CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Paul "Rock with US" 2005 Concert - Report

    Paul McCartney , US tour 2005

    การแสดงของ paul ที่ Detroit มีสองรอบครับ วันที่ 14 และ 15/10/05 ผมดูทั้งสองรอบ เล่นที่ Palace of Auburn Hills , Palace เป็นสนามกีฬาคล้ายๆกับ Impact arena ของไทย Palace จะใหญ่กว่าพอสมควร

    การแสดงตามบัตรแจ้งว่าเริ่ม 20.00 น. ผมไปถึง palace ประมาณ 18.30 น. เมื่อไปถึงก็ซัดกระทิงแดงไป 1 กระป๋อง แก้ง่วง แล้วก็เดินผ่าน security ที่มีการใช้เครื่องตรวจโลหะมาไล่ตามร่างกาย แบบเดียวกับที่สนามบิน

    ผ่าน security มา ก็เดินขึ้นไปชั้นสอง ข้างบนจะมีทางเดินรอบ จะมีร้านขายอาหารการกินอยู่รอบๆ ตลอดจนการขายหนังสือโปรแกรม เล่มละ 25$ มีร้านขายของที่ระลึกของทัวร์ ทั้ง เสื้อผ้า หมวก พวงกุญแจ ฯลฯ. ราคาเสื้อยืดตกตัวละ 35$ ราคาก็แพงทีเดียว นี่ผมยังชั่งใจอยู่ว่า จะซื้อเป็นที่ระลึกดีไหม

    เดินเข้าไปในสนาม ผมต้องเดินลงไปตามทางจนถึง floor เนื่องจากวันนี้ผมจะดูที่ชั้นล่าง section F แถวที่ 5 ที่นั่ง 16 ซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุด (เมื่อหันหน้าเข้าหาเวที) ทำเลดีทีเดียวครับ เห็น Paul ได้ชัดเจน ไม่ตัวเล็กเป็นมดเหมือนเวลาดูจากที่นั่งไกลๆ

    สภาพภายในก็ปกติ คล้ายๆ impact arena เช่นกัน เวทีมีผ้าม่านคลุมอยู่ ลำโพงที่ห้อยอยู่บนเพดานก็ไม่ได้ใหญ่โตมหึมาอะไรนัก

    คนดูที่มา ส่วนใหญ่จะอายุเลยกลางคนเข้าไปทั้งนั้น บางคนอายุพอๆกับคนเล่นทีเดียว คงจะตามดูกันมาตลอด เรียกว่าผมเข้าไปนี่ กลายเป็นเด็กไปเลย

    วัยรุ่นและเด็กก็พอมีบ้าง แต่ไม่เยอะ ผมคิดว่าเป็นเพราะราคาตั๋วด้วยส่วนหนึ่ง (252$)และวัยรุ่นอาจจะไม่ได้รู้จัก paul ด้วยอีกส่วนหนึ่ง

    คนผิวดำ ก็น้อยมากด้วยครับ ส่วนใหญ่เป็นคนขาว นี่น่าจะเป็นเพราะรสนิยมทางด้านเพลงเป็นสำคัญ พวกผิวดำในยุค paul คงจะไปฟังเพลงของ motown กันเป็นหลัก ตลอดจน blues , soul อะไรพวกนั้นมากกว่า

    และไม่น่าเชื่อว่า วัฒนธรรม "เอ้อละเหย ลอยชาย" ก็มี่อยู่ในพวกฝรั่งด้วยเช่นกัน พี่แกไม่ยอมเข้ามารอครับ ยืนกันอยู่ข้างนอกนั่นแหละ เรียกว่า ขนาดจะ 20.00 อยู่แล้ว ยังมีคนเข้ามาใน arena แค่ประมาณ 50% เท่านั้น ผมละมึน ไม่รู้ไทยลอกฝรั่ง หรือ ฝรั่งลอกไทยกันแน่ เรื่องนิสัยเสียๆแบบนี้

    พอ 20.30 น. ก็เริ่ท pre-show ครับ ปีนี้จะเป็น dj คนหนึ่งซึ่งขึ้นมา mix เพลงของ paul ให้เป็นในแนวเต้นรำ ก็ทำได้ดีพอสมควร ยังไงก็ฟังปวดหัวน้อยกว่า ฟัง "number nine... number nine...." ในแผ่น white album แล้วกัน แต่น่าสงสารนะครับ คนฟังไม่ตอบสนองเลย ยังดีไม่โดนโห่ไล่เหมือนใน show แรกๆของทัวร์นี้ ที่ detroit นี่ คนก็นั่งเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ทำเหมือนนาย dj นี่ ไม่มีตัวตนไปซะยังงั้นแหละ

    dj ก็ทำหน้าที่ของตังเองไปจนจบ 30 นาที ลาจากไปแบบหงอยๆ ทีนี้ไฟก็ดับครับ Monitor ขนาดยักษ์ด้านบน ก็ฉายประวัติของ Pual แบบรวบรัด ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน เมื่อฉายจบ เพลงแรกของ Show ก็เริ่มขึ้นครับ


