PANTIP.COM : C3876485 ***มาดูความนึกคิดของเสี่ยวไป๋ทู๋ในปัจจุบันมีอะไรแตกต่างจากเมื่อปี2002บ้าง*** [F4 Forever]

***มาดูความนึกคิดของเสี่ยวไป๋ทู๋ในปัจจุบันมีอะไรแตกต่างจากเมื่อปี2002บ้าง***

มาดูความนึกคิดของเสี่ยวไป๋ทู๋ในปัจจุบันมีอะไรแตกต่างจากเมื่อปี2002บ้าง

คำสัมภาษณ์ของเหยียนเฉิงซวี่: ไม่อยากเล่นบทลูกเศษฐี http://ent.sina.com.cn 2002/07/26 16:27
หนังสือพิมพ์หนันฟางตูซื่อเป้า กล่าวถึงเต้าหมิงซื่อ

นักข่าว: จริงๆแล้วชีวิตความเป็นอยู่ของคุณค่อนข้างยากจน มาแสดงบทเต้าหมิงซื่อที่เป็นลูกเศษฐีรู้สึกขาดพื้นฐานไปหน่อยมั้ย?
ซวี่: ผมรู้สึกฝ่อและขาดความมั่นใจ แต่อยู่ในละครได้ใส่สูทก็รู้สึกดีมากเลย เพราะปกติกางเกงที่ใส่ส่วนใหญ่ก็ขาดๆ
นักข่าว: ก่อนที่คุณจะเล่นบทเต้าหมิงซื่อ คุณชอบตัวละครตัวนี้มั้ย? เคยคิดมั้ยว่าจะดัง?
ซวี่: ความจริงก่อนหน้านี้ผมไม่รู้หรอกว่าว่าจะได้เล่นบทเต้าหมิงซื่อ ผมมาเทสหน้ากล้องในบทของซีเหมินและเหม่ยจั๊ว เป็นเพราะว่าหาคนมารับบทนี้ไม่ได้ เจ๊ไฉเลยให้ผมขึ้นแท่น ผมเป็นคนใหม่ เล่นหนังก็ไม่เป็น หน้าตาก็ไม่ได้หล่อมาก(หัวเราะ) ((รู้นะที่หัวเราะเพราะรู้ตัวว่ากำลังพูดปด)) แทบไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะโด่งดังมากมาย.

คุยเรื่องภาคสอง..

นักข่าว:(หลิวซิงฮวาหยวน)ภาคแรกจบได้สมบูรณ์มากๆแล้ว ภาคสองจะเป็นเหมือนเอาหางสุนัขไปต่อใส่สัตว์ชนิดอื่นหรือเปล่า?
ซวี่: ไม่หรอก เนื้อเรื่องจะเป็นแบบที่ทุกคนนึกไม่ถึงทีเดียว ภาคแรกจะค่อนข้างเหมือนนิทานซินเดอเรลล่าที่ได้เจอกับเจ้าชาย แต่ภาคสองจะดำเนินเรื่องไปทางด้านชีวิตจริง
นักข่าว: คุณคิดว่าภาคสองจะเหนือกว่าภาคแรกมั้ย?
ซวี่: ผมจะพยายามพัฒนาฝีมือตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้น ทุกคนต่างก็มีเป้าหมายที่จะไปให้ถึง ต้องให้คุณผู้ชมป็นผู้ตัดสิน (ตอบคำถามได้ดีมากๆไม่คุยโม้แต่จะเคี่ยวเข็ญตัวเองให้มากยิ่งขึ้น)
นักข่าว: เล่นบทรักสามเศร้ากับคุณเซี่ยะเอ๋อจะกระทบถึงภาพพจน์หรือเปล่า?
ซวี่: ต้องดูถึงจะรู้ เนื้อเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกคุณคิด จริงๆแล้วเต้าหมิงซื่อยังคงเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว
นักข่าว: หลังจากดังแล้วกดดันมั้ย?
ซวี่: กดดันมาก เป็นความกดดันที่ตั้งความหวังให้กับตัวเอง หวังให้ตัวเองทำได้ดีกว่าเดิม

คุยถึงเส้นทางที่จะพัฒนาต่อไป..

นักข่าว: มีคนมากมายคิดว่าพวกคุณขาดพื้นฐาน เคยคิดที่จะพยายามอัดความรู้ให้ตัวเองมากขึ้นมั้ย?
ซวี่: คิดแน่นอน ถ้าผมจะออกอัลบั้มเพลง ผมจะขอร้องทางบริษัทให้ผมไปเรียนก่อน จนกว่าทุกคนเห็นว่าผมมีความก้าวหน้าแล้วผมถึงจะออก และยังคิดที่จะเขียนเพลงด้วยตัวเอง แต่ต้องผ่านการเห็นชอบของผู้สร้างก่อนถึงจะโอเค

คุยถึงเรื่องอารมณ์ความรู้สึก..

นักข่าว: บทรักมั่นคงของเต้าหมิงซื่อที่คุณเล่น มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมั้ย? และจะไปหลงรักผู้หญิงที่ดุอย่างซันไช่มั้ย?
ซวี่: ผมเล่นหนังไม่ค่อยเป็น แต่ว่าเต้าหมิงซื่อกับผมนิสัยจะเหมือนกันมาก เพียงแต่เมื่อก่อนไม่ได้สังเกต ทางด้านอารมณ์ความรู้สึกก็เหมือนกันมาก ความจริงผมโดนทำร้ายมากกว่าเขานะ(หัวเราะ) แน่นอนว่าผมต้องหลงรักผู้หญิงแบบซันไช่ ผมรู้สึกว่าเธอมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
นักข่าว: คุณเคยพูดว่าคุณไม่อยากคบเพื่อนหญิง แต่อยากหาภรรยา?
ซวี่: ผมอยากหาเจออีกครึ่งหนึ่งของผม จะได้แบ่งเบาภาระหน้าที่การงานของผมบ้าง เวลากลับถึงบ้านก็ไม่ต้องนั่งมองแต่ฝาผนังบ้าน(หัวเราะ) ความจริงทัศนคติความรักของผมค่อนข้างโบราณ หวังจะอยู่ชั่วนิรันดร์ ไม่อยากเป็นเหมือนอาหารจานด่วน และนี่ก็เป็นผลกระทบจากตัวเอง
นักข่าว: คุณชอบผู้หญิงแบบไหน?
ซวี่: กตัญญู เพราะครอบครัวผมมีแต่แม่ ผมจึงอยากหาภรรยาไม่ใช่แค่คู่ควง
นักข่าว: คุณคิดว่าระหว่างผู้ชายด้วยกันมีความต้านทานการทดสอบของความเป็นเพื่อนได้มั้ย
ซวี่: มีแน่นอน พวกเราหลายคนถ่ายหนังด้วยกัน ลำบากด้วยกัน ฝึกฝนด้วยกัน เป็นเหมือนพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายไปแล้ว ผมเป็นคนที่มีน้ำใจมีสัจจะ ย่อมคบหาเพื่อนที่มีน้ำใจและมีสัจจะ
นักข่าว: ได้ข่าวว่าเจ๊ไฉเกิดปัญหาทางครอบครัว คุณจะมีคำพูดที่ปลอบใจเธอมั้ย?
ซวี่: เจ๊ไฉเป็นคนดี และมีความสามารถสูง ทุ่มเทให้กับเอฟซื่อเยอะมาก เป็นไปได้ว่าไม่ค่อยมีเวลาดูแลเรื่องของตัวเอง ผมหวังอยากให้เธอมีความสุขด้วยความจริงใจ

คุยถึงความเป็นไอดอล..

นักข่าว: ตอนนี้คุณดังแล้ว มีเรื่องต้องถกมากมาย คุณปฏิบัติตัวในความเป็นไอดอลของคุณยังไง?
ซวี่: จริงๆแล้วผมอยากเจอแฟนๆมากเลย แต่ถ้าผมวิ่งออกไปพบแฟนๆ แล้วคุมสถานการณ์ไม่อยู่ทำให้ต้องมีผู้คนบาดเจ็บ มันจะเป็นเรื่องที่เอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย ผมหวังว่าวันข้างหน้าจะมีโอกาสพบปะพูดคุยกับแฟนๆอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่มีแต่บรรดานักข่าว อยากให้แฟนเจอในระยะใกล้ๆเช่นงานแจกลายเซ็น ให้ทุกคนสามารถเห็นตัวตนที่แท้จริงของผม ถ้าทุกคนมองผมเป็นไอดอล ผมก็อยากให้ตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดี เรื่องฉาบฉวยทำให้น้อยลง ถ้าหากนักข่าวเขียนข่าวผมมั่วๆ ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ผมจะทำตัวเองให้ดีก่อน พูดถึงแฟนๆ ผมอยากให้พวกเค้ายึดการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ อย่าต้องเสียเวลาตากแดดเรียงคิวเพื่อคอยผม
นักข่าว: บริษัทคุมเข้มกับพวกคุณมากมั้ย ทำให้พวกคุณเจอแฟนๆลำบาก?
ซวี่: บริษัทดูแลพวกเราดีมาก เพียงแต่กลัวว่าจะคุมสถานการณ์ไม่อยู่ ไม่อยากให้เกิดปัญหามากเกินไป ถ้าหากเกิดการเข้าใจผิดผมจะรู้สึกแย่มาก
นักข่าว: ครั้งที่แล้วเกิดเรื่องไม่สบายใจขึ้นช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ย? (เรื่องข่าว “ชกคน”หนังสือพิมพ์หนันฟางเซินผิงเป้า)
ซวี่: เขาเป็นมืออาชีพและรับผิดชอบในหน้าที่มาก เรื่องรับเงินผมว่าเป็นไปไม่ได้

คุยเรื่องการแสดง..

นักข่าว: เคยคิดที่จะเปลี่ยนบุคลิกเปลี่ยนทรงผมบ้างมั้ย?
ซวี่: ผมอยากตัดผมสั้น ดูแล้วจะสดใสสุขภาพดี หัวโล้นหรือทรงลานบิน จะเบาศรีษะไม่หนักเหมือนตอนนี้ และไม่coolด้วย
นักข่าว: ถ้าเช่นนั้นบุคลิกของคุณก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย?
ซวี่: ถูกต้อง ผมหวังว่าผมจะเล่นบทที่แตกต่างออกไปกว้างขึ้นเติบโตขึ้น ไม่อยากเล่นแต่บทลูกเศรษฐีรูปหล่อ ให้คนอื่นมาพูดว่า “เป็นไอดอลอาศัยหน้าตาเลี้ยงชีพ”ต่อไปผมรับหนังหรือละครจะต้องเข้มงวดในการเลือกบท จะไม่ปฏิเสธบทโน้นบทนี้ ผมอยากเล่นบทฆาตกร แม้แต่บทปัญญาอ่อนผมก็ไม่เกี่ยง

คุยเรื่องอัลบั้มเพลง..

นักข่าว: คุณมีสังเกตแนวเพลงที่นิยมในปัจจุบันมั้ย คุณชอบเพลงแนวไหน?
ซวี่: เพลงสมัยนิยมผมชอบทั้งนั้น ตัวเองจะออกอัลบั้ม ก็ต้องสัมผัสรู้จักแนวเพลงให้กว้างขึ้น จะไม่เลือกฟังเฉพาะแนวไหน

ซื่อมามาแปลจบแล้วขอฟันธงว่าตี่ตี๊ไม่ได้เปลี่ยน ไม่ว่าแนวคิดที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี หรือความรู้สึกที่มีต่อแฟนๆของเธอ รับผิดชอบและเคารพในหน้าที่ ไม่เคยที่จะพูดให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหาย นี่แหละลูกผู้ชายตัวจริงที่ควรเอาแบบอย่าง ซื่อมามาขอฟันธง!!!

ไม่รู้จะไปขอบคุณเว็ปไหนเพราะน้องเอ๋ส่งมาให้ ขอบคุณน้องเอ๋ละกันนะ แต่สงสัยน้องเอ๋คงลืมไปแล้วเพราะส่งมานานมากๆแล้วเพิ่งได้ฤกษ์แปล5555 น้องเอ๋จำได้ป่าวที่ซื่อมามาตอบไปว่าเรื่องนี้น่าแปลอ่ะ

จากคุณ : พี่ R - [ 13 พ.ย. 48 21:24:58 ]