CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    hide tribute: Review 5 อัลบั้มรวด

    ตั้งแต่งาน FAT แล้ว ผมก็ไม่ค่อยได้เขียนบล็อกเท่าไหร่เลยครับ ทั้งนี้เพราะขี้เกียจด้วย แล้วก็ไม่มีอัลบั้มที่กระตุ้นความอยากเขียนเลย อีกทั้งช่วงนี้เงินค่อนข้างขาดตอน ไม่ค่อยได้ซื้ออัลบั้มใหม่ๆ มาฟัง (ล่าสุดที่ซื้อไปคือ James Blunt เพราะขาดใจมากกกกครับ ขอเชียร์ แต่ไม่เขียนรีวิวเพราะเห็นมีคนแนะนำไว้เยอะมากกก)

    วันนี้ไม่ได้ฤกษ์งามยามดี เพียงแต่นึกคึก อารมณ์อยากเขียนพลุ่งพล่าน อีกทั้งเป็นเดือนสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นเดือนเกิดของนักดนตรีผู้หนึ่งซึ่งจากพวกเราไปแล้ว (และเขาก็เป็นหนึ่งในอิทธิพลทางดนตรีที่สำคัญของผม) เลยอยากจะเขียนอะไรเพื่อเป็นการระลึกถึงเขาคนนั้นดูบ้าง (เห็นมีคนตั้งกระทู้รำลึกถึงเขาไปแล้วด้วย) เขาคือชายชาวญี่ปุ่นผมแดงที่ชื่อฮิเดะ (hide) ครับ

    บทความนี้ ผมจะมุ่งไปที่ผลงานของฮิเดะเป็นหลักนะครับ (อาจมีความหลังส่วนตัวแทรกอยู่ประปราย และจะไม่กล่าวถึงประวัติหรือเรื่อชีวิตส่วนตัวของเขา ซึ่งจะทำให้บทความยาวเกินไป ไปหาข้อมูลในเน็ตละกัน คงหาไม่ยาก) เพราะคิดว่าเฉพาะผลงานเพลงอย่างเดียว ก็กินไปหลายหน้าแล้วครับ ผลงานในที่นี้ จะนับเฉพาะผลงานที่เป็นอัลบั้มเท่านั้น ไม่รวมพวกซิงเกิ้ล (ซึ่งผมมีบ้างไม่มีบ้าง) และก็ไม่รวมพวกรวมฮิตและ remix นะครับ เพราะฉะนั้น ผมจะรีวิวผลงานทั้งสามอัลบั้มของฮิเดะ ผลงานที่ฮิเดะทำในนามของ zilch และปิดท้ายด้วยผลงานที่ศิลปินญี่ปุ่นชื่อดังทำเพื่อ Tribute ให้ฮิเดะ

    เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจะเริ่มต้นจาก HIDE YOURE FACE debut solo album ที่ออกวางขายในปี 1994 ช่วงนั้น X เริ่มพักวง และสมาชิกต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานเดี่ยว ซึ่งผลงานของแต่ละคนที่ออกมาก็แตกต่างจาก X ไปเลย โดยเฉพาะโซโล่อัลบั้มชุดนี้ของฮิเดะ (ต่อไปจะเรียกว่าลุงนะครับ เพื่อประหยัดเวลาพิมพ์) ที่ฉีกภาพมือกีต้าร์ของ X ซะกระจุย เพราะนอกจากจะเล่นกีต้าร์เอง (ไม่เล่นได้ไง เขาเป็นมือกีต้าร์นะครับ) ลุงยังแต่งเนื้อร้องทำนองเองเกือบทุกเพลง แถมท้ายด้วยการโปรดิวซ์ คิดคอนเซปท์ (สื่ออกมาใน booklet งามหยดมากๆ) และที่เด็ดขาดมากคือร้องเองด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่างานเดี่ยวของลุงจะเป็นตัวของตัวเองขนาดไหน

    ในฐานะสมาชิกของ X นั้น ลุงอาจจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่สร้างความแตกต่างให้ปรากฏได้มากที่สุด เพราะผลงานของ X นั้น ค่อนข้างจะชัดเจนและมีรูปแบบที่ค่อนข้างแน่นอน หากแต่ลุงสามารถทำได้ โดยผ่านลีลาการแสดงบนเวที รวมทั้งผลงานที่แต่งเอาไว้ในฐานะสมาชิกของ X เมื่อมาถึงโซโล่อัลบั้มชุดแรก ลุงก็ก้าวไปไกลกว่านั้นอีกครับ (อย่างที่บอกเมื่อย่อหน้าก่อนว่าลุงฉีกภาพมือกีต้าร์ของ X ซะกระจุย) ภาพปก booklet ล้อกับชื่ออัลบั้มได้อย่างสนุก (เป็นภาพคนสวมหน้ากากเหล็ก) เปิดไปแต่ละหน้าก็จะเห็นความพิถีพิถันในการออกแบบ และสร้างจินตนาการตามที่แต่ละคนจะมอง (ไปหาดูกันเองละกันครับ)

    มาว่ากันที่ตัวเพลงบ้างครับ เปิดอัลบั้มด้วย PSYCHOMMUNITY เพลงบรรเลงโชว์ไอเดีย โดดเด่นด้วยเสียงกีต้าร์คู่ แล้วค่อยๆ เพิ่มความฮึกเหิมในตอนท้าย ก่อนที่เสียงกีต้าร์ในเพลง DICE จะขึ้นมาชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ทันตั้งตัว เสียงกีต้าร์ในเพลงนี้ทั้งรุนแรงแล้วก็เท่มากๆ ด้วย ท่อนโซโล่ติดกลิ่นของ X มานิดหน่อย ส่วนเสียงร้องของลุงนี่ต้องบอกว่าผิดคาด เพราะว่าเสียงหล่อมากๆ เลยยิ่งทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่น่าจดจำเข้าไปอีก ต่อด้วย SCANNER ดนตรียุ่งเหยิงนัวเนียด้วยเสียงสังเคราะห์และ effect มากมาย เฉียดๆ industrial เลยครับ ดนตรีแรงมาก เพลงต่อมาป๊อปจ๋าเลย EYES LOVE YOU (T.T. version) ลงตัวไปหมด ทั้งเสียงร้อง ดนตรี ติดหูมากๆ ท่อนโซโล่ตอนกลางกับตอนท้ายเก๋ไก๋มาก D.O.D (DRINK OR DIE) เสียงร้องยียวนกวนประสาท ทำให้สงสัยว่าลุงดื่มมาก่อนเข้าห้องอัดหรือเปล่า (ตามชื่อเพลง) เพลงนี้เหมือนลุงทำเอาขำๆ มันๆ เพราะสั้นจุ๊ด

    CRIME OF BREEN St. เป็นเพลงบรรเลงสั้นๆ คั่นเวลา ก่อนจะต่อกันด้วยเพลงจิตป่วนอย่าง DOUBT (remix version) หนักหน่วงทั้งดนตรีและเสียงร้อง effect เพียบ หูชาเลยครับ แล้วจู่ๆ ก็หักอารมณ์ด้วย A STORY เพลงหม่นเศร้าที่สุดในอัลบั้ม เสียงร้องกระซิบกระซาบ ทำให้เพลงนี้ยิ่งหม่นและงดงาม FROZEN BUG ’93 (DIGGER version) อีกหนึ่งเพลงจิตหลุด ที่ปั่นป่วนไปด้วยเสียงโน่นเสียงนี่ ผสมกับเสียงร้องกวนๆ โอ้ยยยย T.T.GROOVE เพลงบรรเลง 30 วินาที แบบมาเร็วไปเร็ว ก่อนจะต่อด้วย BLUE SKY COMPLEX เครื่องเป่าโดดเด่นแพรวพรายทั้งเพลง ลุงกลับมาร้องเสียงหล่อๆ อีกครั้ง OBLAAT (remix version) แค่ขึ้นต้นก็รู้แล้วว่าจะป่วนขนาดไหน เพิ่งจะชมไปหยกๆ เพลงนี้กลับมาร้องยียวนอีกแล้ว แต่ท่อนฮุคป๊อปมากๆ ไม่รู้ทำให้เข้ากันได้ยังไงเนี่ยะ

    TELL ME หนึ่งในเพลงอมตะของลุง ป๊อปที่สุด ดังที่สุด กีต้าร์เล่นเหมือนจะง่าย แต่แพรวพรายมาก ลงตัวไปซะทุกสิ่งอย่าง HONEY BLADE ผสมความเบาและหนักเข้ากันได้อย่างลงตัว ดนตรีลูกล่อลูกชนเพียบ 50% & 50% (อ่านว่า fifty-fifty) CRYSTAL LAKE version ขึ้นต้นด้วยเสียงนกร้องริมทะเลสาป เสียงหาคลื่นวิทยุ แล้วต่อด้วยอคูสติกกีต้าร์สับคอร์ดอย่างเมามัน เสียงไวโอลินเพิ่มความคึกคักให้กับเพลงได้อีกเพียบ ตอนท้ายเพลงกลับไปเป็นเครื่องดนตรีไฟฟ้าอีกครั้ง ดนตรีเมามันไม่แพ้กัน ปิดท้ายด้วย PSYCHOMMUNITY EXIT ก็เพลงแรกนั่นแหละ แต่เอามาทำให้ป่วนเล่นๆ

    บางเพลงจะมีวงเล็บต่อท้ายว่าเป็น version โน้นนี้ ซึ่ง version อื่นๆ จะหาฟังได้จากแผ่น single ซึ่งผมก็ไม่มีปัญญาซื้อเก็บ (ตอนนั้นต้องแบเงินขอพ่อแม่สถานเดียว) กว่าจะเก็บซื้อ HIDE YOUR FACE ได้ก็ตั้งนาน (เป็น cd แผ่นญี่ปุ่นแผ่นแรกที่ซื้อเลยครับ) เพราะฉะนั้น ใครอยากฟัง version อื่นๆ ก็ไปหากันตามสะดวกนะครับ

    ถัดมาในปี 1996 โซโล่อัลบั้มชุดที่สองของลุงก็ได้ฤกษ์วางจำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า PSYENCE ลุงยังเหมาหน้าที่ร้องนำ กีต้าร์ โปรดิวซ์ แต่งเพลง เหมือนเดิม แถมได้เพื่อนพ้องพี่น้องมาช่วยกันเพียบ โดยเฉพาะทีมนักดนตรีที่ออกทัวร์กับลุง (ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่ช่วยลุงทำงานมาตั้งแต่อัลบั้มแรก) ซึ่งเริ่มแสดงความเป็นวงออกมาให้เห็นมากขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาคอนเสิร์ต ที่จะมีช่วงโชว์ของแต่ละคนชนิดไม่น้อยหน้ากันเลย) ก่อนจะพัฒนาไปเป็น hide with Spread Beaver ในชุดต่อไป

    ไปอ่านต่อในบล็อกนะครับ เพราะยาวจัด โพสไม่หมด

    จากคุณ : strawberry machine gun - [ 19 ธ.ค. 48 10:43:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป