ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากการเซ็นสัญญามูลค่ามหาศาลแล้ว เจ๊ประเดิมงานชิ้นแรกหลังสัญญา ด้วยหนังสือปกเหล็กเล่มฉาวที่ชื่อว่า SEX ภาพต่างๆจากอัลบั้มนี้จะถูกถ่ายจากภาพในจินตนาการของเธอโดยมีช่างภาพชื่อดังสุดซี้ สตีเว่น ไมเซล เป็นผู้ถ่ายภาพ และมีผู้กำกับศิลป์ชื่อดัง เฟเบียน บารอง เป็นผู้กำกับศิลป์ ให้ โดยเขายังต้องแบกกล้องวีดีโอเพื่อถ่ายทำเบื้องหลังการถ่ายภาพของหนังสือ SEX เพื่อเป็นวีดีโอตัวต่อไปคือ Erotica อีกด้วย การตระเวนถ่ายภาพสยิวตามที่ต่างๆนั้นทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ๊ โดยเจ๊เลือกสวมบทบาทของ “ดิต้า ปาร์โล”เป็นตัวละครที่เจ๊คลั่งไคล้มากจากหนังสือฝรั่งเศสที่เธอได้ไปอ่านมา สถานที่การถ่ายทำก็มีอยู่หลายสถานที่ด้วยกันเช่น เซ็กคลับ ชื่อ Lault, Gaiety (โรงละครสำหรับผู้ชาย) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมหานคร นิวยอร์ค และอีกหลายที่ด้วยกันเช่นบ้านในไมอามี่ของเจ๊เอง ในการถ่ายภาพนั้นในแต่ละตอนก็จะมีเหล่าศิลปินคนดังมาร่วมวีรกรรมให้กับหนังสือเล่มนี้อีกอย่าง นาโอมิ แคมพ์เบลล์ วินิลลา ไอซ์ (เธอบอกว่าเขาทำให้นึกถึงเอลวิส) อิซาเบลล่า รอสเซลลินี่ นางแบบชื่อดัง โทนี่ วอร์ด, อินกริดเพื่อนซี้เธอ, บิ๊ค เด็ดดี้  และอื่นอีกเยอะแยะร่วมถ่ายภาพตามจินตการของเจ๊ในที่ต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นภาพสุดสยิวและก๋ากั๋นเป็นอย่างมาก ด้วยกระแสความแรงจาก SEX ราคาเล่มละ 49.95 เหรียญ (หนังสือปกเหล็ก 128หน้า,Cd remix ของ Erotica Sexbook versionอยู่ในแพคเกทด้วย) เล่มนี้ทำให้หนังสือขายได้ในวันแรก 1แสน5หมื่น ภายในวันเดียวของอเมริกา, อังกฤษขายได้มากกว่า 1 แสนเล่มใน 2 วันและขายหมดแบบพริบตาในออสเตเรีย รวมแล้วขายได้1.5 ล้านเล่มทั่วโลก ถึงหนังสือ Sex จะขายดีและสร้างกำไรให้มหาศาลกับวอร์เนอร์แค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่สามารถจะห้ามคนทั่วโลกที่จะวิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิงที่ชื่อ มาดอนน่า ได้เลย คนทั้งโลกเกิดอาการ “ชอค” ซึ่งจากภาพสยิวดังกล่าวทำให้ทุกคนต่างมองว่า มาดอนน่านั้นสติแตกไปแล้ว มาดอนน่าไร้ยางอาย เป็นผู้หญิงชั้นต่ำ เลวทรามค่ำช้า ซึ่งหาใครเหมือนไม่ได้แล้ว ทำให้นักการเมือง หรือผู้นำศาสนาหลายคนออกมาประณามเธอ(อีกแล้ว) กระแสนี้มันยังทำให้แฟนเพลงเธอที่รักเธอมาแสนนาน ถึงกับแตกแยกเป็น 2 ฝั่งเลยทีเดียวคือฝ่ายแรกที่รักไม่ได้ถึงการกระทำอันสะท้านโลกัน และบอกลาและเผาซีดีเธอทิ้ง ส่วนฝ่ายที่ 2 ก็คือรับได้และเฉยๆกับสิ่งที่เจ๊ทำ ในอเมริกาตอนนี้กระแสที่ได้รับความนิมก็คือ การเกลียดมาดอนน่า เป็นเรื่องเก๋ไก๋ ทำให้มีหนังสือโจมตีเจ๊ออกมาด้วยกันเช่น I hate Madonna เป็นต้น แต่ถึงจะเป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างไรใครว่าเจ๊จะแคร์เล่า................... และกับความพยายามที่น่าจะได้โล่ห์เสียกับการที่เจ๊รับแสดงหนังเรท R (ต้องเปลี่ยนหลายฉากถึงจะได้เรทนี้) เรื่อง Body of evidence เรื่องลึกลับที่ว่าด้วยการฆาตกรรมปริศนาของมหาเศรษฐีใหญ่ ซึ่งผู้ต้องหาตกเป็นภรรยาสุดสวยผู้ชอบความแฟนตาซีทางเพศ (จะใครล่ะก็เจ๊นั่นแหละ) จากนั้นก็มีทนายรูปหล่อ (แหวะ!) เป็นคนคอยแก้ต่างให้เธอ จนในที่สุดคุณทนายก็รับรู้คำว่า Body of evidence นี่เป็นยังไง กับความพยายามเหลือเกินที่จะร้อนแรงดุจดั่งแม่ ชาร้อน สโตน ในเรื่องดัง Basic Instinct การแสดงของเธอยังคงโดนรุมจ้วงจิ้มโดยวิจารณ์จากทุกสถาบันอย่างไม่ไว้หน้าเจ๊ใหญ่แต่อย่างใด ถึงแฟนๆ(เรา 1 คน) จะลงความเห็นว่ามันก็ไม่เลวร้ายมากก็ตาม แต่ยังไงเรื่องนี้ชื่อแม่ดอนน่าในการเป็นนักแสดงแล้วเธอก็คือ เจ้าแม่หนังล่ม เท่านั้นเอง จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 15:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 9. Erotica (Let's talk about SEX) Erotica Fever Bye Bye Baby Deeper And Deeper Where Life Begins Bad Girl Waiting Thief Of Hearts Words Rain Why's It So Hard In This Life Did You Do It? Secret Garden Note: Did You Do It? is excluded on the "Clean" version. Single: Erotica Deeper and Deeper Bad girl Fever Rain Bye Bye Baby Chart Stuff: USA Peak: #2 USA Sales: 2 Million UK Peak: #2 Worldwide Sales: 5 Million ผลจากการให้ทำให้คน ชอค ไปทั่วโลกจนสมใจอยาก ซึ่งตัวเจ๊เองนั้นก็คงชอบใจอยู่ที่เธอดังคับโลกขนาดนี้ ระหว่างนี้เองเธอปล่อย Single แรกจากอัลบั้ม Erotica ออกมาเป็นลำดับแรกจากอัลบั้มสยิวชุดนี้ ผลจากการอึ้งกิมกี่ของคนในอเมริกา ทำให้ทางด้าน Airplay ของเพลงนี้นั้นเปิดตัวได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่อันดับ 3 และขึ้นไปถึงอันดับ 2 แต่ดันค้างเติ่งแค่นั้น พอนำยอดรวมการขายมารวมกันด้วยก็ได้แค่เพียงอันดับ 3 เท่านั้นใน Pop Chart และอัน 3 ทางฝั่งอังกฤษ ด้วยตัวเพลงที่หวังจะให้เซ็กซี่ดั่ง Justify love ทั้งทำนองและจังหวะ วีดีโอที่นำภาพจากการถ่ายทำหนังสือเซ็กซ์ ก็ถูกนำเป็นวีดีโอของเพลงนี้ และเหมือนเดิมด้วยเนื้อหาวีดีโอที่วาปหวิวจนเกินไป Mtv จึงอนุญาตให้แพร่ภาพในเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้ว จากนั้น Deeper and deeper เพลงเต้นรำความหมายรักลึกซึ้งเกี่ยวกับการตกหลุมรัก โดยเพลงนี้ เจ๊คงอยากให้มีความดังทะลุโลกเหมือน Vogue ละมั้งท้ายเพลงของ Deeper จรึงมีท่อนของ Vogue ไปแจมอย่างกรุบกริบพอสวยงาม แต่กลับไม่เป็นแบบที่คาดคิดไว้เพราะมันไปได้แค่อันดับ 7 ในอเมริกาและอันดับ 6 ในอังกฤษ โดยตัววีดีโอเจ๊ลงทุนใส่วิกนิโกรเลยทีเดียว วีดีโอเรื่องนี้เรายังดูไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะดูเหมือนเจ๊จะใส่สัญลักษณ์ไว้ที่ลูกโป่ง น่าจะพูดเกี่ยวกับการมีชื่อเสียง แต่งงตรงคนแก่ๆนี่เป็นผัวเก่าหรือพ่อ ใครรู้ช่วยบอกทีนะงงมากค่ะ แล้วการตัดลูกโป่งหมายความว่าอะไร? (บอกนิดนึงว่าดาราผู้ชายที่ถอดเสื้อในฉากกินกล้วนคนนั้นได้เสียไปนานแล้วนะจ๊ะ) วีดีโอนี้ตอนผมสั้นเจ๊หัวเหมือนลูกมะพร้าวมาก จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 15:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้นักวิจารณ์เฆี่ยนตีเจ๊อย่างทารุนและไม่มีทีท่าจะจะหยุดง่าย จนเจ๊เป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวแล้ว ประจวบกับซิงเกิ้ลลำดับ 3 จากอัลบั้มก็ถูกปล่อยออกมาคือ Bad girl โดยมีดาราอย่าง Christoper Walken ร่วมนำแสดงเป็น Guardian Angle ให้เจ๊ในวีดีโอ ด้วยเนื้อหาที่หนักอึ้งและหดหู่ตามสไตย์ของ  David Fincher ผู้กำกับ เจ๊เล่นเป็นสาวนิวยอร์ค ผู้ทำงานเก่งแต่ไม่มีความสุขในชีวิต รักการมีความสัมพันธ์แบบ One night stand โดยมี Guardian Angle เฝ้าดูพฤติกรรมที่แสนเศร้าของเธอ ความโชคร้ายเกิดขึ้นเมื่อ คู่นอนของเธอดันเป็นพวกโรคจิต เจ๊ถึงถูกรัดคอตายสยอง (ท่าก่อนตายตอนล้มบนเตียงสวยมากคาดว่ามีการเก๊กหน้าสวยของเจ๊ไว้แล้วตามฟอร์ม) ที่อันดับเพลงก็หดหู่ไม่ต่างจากวีดีโอ ที่อเมริกา 36 และยังดีที่อันดับ 10 ของอังกฤษ เพลง Fever เพลงอมตะ ของเพ็กกี้ย์ ลี ที่เจ๊เอาทำใหม่ได้เต้นกระเจิง ได้รับการตัดทุกที่ยกเว้น อเมริกาและแคนาดา ไปได้ที่อันดับ 6 ของอังกฤษและอันดับ 7 ในญี่ปุ่น และโหดร้ายกว่าอันดับ 51 ในออสเตเรีย สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเพลงนี้ก็คือมันเป็นอันดับ 1 ใน Dance Chart ของอเมริกาเพียงเท่านั้น โดยตัววีดีโอก็ย่ำแย่พอกัน ถึงจะมีการนำเอาศิลปะของเอเซีย ไปให้เถ่ายทอด เรายังคงคิดว่าเป็นวีดีโอที่แย่เพลงหนึ่งของเจ๊เลยทีเดียว เจ๊ย้อมผมดำสั้นติดหัวและดูสวยสง่าแปลกตาไปในวีดีโอ Rain ซิงเกิ้ลที่ 5 จากอัลบั้มนี้ เจ๊วาดลวดลายได้สวยงามและตรึงผู้ชมเหมือนเดิม แต่ความประณีตละเอียดจากวีดีโอตัวนี้ รวมไปถึงเนื้อเพลงรักและความหมายดี ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ชว่ย Rain ให้เจ๊แต่อย่างใดเพราะมันไปได้แค่ 14 ในอเมริกาและ 7 ในอังกฤษ เรียกได้ว่าตอนนี้นั้นชีวิตเจ๊คงมีแต่เรื่องร้ายๆ ราวกับฝนดั่งชื่อเพลงไม่ปาน นักวิจารณ์บางคนออกมาชมเพลงนี้ว่า เป็นเพลงที่สมควรจะได้รับการต้อนรับมากกว่านี้ Bye bye baby ชื่อเพลงที่เหมาะกับการสั่งลาจากอัลบั้มนี้ ถูกตัดที่ญี่ปุ่นกับออสเตเลีย กอดคอกันแหววไปที่อันดับ 15 ทั้งคู่ แต่เพลงนี้ สำหรับเพลงนี้คงดังไม่พอให้ใครพูดถึงเลยมั้ง จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 15:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงอัลบั้มจะขายไม่ดีเท่าผลงานเดิมของเธอ เล่นหนังก็ไม่รุ่งทั้งเงินทั้งกล่อง โดนนักวิจารณ์ทุกสำนักรุมกระทืบให้ลงดิน แต่สิ่งที่เป็นแสงสว่างไสวส่องอยู่ในชีวิตช่วงนี้ของเจ๊ก็คือคอนเสริตนั่นเอง โดย Bye bye baby ถูกไปเปิดตัวก่อนที่งาน Mtv คนก็ดูจะสนใจกับโชว์ครั้งนี้มากและคงจะดีกว่านี้ถ้ายัยน้องสาวราชา คิง ออฟ ป็อบ ไม่ออกมาร้องและเต้นแบบสุดเกิดในเพลง If ของเธอ ทำให้เจ๊นั้นในงานนี้ไม่เกิดเท่าที่ควรจะเป็น เพราะตอนเจเนตแสดงคนดูให้ความสนใจมากกว่าเจ๊มาก การวางแผนทัวร์เริ่มมีขึ้นโดยไม่มีออสเตเรียแต่อย่างใด แต่ด้วยความเพียรพยายามในตัวของแฟนๆจำนวนมหาศาลก็รวบรวมชื่อจำนวนคนมาให้ทางสังกัดและตัวเจ๊พิจารณานั้น ตารางทัวร์ก็บรรจุประเทศจิงโจ้อีกประเทศหนึ่งที่เจ๊จะไปแสดง โดยมีน้องชายคนเดิมเป็นผู้ควบคุมการผลิตและคิดแก่นของโชว์ครั้งนี้ให้เปรียบเสมือนละครสัตว์โดยใช้ชื่อว่า Girle Show (เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง) และเมื่อเจ๊เริ่มออกตระเวนแสดงนั้น อย่างที่รู้ดี นักวิจารณ์เตรียมถือมีดยักษ์เพื่อจิ้มทะลวงซ้ำแผลที่เหวอะหวะของเจ๊อยู่แล้ว แต่ผิดคาดทันใดที่เจ๊แสดงจบกลับกลายเป็นความงงและคาดไม่ถึงกับผลงานครั้งนี้ นักวิจารณ์หน้าแตกสนิทและเปลี่ยนจากมีดเป็นปากกาเพื่อมาเขียนถึงความสนุกสนานและมหัศจรรย์ ของการแสดงนี้ มันยอดเยี่ยมถึงกับสื่ออังกฤษเขียนไว้ว่านี่คือ “The greatest show on earth!” เลยทีเดียว อย่างแน่นอนตั๋วลูกใบขายหมดในพริบตาไม่เสียชื่อยี่ห้อ มาดอนน่า และเมื่อโชว์เดินทางไปถึงออสเตเลีย ที่นี่คลั่ง มาดอนน่า ไปหมดไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์นิตสาร รายการโชว์ทางโทรทัศน์ รวมถึงสถานีวิทยุและคนทั่วไปพูดกันถึงแต่เธอ แม้แต่ ป้าไมค์ ที่จะแสดงคอนเสริตในเวลาไล่เลี่ยกันได้ยกเลิกกลางคัน ทั้งๆที่ตารางระบุไว้แล้ว (มีข่าวลือบอกว่าเจ๊ไปแย่งผู้ชมของป้าไมค์ไปหมด) ด้วยตั๋วที่ขายดีจนเหลือเชื่อทำให้บัตร Golden Circle แย่งชิงกันอยู่ที่ 600 เหรียญ เปรี้ยวไหมล่ะ ถึงคนจะพยายามทำให้เจ๊ตกต่ำขนาดไหนก็ตาม เธอก็ยังเป็นคนที่สื่อล้วนให้ความสนใจอย่างมากอยู่เสมอ เธอยังคงขึ้นปกนิตสารแฟชั่นดังๆ อย่าง Vogue, Vanity fair, Glamour,Entertainmainweekly และอย่างน้อยอีกก็คือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐบ้านเรา ขณะกระแสที่มาในง่ลบมากเกี่ยวกับตัวเจ๊แบบนี้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ลืมฟังถึงตัวเพลงที่แท้จริงของ Erotica ไปหมด ถ้าจะพิจารณาดีๆแล้ว นี่นับได้ว่าเป็นงานชิ้นดีชิ้นหนึ่งของเจ๊เลยทีเดียวนอกจากเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลแล้ว เนื้อเพลงๆอื่นในอัลบั้มนี้ เธอมีความณีตและเปรียบเปรยมากขึ้นอย่างร้ายกาจ จังหวะเพลงแบบอัลบั้มนี้ ก็คงนำกระแสอยู่มากในช่วงนั้น ถ้าคุณคิดว่าเนื้อเพลง The boy is mind ของหนูแบรนดี้และโมนิก้า ที่โด่งดังมากจากเนื้อร้องที่ก๋ากั่นในการด่าพวกผู้หญิงที่ชอบแย่งความรักของชาวบ้าน หนู 2 คนร้องไว้ว่า "You need to give it up Had about enough It's not hard to see The boy is mine, I'm sorry that you Seem to be confused He belongs to me The boy is mine" แต่หนูเอ๋ย...อยากให้หนูลองฟังคำเจ๊ก่อนเถอะว่ามันเผ็ดร้อนกว่าแคไหน รับรองว่าพวกที่คิดจะแย่งผัวชาวบ้านได้ฟังล่ะก็วิ่งหนีเผ่นแน่บเป็นไฟแน่ถ้าไม่แรงพอกัน ด้วยท่อนที่เก๋กว่าว่า "Bitch! You'll do it, you'll take it You'll screw it, you'll fake it Undo it, you'll break it,You're over, you can't take it You can't take it, not what's mine, I could break you, 'cause what you've done is a crime Bitch! He's mine" เพลงนี้เจ๊แต่งให้ โรบิน ไรท์ ว่าที่ภรรยาคนใหม่ของ ฌอน อดีตสามีเก่าที่เธอรักนักหนา เนื้อเพลงถึงออกมามั่นและเปรี้ยวอย่างนี้แหละ (ข่าวว่าณอน กับเจ๊ยังคุยกันอยู่แต่เจอยัยโรบินด่ามาตามสาย) มีเพลงหลายเพลงจากอัลบั้มที่เป็นเพลงดีเช่นเพลงช้าจังหวะหดหู่เศร้าสร้อย In this life พรรณณาถึง คีทแฮริ่ง ศิลปินเพื่อนสนิทที่จากไปตั้งแต่ปี 1990 แล้ว ซึ่งในคอนเสริตเจ๊ร้องได้ถ่ายทอดออกมามากๆ เพลงอย่าง Where all begin จังหวะเก๋ไก๋ ชิวๆ เซ็กซี่ เพลงที่มีเนื้อร้องพูดถึงเรื่องเพศได้อย่างสละสลวยในการใช้คำเปรียบเปรยโดยไม่ดูหยาบคายและ Why it so hard ก็เป็นเพลงพูดถึงความรักผองมนุษย์ด้วยกันได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นตามความเห็นข้าพเจ้าผลงาน Erotica ชิ้นนี้ถึงถือว่า Under-rate ที่สุดต่อสื่อมวลชลทั้งมวล... แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 48 16:05:10 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 48 16:05:07 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 48 16:02:53 จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 15:46:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งานนี้เป็นงานที่เจ๊ทำร่วมกับ เช็พ เพ็ททิโบน และ อังเดร เบ็ทท์ส อัลบั้มนี้คอนเซ็ปรวมของอัลบั้ม สามารถ มาเรียงเนื้อเรื่องติดกันได้ทั้งอัลบั้ม และความชัดเจนมากในเนื้อหา ทุกเพลงพูดถึง Sex ในทุกทางและวิถีในแบบที่จะเป็นไปได้ เช่น การหมกมุ่นในกามรมณ์ (Erotica) โรคเอดส์ (In this life) ความรักและสิทธิของเพื่อนร่วมโลก (Why it so hard) รักแบบ One night Stand (Bad girl) รักแบบไม่ลืมหูลืมตา ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก (Fever,Deeper) นับว่าเจ๊น่าจะได้รับคำชมในจุดนี้บ้าง ในแง่ของเพลงที่เจ๊แต่งเพลงได้หลายแง่คิดมากขึ้น แต่ใครจะมองถึงจุดนี้ล่ะ อัลบั้มก็เป็นเพียงอัลบั้มแย่ๆของผู้หญิงที่ชื่อ มาดอนน่า เท่านั้นแหละ นอกนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกัน มีเพลงอีกหลายเพลงด้วยกันที่ถูกแต่งจากอัลบั้มนี้และไม่ได้รวมอยู่เช่น Goodbye to Ininnocence, You Thrill Me, Throb (ไม่รู้ใช่เพลงเดียวกับของเจเนทรึเปล่า), Freak No Entry, Love Won't Wait (ภายหลังกลายเป็นเพลงของนักร้องดังแห่งวง Take that แกรี่ บาโร่ว์ ขึ้นไปได้ที่ 1 อังกฤษ ซึ่งเวอร์ชั่นเจ๊ที่ทำไว้เสียงเจ๊จะเย็นๆเพราะมาก) Love Hurts, Shame,You Are the One เพลงที่ไม่ได้เขียนกำกับก็คือไม่รู้จักนะจ๊ะ และอีกข่าวนึงของช่วงอัลบั้มนี้คือยัย Donna Delory นักร้องแบ๊คอัฟ คนโปรดได้ออกเพลง Just another dream(เพลงเหลือจากอัลบั้ม True blue) ออกมา ล้มเหลวทั้งยอดขายและนักวิจารณ์ ทั้งๆที่เจ๊ใหญ่ได้ช่วยดันแล้วก็ตาม ก็แม่เล่นออกมาไม่ได้ดูช่วงเล้ย ลำพังตัวเจ๊เองยังล้มลุกคลุกคลานเกือบตาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ๊ก็คงยังทำตัวแรดเป็นดาราใหญ่ต่อไป... จุดเด่น : การพัฒนาทางด้านดนตรีและการทำซาวจังหวะล้ำๆ และการเขียนเพลงที่มีการอุปอุปมัยได้สวยมากขึ้นมาก ดนตรีล้ำสมัยแถมมีความหมายดี มีแหลกหลายจังหวะ หลายเครื่องดนตรีโปรแกรมมิ่ง อยู่ในอัลบั้ม เสียงร้องของ มาดอนน่า ซึ่งไปได้ดีเยี่ยมกับอัลบั้มนี้ จุดด้อย : ภาพลักษณ์ของ มาดอนน่า จะบดบังผลงานเธออยู่เสมอ อีกทั้งอารมณ์ หรือ โทนเพลงทั้งอัลบั้มคลุมอยู่ในโทนมุมเดียวกัน ทำให้ไม่ค่อยมีความหลากหลายในแง่ของอารมณ์ ปล. 1 ใครมีเสริมเติมแต่ง-พูดคุย เชิญเลยจ่ะ ปล. 2 ถ้ามีจุดไหนผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ ป.ล. 3 อัลบั้มหน้า Bedtime แล้ว จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 15:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านจบแล้ว...ส่วนตัวชอบอัลบั้มนี้มากนะ... จากคุณ : arbubagus - [ 28 ก.ย. 48 16:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนั้นพอวีดีโอ ออกขายซื้อมา เปิดดูบ่อยมาก อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งได้ ที่บ้านทุกคนจะอึ้งกับโชว์ของเจีมาก ขนาดน้องสาวตอนนั้นยังเด็กๆ เอาปากกาเขียนเล่นที่มือ ว่ามาดอนน่าโป๊มากเลย 555 แอบไปเห็นตอนมันหลับ จากคุณ : arbubagus - [ 28 ก.ย. 48 16:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มี this used to be my playground  version movie ครับ ใครต้องการหลังไมค์มาละกันครับ จากคุณ : lime lite - [ 28 ก.ย. 48 16:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 erotica เปิดตัวที่อันดับ 2 airplay นะครับ  ไปติด end of the road ของ boyz II men   แบบเปิดตัวสูงสุดในประวัติการตอนนั้นเลย แล้วก็ค้างอันดับสอง อีกสัปดาห์ ก่อนตกรูดๆ หลังจากกระแสฮือฮา เริ่มกลายเป็นประแสด่า ถ้าตอนนั้น ตัด maxi มันออกมา พร้อมกันเลย อาจได้อันดับหนึ่งก็ได้ (แต่ end of the road ก็ airplay สูงมาก ๆ) ผู้ชายใน deeper and deeper เสียไปแล้วเหรอครับ เป็นอะไรเหรอครับ  คือคนเดียวกับที่ไปปรากฎในหนังสือ sex ด้วยใช่ป่าวครับ (เวอร์ชันญี่ปุ่นมีเซนเซอร์ภาพบางภาพด้วย) ในวีดีโอนี้มี sofia coppola ด้วย (เขียนไงเนี่ย) แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 48 18:20:42 จากคุณ : lime lite - [ 28 ก.ย. 48 18:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ lime lite รู้เหมือนที่โมรู้มาอ่ะ ว่ามันอันดับ 2 ตั้งแต่สัปดาห์แรก แต่โมไปอ่านเวปสารานุกรมเพื่อเชคความชัวร์ http://en.wikipedia.org/wiki/Madonna_%28entertainer%29  มันดันบอกว่า 3 โมก็ไม่รู้จะทักท้วงใครเพราะเวปนี้มันดูน่าเชื่อ  แต่เท่าที่จำได้อ่ะ จำได้ว่า 2 จริงๆค่ะ โทรไปหาพี่คนหนึ่งที่เขาชำนาญเรื่องนี้เขาก็บอกเหมือนกันว่า 2 ตั้งแต่สัปดาห์แรก *-* ทำไมเวปมันลงแบบนี้หว่า ใช่ค่ะคุณ limelite คนนั้นแหละ ตายไปแล้ว เดี๋ยวจะไปเชคอีกทีว่าตายเพราะอะไรนะคะ... แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 48 18:28:28 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Mo_EcHO - [ 28 ก.ย. 48 18:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สุดยอดมากๆ คะ มีเรื่องหลายเรื่องมากๆ ที่ยังไม่รู้มาก่อน ชอบ Erotica , Bad Girl , Where life begins และอีกหลายเพลง Bye bye baby ไม่รู้มาดอนน่าตัดเป็นซิงเกิ้ลได้ไง  ตัด Waiting , Where lifes begins เก๋กว่าเป็นไหนๆ แต่ทั้งหมดนั้น ชอบ This used to be my plaground มากที่สุดแล้วคะ อิอิอิ คิกคักๆๆๆ จากคุณ : รักเธอจริงๆ มาดอนน่าเนี่ย - [ 28 ก.ย. 48 18:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 จำได้ว่า ตัวหนังสือ สร้างกระแส ได้สุดๆ จริงๆ ข่าวทีวี ลงทุกช่อง ถ่ายภาพคนไปเข้าคิวซื้อหนังสือ เล่มนี้ ผับบางแห่งในกรุงเทพตอนนั้น  เอากล้องวีดีโอจับภาพจากหนังสือที่ถูกพลิกทีละหน้า แล้วยิงขึ้นจอให้คนในร้านดู แสงดาว ชอบอัลบั้มนี้มากเป็นอันดับสอง รองจาก Ray of Light  แต่ไม่โปรดเพลง This used to be my playground [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : แสงดาว บุญล้อม - [ 28 ก.ย. 48 19:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้นี้ถูกใจเดี๊ยนอีกแล้วเพคะ โดยเฉพาะท่านๆ ที่นี่ก็ต้องรู้ว่าเราบ้าคลั่ง The Girlie Show ขนาดไหน ฮิๆๆๆ ทุกวันนี้ก็ยังคลั่งอยู่ ฮิๆๆๆ ฉะนั้นจะขอเพิ่มเติมข้อมูลสักเล็กน้อย (เรื่องเก่าๆ ทั้งนั้นแหละ) แผ่น DVD The Girlie ที่ออสซี่ ขายได้ประมาณ 45,000-50,000 แผ่นจ้ะ ข่าวรายงานว่าตอนแรกที่คริกเก็ตกราวน์ซิดนี่ย์จะเปิดรอบเดียว แต่ออสซี่คลั่งมาก สมเด็จเลยต้องสนองเปิดเพิ่มอีกรอบ และก็หมดเกลี้ยงอีก ทั้งๆ ที่รอบละสี่ถึงห้าหมื่นที่นั่งเชียว เหอๆๆๆ (ถ้าข้อมูลเราผิดก็แย้งด้วยนะ อย่าปล่อยให้เราปลื้่มแบบเสียสติ ฮิๆๆ) และแควนๆ ไปรอหน้าสนามคริกเก้ตตั้งแต่เที่ยงวันจ้ะ ทั้งๆ ที่เวลาแสดงจริงถ้าจำไม่ผิดจะเริ่มสองทุ่ม (แน่นอนสมเด็จต้องมากัีบความมืดถึงจะเจ๋ง) มีเด็กออสซี่อายุ 9 ขวบคนนึงได้เข้าไปดูในสนามวันนั้นด้วย โตแล้วก็มาเล่าให้ฟังว่า ปลื้มมาก ทั้งสนามจะคลั่งไคล้กันไปหมด โดยเฉพาะเพลง Vogue ช่วงลงจากหลังแด็นเซ่อร์นั้นคือสุดๆ ของสุดๆ ตอนเพลง Holiday ก็แรพตามกันลั่นสนาม ได้ยินมาแว่วๆ ว่าศิลปินหญิงสำหรับออสซี่นั้น ความนิยมน้องไข้หลีเป็นรองแค่สมเด็จแม่เท่านั้น (ตอนนั้นนะ ตอนนี้ไม่รู้) อ้อ...วีดีโอเกิร์ลลี่ที่ออสซี่นั้นมี 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นนึงนั้นออกอากาศโดย HBO ซึ่งข้าพเจ้าเคยซื้อ VHS ผีที่แมงป่องเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว การตัดต่อจะต่างจากเวอร์ชั่นดีวีดีของวอร์นเน่อร์เล็กน้อย ต่างคนต่างก็ดีไปคนละแบบ น่าเีสียดายที่ VHS ของ HBO ของเรามันเจ๊งไปแล้ว เพราะดูถี่เกินไปอ้ะ และที่สำคัญ ใน HBO สมเด็จจะรับขวดน้ำมาดูดจากด้านซ้าย แต่ในวอร์นเน่อร์จะรับจากด้านขวามือ ้น่าแปลกที่ได้ดูเกิร์ลลี่แล้ว กลับไปดูทัวร์เก่าก่อนก็จืดไปหมดเลยอ้ะ (เวรกรรมของเราจริงๆ ท่านอื่นคงไ่ม่เป็นแบบเรา) อ้อ..รวมทั้ง DWT ด้วย จืดเชีย (อ.ยิ่งศักดิ์มาเอง) ถ้าสังเกตดูข้อมือสมเด็จในเกิร์ลลี่ จะเห็นด้ายแดงสัญลักษณ์ของการต่อต้านโรคเอดส์ (หรือเปล่าหว่า?) มีแมลงตัวนึงดันไต่ขึ้นไปบนเนินอกสมเด็จในเพลง In This Life แต่เจอเหงื่อเลยลื่นตกลงไปในร่องนมสมเด็จซะงั้น ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายของมัน ห่วงแต่นิปเปิ้ลสมเด็จ!!!??? ในเพลง Fever แด๊นเซ่อร์ตี๋เอเซียจะดึงกางเกงในรั้งขึ้นมาสูงมากจนเห็นแก้มก้นห้อยเชีย แต่แด๊นเซ่อร์อาฟริกันไม่เห็นห้อยทั้งๆ ที่ดึงรั้งขึ้นมาสูงเหมือนกัน ทั้งนี้ไม่ใช่ไร เป็นเพราะแกก้นดำมากกกก เลยมองไม่เห็นแก้ม คอรีโอกราฟฟี่นั้นยอดเยี่ยมที่สุด นั่นคงเพราะได้มืออาชีพระดับโลกมาออกแบบและควบคุมถึง 3 หน่อ ทัวร์หลังๆ ได้ไอ้เจ้าเจมมี่ คนเดียะ เลยดูจืดๆ ไม่แรง คอสตู้มได้ดอลเช่แอนด์แก๊บบาน่ามาดีไซน์ เก๋และลงตัวซะ... โจ มณฑาณี เขียนลงเดลินิวส์ชื่นชมสุดๆ ว่ายอดเยี่ยม (ไม่ใช่เฉพาะคอสตู้มนะ แกบอกว่ายอดเยี่ยมไปหมด และแกบอกด้วยว่าโชว์นี้ดีกว่า BA ซะอีก ซึ่งเราเห็นด้วยมากกกก อาจจะค้านกับหลายท่านที่นี่ก็อย่ามาท้าตบนะ ไปตบนมคุณหญิงกาลาเดรี้ยลแทนก็ละกัน ฮิๆๆๆ) ถ้าใครอยากเห็นลีลาการเต้นที่อัจฉริยะเพราะเธอเกิดมาเพื่อการนี้โดยแท้ ของสมเ็ด็จแม่ก็ดูได้จากเกิร์ลลี่นี่แหละ เพราะจะได้เปรียบเทียบกับนังดอนน่า เดอลอรี่ ไปด้วย เห็นได้ว่าต่างกันมากกกกกก...ทั้งๆ ที่ฝึกมาพร้อมกัน ไม่เชื่อดูเดะ ส่วนพังโม่ตาลาอย่างนิกี้ไม่ต้องพูดถึงเรยยยย โชว์นี้ไม่มีช่วงอืดเลยหละ แบบว่าดูได้ดูดีตลอดงาน พูดอีกก็ถูกอีกแหละ คิกๆๆๆ นึกออกแค่เนี้ยะ ตอนนี้ ไปหละ หยุมหยิมไปป่าว??? นี่ถ้ามีแหล่งขาย GS เวอร์ชั่นอื่นๆ เราก็จะซื้อให้หมดเรยยย ใครรู้ช่วยแนะนำด้วยนะ จักเป็นพระคุณยิ่งใหญ่ จากคุณ : rien - [ 28 ก.ย. 48 21:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลืม...อีกนิดนะ ตอนนั้นมีข่าวว่า BEC Tero จะติดต่อสมเด็จมาเมืองไทย (หลังจากป้าไมค์) จะขายบัตร 3,000 ทุกที่นั่ง แต่นายสัมพันธ์ ทองสมัคร (รมต.หมอผี) เป็นรมต.ศึกษา สมัยนั้นออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะขวางมิให้สมเด็จแม่มาแสดงในไทย ให้เหตุผลน่าเอาเล็บขบใส่ปากแกว่า "" นักร้องแสดง กับ ผู้หญิงแก้ผ้าบนเวที มันต่างกัน "" เป็นกรรมของสัตว์โลกอย่างเราที่เกิดมาร่วมสมัยกับคนแบบนี้ค่ะ จากคุณ : rien - [ 28 ก.ย. 48 21:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ เข้าใจละครับ ผมเข้าใจผิดเอง ที่ debut #2 เป็น american top 40 แฮะ ใน billboard airplay เป็น #3 จากคุณ : lime lite - [ 28 ก.ย. 48 21:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า มันเหมือนกับมาดอนน่ากำลังทำมากไปมั้ยตอนนั้นนะที่ผมคิด ตอนนั้นรู้เลยว่าอีโรติก้าคงไม่ขึ้นอันดับ1แน่ๆ เพราะท่าทางคนจะคิดว่าเธอทำมากไป แล้วก็จริงๆ ตอนนั้น มีแต่คนรุมสับเธอเละเลย ไม่ว่าจะเป็น สื่อ หรือเพื่อนศิลปิน ที่ได้โอกาส เพราะอิจฉาที่เธอดังมากจากช่วงก่อนหน้านี้จึงมารุมกินโต๊ะ และสับ ตอนนั้น ห่วงมาดอนน่ามาก เพราะเธอเจอศึกหนักจริงๆ แต่ก้ทำให้คิดนะ ว่า อืม อย่าหลงระเริงกับเงินทองและชื่อเสียงจนเกินไป เพราะตอนนั้นเหมือนกับมาดอนน่าจะโลภ อย่างที่คุณโมบอกจริงๆ แต่ยังไง ผมก็ชอบอัลบั้มชุดนี้ ชอบเพลงSecret Gardenมากที่สุด ดนตรีแบบแจ็สนิดๆ มาผสมผสานกันดุลึกลับมาก กับเสียงที่กึ่งรน้องกึ่งพูด โอย ชอบมากครับ ผมว่าวิดีโอที่นายสเตฟานกำกับให้ในเพลงฟี่เวอร์น่ะ ห่วยจริงๆนะ เชยมากเลย มีเพ้นท์ตัวเป็นสีเงินเหมือนในเอ้มวีของวงเร้ดฮ็อตด้วย แต่ก้มีเพ้นท์แบบนี้ให้กับมาดอนน่าเมืองไทยให้เห็นจะจะบนหนังสือชื่อดังฉบับนึง ไม่ชอบเอ็มวีนี้เลย แต่ชอบเพลงที่มิกซ์มามากๆครับ ส่วนRainไม่ต้องพูดถึง เพลงเพราะมาก เอ็มวีสวยมากๆ จนค่ายเพลงหลายๆค่ายเอาก็อปกันถ้วนหน้า เคยเห้นในอินโดก้มีRainเวอร์ชั่นอินโดด้วยนะครับ และของฟิลิปปินส์ก็มีอีก ฮาจริงๆ Deeper and Deeperก็เอ็มวีสวยนะ ชอบมากๆ เพลงเจ๋ง แต่ไม่ขอบตอนจบเพลงที่เอาท่อนของโวคมาใช้อ่า เอ็มวีเพลงนี้สร้างเทรมด์ฮิปปี้กันสุดๆ มาดอนน่ายังไงก็มาแรงจริงๆกับเรื่องการนำเทรนด์  ส่วนBad girl ผมชอบมาดอนน่ามาก เพราะในเพลงนี้ตาของเธอใสมาก รู้สึกว่าเพลงนี้มาดอนน่าสวยเป็นพิเศษ  ชอบมากครับ ส่วนหนัง บอกตรงๆ ผมไม่ได้ดูเลย ไม่ชอบที่มาดอนน่าแสดงหนังเลยครับ จึงไม่ดู คอนเสิร์ตThe Girlie Show ก็สุดๆอีกแล้ว ชอบมากกกก ตื่นตาตื่นใจจริงๆ ไม่รุ้จะพูดยังไงเลย นักวิจารณ์ทั้งหลายคงอึ้งไปเลย เพราะแม้จะถูกวิจารณ์สับเละขนาดนั้น มาดอนน่ายังคงยืนหยัดในแนวทางละจุดยืนของตัวเองในอัลบั้มชุดนี้และพยุงมันต่อไปให้ถึงจุดที่สุงที่สุดจนได้ และคอนเสิร์ตครั้งนี้ก้พิสูจน์แล้วจริงๆ ส่วนในโชว์ที่น้องบาบูนแย่งซีนไปน่ะ ไม่เป้นไรหรอก นานๆครั้ง ให้น้องเค้าไปบ้าง ก็เค้าเล่นจับและลูบเป้าคนอื่นขนาดนั้น จะไม่ฮือฮาซี้ดซ้าดกันได้ไงล่ะครับ เนอะ อ่อ ในคอนเสิร์ตผมเห็นหน้าอกเจ๊แกเป็นจ้ำแดงเลย เพราะนายลูก้าที่เป็นนักเต้นน่ะเม้มงับซะนะ นมช้ำเลย และก็อีกนะ ก้มีนักรอ้งหลายๆคนเอาคอนเสิร์ตเจ๊มาก็อปอีกแล้ว เหอๆๆ อืม รู้สคกว่าช่วงที่The Girlie Showออกทัวร์เนี่ย มีข่าวว่าจะมาเมืองไทย แต่รัฐบาลไทยไม่ให้เข้ามาแสดง เพราะเขาว่า ม่ห้ผู้หญิงที่แก้ผ้า มาแสดงคอนเสิร์ตเมืองไทยเด็ดขาด  แต่ก็มีหนังสือพิมพ์อังกฤษเหน็บแนมว่าที่มาดอนน่าไม่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทยก็เพราะน้อยหน้าสาวพัฒ์พงษ์นั่นเองเลยต้องถอยทัพ ไม่มาแสดงคอนเสิร์ตบ้านเรา เหอๆๆๆ อายมั้ยนั่น จากคุณ : พ่อน้องโจ - [ 28 ก.ย. 48 22:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบจังคุณโม ขอบคุณค้าบ จากคุณ : ปั๊ง (Pri~*nce) - [ 29 ก.ย. 48 13:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สนุกจัง้ลยครับ เป้นกระทู้ที่ผมตั้งใจอ่านมากๆ จากคุณ : wtb - [ 29 ก.ย. 48 13:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สนุกสนาน เข้มข้นเหมือนเดิมน้องโม จากคุณ : yev rugrats - [ 30 ก.ย. 48 10:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เยี่ยมมากๆๆครับ จากคุณ : Love@here - [ 3 ต.ค. 48 14:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่มเติมข้อมูลค่ะ เพลง Erotica จากข้อมูลเดิมที่โมและคุณ Limelite ทราบว่าเพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวสูงที่สุดเท่าที่มีมาว่าอันดับ 2 แต่ตอนแรกเวปสารณุกรม เสนอว่าอันดับ 3 โมจึงเขียนไปแบบนั้น ตอนนี้ที่เวปได้แก้ไขข้อมูลให้แล้วนะคะว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่เคยมีมาที่อันดับ 2 ค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/Hot_100_Airplay Highest debut Madonna set a record in 1992 when the lead single and title track from her sixth album Erotica debuted at #2 on the Hot 100 Airplay Chart. It is very difficult for a song to debut at a high position on the airplay chart, for many reasons. Firstly, in comparison to sales, there is no real set date for when a single hits the airwaves and it usually takes some time to grow to chart so high. Secondly, airplay itself is a pre-promotional tool so there is a lack of control over its spread of popularity. Thirdly, competition is very intense on the airplay charts as any song is eligible to chart, whereas for singles, a commercial release must be issued before it becomes eligible. When Madonna's Erotica debuted at #2 on the Hot 100 Airplay in 1992 it was a huge achievement. "Erotica" was able to gain a lot of immediate airplay due to its controversial lyrics and also from the hype surrounding the book she had released prior to the release of the single, Sex. แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 48 18:32:25 จากคุณ : Mo_EcHO - [ 16 ต.ค. 48 18:31:20 ]