CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    [บทความ] tribute to X Japan ครบรอบ 8ปี

    อีก 4 วัน..........

    ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 1997 วันที่ข้าพเจ้าเสียใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต วงดนตรีที่เรียกได้ว่าทำให้ข้าพเจ้าเป็นบุคคลแบบนี้ในทุกวันนี้ (ไม่รู้ว่าเป็คนดีหรือร้ายล่ะนะ) ประกาศยุบวงหลังจากออกอัลบั้มมาเพียงหยิบมือ ข้าพเจ้าในตอนนั้น แม้ว่ามิได้ร้องไห้ฟูมฟายดั่งแฟนเพลงของวงคนอื่นๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความทุกข์สาหัสนัก ทุกข์ที่ฝังลึกอยู่ในรากเหง้าของหัวใจ

    วงดนตรีที่ข้าพเจ้ารัก....X Japan

    ข้าพเจ้ารู้ได้ฟังเพลงของ X Japanครั้งแรก ตอนอยู่ประมาณ มัธยมศึกษาตอนต้น ในช่วงเวลานั้น ข้าพเจ้ามีความรู้เรื่องเพลงญี่ปุ่นน้อยมาก จะรู้จักและร้องได้ก็แต่เพียงเพลงประกอบการ์ตูนโดราเอมอนและดราก้อนบอลเท่านั้น จะอย่างมากในช่วงนั้นทีโด่งดังในเมืองไทยก็น่าจะเป็น Dance Idolอย่าง Nanase Aikawa แต่กับเพลง J-Rockแล้ว ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลย

    แต่ฟ้าประทานด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกไปต้องตาโดนใจกับการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ดันมีชื่อไปพ้องกับวง X Japan ของค่ายClampที่ทำการ์ตูนตาหวาน....X (ชื่อไทย X พลังล้างโลก) และด้วยความบ้าในการ์ตูนเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้ข้าพเจ้าไปความหาAnimeเรื่องนี้มาดู ทั้งๆที่มันยังไม่ออก และด้วยความบังเอิญซ้ำสอง บวกกับความเข้าใจผิด ทำให้ซื้อพลาดไปซื้อวีดีโอม้วนหนึ่งเข้า วิดีโอม้วนนี้ มีชื่อว่า X-Image Clip

    ด้วยความคาดหวังว่าวีดีโอม้วนนี้จะต้องเป็นAnimeเรื่อง X อย่างแน่นอน เมื่อกลับถึงบ้านปุ้บ ข้าพเจ้าก็รีบเร่งไปหยิบยกเครื่องเล่นวีดีโอจากห้องชั้นล่าง แบกขึ่นไปดูบนห้องตัวเองทันที ....แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าพบกลับเป็นว่า....วีดีโอที่ข้าพเจ้าได้ซื้อมานั้น มิได้เป็น OVA หรือ Animeแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงวีดีโอฉายภาพงานศิลป์ของการ์ตูนเรื่องนนี้ พอกลับมาอ่านที่ชื่อวิดีโออีกทีจึงร้องอ้อ....“Image Clip” ฝังใจเลยว่า ณ ตอนนั้นจะต้องฝึกภาษาอังกฤษให้ดีกว่านี้ จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าขนมอันน้อยนิดไปกับการซื้อวีดีโอประเภทนี้อีกแล้ว แต่กระนั้น เจ้าวีดีโอเจ้ากรรมม้วนนี้นี่แหล่ะ ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จัก X Japan

    เรื่องของเรื่องก็คือ แม้ว่าวีดีโอม้วนนี้จะเป็นการฉายงานศิลป์ไปเรื่อยๆ แต่มันก็มีเพลงประกอบอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ทำเพลงประกอบให้ ....... Silent Jealousy……Kurenai..........Endless Rain…..X..... คือสี่เพลงที่ผู้กำกับใช้ในวีดีโอม้วนนี้ 4เพลงกับ 4ชั่วโมง ข้าพเจ้านั่งจ้องหน้าโทรทัศน์กว่า4ชั่วโมง ข้าพเจ้าได้แต่นั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ดื่มด่ำกับบทเพลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปิดซ้ำเปิดซากอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุดเสียที จนคุณแม่ท่านเข้ามาตักเตือนว่าพอเสียได้แล้วนั่นแหล่ะ จึงเพิ่งจะรู้ตัวว่า นั่นมันเกือบเที่ยงคืนแล้ว!!!

    2 อาทิตย์กว่าๆ ที่ข้าพเจ้ามิได้ทำอะไรเลย นอกจากทุบกระปุก แล้วเดินไปตามร้านขายเทปเพื่อซื้ออัลบั้มเก่าๆของ X Japan ทีละอัลบั้ม ค่อยๆรู้จักบทเพลงอย่าง Week End, Rose of Pain, Say Anything ฯลฯ ค่อยตามหาทีละม้วนโดยไม่รู้เลยว่า มันมีกี่อัลบั้มกันแน่ ก็ซื้อดะมันไปเท่านั้น (ความบ้าตอนนั้นมันขนาดนั้นเลยนะ) จะเทปลิขสิทธิ์ เทปผี ข้าพเจ้าซื้อหมด ได้รู้จักกับร้านอย่าง Kanemuchi, Voice, Ichimaru และร้านขายเทปก้อปแถวบ้านที่ปิดไปในเวลาไม่นานต่อมา

    ชีวิตในตอนนั้น (10ปีแล้วสินะ) ฟังอยู่แต่ X Japanเป็นหลัก เพลงไทยนี่ไม่เข้าหูเลย จากที่เคยฟังพวก Grammy หรือ RSแบบพอได้ ดันกลายเป็นฟังแล้วตะหงิดๆพิลึก (ยกเว้น The Olarn Project กับวงHard Rockแนวๆนั้นอ่ะนะครับ) แถมยังออกขำๆซะอีกตอนที่ Y not 7 (สมัยเหน่งยังใส่กางเกง5ส่วน) ไปออกรายการโชว์แสดงดนตรีที่ญี่ปุ่น แล้วได้จับมือกับ Yoshiki (ราศีมันคนละชั้นจริงๆนะนี่ ขอโทษแฟนพี่เหน่งด้วยนะ) มิหนำซ้ำยังตั้งกลุ่มบ้า X Japan กลุ่มเล็กๆขึ้นในโรงเรียน ก็มีกันอยู่ไม่กี่คนหรอก ที่ฟังๆก็เพราะไปยัดเยียดให้พวกมันๆฟังทั้งนั้นหล่ะ นอกจากเรื่องเหล่านี้แล้ว ก็เพราะ Xjapanนี่เองที่ทำให้ข้าพเจ้าเริ่มเปิดโลกทัศน์ในการฟังเพลงญี่ปุ่น Luna Sea, L’arc en Ciel, Dir en Grey, Pennicillin และวงอื่นๆในยุคนั้นอีกมากมาย

    อีกไม่กี่เดือนต่อมาอัลบั้มใหม่ของ X Japan ก็ออกวางจำหน่าย “Dahlia” นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีหลังจากไม่ได้ออกอัลบั้มเต็มมาหลายปีว่าวงยังไม่เลิกทำเพลงและอาจได้เห็นอัลบั้มต่อไป (อัลบั้มเต็มก่อนหน้านั้นคือ Jealousyในปี 1991 มินิอัลบั้มยิบๆย่อยๆในระหว่างนั้นข้าพเจ้าไม่นับนะ) ถึง Dahliaจะเต็มไปด้วยเพลงที่ข้าพเจ้ามีSingleแล้วหลายเพลงก็เถอะ กระนั้นอัลบั้มนี้ก็ทำให้หายคิดถึงได้มากทีเดียว  แม้ว่าเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี่เป็นเพลงช้ากว่าครึ่งทั้ง Longing Melody, Crucify My Love, Tear, Forever Love แต่เพลงเร็วในอัลบั้มก็แสดงให้เห็นพัฒนาการ และการกล้าแหวกแนวของตัวเองของวง นอกจากนั้น ยังใช้กลิ่นของงานโซโลของสมาชิกแต่ละคนเข้ามารวมกันได้อย่างแปลกหู .....ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่เห็นพัฒนาการอันนี้ โดยไม่ได้รู้เลยว่า มันเป็นเหมือนสัญญาณถึงอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

    22 กันยายน 1997 ....X Japan ราชาวงร๊อคแห่งญี่ปุ่นประกาศยุบวง เหมือนมีอะไรทุบเข้าที่หน้าอก ข้าพเจ้าไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นจริงจริงๆหรือ ด้วยเหตุผลคำว่า แนวทางการทำเพลงที่แตกต่างของ Toshi นักร้องนำ และคำกล่าวของ Yoshiki หัวหน้าวงที่ว่า เมื่อไม่มี Toshi ก็ไม่มี X Japan จะไม่มีการหานักร้องนำคนอื่นมาแทน ข้าพเจ้ารีบโทรหาเพื่อนเพื่อคอนเฟิร์มข่าวร้ายที่เพิ่งได้รับมา ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็อยู่ในอาการเดียวกันกับข้าพเจ้า

    X japan Last Live ปลายปี1997 คอนเสิร์ตสุดท้ายที่นักดนตรีทั้ง5ขึ้นเล่นด้วยกัน ข้าพเจ้าอยากจะไปดูใจจะขาด แต่จะทำอย่างไรได้ ก็ได้แต่รอให้วีดีโอบันทึกการแสดงออกวางจำหน่าย หลายเดือนนั้นหยิบหนังสือประวัติ X Japanที่สั่งซื้อจากนิตยสารฉบับหนึ่งซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยๆรอบ อ่านแต่ละที น้ำตาก็จะไหล จะด้วยความที่คนเขียนเขียนได้ซึ้งมากๆก็หนึ่งล่ะ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือทุกครั้งที่อ่านจะเปิดเพลงของ X Japan คลอไปด้วย กี่ครั้งก็ยังเศร้าเหมือนเดิม พฤษภาคม 1998 ข่าวร้ายข่าวที่สองก็ตามมา Hide (Hideto Matsomoto) อดีตมือกีต้าร์ของวง ผู้ที่มีงานเดี่ยวมากที่สุด และกำลังจะออกอัลบั้มใหม่ ถึงแก่อสัญกรรม จะด้วยสาเหตุใด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรืออัตนิวิบาตกรรมก็ตาม อารมณ์ของข้าพเจ้ายิ่งดิ่งลงเหวเข้าไปใหญ่ ท่านผู้อ่านหลายคนคงจะคิดว่า ไอ้นี่มันจะบ้าอะไรได้ขนาดนี้ แต่ข้าพเจ้าก็บ้าเช่นนั้นจริงๆ (พอๆกับต่อมาตอนที่ โจ้ วงพอสเสียชีวิต) อีกสาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะว่า หลังจากยุบวงแล้ว มีเพียง Hide เท่านั้นที่ยังออกผลงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนกับสมาชิกคนอื่นที่เงียบๆกันไป

    เป็ฯเวลาหลายปีทีเดียว ที่ข้าพเจ้าพยายามหางานเพลงของวงอื่นมาแทนที่ X Japan แต่ก็ไม่พบเสียที วงที่เป็นตัวตายตัวแทนอย่าง Luna Sea นั้นอีกไม่กี่ปีถัดมาก็ยุบตามไปอีก (ยังดีที่ไม่มีใครตาย) อดีตสมาชิกของ X Japanแต่ละคนก็ไปตามทางของตนเอง ซึ่งก็หาฟังยากมากในเมืองไทย Taiji ที่ออกไปเมื่อนานมาแล้ว ก็ไม่ได้ฟังผลงานอีกเลย จะได้ยินก็เพียงข่าวคราวบางหูเท่านั้น Toshi ก็เริ่มทำเพลงออกแนวPop ที่ฟังง่ายขึ้น และถึงแม้จะใช้เสียงร้องโทนเดียวกับเมื่อตอนอยู่ X Japan แต่ฟังยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี Pataเองก็ออกงานโซโลอัลบั้มแนวกีต้าร์โซโล่ ที่อเมริกันจ๋าทีเดียว ก็พอกล้อมแกล้มไปได้ ส่วน Heathนั้นก็ไปช่วยเล่นวงนู้นบ้างวงนี้บ้าง แล้วก็มีงานเพลงร่วมกับ Pata และสมาชิกอีกสองคน (คนหนึ่งจากวงเก่าของ Hide) ในนาม Dope Headz ซึ่งก็กระเดียดไปทาง Progressive ตามแนวถนัดของ Heath แต่คนที่ข้าพเจ้าคิดถึงที่สุดก็คือเจ้าของเสียงรัวกลองปีศาจร้าย และเสียงเปียโนขั้นเทพ หัวหน้าวง Yoshiki….

    ในส่วนของYoshiki นั้นมีงานเล็กๆน้อยๆออกมาเรื่อย แต่ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าใดนัก จะรวมงานเพลง Classicที่ชอบบ้าง รวมงานเปียโนบ้าง ล่าสุดก็ออก Eternal Melody II มาเมื่อหน้าร้อนที่แล้ว ที่นับว่าเป็นผลงานชิ้นเอกเหมือนกัน แต่กระนั้น ก็มีโปรเจคหนึ่งของ Yoshikiในนาม ของ Violet UK ที่ประกาศว่าจะออกตั้งแต่ปี2002 แต่ก็ติดโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาจนปีนี้ ที่หวังว่าจะออกจริงๆ

    22 กันยายน 2005 Violet UK Debut Album อัลบั้มเต็มชุดแรกของYoshikiในนาม Violet UK หลังจากที่ปล่อยเพลงรั่วออกมาหลายเพลงก่อนหน้านี้ งานเพลงที่ว่ากันว่ามาจากการผสมผสานดนตรีแนวใหม่ของ เสียงกลอง,เปียโน สไตล์ Yoshiki วงเครื่องสาย และเสียงร้องของผู้หญิงอันนุ่มนวล งานเพลงที่แฟน X Japanรอคอยมาเนิ่นนาน งานเพลงที่เป็นการประกาศครบรอบ 8ปี แห่งการยุบวงของ X Japan

    อีก 4 วัน.....เท่านั้น

    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rynekel&date=18-09-2005&group=1&blog=1

    แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 48 23:09:05

    แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 48 21:44:09

     
     

    จากคุณ : rynekel - [ 18 ก.ย. 48 21:43:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป