CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ***คำแปลคลิปเบื้องหน้า+เบื้องหลัง+คำสัมภาษณ์ OB-มาเลย์เซีย-part2***

    เปิดกระทู้ใหม่ตามคำเรียกร้องของเอ้อมามาค่ะ  เฮ่อ! กดดันน่าดู  ยังแปลไม่จบเลย
    Thanks A4J for the clip
    Part 2 ..
    ขึ้นต้นเพลงอิ๊กงฉื่อก็จบลงพอดี...ฮาโล...ฮาโลเจอรี่เหยียนเฉิงซวี่หนีห่าว  รีบทักทายพูดคุยกับเพื่อนๆของคุณที่อยู่ที่นี่หน่อยสิ...หาวจิ่วปุ๊เจี้ยน (เสียงกริ๊ดดังมาก) ตั้งนานไม่ได้ร้องเพลงบนเวทีรู้สึกตื่นเต้นมากต้องขออภัย (มีหนูน้อยโซเฟียขึ้นมามอบช่อดอกๆไม้)..โซเฟีย (ซวี่พูดภาษาทารกฟังไม่ออกคะ)เธอขี้อายมากเลยเน้อ  พอน้องหนูโซเฟียจะลงจากเวทีหนุ่มหล่อของพวกเราก็เข้าไปถามด้วยเสียงทารกอีก:หนี่เหย้าชวี่หนาหลี่?=เธอจะไปไหน
    ภาพตัดไปที่กิจกรรมต่างๆของคืนนั้นและมีเสียงบรรยายประกอบด้วย: งานพบปะแฟนๆในคืนนี้  ไม่ว่ารอยยิ้มของเหยียนเฉิงซวี่หรือแม้แต่ลีลาการชู๊ตลูกบาส  แฟนๆซวี่ก็มีความสุขมาก  ดีใจกับเขาด้วยจริงๆ  เผชิญหน้ากับข้อเรียกร้องต่างๆของแฟนๆ  เหยียนเฉิงซวี่ก็ตอบสนองโดยไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง....พวกเธออยากจับมือกับคุณแน่ะ
    แล้วซวี่ก็จับมือกับแฟนญี่ปุ่นและทักทายพูดคุยภาษาญี่ปุ่นด้วยและยังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน  ต่อมาเป็นแฟนอีกคนคงตื้นตันและดีใจที่ได้เจอซวี่  เธอพูดไปร้องไห้ไป: เพื่อนฉันสละให้ฉันมาตัวเองเลยไม่ได้มา...อ้อจริงเหรอ? หรือว่าพรุ่งนี้ผมจะไปเยี่ยมเขาใหม่(เรียกเสียงฮาได้ดังมาก  ว่าแต่สามสาวไท่กั๊วฟังไม่ออกละสิขำไปกับคนอื่นด้วยป่าว?)....ถ้าเป็นไปได้....เอาซีดีให้ผมเดี๋ยวจะเซ็นให้...จากนั้นภาพก็ตัดไปที่แฟนๆถือป้ายแบนเนอร์ตะโกนเสียงเชียร์ “อาซวี่พวกเราจะสนับสนุนคุณตลอดไป” ...เซี่ยๆ...เจียหยิว,เจอกันที่ฮ่องกงนะ...ห่าวอาเซี่ยๆ...แล้วก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวส่งของขวัญกันชุลมุน  10/29 6pm  ถึงเวลาร้องเพลงซวี่เอามือกุมท้อง  มีตัวหนังสือจีนขึ้นมาว่า “ปวดกระเพาะ”..ร้องด้วยกันนะ...หว่อซือเจินเตอเจินเตอเหิ่นอ้ายนี  ระหว่างร้องซวี่ยื่นมือจับกับแฟนด้วย  การ์ดต้องออกแรงดันแผงที่กั้นไว้อย่างหนัก  คลื่นแฟนๆน่ากลัวจริงๆ...อิ๊เซินเตอซังท้ง  เหว่ยชวีเต๊อเหินจิ๊  ไจ่นีฟังเป้ยเตอเยียนจิงหลี่  โตวซือหลิงอิง
    งานจบแล้วเดินเข้าหลังเวทีระหว่างเดินถอดหูฟังไปด้วยมือกุมท้องไปด้วย  ดูท่าทางหูฟังจะถอดยากทำหน้าเหยเกเชียว  เสียงบรรยาย: กิจกรรมทำต่อเนื่องมาทั้งวันโดยไม่ได้หยุด  เหยียนเฉิงซวี่ต้องอดทนกับอาการปวดกระเพาะ
    จนกิจกรรมเสร็จสิ้นถึงได้กลับเข้าห้องพักผ่อน  (แต่ดูหน้าเธอยังลันล้ามากเดินทักทายและโปรยยิ้มให้แฟนตลอดทางจนถึงหน้าห้องการ์ดต้องดันตัวเข้าห้องไป)

    วันที่สาม10/30  10am  หมายเลขห้อง 2237 ติ๊งต่อง!...เฮ่ย...ไฮ้สวัสดีตอนเช้าค่ะ...มาแอบดูเหรอ?เชิญเข้ามา ๆ...วันที่เท่าไหร่แล้ววันที่สามแล้วใช่มั้ย?...ตุ้ย...หลายวันมานี้โอเคมั้ย? เมื่อวานกิจกรรมแน่นมากเลยนี่...ตุ้ย ๆ ๆ ๆ เมื่อวานนี้จริงๆแล้วไม่สบายมาก  แล้วจริงๆแล้วเป็นเพราะว่าเมื่อคืนนี้ได้นอนวันนี้ก็เลยดีขึ้น  ตุ้ยอา  ไม่ได้แต่งหน้าเพราะฉะนั้น..(ไม่ได้ถามบอกทำไม555)...ดูไม่ออกนะ (น่าน..แต่งไม่แต่งก็ดูหล่อเหมือนกัน)...จริงๆแล้วทุกครั้งห้องที่พวกเราอยู่มักจะมีบรรยากาศแบบนี้  และเป็นเพราะว่าทุกครั้งเวลาพวกเราไปทำงานก็จะได้แค่อยู่แต่ในห้องนั่งดูบรรยากาศอย่างนี้และ...แล้วบานกระจกหน้าต่างของห้องพักก็บานใหญ่มาก...ตุ้ย ๆ ๆ จะได้เห็นวิวที่สวยงามมาก  เพราะทุกๆประเทศก็จะมีวิวที่แตกต่างกันออกไป  ตุ้ยอา  จริงๆแล้วแค่นี้ผมก็พอใจแล้ว  ดีมากแล้ว...แล้วเมื่อก่อนนี้ตอนทำงานร่วมกับอีก3เอฟเคยคุยกันมั้ยว่า “นี่อาศัยช่วงที่ไม่มีใครสังเกตพวกเราแอบย่องออกไปกันมั้ย?” ...มีสิ  ในจำนวนนี้มีคนเคยทำ...จริงเหรอ?...ตุ้ยอาเรายังด่าพวกเขาลับหลังเลยว่า “น่าเกลียดมาก”...ที่ไม่ชวนคุณไป...ตุ้ย  ตอนนั้นจำไม่ได้แล้วว่าไปที่ไหน  พวกเขาก็ทำอย่างนี้  ผมก็เลยพูดอย่างโกรธๆว่าทำไมพวกเขาถึงใช้วิธีเลวๆหนีออกไปผมยังเชื่อฟังอยู่แต่ในห้อง...พวกเขาทิ้งคุณไว้ในห้องคนเดียว...ก็จะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม (น่าฉงฉานแต่น่าจะรู้นะว่าทำไมเพื่อนๆถึงไม่ชวน) แต่เมื่อก่อนนี้อยู่กับพวกเขาสนุกมากนะ  พวกเราอยู่โรงแรมข้างล่างก็จะมีแฟนๆกลุ่มหนึ่ง  พวกเราก็จะเล่นและทักทายกับพวกเขาซึ่งกันและกันที่บานกระจกหน้าต่างบนโรงแรม...คุณออกต่างประเทศบ่อยๆ  เหมือนตารางงานเมื่อวานนี้แน่นมาก  ปกติคุณกับอีกสามเอฟติดต่อกันยังไง?...พวกเราเหรอส่วนตัวแล้วจะนัดออกมาเล่นบาสกันหรือโทรคุยกัน  แต่เหมือนตอนนี้ทุกคนบางทีก็ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน  ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ผมอยู่มาเลย์เซียแวนเนสอาจจะอยู่อเมริกา  และไจ๋ก่อนหน้านี้ก็ไปถ่ายละครของเขา  เรื่อง  ให้ผมช่วยเขาโปรโมทหน่อยเขากำลังถ่ายละครเรื่อง “เซินฉิงมิหม่า=silent”ที่จีน  ทุกคนต้องรอคอยผลงานของเขาด้วยกัน (รักน้องจริงๆ) แล้วก่อนหน้านี้ดูเหมือนเซี่ยวเทียนก็ไปถ่ายหนังที่เซี่ยงไฮ้  จริงๆแล้วพวกเราทุกคนส่วนใหญ่จะอยู่คนละประเทศ  ไม่แน่นอนว่าจะอยู่ใต้หวันทั้งหมด  เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เราจะใช้โทรศัพท์สื่อสารกัน  แต่ถ้าทุกคนอยู่ใต้หวันพร้อมกัน  ก็จะมีนัดออกมาเล่นบาสกัน  บางทีก็นัดไปบ้านแวนเนสบางทีก็ไปบ้านไจ๋คุยเล่นกัน...