    Magical Mystery Tour
    นักดนตรี Backup ในชุดนี้ ยังคงเป็นชุดเดียวกับ Back to the US tour เมื่อ 3 ปีก่อน แสดงว่า Pual คงชอบนักดนตรีในชุดนี้พอสมควรทีเดียว และก็ต้องยอมรับว่า แต่ล
    คนนั้นเก่งครับ ฝีมือเชื่อใจได้ คนที่ผมชอบที่สุดคงเป็นมือกลอง

    Paul อยู่ตรงกลางครับ ผมเห็นชัดเจนทีเดียว ดูจากไกลๆ อย่างนี้ ดู Paul หนุ่มมาก ไม่น่าเชื่อว่า นี่คือคนอายุ 63 เข้าไปแล้ว ทั้งการแสดง การเคลื่อนไหว การเล่นดนตรี และเสียงร้อง เยี่ยมมาก

    เห็นแว๊บแรก มันดีใจและตื้นตันใจนะครับ นี่คือ สมาชิกหนึ่งในวงดนตรีที่ผมชอบที่สุดวงหนึ่ง วงที่ผมฟังเพลงของเขามาตั้งแต่เด็กๆ ยังอยู่ประถมต้นอยู่เลย ผมได้ยิน Michell จากลำโพงปากแตรที่เขาเปิดในระหว่างพักเที่ยง ผมไม่รู้หรอกว่า ร้องว่าอะไร ภาษาอังกฤษก็ยังฝึก ABC อยู่เลย แต่ผมจำ melody ได้ดี จำ sound ของมันได้

    ผมจำเพลงอื่นที่เขาเปิดระหว่างพักเที่ยงไม่ได้เลยนะครับ ไม่รู้ทำไม แต่ผมจำเพลง Michell ได้เพลงเดียวจริงๆ เพลงอื่นๆ มันไม่มีอยู่ในความทรงจำเลย ดังนั้นน่าจะเรียกได้ว่า เพลงสากลเพลงแรกที่ผมฟัง ชอบ และจำได้ ก็คือเพลงของ The Beatles นี่แหละครับ

    แล้ววันนี้ผมก็ได้มาดูการแสดงสดของคนที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมา มันคือฝันที่เป็นจริงครับ

    กลับมาที่เพลง Magical mystery tour เป็นเพลงที่มาจากแผ่นชื่อเดียวกันกับเพลง เป็นแผ่นที่บางคนบอกว่า นี่คือจุดเปลี่ยนแปลงของความนิยมต่อ The Beatles เป็นสิ่งแรกทีเรียกว่า ล้มเหลว ของ The Beatles

    เพลงนี้มีแฟนเพลงหลายคนไม่ชอบใจที่ paul เอามาใช้เป็นเพลงเปิด พวกเขาอยากให้เป็น Venus and Mars/Rock Show มากกว่า สำหรับผมเอง ผมคิดว่า มันเป็นเพลงที่ดี และผม happy กับมัน



    เพลงต่อมาคือ Flaming Pie งานในช่วง solo ของ paul และเพลงต่อไปคือ Jet งานในช่วง Wings ทั้งสองเพลงเป็นเพลง Rock ชั้นดี Jet เป็นเพลงที่ paul ที่ paul เล่นอยู่เสมอ

    I'll Get You เพลงเก่าแล้ว ไม่แน่ใจว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เอามาเล่นหรือไม่
    Drive My Car อันนี้ เล่นหลายครั้งแล้ว แต่ดีครับ ชอบทุกครั้งที่ได้ฟัง
    Let Me Roll It นี่ก็เล่นประจำ เสมอๆ

    Got to Get You In My Life ครั้งก่อนไม่ได้เล่น แต่เพลงนี้เคยเล่นมาก่อนหลายๆงาน รวมทั้งในงาน concert for kampuchia ด้วย

    Fine Line งานใหม่จากแผ่นล่าสุด ก่อนจะเริ่มเพลงนี้ paul จะเล่าว่า พื้นเวทีด้านหลังของเขา จะเปิดออก กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ แล้วจะมี piano โผล่ขึ้นมาจากหลุมนี้ ทีนี้ ใน Show ที่ 2 ของทัวร์ Paul ดันลืมว่า มีหลุมอยู่ ก็เลยถอยหลังตกลงไปในหลุมนี่ paul บอกว่า ต้องนึกเป็นภาพ slow motion ในขณะที่เขาตกลงไปนั้น ใจเขาก็คิดว่า Whoop ! How deep is this hole ? เล่าได้ฮาดีครับ

    เรื่องนี้ผมอ่านเจอในรายงานของแฟนๆแล้ว ตอนแรกก็นึกว่า แค่สะดุดล้มลงไปเฉยๆ ไม่นึกว่าจะตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่แบบนี้ นึกแล้วเสียวแทนว่า จะบาดเจ็บ เพราะท่าน sir ก็อายุมากแล้ว

    มีอีกเรื่องคือ ใน show แรกๆ มีแฟนเพลงบุกขึ้นเวทีไปสัมผัสตัว paul ด้วย ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเป็นการรบกวน show และยังทำให้คนเล่นตกใจด้วย คิดดูว่าหลังจาก John ถูกยิง George ถูกแทง Paul จะรู้สึกยังไงกับการจู่โจมแบบนี้ของแฟนๆ เป็นการกระทำที่ไม่เข้าท่ามาก จะดูก็ดูไป อย่าไปล้ำเส้นที่สมควรทำ ไม่ว่าคุณจะชอบคนเล่นขนาดไหนก็ตาม

    Maybe I'm Amazed เพลงรักทีแต่งให้ Linda
    Long and Winding Road เพลงนี้ก็เล่นตามปกติ อย่างทุกครั้งที่เคยเล่น แน่นอน ไม่มีwall of sound ของ Phile spector แน่ๆ

    In Spite of All The Danger เพลงที่แต่งโดย McCarntey/Harrison ครับ บางคนอาจจะไม่นึกว่ามีด้วยซ้ำ เป็นเพลงในยุคก่อน The Beatles หาฟังได้ในแผ่น Anthology Paul ถือ acoustic guitar ตัวเดียวมาเล่นเพลงนี้ พร้อมกับขอให้ คนดูร้องประสานช่วง whoa....ho...ho... ให้

    I Will ผมเข้าใจว่า นี่เป็นครั้งแรกครับ ที่ I will ถูกนำมาเล่นสดๆ มันไม่ได้ถูกเล่นแบบในแผ่น แต่เป็นการสับคอร์ดแบบง่ายๆของ Paul ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การได้ดูได้ฟังเพลงนี้จากคนแต่งดั้งเดิม ย่อมมีความหมายต่างกันไปแน่นอน เพลงนี้อยู่ใน White album แต่งให้กับ JaneAsher ผมว่ามันเป็นเพลงรักที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งทีเดียว

    Jenny Wren เพลงใหม่จากแผ่นใหม่อีกเพลง ผมว่า sound ของมันใกล้เคียงกับงานของ paul ในยุค Beatles นะครับ รวมทั้งอีกหลายๆเพลงในแผ่น Chaos นี้ด้วย

    For No One เพลงนี้ก็เพราะ
    Fixing A Hole เพลงนี้ก็เพราะ
    สองเพลงนี้ paul เล่นคนเดียวเป็นหลัก ด้วย piano ซึ่งไม่ได้เสียอรรถรสแต่อย่างไรเลย

    English Tea เพลงใหม่
    I'll Follow The Sun เพลงนี้ มีลูกเล่นตอนท้าย ที่ paul ทำเหมือน จะจบ จะจบ แล้วก็ขึ้นใหม่มาอีก 4-5 ครี้ง ก็สนุกดีครับ

    Follow Me เพลงใหม่

    Blackbird ก่อนขึ้นเพลงนี้ paul ก็เล่าถึงสมัยที่เขากับ George นั่งเล่นกันอยู่และเล่นเพลงของ Bach แล้วเขาก็จับโน้ตบางช่วงมาเป็นการขึ้นต้นของเพลง Bluebird ครับ เพลงนี้ใน show ก่อนๆ เห็นแฟนๆเล่าว่า paul เล่นพลาด แล้วก็บ่นกับตัวเองว่า เล่นมากี่ครั้งแล้วเนี่ย แล้วก็เล่นต่อใหม่จากจุดที่เล่นผิดนั้นเลย แต่ในรอบของผม paul เล่นไม่พลาดครับ

    Eleanor Rigby ไม่ต้องบรรยาย

    Too Many People เพลงนี้ ได้รับการวิจารณ์ว่า คสรจะเอามาเล่นไหม เพราะเนื้อบางท่อนเป็นการแอบกัด John เอาไว้ หลังจากทัวร์ก่อนที่มีการเล่นเพลงระลึกถึง John และ george มาทัวร์นี้ ดันเล่นเพลงที่แอบกัด john ซะนี่

    She Came In Through The Bathroom Window อย่างที่เพลงบอก มีคุณเธอที่ไหนสักคน เข้ามาทางหน้าต่างห้องน้ำ

    Good Day Sunshine ก่อนเล่นเพลงนี้ paul เล่าเรื่องล่าสุดของกระสวยอวกาศที่เกิดปัญหาแผ่นกันความร้อนหลุด ต้องออกไปซ่อมกันในอวกาศ แถมยังเจอปัญหาสภาพอากาศไม่ดี จนต้องเลื่อนเวลาลงจอด เมื่ออากาศดีขึ้น Nasa ก็แจ้งให้ลูกเรือทราบ พร้อมเปิดเพลงนี้ให้กับลูกเรือครับ

    Band on the Run มันส์

    Penny Lane เพลงนี้ผมชอบครับ

    I've Got A Feeling เพลงสุดท้าย ที่ถือว่าเป็นเพลงของ John กับ paul ร่วมกันแต่ง เพราะเป็นการเอาเพลงที่แต่งไม่เสร็จสองเพลงของทั้งสองคน เอามายำรวมกันเป็นเพลงนี้ สิ่งเดียวที่ด้อยสำหรับเพลงนี้ คือ ไม่มีเสียงร้องของ John ซึ่งใครก็มาแทนไม่ได้ครับ

    Back in the USSR มันส์อีก

    Hey Jude แน่นอน มีมุขหากินของ paul ที่แบ่งส่วนต่างๆของผู้ชม แล้วให้ร่วมร้องในตอนท้ายของเพลง บางท่านอาจจะคิดว่า น่าเบื่อโคตรๆ แต่เชื่อผม หากคุณมีโอกาสได้ไปแหกปากร้อง Na...... Na..... na.. na.. na...... Hey jude ร่วมกับแฟนเพลงสองหมื่นคนใน arena ความรู้สึกของคุณจะเปลี่ยนไป ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ไม่มีอะไรเหมือนสิ่งนี้ครับ เชื่อผม !

    Live and Let Die แสง สี เต็มที่ครับ Pyrotechnic เต็มที่ สวยครับ สวย

    Encore1
    Yesterday รอบแรกที่ผมดู paul เสียงหายในคำแรกของเพลงครับ แต่ก็กระแอม แล้วกลับมาเป็นปกติในส่วนที่เหลือทั้งหมด มีอะไรให้บรรยาย กับการฟังเพลงนี้ โดยตัวจริงเสียงจริง ผมไม่มีอะไรจะบรรยายครับ

    Get Back

    Helter Skelter ครั้งแรกในการเล่นเพลงนี้ในอเมริกา จากที่ผมได้ดู paul ทั้งสองรอบ ดูแล้วก็ต้องทึ่งครับ กับคนอายุ 63 แล้วต้องมาตะเบ็งแหกปากในเพลงนี้ได้อย่างสุดยอด ไม่น่าเชื่อครับ paul ร้องเพลงมาร่วมสองชั่วโมง ไม่แม้กระทั่งจิบน้ำเลยสักครั้ง ยังสามารถร้องเพลงนี้ได้ อายลุงเขาบ้างไหม หลานๆ....

    Encore 2
    Please Please Me น่าแปลกใจนิดหน่อย ที่ paul เอาเพลงของ John มาเล่น ปกติแล้วจะไม่เห็นกันบ่อยนักว่าจะเอามาเป็นเพลงหลักใน set list แบบนี้ sound ที่ออกมาก็คล้ายๆ original นะครับ แต่ไม่เหมือนทีเดียวนัก เพราะไม่มีเสียงของ John เสียง Harmonica ออกจะหยาบและแตกเล็กน้อย

    Let it Be เพลงในดวงใจ

    Sgt. Pepper (reprise) / The End
    เพลงปิดท้ายครับ หลังจากนี้ก็เป็นการอำลาแฟนเพลง พร้อมกับเซ็นโน่น เซ็นนี่ ให้กับแฟนเพลงที่โยนของขึ้นมา

    จากคุณ : poj - [ 16 ต.ค. 48 22:01:40 A:68.42.214.240 X: TicketID:103881 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป