เลยเอาแต่หัวเราะคิกคัก และเหลือบมองคนทั้งคู่ บางครั้งเมื่อได้รับการกระตุ้นจากแวนเนส ไจ่ไจ๋จะยืดตัวตรงแล้วพูดออกมา 2-3 คำเหมือนเด็กซนๆถูกครูสั่ง ไจ่ไจ๋ทำตัวเหมือนน้องนุชคนสุดท้องที่น่ารักจริงๆ แต่ถึงกระนั้น คุณสามารถเห็นท่าทางแมนๆของเขาได้ในมาร์ส ผลงานชิ้นล่าสุด การสัมภาษณ์มีขึ้นในเดือนมีนาคมที่โรงแรมในตัวเมืองที่เขาพักอยู่กับดาราเรื่องมาร์สคนอื่นๆ ต้าเอสมาที่ห้องที่มีการสัมภาษณ์เพื่อถ่ายรูป พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ห่วงใยกันและกัน และทำงานกับสื่ออย่างอารมณ์ดี ผู้สัมภาษณ์ : โอ วะ ซัง ช่างภาพ : นากางาวะ ฟูมิโอะ จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แม่เป็นคนจ้ำจี้จำไชให้เข้าวงการบันเทิง ถาม : ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าทำไมถึงได้เข้าวงการ เพราะคุณไปเป็นเพื่อนเพื่อนที่ไปทดสอบหน้ากล้องรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : ครับ ผมไปกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไปทดสอบบทชิงเหอในรักใสใสแล้วเกิดไปเข้าตาทีมงานเข้า ถาม : ในตอนแรกคุณไม่ได้สนใจวงการบันเทิงเลยใช่ไหม ไจ่ไจ๋ : ครับ เพราะว่าผมขี้อาย ตอนแรกผมนึกภาพตัวเองทำงานต่อหน้าฝูงชนไม่ออกเลย ถาม : งั้นแล้วทำไมถึงตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงซะล่ะ ไจ่ไจ๋ : วันที่ผมไปเข้าตาทีมงานนั้น โปรดิวเซอร์ชวนผมมาเล่นรักใสใสฯ แต่ผมไม่มั่นใจในทักษะการแสดงของตัวเอง แต่นอกเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ผมไม่สามารถนำพาตัวเองให้ทำสิ่งนั้นได้เอาซะเลย ผมก็เลยบอกปัดข้อเสนอไปทันที ผมกลับไปบ้านแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟังแบบขำๆ แม่ผมเกิดสนอกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา (หัวเราะ)  ท้ายที่สุด เพราะแรงกดดันจากแม่ ผมเลยต้องตอบตกลง  เมื่อผมตอบรับไปกับทางโปรดิวเซอร์แล้วก็เริ่มมีการจัดแจงให้ผมเข้าคลาสการแสดง ผมก็เริ่มเรียนการแสดงทันที ถาม : งั้นก็ต้องขอบพระคุณแม่คุณสำหรับสิ่งที่คุณมีอยู่ตอนนี้ ไจ่ไจ๋ : ครับ (หัวเราะ) ผมช่วยสานฝันของแม่ ถาม : แม่คุณหน้าสวยเหมือนคุณรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : แม่หน้าเหมือนผมยังกับแกะเลยครับ (หัวเราะ) จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้าเอสโมโหเมื่อไจ่ไจ๋บอกว่าเป็นแฟนน้องสาวเธอ ถาม : ความประทับใจเมื่อคุณได้พบเอฟโฟร์คนอื่นๆ และต้าเอสครั้งแรกคืออะไร ไจ่ไจ๋ : แวนเนสกับผมเรียนการแสดงด้วยกันตอนแรก เราเข้ากันได้ดีในทันที ส่วนอีก 2 คนนั้นอยู่ในวงการอยู่แล้ว แถมยังมีประสบการณ์ในการแสดงมากกว่า ผมถือว่าเขาเป็นรุ่นพี่ บาร์บี้กับน้องสาวเธอก่อตั้งวงที่เรียกว่า เอสโอเอส ตอนแรกผมเป็นแฟนน้องสาวเธอ (หัวเราะ) บาร์บี้ตัวเล็กมาก ผมประหลาดใจว่ายังมีคนที่เหมือนตุ๊กตาแบบนี้อยู่ด้วยเหรอตอนที่ผมพบบาร์บี้ครั้งแรก ผมดีใจที่เรากลายมาเป็นเพื่อนกัน ถาม : ตอนที่คุณบอกว่าคุณเป็นแฟนน้องสาวเธอ บาร์บี้โมโหใช่ไหม ไจ่ไจ๋ : เธอหัวเสียทันทีที่ผมพูดแบบนั้นออกไป (หัวเราะ) ถาม : ระหว่างสมาชิกเอฟโฟร์ด้วยกัน โดยเฉพาะเจอร์รีที่แก่กว่าคุณ 4 ปี แถมยังเป็นรุ่นพี่ในวงการ คุณต้องได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษเรื่องการแสดงเพราะว่าเป็นเพื่อนที่เด็กกว่า แล้วก็เป็นศัตรูหัวใจรึเปล่า (ป.ล.....ตรงนี้ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษเท่าไร...เลยแปลออกมางงๆหน่อยนะ) ไจ่ไจ๋ : อันที่จริงผมไม่รู้สึกว่าอายุของเราต่างกันมากขนาดนั้น ผมคิดว่า เมื่อเราเริ่มทำงาน แม้แต่กับคนที่แก่กว่า 10 ปี เราก็ควรจะปฎิบัติกับพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกเรื่องความแตกต่างของอายุมากนัก แต่ตอนนั้นเจอร์รีเป็นนายแบบที่มีชื่อเสียงแล้ว ผมเคยเห็นเขาในนิตยสาร และทีวีมาก่อนหน้าที่ผมจะเข้าวงการ ดังนั้น ก็เหมือนกับคนทั่วไปรู้สึกเวลาที่ได้เจอดารา ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรกผมประหม่า แต่เมื่อเราทำงานด้วยกัน และกลายมาเป็นเพื่อนกันในไม่ช้า ผมก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย เขาต่างจากภาพที่มองเห็นภายนอก และก็บริสุทธิ์เหมือนเด็กหนุ่ม ปรกติแล้วเจอร์รีจะคบหาได้ง่าย แต่ถ้าเขาเริ่มทำงานแล้วละก็ เขาจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จะทำทุกอย่างด้วยความจริงจัง ด้านนี้ของเขาส่งผลดีต่อผม ซึ่งผมก็ได้เรียนรู้จากเขา จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไปเมืองนอกครั้งแรกเพื่อถ่ายละครที่โอกินาวา ถาม : สมาชิกเอฟโฟร์ไปไหนด้วยกันนอกเวลางานรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : ในตอนแรกเราไม่รู้จักกัน เราเลยไม่ค่อยได้คบหาสมาคมกันมากนัก แต่พอเราถ่ายรักใสใสฯถึงครึ่งหลัง เราทุกคนก็กลายเป็นเพื่อนกัน เวลาที่ผมได้หยุด ผมจะไปเยี่ยมพวกเขาที่กองถ่ายหรือไม่ก็ออกไปหาอะไรดื่มด้วยกัน เรากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆตอนที่เราออกอัลบั้มด้วยกัน ช่วงนั้นเราออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ถาม : ตอนนี้พวกคุณทั้ง 4 คนกลายเป็นดาราดังของเอเชียไปแล้ว คุณหาช่วงเวลาแบบนั้นไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม ไจ่ไจ๋ : เนื่องจากตอนนี้เราแยกกันทำงานเราเลยมีความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น อันที่จริงเราทุกคนต่างยุ่งมาก แล้วก็ไม่มีเวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข และทนุถนอมช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันมากกว่าเดิม ตอนนี้ แค่การได้กินข้าวด้วยกันก็เป็นสิ่งที่ต้องถนอมเอาไว้ ถาม : คุณได้ไปโอกินาวาเพื่อถ่ายละครรักใสใสฯด้วยใช่ไหม ช่วยเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้เราฟังหน่อยสิ ไจ่ไจ๋ : มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปเมืองนอก ปรกติแล้วคนส่วนใหญ่จะนั่งเครื่องบินไปเมืองนอก แต่ในบทเขียนให้เราไปโอกินาวาทางเรือ ตอนแรกเราทุกคนตื่นเต้นหวาดเสียวมาก โดยเฉพาะผมซึ่งได้ไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก ผมตื่นเต้นแล้วก็ตัวลอยไปด้วยความสุข ก่อนที่เราจะไป ทางทีมงานเตือนพวกเราแล้วว่าให้เอายาแก้เมาเรือไปด้วย แต่ผมไม่เคยขึ้นเรือมาก่อน แล้วก็ไม่รู้ว่าการเมาเรือเป็นยังไง ผมก็เลยไม่สนใจ เราสนุกกันมาก แล้วก็ถ่ายทำวันแรกเสร็จโดยไม่มีความขลุกขลักเลยแม้แต่น้อย แต่พอตกกลางคืน พวกเราหัวเราะกันไม่ออกอีกต่อไป พวกเราเมาเรือกันหมดทุกคน (หัวเราะ) เราอาเจียนแล้วก็มีสภาพย่ำแย่มาก (หัวเราะ) (ถึงตอนนี้ไจ่ไจ๋เหลือบตาไปดูบาร์บี้ที่กำลังถ่ายรูปอยู่ใกล้ๆ) ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นกับบาร์บี้ด้วยเหมือนกัน ถาม : คุณต้องผ่านความยากลำบากแบบนั้นในการถ่ายทำ งั้นช่วยเล่าฉากที่คิดว่าควรค่าแก่การดูให้เราหน่อยจะได้ไหม ไจ่ไจ๋ : ฉากจูบกับซันไช่บทชายหาดตอนที่เราเดินทางโดยเรือ ผมคิดว่าตัวเองดูเจ๋งเหมือนกัน (ไจ่ไจ๋ยิ้มอายๆ) รักใสใสฯเป็นละครเรื่องแรกของผม บาร์บี้ก็เหมือนกัน มันเป็นฉากจูบในละครฉากแรกของผม มันเหมือนกับการขโมยจูบแรกของกันและกัน (หัวเราะ) (อันที่จริงแล้วบาร์บี้ถ่ายฉากจูบครั้งแรกกับเจอร์รี่) ****หมายเหตุ***ที่ไจ๋พูดตรงนี้หมายความว่าไจ๋คิดว่าตัวเองถ่ายฉากจูบกับต้าเอสเป็นคนแรก ขณะที่คนสัมภาษณ์คิดว่าเป็นเจอร์รี ซึ่งแฟนๆจากพลังไจ๋เค้าแย้งว่าจริงๆแล้วไจ๋ถ่ายฉากจูบกับต้าเอสก่อนเจอร์รี แต่ออกอากาศทีหลังต่างหาก คนเลยเข้าใจผิด จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:20:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พูดตลกฝืดๆเป็นวิธีที่ไจ่ไจ๋ตอบแทนๆ F3 ที่ให้ความช่วยเหลือ ถาม : นอกเหนือจากให้ความสำคัญเรื่องรักแล้ว มิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูงก็เป็นสิ่งสำคัญในรักใสใสฯ ในชีวิตจริงคุณมีญาติหรือเพื่อนๆแบบเดียวกับเอฟโฟร์รึเปล่า ไจ่ไจ๋ : แน่นอนว่าผมมีญาติๆแล้วก็เพื่อนๆอยู่มากมาย ไต้หวันมีกองทหารที่คนจะนอนแล้วก็อาบน้ำด้วยกัน อยู่ด้วยกัน แต่ปรกติแล้วหาได้ยากที่เพื่อนๆจะอาบน้ำด้วยกัน เมื่อเร็วๆนี้ผมได้ไปเที่ยวน้ำพุร้อนกับเพื่อนสนิทสองสามคน บ่อน้ำพุร้อนของไต้หวันต่างจากญี่ปุ่น มีห้องส่วนตัวที่คนมักจะเข้าไปอาบคนเดียว แต่ครั้งนั้นพวกเราไปอาบกันที่โรงอาบน้ำสาธารณะ เราทุกคนกระโดดลงน้ำโดยไม่มีเสื้อผ้าติดกาย เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมากสำหรับผม ผมรู้สึกว่ามิตรภาพของเราแน่นแฟ้นขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นนะ (หัวเราะ) ถาม : ไต้หวันไม่มีโรงอาบน้ำสาธารณะเหรอ ไจ่ไจ๋ : มีไม่กี่ที่ เป็นธรรมเนียมที่คนจะสวมชุดว่ายน้ำเวลาอยู่ในที่สาธารณะอย่างสปา เนื่องจากผมไม่คุ้นเคย ในตอนแรกผมจึงคัดค้านการไม่สวมอะไรเลยอย่างรุนแรงเพราะผมอาย แต่ไม่ช้าผมก็เริ่มสนุกกับมัน เราสาดน้ำร้อนใส่กันเหมือนเด็กๆ ถาม : ในความคิดของคุณ สมาชิกเอฟโฟร์มีความสัมพันธ์กันแบบไหน ไจ่ไจ๋ : ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราเป็นยิ่งกว่าเพื่อนร่วมงานกัน สำหรับผม นี่คือกลุ่มแรกของผม ผมเล่นละครเรื่องแรก ออกเทปชุดแรกกับพวกเขา ผมขี้อายมาก ในตอนแรกผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเวลาให้สัมภาษณ์ คนอื่นๆจะเข้ามาช่วยชีวิตผม เพื่อเป็นการตอบแทนพวกเขา ผมเลยเล่าเรื่องตลกให้พวกเขาฟัง แต่เป็นตลกฝืดทั้งหมดเลย (หัวเราะ) แต่หลังจากได้ฝึกปรือมากเข้า เรื่องตลกของผมก็ได้รับความนิยม และกลายเป็นสิ่งสร้างชื่อให้กับผม นักข่าวไต้หวันคิดว่ามันน่าสนใจ เวลาสัมภาษณ์ พวกเขามักจะถามว่า “ช่วยเล่าตลกฝืดๆให้ฟังหน่อยสิ” (หัวเราะ) แม้ว่าตอนนี้พวกเราจะทำงานที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับผมแล้วไม่มีใครจะมาแทนที่สมาชิกเอฟโฟร์ได้ จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ฉากจูบกับบาร์บี้เป็นไฮไลท์ที่ดีที่สุดของมาร์ส ถาม :ช่วยเล่าเรื่องมาร์สให้ฟังหน่อย มาร์สเป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นที่จิตใจมีบาดแผลรุนแรง แถมคุณยังเล่นเป็นคนน้องด้วย การที่ต้องเจอความท้าทายจากการเล่นเป็น 2 ตัว คุณต้องใช้ความพยายามในการเล่นอย่างไรบ้าง ไจ่ไจ๋ : นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองเล่นละครได้อย่างมืออาชีพ หลังจากอ่านบท ผมคิดว่าบททั้งคู่เล่นยาก เพื่อเตรียมตัวรับบทนี้ ผมจึงไปหาผู้กำกับ ผู้กำกับแนะนำให้ผมอ่านหนังสือ แล้วบอกว่าหลังจากอ่านหนังสือแล้วผมจะเข้าใจแง่มุมด้านจิตใจของหลิง หลังจากอ่านหนังสือจบเราก็เริ่มถ่ายทำกันในสถานที่จริง การเล่นเป็นคน 2 คนไม่ได้ยากมากมาย ผมแค่เปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นนิดหน่อย แต่ที่ผมว่าเล่นยากกว่าคือฉากบู๊ของหลิง ในการถ่ายฉากต่อสู้ที่ออกมาดูเท่ห์ เราต้องอาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อให้ได้ภาพออกมาดี ถาม : คุณจะแนะนำให้ดูฉากไหนในมาร์ส ไจ่ไจ๋ : เราทุกคนต่างทำงานกันหนักมากในมาร์ส ผมหวังว่าคุณจะดูมันทุกตอน แต่ถ้าต้องแนะนำ ก็น่าจะเป็นฉากจูบกับคิระซึ่งสวยมาก คุณต้องเห็นเอง ในชีวิตจริง ความสัมพันธ์ระหว่างบาร์บี้กับผมคือพี่สาวกับน้องชาย เรามักจะพูดจาตลกๆแล้วก็แกล้งกัน การต้องมาถ่ายฉากจูบเลยทำให้เขินมาก บาร์บี้มีแฟนแล้ว ก่อนที่จะถ่ายเราจะบอกกันว่าให้ถ่ายเสร็จในเทคเดียว แต่พอเห็นหน้ากัน พวกเราก็จะหลุดหัวเราะออกมา บางครั้งต้องเทคตั้งหลายหนกว่าจะถ่ายได้ฉากเดียว (หัวเราะ) จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมมีแนวโน้มเป็นนักแสดงมากกว่านักร้อง ถาม : คุณทั้งเล่นละครแล้วก็ร้องเพลง คุณจะทำงานทั้ง 2 อย่างนี้ต่อไปรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : นับตั้งแต่ผมเข้าวงการมาจนถึงตอนนี้ ผมออกเทปในไต้หวันไปแล้ว 2 ชุด แล้วก็เล่นละครมาหลายเรื่อง ผมจะเล่นละครแล้วก็หนังถ้ามีบทดีๆ แต่ถ้าถามตัวผม ผมชอบการแสดงมากกว่าร้องเพลง ถาม : ไจ่ไจ๋ ถ้าคุณเจอคนที่ชอบ คุณเป็นคนแบบไหน ตามติดไม่ปล่อยเหมือนเต้าหมิงซื่อ หรือเฝ้าดูแลเอาใจใส่แบบเล่ย ไจ่ไจ๋ : อืม ในชีวิตจริง ผมคิดว่าผมเหมือนเต้าหมิงซื่อมากกว่า (หัวเราะ) ประเภทไล่ตามแบบเต็มสตีม (หัวเราะอย่างเบิกบาน) ถาม : แล้วคุณชอบผู้หญิงแบบไหน ไจ่ไจ๋ : ผมชอบผู้หญิงอ่อนโยน แต่คงจะไม่ดีถ้าเธอไม่ชอบพูด คงจะดีที่สุดถ้าเธอสามารถเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อนผู้ชายของผมได้ นอกเหนือจากนั้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือความกตัญญูต่อพ่อแม่ เป็นเรื่องดีที่จะกตัญญูต่อพ่อแม่ของผม แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ กตัญญูต่อพ่อแม่ของเธอเอง เหตุผลก็คือว่า คนที่กตัญญูต่อพ่อแม่ตัวเองจะต้องไม่ใช่คนเลว ถาม : ตอนเด็กๆคุณเป็นเด็กแบบไหน คุณหน้าหวาน คุณโด่งดังแถวบ้านรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : ไม่ใช่เลย ผมแตกต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง ตอนเด็กๆผมค่อนข้างเป็นตัวป่วน ถาม : คุณเป็นเด็กแอคถีฟรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : แอคถีฟเกินไปด้วยซ้ำ ถาม : แล้วคุณเก่งอะไร ไจ่ไจ๋ : ผมชอบวาดรูปแล้วผมก็ค่อนข้างจะเก่งเรื่องนี้ พี่ชายผมก็ชอบวาดรูป เรามักจะวาดแข่งกัน ผมเกลียดการแพ้เป็นพิเศษ ผมจะแอบดูรูปที่พี่วาดจากหางตา (ถึงตอนนี้ไจ๋แกล้งทำเป็นมองด้วยหางตา) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพี่ชายผมวาดภาพบ้าน ผมก็จะวาดแบบเดียวกัน (ไจ๋ทำท่าวาดภาพ) ถ้าผมเห็นเขาวาดต้นไม้ เพื่อไม่ให้แพ้ผมก็จะวาดต้นไม้ด้วย ผมจะเอาภาพวาดไปให้แม่ดูแล้วถามประมาณว่า “รูปของผมสวยกว่าใช่ไหม” ผมมีความมุ่งมันมากจริงๆ (หัวเราะ) จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อเสนองานที่ต่างประเทศต้องรวมค่าตั๋วไปกลับทุกอาทิตย์ด้วย (หัวเราะ) ถาม : มีแผนจะไปทำงานที่ต่างประเทศในอนาคตรึเปล่า ไจ่ไจ๋ : มีข้อเสนอเข้ามาอยู่เสมอ แต่ผมยังเป็นนักเรียนอยู่แล้วก็จำเป็นต้องเข้าเรียนอาทิตย์ละ 3 วัน เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปอยู่ต่างประเทศนานๆเพื่อถ่ายทำ ผมเลยรับงานในไต้หวันมากกว่าที่อื่น มีข้อเสนอทุกประเภทจากฮ่องกง และจีน สิ่งแรกที่ผมจะถามไปก็คือ พวกเขาจะจ่ายค่าตั๋ว 2 ใบทุกอาทิตย์ เพราะว่าผมต้องกลับไปไต้หวันรึเปล่า (หัวเราะ) ผมล้อเล่นน่ะ ตอนนี้การไปทำงานที่ต่างประเทศค่อนข้างลำบาก ปัจจุบันไม่มีแผนไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นชิ้นเป็นอันนัก ถาม : มีแฟนๆจำนวนมากไปรอรับคุณที่สนามบินตอนมาญี่ปุ่น ช่วยพูดอะไรกับพวกเขาหน่อย ไจ่ไจ๋ : ตอนนั้นผมมีความสุขมาก ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นแฟนๆมารอกันเป็นจำนวนมาก ต้องขอบคุณการสนับสนุนของแฟนๆที่ทำให้ผมมาไกลถึงขนาดนี้ คงจะเป็นเรื่องดีถ้าในอนาคตสมาชิกเอฟโฟร์จะสามารถไปที่อื่นนอกจากโตเกียว ไปเยือนสถานที่อื่นในญี่ปุ่นเพื่อโปรโมท จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนที่ถ่ายรูปก่อนจะสัมภาษณ์ ตากล้องออกคำสั่งแล้วคำสั่งเล่า อาทิ จับตรงนี้ มองตรงนั้น นั่งตรงนี้ ไจ่ไจ๋ก็จะทำอย่างที่บอก แต่เขาจะบอกว่า “ถ่ายไปเยอะๆเลยครับ ให้พอพิมพ์อัลบั้มรูปได้เล่มหนึ่ง” ดูเหมือนว่าเขาจะวิตกที่การถ่ายรูปเสร็จเร็วกว่ากำหนด - รูปที่ไจ๋ทำหน้าตลกๆ และยิ้มแบบซุกซนถ่ายระหว่างถ่ายรูปทำหน้าจริงจัง - แต่นอกเหนือจากการโพสต์ท่าพวกนั้นแล้ว ไจ่ไจ๋แค่จ้องมองกล้องอย่างจริงจังก็แสดงให้เห็นใบหน้าที่สวยงาม และนัยน์ตาพราวของเขาได้ อีกครั้งหนึ่งที่ความคิดผุดขึนมาในใจฉันว่าทั้งที่เป็นชายหนุ่มที่ง่ายๆสบายๆแบบนี้ แต่เขาถูกกำหนดมาเล้วให้เป็นดารา นับตั้งแต่เข้าเริ่มเข้าสู่วงการ ไจ่ไจ๋ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการออกเสียงมาตลอด ระหว่างให้สัมภาษณ์ ไจ่ไจ๋จะหันไปขอคำยืนยันจากสตาฟด้วยคำถาม อาทิ “ผมออกเสียงถูกรึเปล่า” ออกเสียงถูกใช่ไหม (แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่าไจ๋จะออกเสียงผิดอยู่สองสามครั้ง) แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นดาราใหญ่แล้ว แต่ไจ่ไจ๋ก็ยังขี้อายอยู่ ในตอนแรกเขาต้อนรับเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดูประหม่านิดๆ ระหว่างให้สัมภาษณ์เขาพูดคุยอย่างมีความสุขด้วยนัยน์ตาโตที่เคลื่อนไหวไปมา ตอนที่มีการสัมภาษณ์ ไจ่ไจ๋ยังเป็นหวัดนิดหน่อย หลังการสัมภาษณ์ที่โรงแรม เขามีคิวแน่นเอี้ยดทั้งการแถลงข่าว พบปะกับแฟนๆ และออกรายการวิทยุสด แต่ทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็ยังดูขี้อายนิดๆ ตอบคำถามหรือยิ้มแบบซุกซนอยู่ตลอดเวลา แตกต่างจากรอยยิ้มเพื่อการค้าของศิลปินอย่างสิ้นเชิง น่าจะเป็นเพราะธรรมชาติแล้วเขาเป็นคนน่ารัก และสุภาพ ไจ่ไจ๋เป็นคนที่สดชื่น ง่ายๆ แล้วก็หล่อเหลา คงจะเป็นเรื่องน่าสนใจมากที่จะดูกันต่อไปว่าเขาจะเติบโตเป็นนักแสดง และผู้ชายแบบไหน จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:27:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ออกเสียงผิดระหว่างสัมภาษณ์ ไจ่ไจ๋กำลังเล่าเรื่องการเดินทางไปโอกินาวา หลังจากที่เขาพูดว่าพวกเขาเดินทางโดยเรือ ไจ่ไจ๋ก็หันไปถามทีมงานที่นั่งอยู่ด้วยว่าถูกรึเปล่าเพราะว่าเขามีปัญหาในการออกเสียง “อัน” กับ “อัง” ไจ่ไจ๋ทดลองออกเสียงช้าๆก่อน ซึ่งทุกคนก็รับรองว่าถูก แต่ความพยายามของไจ๋สูญเปล่า...เขาพูดผิดเข้าเต็มเปา ไจ่ไจ๋ออกเสียง “ซางชวน” (shang chuan) ผิดเป็น “ซางชวง” (shang chuang ) แล้วซางชวนนั้นคือการขึ้นเรือ ขณะที่ซางชวงคือการขึ้นเตียง ซึ่งหมายถึงไปนอนหรือในทางกลับกันอาจหมายถึงการเมคเลิฟ ไจ่ไจ๋พูดถึงการเดินทางไปโอกินาว่าอย่างสนุกสนาน แต่ทว่าการพูดเรื่องการเดินทางอาจถูกตีความว่าเป็นการเมคเลิฟแทน สตาฟทำได้แค่ยิ้มแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จบแล้วจ้า... จริงๆหนังสือเล่มนี้มี profile ของไจ๋ด้วย...แต่เป็นเรื่องเก่าๆที่เรารู้กันอยู่แล้ว....มีแค่อัพเดทงานขึ้นมานิดหน่อย....เลยขี้เกียจแปล....แปะภาษาปะกิตเอาไว้ให้ละกัน Profile Vic Chow (Zhou Yu Min) Born on June 9, 1981 Height: 180 cm Weight: 66 kg Blood type: O Nickname: Zaizai Personality: polite, gentle and optimistic Hobby: games, jugging, basketball, collecting photos and accessories Best features: thick eyebrows and eyes Favorite clothes: casual and durable Favorite colors: dark colors such as grey and black Favorite food: curry dishes, chicken cutlet Favorite animal: dogs Favorite music channel: Techno music Favorite drink: pomegranate green tea Favorite movie: Jurassic Park Favorite Music instrument: Guitar (but he can't play it.) Most admired artists: Andy Lau and Amei Japanese artist he'd like to costar with: Yutaka Takenouchi Most desirable: Live a simple life Most unforgettable: His grandfather passed away Thing he dislikes: forced to do things he does want to Roles he is best at: playing dump and comedy 2001: He debuted in Meteor Garden while attending a technology college, Poor Prince 2002: Come to My Place, Meteor Garden II 2003: Love Storm 2004: Mars F4 albums 2001: Meteor Rain 2002: F4's Fantasy 4ever Solo albums 2002: Make a Wish 2004: Remember I Love You 2005: Japanese-edition photo album He is also active in hosting variety shows and modeling for ads. จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 16 ก.ย. 48 02:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ง่ะ เห็นทู้ที่แล้ว ตีหนึ่งกว่าๆ มาทู้นี้ ตีสองครึ่ง นอนดึกระวังสุขภาพด้วยนะจ๊ะ ขอบคุณมากๆเลยจ้าน้องป๊อป จากคุณ : หมวยเจริญผล - [ 16 ก.ย. 48 06:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ....หุหุ ขอบคุณมากฮับ พี่ป็อบ โปรเจ็ค แบบนี้ดีมากๆ ไจ๋รักตายเลย ขอบคุณค่ะ...อย่าลืมฝึกปรือทำอาหารด้วยนะคะ...ฮิฮิ...^_^... จากคุณ : Orange_vic - [ 16 ก.ย. 48 07:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ป๊อป.. ตามมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในทู้นี้ด้วยอีกคน ขอบคุณคับ.. จากคุณ : หนูพุก ณ แดนแอนฟิลด์ - [ 16 ก.ย. 48 08:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลงรักน้องไจ๋ในเรื่องมาร์ ม๊ากกก...มาก let's support Zaizai together อีกแล้วครับท่าน.... จากคุณ : pounggati - [ 16 ก.ย. 48 09:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ..ขอบคุณมากคะพี่ป๊อป สำหรับโปรเจคทั้งสอง จากคุณ : nuzzi - [ 16 ก.ย. 48 09:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่าพี่ป๊อป ไจ๋น่ารักจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งร๊าก............ก ขึ้นทุกวันๆ น่าจะเอามาพิมพ์รวมเล่มนะ พี่ป๊อบแปล พี่นาจัดหน้า เด๋วนู๋ปรู๊ฟให้เอง 555 (โปรเจ็กต์ในฝันเยยนะเนี่ย) แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 48 11:44:49 จากคุณ : Joy Yu Min - [ 16 ก.ย. 48 10:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รักน้องป๊อปจังเลยจ๊ะ......อยู่ใกล้จะกระโดดกอดสักที นึกถึงวันเก่าๆที่มีโปรเจคแบบนี้ออกมาให้อ่านเรื่อยๆ ใครเป็นคนสัมภาษณ์น้องไจ๋น๊ะ..... เขาบรรยายลักษณะไจ๋ได้น่ารักจัง พี่ตาก็ชอบน้องไจ๋เพราะความขี้อายนี่แหล่ะ..... ขอบคุณคร๊าบบบบ...กราบ...กราบ..กราบ ปลาจ๋า.....เรื่อง silence ก็ตามมา support น้องไจ๋ได้เหมือนกันจ๊ะ  น้องไจ๋กำลังหล่อสุดขีด   แล้วฝีมือการแสดงก็พัฒนาสุดๆแล้วจ๊ะ let's support Zaizai together จากคุณ : PI-TA - [ 16 ก.ย. 48 11:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สนุกมาก ๆ เลย ขอบคุณมากค่ะ  อันที่แปลไปแล้วอีกกระทู้หนึ่ง ชอบที่ ไจ๋บอกว่า ที่ไต้หวันลึกซึ้งกว่านี้อีก ฟังแล้วโห ปรมาจารย์ มุขเลย จากคุณ : sammykris (SAMMYKRIS) - [ 16 ก.ย. 48 13:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 let's support Zaizai together อันนี้แน่นอนคนเดียวเดิมย่อมเหงา จอย......เอางั้นเลย...นะทำฟรีไม่มีซาร์ท จากคุณ : ขนมถ้วย - [ 16 ก.ย. 48 14:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พี่นา...ช่าย ทำฟรีไม่มีชาร์ท ทำด้วย ตังค์ไม่อยากได้ อยากได้แต่ตัวเจ้าของเรื่องอ่ะ วี้ดวิ้วววววววววววว จากคุณ : Joy Yu Min - [ 16 ก.ย. 48 16:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณจิ้มจุ่มและแฟนไจ๋ทุกคนค่ะ เอาข่าวภาคจีนจากแอ๊ปเปิ้ลมาฝากค่ะ  เป็นข่าวต้าเอสกับไจ๋ค่ะ(แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นข่าวเธอกับน้องสาว ASOSมากกว่า แต่มีไจ๋เกี่ยวข้องด้วย)  อ่านได้แต่ชื่อไจ๋กับต้าเอสเท่านั้นค่ะ ส่วนอื่น ๆ คงต้องรอนักแปลมาแปลให้นะค่ะ คนแปะก็อยากรู้เหมือนกันว่าข่าวเขาว่าไงมั้ง  ถ้ามีคนแปลเมื่อไหร่ก็ตะโกนบอกด้วยนะคะ http://www.appledaily.com.tw/News/index.cfm?Fuseaction=Article&NewsType=twapple&Loc=TP&showdate=20050917&Sec_ID=9&Art_ID=2058572 จากคุณ : ipim (pipm) - [ 17 ก.ย. 48 08:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณพิม.... คำแปลภาษาปะกิตมาแล้วค่า.... มีน้องเค้าเอาไปแปะไว้ที่บ้านไจ๋แล้ว... งั้นยกมาแปะที่นี่ต่อเลยนะ thanks   vicpower.net 9/17 ZZ and Da S walk the streets of East Taipei for jewelry Posted: September 17, 2005 After Da S (right) and her sister Xiao S attended a jeans press conference she immediately went on a date with ZZ. ZZ met with Da S right after returning to Taiwan. Da S and ZZ Vic Chou look for new item for lovers? When Xiao S announced her marriage, Da S was found not wearing the lovers necklace ZZ gave her. At around 5pm yesterday she and ZZ appeared at Taipei Dun Nan Sogo walking around sweetly and going to jewelry stores like Tiffany and Mikimoto. Rumors of a weak relationship has been overthrown. According to the witness, at around 5:10pm yesterday afternoon, there was an uproar at Tiffany in Dun Nan Sogo because the rumored boyfriend-girlfriend ZZ and Da S came out of the store. The 2 wore very casual clothing. Da S wore a white T-shirt, khakis capris, flip flops and carried a LV bag. ZZ wore a T-shirt, jeans, and a black baseball cap. Although they caught the attention of many when they entered, they didn't mind and looked at jewelry. The 2 mainly looked at jewelry for females. When Da S saw something she liked she would turn to ZZ and as for his opinion. As the 2 were strolling, they talked and laughed like there were no people around them. After going to Tiffany they went downstairs to Mikimoto and still they were looking at female jewelry. After choosing and looking at some jewelry they left talking and laughing. A couple days ago ZZ finished the filming for the drama "Silence - Shen Qing Mi Ma" at Qingdao late at night. Once he got off the plane he couldn't wait to have a date with his girlfriend Da S. They didn't avoid arousing suspicion and chose to go to the busiest place in East Taipei, showing that they affirm each other. After ZZ's manager Zhi Xiang Li communicated with ZZ in China yesterday he said, "He filmed in China for a long time, of course he would meet with friends when he returned to Taipei. It's very normal, everyone should think too much." Looking at the way the 2 picked and purchased female jewelry, ZZ probably wanted to give a special gift to Da S, who's birthday is on October 6th. Source: Lian He Bao Translated by Amy of Faithful 4ever - http://f4ever.azn.nu Please give the proper credits when posting this elsewhere. จากคุณ : hyperactivegirl จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 17 ก.ย. 48 12:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาฟังความเหงแม่เจ๊ต้าเอส The Taiwan Apple Daily news today... [9/17] Da S admits ZaiZai, Hsu Mama softens her standpoint Influenced by Xiao S, doesn't exclude getting pregnant before marriage Da S gets influenced by sister Xiao S's happy marriage, publicly admits rumoured boyfriend Zhou Yu Min (ZaiZai). Yesterday, ASOS became the spokesperson for the new line of BRAPPERS 2005 denim jeans. Da S not only doesn't mind Korean actress Park Eun-Hye pursuing ZaiZai, she even said: "I don't exclude the possibility of getting pregnant first before marrying." Hsu Mama, who originally took the opposite standpoint, also softens her attitude and said: "I go along with my daughter's wishes, as long as the person makes her happy then it's fine." Initially, Da S would always wear the necklace that ZaiZai gave her, but lately she has has not worn said necklace in public ocassions. The outside world speculated that the two of them had a change of heart. Ealier, One Weeklyeven reported that when Park Eun-Hye and ZaiZai were filming the idol drama "Silence ~ Shen Qing Mi Ma" in Qingdao recently, the girl would incessantly show her care and ask after the other's well-being, sticking close to ZaiZai, making Da S extremely apprehensive and for a time even wanting to fly to Qingdao to stand guard. Still wearing the sweetheart necklace Regarding this, Da S denied having a change of heart. She discloses that the two of them still maintains contact, and that she doesn't mind Park Eun-Hye pursuing ZaiZai. Her image consultant Xiao P also said that on ordinary days Da S would wear still always the sweetheart necklace. She would only take off the necklace if her outfit doesn't match it when attending public activities, evidenty showing that her status as the "bona fide" girlfriend is safe and stable. Since her relationship with ZaiZai is steady, will Da S have a lightning marriage? Her words full of meaning, she said with a hint, "I don't exclude doing that if I have suitable prospect." Xiao S got pregnant before marrying, happy and content after marriage. Da S magnanimously said: "With my personality, if I find someone I really like, I don't preclude doing the same as my sister." Both of them are still in contact with each other Hsu Mama didn't approve of the "Da Zai romance" initially, and feels that it's better if they would just be friends. But she revealed yesterday that "Da-Zai" would still contact each other through telephone calls often. She loosens up and said: "Whoever Da S likes is up to her. No matter who the person is, as long as he makes my daughter happy and give way to her a little more, then I respect my daughter's decision." The intensity of Zhou Yu Min (left) and Da S's relationship is rising, not decreasing. Hsu Mama's attitude towards the "Da-Zai romance" has converted to being supportive of it. 【2005/09/17 Taiwan Apple Daily】 Translated by grendel of www.vicpower.net จากคุณ : hyperactivegirl จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 17 ก.ย. 48 12:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พี่ป๊อบ...แตร๊งกิ้วมากๆคับ...อ่านแล้วมีความสุข..^ ^* จากคุณ : mifeng - [ 17 ก.ย. 48 14:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณป๊อบค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ  พึ่งเข้ามาอ่านน่ะคะ เฮ้อ..ตกลงว่า "เราคงต้องเป็นแฟนกัน" จริง ๆ เหรอเนี่ยะ ไม่รู้ว่าไปดูแหวนหมั้นรึเปล่านะ(ดูเหมือนต้าเอสเธอจะเคยซื้อแหวนกับนาฬิกาให้หลันเจิ้งหลงเหมือนกันนี่) Xu Ma Ma ก็เริ่มเสียงอ่อนซะแล้ว  และสองคนก็เปิดเผยซะ... โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 48 03:38:17 จากคุณ : ipim (pipm) - [ 18 ก.ย. 48 03:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาอีกแล้วคุณป๊อบ ข่าวไจ๋กับต้าเอสและเหว่ยหลุน  คงเกี่ยวข้องกับการไปช็อบปิ้งร้านเพชรหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใครแปลไปแล้วก็ช่วยบอกด้วยนะคะ อยากรู้อยากเห็นอีกแล้ว ไจ๋ชอบคนแก่ก็ไม่บอก.... http://www.appledaily.com.tw/News/index.cfm?Fuseaction=Article&NewsType=twapple&Loc=TP&showdate=20050918&Sec_ID=9&Art_ID=2061308 (นอนดึก ตื่นเช้า เป็นกิจวัตรของคนแก่หรือเปล่าเนี่ยะ) จากคุณ : ipim (pipm) - [ 18 ก.ย. 48 09:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณพิม.... ข่าวน้องไจ๋แปลไว้ที่บ้านไจ๋แล้วนะคะ...ตามไปอ่านได้..ทั้งเรื่องรักและอุบัติเหตุ (รัก) ...อิอิอิ.....จะแวะเข้าไปคุยที่บ้านหลังนู้นก็ได้นะ..... จากคุณ : จิ้มจุ่ม - [ 19 ก.ย. 48 00:39:17 ]