ความคิดเห็นที่ 4
1998 Something Wide ตั้งวงปี 1993 ที่เมืองเอสพู ฟินแลนด์ โดยอเลกซีกับแจสกาใช้ชื่อ Inearthed เล่นแนวเมโลดิกเดธ จนเปลี่ยนชื่อเป็น COB ในปี 1997 อัลบั้มเปิดตัวนี้สร้างความฮือฮาด้วยดนตรีดิบเถื่อนผสมเมโลดีสวยงามของคีบอร์ดจนวงการเมโลดิกเดธของยุโรปและญี่ปุ่นคลั่งไคล้ ขนาดมีโบนัสแทร็กเป็นเพลง Mass Hypnosis ของ Sepultura แถมในแผ่นญี่ปุ่น
1999 Hatebreeder ดนตรีแน่นและโปรดักชันสมบูรณ์แบบมากขึ้น มีเพลงระดับตัวแทนของวงหลายเพลง อาทิ Warheart ,Silent Night ,Bodom Night ,Downfall และไตเติลแทร็ก ซาวน์ดกีต้าร์ของอเลกซีพัฒนาไปมาก เล่นทั้งเมโลดิกเดธ, เพาเวอร์และนีโอคลาสสิกตามอิทธิพลของดนตรีที่เขารับมา นอกจากนี้ยังคัฟเวอร์เพลงของวง Stone เมทัลรุ่นพี่ของฟินแลนด์มาด้วย
1999 Tokyo Warhearts ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นมากขนาดต้องไปโชว์ที่นั่นร่วมกับ Sinergy โดยเล่นเป็นวงเปิดให้ In Flames อัลบั้มนี้ผลิตแบบจำกัดจำนวน แถมการ์ดภาพการ์ตูน 1 เซ็ต และหายากมากจนเป็นที่ต้องการของแฟนตัวจริงและเมทัลเฮดทั่วโลก อัลบั้มนี้ออกในช่วงเวลาที่โปรเจกต์นอกเวลาอย่าง Sinergy ของอเลกซี, Virtuocity ของเจสกาและ Warman ของเจนเนไปได้ดี
2000 Follow The Reaper หันเข้าหาดนตรีเพาเวอร์มากขึ้น ซาวน์ดพัฒนาขึ้นจาก 2 อัลบั้มแรก ยิ่งปีเตอร์ แทกต์เกรน มือกีต้าร์ของ Hyprocricy มาเป็นโปรดิวเซอร์แทนแองซี คิปโป ยิ่งทำให้ซาวน์ดยอดเยี่ยม จนได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำในฟินแลนด์ ไตเติลแทร็ก, Bodom After Night, Children of Decadence, Hate Me เป็นเพลงเด่น และยังประสบความสำเร็จไปทั่วโลก
2003 Bestbreeder from 1997 to 2000 อัลบั้มรวมเพลงชุดแรกที่ออกในญี่ปุ่นโดย Toys Factory ปัจจุบันโดย Universal International นำเพลงเด่นจาก 4 อัลบั้มแรกมารวมเพิ่ม Rebel Yell ที่คัฟเวอร์เพลงสุดดังของบิลลี ไอดอลเข้ามาเป็นแทร็กแรก และอเลกซีก็ร้องด้วยน้ำเสียงปกติ ซึ่งมีทั้งแฟนเพลงที่ชอบและอยากให้ร้องดิบเถื่อนแบบเก่า อย่างไรก็ตาม ยังเป็นอัลบั้มที่ขายดีในยุโรปและญี่ปุ่นเหมือนเคย
2003 Hate Crew Deathroll ด้วยไลน์อัปชุดเดิม ทำให้ทีมเวิร์กลงตัว ซาวน์ดและดนตรีหลากหลายขึ้น ความดิบเถื่อนและดุดันลดน้อยลง เพิ่มความหนักและเพาเวอร์มากขึ้น ตลอดจนเสียงสังเคราะห์และบทบาทของคีบอร์ดที่มากขึ้น และแองซีก็กลับมาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกครั้ง ธรรมเนียมปฏิบัติอีกอย่างก็คือโบนัสแทร็กเฉพาะญี่ปุ่น คราวนี้เป็น Silent Scream ของ Slayer กับ Somebody Put Something in My Drink ของ Ramones
2004 Trashed, Lost & Strungout เป็นอีพีขัดตาทัพ ที่ได้โรเป มาแทนตำแหน่งกีต้าร์ของอเลกซานเดอร์ คูโอฟาลา มีเพลงใหม่เพียง 2 เพลง คือ ไตเติลแทร็กกับ Knuckleduster ส่วน Bed of Nails เป็นเพลงเก่าของอลิส คูเปอร์ โดยมี She is Beautiful เพลงดังของแอนดรูว์ ดับเบิลยูเค เป็นเพลงปิดท้าย ยังออกเป็นแพ็กพิเศษคู่กับดีวีดีด้วย เป็นของสะสมในหมู่แฟนเพลงเข้าสายเลือดไปแล้ว
2005 Are You Dead :-) ? อัลบั้มใหม่ที่เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและรุนแรงสุดๆ ท่อนบรรเลงยังเต็มไปด้วยเมโลดีสวยงามอีกมากมาย บางเพลงสื่อสื่ออิทธิพลของนีโอคลาสสิกผสมกับเมโลดิกสปีดเมทัลด้วย น่าจะเป็นอัลบั้มที่ถูกใจแฟนเพลงยุคแรกมากที่สุด โบนัสแทร็ก 2 เพลง คือ Oops!...I Did It Again ของบริตนีย์ สเปียร์ส !!! และ Talk Dirty to Me ของ Poison แฮร์เมทัลยุคปลายจากแอลเอเมทัล
จากคุณ :
hijack02
- [
24 ธ.ค. 48 11:57:41
A:203.113.70.75 X:
]
|
|
|