ไม่ใช้คอมฯเหรอตอนนี้ทุกคนก็ใช้ MSN สะดวกมาก...ผมพิมพ์ช้ามากประมานหนึ่งนาทีพิมพ์หนึ่งตัวเก่งมั้ยละ(เขิน) โต้ตอบช้าคนอื่นก็คุยต่อไม่ไหว  ผมได้แต่พิมพ์  ว้าว  อ้อ  ไฮ้...ได้แต่คลิกสัญลักษณ์แสดงกิริยา...ตุ้ยอา (มีตุ๊กตาหน้าตาแปลกๆขึ้นจอด้วย) แม้แต่สัญลักษณ์ต่างๆผมยังใช้ไม่เป็นเลย
    (ตี่ตี๊เดี๋ยวเราสองแม่ลูกไปเรียนด้วยกันนะ) ตอนนี้เวลาส่วนใหญ่ของผมก็ทำแต่งาน  ตุ้ยอา  เพราะฉะนั้นผมไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนรู้  จริงๆแล้วตัวเองมีความคิดมากมาย  สิ่งที่อยากจะเรียน  ถ้าวันข้างหน้าช่วงที่ผมผมมีเวลา
    ผมอยากเรียนรู้หลายๆอย่างเพื่อเสริมฐานให้ตัวเอง…เสริมฐานให้ตัวเอง...ตุ้ย ๆ ๆ...เมื่อวานวนี้ติดตามคุณมาทั้งวันฉันรู้สึกว่าเมื่อวานนี้ฉันสังเกตเห็นเหมือนตอนที่คุณร่วมถ่ายรูปหมู่กับนักเรียน  คุณบังเอิญได้ยินเพลงของตัวเองอยู่ๆคุณก็ร้องตามขึ้นมาหรือช่วงที่นักข่าวสัมภาษณ์ช่วงที่เวลาถ่ายรูปคุณก็จะอยากร้องเพลง  ช่วงเวลานั้นคุณคงตื่นเต้นมากใช่มั้ย? หรืออยากทำตัวให้ผ่อนคลาย  หรือแค่อยากจะร้องเพลง...ก็จะว่าอย่างนั้นก็ได้ผมตื่นเต้นมาก  ทุกครั้งที่ผมขึ้นเวทีก็ยังเป็น  จนถึงตอนนี้ผมก็ยังมีอาการกลัวนักข่าว  เหมือนเช่นตอนนี้กล้องถ่ายผมอยู่  ตุ้ยอา  ก็คือทุกครั้งพวกเราไปสถานที่ต่างๆก็ยังคงมีนักข่าวกลุ่มใหญ่หรือผู้คน  โดยส่วนตัวผมแล้วจะรู้สึกยังไม่คุ้นเคยแล้วก็จะไม่ธรรมชาติ  แต่ตอนนี้ผมรู้สึกได้แล้วว่าจะวิธีอะไรที่ทำให้ตัวเองผ่อนคลาย  ยอตัวอย่างเมื่อวานตอนอยู่บนเวที  จริงๆแล้วตอนนั้นผมตื่นเต้นมากนะและรู้สึกว่าบรรยากาศแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย  เพราะบางครั้งผมไม่รู้จะพูดอะไร  และพิธีกรก็ถามคำถามที่บางครั้งผมไม่สามารถอธิบายได้  บางครั้งผมก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเหมือนปัญญาอ่อน  ดังนั้นผมก็จะหาวิธีที่สามารถทำให้ตัวเองไม่ต้องกดดันมากเกินไป  หรือบางทีก็ต้องรักษาภาพลักษณ์  ไม่อยากให้คนรู้สึกผิดหวัง  เพราะฉะนั้นบางทีผมก็ฮัมเพลงบ้างเพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย  และผมไม่อยากให้คนรอบข้างรู้สึกว่าอาการหนัก  ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่เจอคนแปลกหน้าผมก็จะเงียบขรึมด้วยความเคยชิน
    และก็จะไม่คุย  แต่ผมรู้ว่าจะทำให้คน...เข้าใจผิด...ก็ไม่รู้สึกว่าจะเข้าใจผิดนะแต่จะทำให้ใกล้ชิดหรือสนิทกับผมยากขึ้น  ดังนั้นผมจะมีจุดบกพร่องอย่างมาก  ถ้าหากผมเจอคนที่คุยถูกคอผมจะยิ่งมีน้ำใจ  แต่ถ้าเจอคนที่ไม่สนิทคนก็อาจจะมองผมว่าค่อนข้างเย็นชา  แต่สำหรับผมแล้วไม่รู้จะพูดยังไง  จริงๆแล้วผมไม่รู้จะวางตัวยังไงมากกว่า  ตุ้ยอา  ก็เหมือนตอนนี้ผมอยากจะโดดหนีลงหน้าต่าง (ซวี่ทำให้นักข่าวขำใหญ่เลย)...เมื่อครู่นี้เราดูตารางเวลาโปรโมทแน่นมาก...อ้อตุ้ย...ดูว่าจะมีเวลาพอที่จะให้คุณออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้างมั้ย...ดีครับผมอยากไปหวังว่าพวกคุณจะให้โอกาสนี้กับผม...รอเดี๋ยว  เดี๋ยวคุณจะไปไหน (ซวี่ทำท่าลุกเตรียมไป)...เดี๋ยวจะไปโรงพยาบาลเยี่ยมเด็กคนนึงพวกเขาบอกว่าที่มาเลย์เซียมีเด็กคนนึงถูกไฟคลอกสาหัสมาก  ดูเหมือนจะแค่สามขวบ...ค่ะสองสามขวบ...ดูเหมือนถูกไหม้ไปทั้งตัว  อาศัยช่วงที่ยังพอมีเวลาก่อนที่ผมจะกลับไปถ่ายละครที่ใต้หวัน  ผมหมายถึงก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่อง  ก็จะไปเยี่ยมเขาสักหน่อยอื้ม...งั้นพวกเราก็เตรียมตัวเลย...ห่าว  พวกคุณก็ไปด้วยเหรอดีจัง...ตามไปได้มั้ย (ซวี่แกล้งทำหน้าเคร่งขรึม)...เออ  ไม่ได้! (พูดเสร็จขำตัวเอง)  ระหว่างเดินไปโรงพยาบาลทำหน้า cool มาก  และจับมือกับเจ้าหน้าที่คนนึง  เจ้าหน้าที่คนนั้นคอยอธิบายสิ่งต่างๆให้ซวี่ฟัง  และได้คุยกับแม่ของเด็กที่เคราะห์ร้ายคนนั้น   แม่เด็กยังเอารูปถ่ายของหนูน้อยที่ยังอยู่ในกล้องให้ซวี่ดูด้วย...คำบรรยาย: “ช่วงเวลาเจอรี่ถึงโรงพยาบาล  ปรากฏว่าบาดแผลของเด็กแย่ลง  กำลังอยู่ในระหว่างรักษา  ดังนั้นไม่สามารถพูดให้กำลังใจกับเด็กโดยตรง”  
    ภาพตัดมาที่สวนสาธารณะ...เมื่อสักครู่นี้ได้ไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาลและเจอกับครอบครัวของเด็กด้วย  จริงๆแล้วภาพที่เห็นทั้งหมดนี้จะทำให้คุณรู้สึกหดหู่  คุณจะทำยังไงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกคลี่คลาย  ให้ตัวเองไม่ต้องตกอยู่ในอารมณ์ที่หดหู่นี้...จริงๆแล้วก็ไม่เป็นหรอก  เหมือนเมื่อครู่นี้ที่ไปดูเขาและชีวิตของเขาทำให้ผมได้เห็นสัจธรรมของชีวิต  ผมยังคุยกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆผมว่า  คุณควรจะเอาเรื่องราวนี้เล่าให้ลูกคุณฟัง  เพราะผมรู้สึกว่าในทางกลับกันกลับเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจและเตือนใจได้  เหมือนช่วงนี้ผมทำงานหนักมากบางทีก็รู้สึกแย่เล็กน้อย  แต่ว่าเมื่อครู่นี้ผมไปดูเขากลับทำให้ผมเห็นถึงพลังแห่งชีวิต  ผมรู้สึกดีมากเลย  เหมือนเมื่อครู่นี้ได้ดูข่าวของเขาที่ตัดจากหนังสือพิมพ์ก็คิดอยากเอากลับไปใต้หวัน  แล้วเขาจะเป็นเรื่องดีๆที่เป็นบทเรียนในชีวิตคน  และสามารถเป็นภูมิต้านทานให้ตัวเองด้วย...ยิ่งเดินยิ่งใกล้ซวงจื่อซิงแล้วค่ะ...เข้าไปดูหน่อยมั้ย?พอดีเลยผมจะได้ซื้อของติดไม้ติดมือด้วย  อันนี้เหมือนตงฟางหมิงจูเลยที่เซี่ยงไฮ้ก็มีอันนึงใช่มั้ย (ไข่มุกตะวันออก?ไม่มีเวลาหาข้อมูลค่ะ)...คุณหมายถึงเจดีย์นี่เหรอ?เจดีย์คู่นี้คือเจดีย์กัวลาลัมเปอร์  มีบ้างมั้ยว่าบางครั้งคุณอยากจะนั่งเงียบๆอย่างนี้อยู่คนเดียว...มีสิมีบ่อยด้วยบางครั้งถ่ายละครเสร็จก็จะเล่นบทเก็บตัว  ก็คือในสถานที่ถ่ายทำพอเวลาเลิกกองแล้ว  รู้สึกเหนื่อยมากก็อยากเดินเล่นคนเดียวแบบนี้  ช่วงเวลาแบบนั้นสำคัญกับผมมากนะ...รู้สึกหรือไม่ว่าคุณที่อยู่หน้ากล้องกับตัวตนที่แท้จริงของคุณมันต่างกัน...ต่างกันมากแต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะเลยนะ  แต่ก็เพราะว่าผมรู้จักคุณมาสองวันแล้ว  ไม่อย่างนั้นผมจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว  แต่ผมก็ ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงตุ้ยอา(เหมือนเดิมเลยให้เดาเอง)...ไจ๋ๆก่อนหน้านี้เกิดเรื่องบางอย่างเหมือนจื้อหลิงก็ตกม้า (วกเข้ามาจนได้นิเก่งจริงๆ) ตอนนี้เธอจะออกมารับงานปกติแล้ว  แล้วคุณมีคำพูดอะไรที่จะฝากถึงพวกเขาหรือคำอวยพรพวกเขาบ้าง (โปรดสังเกตหน้าตี่ตี๊สิเหมือนบอกว่าตูคิดแล้วจะต้องมีจื้อหลิงเข้ามาเกี่ยวข้อง)...อืม  ก็หวังว่าเพื่อนๆที่รู้สึกว่าดวงไม่ดีในปีนี้ทุกคนจะพยายามมากขึ้น  ไม่ว่าไจ๋ไจ๋หรือเซี่ยวเทียนรวมทั้งจื้อหลิงด้วย  ผมคิดว่าวงการบันเทิงในปีนี้มีเรื่องราวและสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากมาย  และผมก็จะอาศัยตรงนี้เพื่อเตือนตัวเองให้ระวังตัวมากขึ้นและหล่อหลอมตัวเองให้ขยันมากขึ้นด้วย
    และนี่คือเจดีย์คู่ของมาเลย์เซียและเป็นบ้านในฝันของผมในอนาคต

    ขออภัยพี่ๆน้องๆค่ะไม่ได้ปรุงไม่ได้แต่งเสิร์ฟให้รับประทานดิบๆเลยนะคะ เนื่องจากเวลากดดันค่ะ โดนคุมตัวแจ


    แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 19:25:08

    แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 16:34:14

    จากคุณ : พี่ R - [ 16 พ.ย. 48 23:14:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป