ความคิดเห็นที่ 222
รู้จัก Plagiarism : โจรกรรมทางวรรณกรรม "พระบางรูปละเมิดทางเพศเด็ก พนักงานธนาคารบางคนขโมยเงิน พยาบาลบางคนฆาตกรรมคนไข้ และนักเขียนบางคนกระทำผิดไร้ยางอาย จากส่วนผสมของความตกต่ำทางจริยธรรมและความไร้เสถียรภาพทางอารมณ์ นักเขียนได้ขายวิญญาณแก่ปีศาจสองหัวของการลอกเลียนและการกุเรื่องขึ้นมาเอง" -- รอย ปีเตอร์ คลาร์ก อยากชักชวนให้รู้จัก Plagiarism หรือการลอกงานเขียนผู้อื่นโดยไม่ให้เครดิต เพื่อให้ผู้อ่านได้ระวังไม่กระทำสิ่งนี้ลงไปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การกระทำ Plagiarism เกิดขึ้นไม่น้อย ดูจะเป็นที่ยอมรับได้ทั่วไปในบ้านเรา เฟลิซิตี้คิดว่าหากอย่างน้อยคนอ่านหนังสือได้รู้ว่าการกระทำนี้ผิด นักเขียนและบรรณาธิการบางส่วนก็ย่อมต้องพัฒนาตัวเองตามไปด้วย ความหมายของ Plagiarism ราชบัณฑิตยสถานบัญญัติ Plagiarism (เพล้ต-เจอ-ริ-ซึ่ม) ไว้ว่า โจรกรรมทางวรรณกรรม หรือ การลอกเลียนวรรณกรรม ความหมายของคำนี้คือ การนำผลงาน ความคิด หรือคำพูดของผู้อื่นไปใช้โดยไม่ให้เครดิต หรือการนำความคิดและงานของผู้อื่นมาเขียน โดยทำให้ดูเหมือนว่ามาจากความคิดของตนเอง รูปแบบของการกระทำนี้มีตั้งแต่การคัดลอกมาทั้งหมดโดยไม่ระบุที่มา หรือการนำข้อเขียนของผู้อื่นมาเรียบเรียงเขียนใหม่ในแบบของตัวเอง โดยไม่ระบุที่มา เราควรทำความรู้จักคำนี้ เนื่องจากชีวิตเราต้องเกี่ยวข้องกับงานเขียนไม่มากก็น้อย จึงควรรู้ว่าเขียนอย่างไร จึงจะไม่ติดกับดักความผิดที่ได้ชื่อว่าร้ายแรงที่สุดของการเขียนไปได้ Plagiarism ไม่ดีอย่างไร Plagiarism ถือเป็นการผิดจรรยาบรรณที่ร้ายแรงที่สุดในอาชีพการเขียน เป็นการขโมยผลงานผู้อื่น เป็น "อาชญากรรมเลวร้ายที่สุดที่นักเขียนพึงกระทำ" (เกรก ทิงเกิล) เป็นความผิดถือว่ายกโทษให้ไม่ได้ในวงการวารสารศาสตร์ ผลจากการนี้ในประเทศพัฒนาแล้วมักลงเอยด้วยการไล่ออกจากสถานศึกษา หรือไล่ออกจากงาน ผู้ที่กระทำความผิดสถานนี้มักจบสิ้นอนาคตในอาชีพการเขียน หรือหมดศักดิ์ศรีอีกต่อไปในการประกอบวิชาชีพนักเขียน ผู้กระทำความผิดนี้ ไม่สามารถใช้คำว่า "ไม่รู้" เป็นข้อแก้ตัวได้ หากนักเขียนอาชีพยังไม่รู้ว่าการลอกเลียนงานเขียนนั้นผิด ผู้อ่านจะสามารถหวังอะไรกับนักเขียนชนิดนี้ได้ My books need no one to accuse or judge you: the page which is yours stands up against you and says, "You are a thief." -- Marcus Valerius Martialis, Latin poet (c. 40 - 103) from Epigrams (bk. I, ep. 53) ธรรมชาติของ Plagiarism คำว่า plagiarism มีรากศัพท์จากคำละติน plagiarius ที่หมายความว่า 'ผู้ลักพาตัว' รอย ปีเตอร์ คลาก จากสถาบันพอยต์เตอร์ ระบุรูปแบบของการกระทำนี้ว่า "เกือบทุกกรณีเป็นการกระทำที่จงใจ" การกระทำนี้มักเป็นผลจากนักเขียนที่ขี้เกียจทำงาน (SPJ) "การรีบเร่งให้ทันเวลา ความเหนื่อยล้า" (Poynter) "ขาดความคิดสร้างสรรค์ ขาดความคิด ขาดความมั่นใจ ขาดจริยธรรม" (เกรก ทิงเกิล) นอกจากนั้นแล้ว Plagiarism อาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ โดยเป็นความสะเพร่า เช่นการจดบันทึกแหล่งข้อมูลแบบชุ่ย จนทำให้เวลานำมาใช้ ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นข้อความของตัวเองเขียน หรือไปจดมาจากที่อื่น บ้างเป็นเพราะการละเลยจดแหล่งข้อมูล จึงนำมาใช้โดยไม่ได้อ้างอิง Plagiarism พบได้มากขึ้นในยุคอินเทอร์เน็ต เนื่องจากผู้ลอกเลียนสามารถ copy-and-paste ได้โดยง่าย เนื่องจากวัตถุดิบอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว "แน่ล่ะว่าเราไม่มีความคิดที่เกิดขึ้นเองได้มากนัก น้อยคนนักที่จะมีความคิดที่ออกมาจากตัวเองจริงๆ แต่เราจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ตามแบบของตัวเอง ซึ่งมาจากทุกอย่างที่เราได้กระทำในชีวิตจนถึงวันนี้" -- What is Plagiarism มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ การป้องกัน บันทึกที่มาของข้อมูลอย่างเป็นระบบ แยกแยะถ้อยคำของเราเองจากคำที่ยกมาจากคนอื่น วิทยาลัยแฮมิลตันให้หลักการป้องกัน plagiarism ว่าจงระบุแหล่งที่มาของข้อมูลเสมอ เมื่อเราใช้สิ่งต่อไป ความคิด ความเห็น ทฤษฎี ของผู้อื่น วาทะ หรือข้อเขียนของผู้อื่น นำถ้อยคำหรือข้อเขียนของผู้อื่นมาเขียนใหม่ในภาษาของตัวเอง หรือการสรุปความผู้อื่น ข้อเท็จจริง สถิติ กราฟ รูปวาด หรือข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลพื้นฐานที่รู้กันทั่วไป สังเกตว่าการนำงานเขียนผู้อื่นมาเรียบเรียงเขียนใหม่ด้วยภาษาของตนเอง แต่ใจความนั้นยังเป็นของคนอื่นทั้งสิ้น ก็ต้องระบุแหล่งที่มา หาไม่แล้ว ก็ยังถือเป็นการลอกเลียนอยู่ดี หรือต่อให้ระบุแหล่งที่มาครบถ้วน แต่หากนำประโยคหรือวลีของผู้อื่นมาใช้ ก็ต้องระบุวลีเหล่านั้นในเครื่องหมายคำพูด มิฉะนั้นแล้ว ก็ยังถือเป็น plagiarism อยู่ดี ว่าง่ายๆ คือสิ่งที่ไม่ได้มาจากตัวเราเอง จะต้องทำให้รู้ว่าไม่ได้มาจากตัวเอง และบอกแหล่งที่มาของข้อมูล บรรณาธิการ กับ Plagiarism บรรณาธิการจำนวนมากไม่ได้วางแนวทางจริยธรรมไว้ ดังคำกล่าวนี้ "บรรณาธิการจำนวนมากด้อยทักษะการตัดสินใจเรื่องจริยธรรม บรรณาธิการเหล่านั้นจึงเป็นตัวอย่างอันไร้ประสิทธิภาพ และไม่สามารถเป็นผู้นำนักเขียนในเรื่องจรรยาบรรณอย่างได้ผล ความล้มเหลวในการเป็นผู้นำได้กลายเป็นความล้มเหลวทางจรรยาบรรณวิชาชีพ" -- บ็อบ สตีล บรรณาธิการส่วนใหญ่อาจเชื่อว่าเรื่องนี้ 'ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แก่ใจ' แต่ในโลกจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดังเห็นได้จากกรณีข่าวอื้อฉาวของ plagiarism ที่เกิดตามกันมาครั้งแล้วครั้งเล่า สถาบันพอยต์เตอร์จึงแนะนำบรรณาธิการว่า "ควรแจ้งให้ทีมงานทราบว่า plagiarism เป็นเรื่องร้ายแรงที่นิตยสารจะไม่ผ่อนปรนและไม่ยินยอมให้เกิดขึ้น" พร้อมทั้งเขียนนโยบายนี้ออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร และบอกให้พนักงานใหม่ทราบ นักเขียนจำนวนมากในปัจจุบัน ไม่ได้จบตรงจากสายวารสารศาสตร์ การหวังว่านักเขียนย่อมรู้จรรยาบรรณในวิชาชีพตัวเอง อาจเป็นความคาดหวังที่ไม่ถูกต้อง เมื่อมีการลอกเลียนเกิดขึ้น บรรณาธิการย่อมต้องรับผิดชอบด้วยเสมอไป เนื่องจากกรณีนี้แสดงความบกพร่องในการทำงานของบรรณาธิการ จะอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ทำเอง หรือไม่รู้ไม่เห็นนั้นไม่ได้ ในประเทศพัฒนาแล้ว หากมีการลอกเลียนเกิดขึ้นกับหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร บรรณาธิการจะรับผิดชอบโดยการชี้แจงต่อสาธารณะ และลงโทษนักเขียน เช่น ไล่ออก พักงาน เปลี่ยนตำแหน่งนักเขียน (เคยมีการเปลี่ยนตำแหน่งนักเขียนให้ไปเป็น copy editor แทน หลังนักเขียนลอกงาน) หากบรรณาธิการไม่ทำอะไรเลยเมื่อเกิดการลอกงาน ก็เท่ากับว่ายอมรับและรอมชอมให้หนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารของตนกระทำการลอกงานได้โดยไม่ถือสา และไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณ ซึ่งนับเป็นทัศนคติในทางที่ไม่สร้างความน่าเชื่อถือแก่หนังสือนั้นๆ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีบรรณาธิการที่ตระหนักในจรรยาบรรณวิชาชีพคนใดจะนิ่งนอนใจกับกรณีการคัดลอก บ็อบบี ลินเน็ต เจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์ 26 หัวและสถานีวิทยุ 12 แห่ง กล่าวว่า Plagiarism มีผลร้ายต่อชื่อเสียง ยอดโฆษณา และยอดขายหนังสือ กรณีศึกษาในบ้านเรา * การลอกผลงานของกันยามาส * กันยามาสกล่าวถึงคู่กรณีการลอกผลงาน ในอีกสองปีต่อมา ข้อมูลเพิ่มเติม ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Plagiarism ลองค้นหาคำนี้ได้จากเว็บ google เมื่อใดที่คนเรารู้จักเคารพตนเองและเคารพผู้อื่นมากขึ้น การลอกเลียนงานเขียนจะเกิดขึ้นน้อยลง อ้างอิง * Clark, Roy Peter. The Global War on Plagiarism: Fighting the Pirates of the Press. Poynter. Aug 26, 2004. * Clark, Roy Peter. Pee in the Cup. Poynter. May 11, 2004. * Hamilton College. Using Sources. 2004. * Johnke, Tracy. Society of Professional Journalists Puts Spotlight on Plagiarism. Society of Professional Journalists. May 11, 2003. * McBride, Kelly. What's Fit to Print. Poynter. May 11, 2003. * Tingle, Greg. Journalistic plagiarism is out of control. February 17, 2005. เฟย์ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๘ Copyright ? 2005 faylicity.com ที่มา:[faylicity.com]
. . .
สืบเนื่องมาจากกระทู้ที่มีการตั้งขึ้นเพื่อเปิดเผยการลอกเลียนงานเขียน
ขอชี้แจงให้ทราบว่าฝ่ายที่เป็น ผู้ถูกกระทำ คือ
แสง สีรุ้ง ซึ่งออกงานในนามสำนักพิมพ์อักขระบันเทิง
และ ผู้กระทำ การลอกเลียนงานคือ
ทอฝัน ซึ่งนำงานดังกล่าวมาออกใช้ในนาม สำนักพิมพ์ใยไหม
ทั้งนี้หนังสือเรื่อง หรือเราไม่ได้รักกัน ที่เขียนโดย ทอฝัน
ไม่ได้ลอกเลียนแต่งานของ แสง สีรุ้ง แต่เพียง ผู้เดียวเท่านั้น
ยังมีนักเขียนคนอื่นที่ถูกกระทำตามความดังกล่าอีกด้วย
จึงขอชี้แจงมา ณ ที่นี้
อนึ่ง
การออกมาเปิดเผยความครั้งนี้ ผู้ถูกกระทำไม่ได้ต้องการอื่นใด
นอกไปจากการแสดงความรับผิดชอบ
ในฐานะขององค์กรหนึ่งทางวรรณกรรม และคนหนึ่งซึ่งดำรงตนอยู่ในสายอาชีพนี้
อย่างมีสปิริตของตนเองในจรรยาบรรณของวิชาชีพ
จากคุณ :
คราม
- [
13 ธ.ค. 48 17:47:32
A:58.11.14.159 X:
]
|
|
|