ความคิดเห็นที่ 1 ค่ายเพลงค่ายหนังนั่นแหละ ประวัติศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า แม้ในยุคที่ไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ งานดีๆ ก็มีน้อย งานห่วยๆ ก็เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และศิลปินก็ถูกค่ายกดขี่เหมือนเดิม จากคุณ : อะธีลาส - [ วันสิ้นปี 08:40:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ยังไง ๆ เทปผีเนี่ย ไม่มีใครได้อะไรเลยนะครับ นอกจากพวกชุบมือเปิด ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับกระบวนการสร้างผลงาน (จริงมะ) จากคุณ : Gorath - [ วันสิ้นปี 09:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผีผลงานต่างชาติ เงินเราไม่รั่วไหล ผีผลงานของเราเอง ชาติล่มจม ผีไม่ได้เลวร้ายไปหมด อยู่ที่เราจะใช้ อิอิอิอิอิ จากคุณ : Jarod - [ วันสิ้นปี 09:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ค่ายเพลงแหงอยู่แล้ว   เดี๋ยวนี้อย่าคิดว่าแต่งเพลงขึ้นมาแล้วลิขสิทธิ์มันต้องเป็นของคนแต่งเสมอไป   ยุคนี้ค่ายเพลงเขาใช้สัญญาเป็นตัวกำหนดครับ  ประมาณว่าถ้าคุณแต่งเพลงขึ้นมาแล้วให้เจ้าของค่ายเพลงเป็นเจ้าของในลิขสิทธิ์   คนแต่งเลยกลายเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนในบริษัท  หรือถ้าดังๆหน่อยก็แบ่ง % กัน จากคุณ : wiseman - [ วันสิ้นปี 09:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่ายเพลงก็ต้องจ่ายเงินเยอะนะ ต้นทุนแผ่นซีดีนะไม่เท่าไหร่หรอกตัดออกไปเลย แต่ค่าจ้างคนทำงานเพลงนี้สิ จำนวนไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่แค่ศิลปินกับโปรดิวเซอร์ทำกันสองคนซะเมื่อไหร่ คนแต่งทำนอง เนื้อร้อง คนทำsound ห้องอัด คอรัส อันนี้แค่ภาพในห้องอัดน่ะ ไม่นับทีมงานที่สร้าง concept ตัวศิลปินหรืออัลบัมขึ้น และทีมการตลาด การโปรโมท ในแต่ละฝ่ายมันมีคนอีกเยอะ ปาไปเท่าไหร่แล้วเนี้ยะ พวกนี้คงไม่ได้ตังค์เลยสักกะแดงเดียว คนได้ประโยชน์ก็มีสองคนไงคือ คนฟังเพลงฟรีกับคนก็อป จากคุณ : คนฟังที่คิดมาก - [ วันสิ้นปี 10:32:05 A:61.91.136.102 X: TicketID:106335 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ค่าโปรโมทผ่านสื่อต่างๆด้วยครับ ศิลปินจะดีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ออกทีวีฟรีๆนะเอ้อ จากคุณ : xx SlipNOTE Kevin Theater xx - [ วันสิ้นปี 10:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างน้อย พวกผีก็ทำให้ค่ายใหญ่ๆต้องลดราคาลงมาได้แยะ ช่วยให้ผู้บริโภคจ่ายน้อยลง ถ้ายังจำกันได้ เมื่อก่อนซีดีเพลง แกรมมี่/อาร์เอส แผ่นละ 2-3 ร้อย หนังของแมงป่องเรื่องละ 5 ร้อยกว่า ตอนนี้ BLADE 1 เหลือ 39 จำจนวันตายเลยเนี่ยะ แมงป่อง ฟันตูซะอ่วม ฮ่วย!!! จากคุณ : ยำขาหมูทอดกรอบ - [ วันสิ้นปี 10:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถูกทุกข้อครับ ลองคิดดูสักนิด คำพูดที่ว่า "ถ้าคนไทยเลิกฟังเทปผีซีดีเถื่อน แล้วหันมาซื้องานลิขสิทธิ์แบบถูกกฎหมายกันหมด ถามว่าใครจะได้รับประโยชน์มากที่สุด"  ไม่ได้หมายความว่า เรารวยขึ้นถึงขนาดซื้องานเพลงได้ทุกชิ้น แต่หมายถึงเรามีจิตสำนึกในการซื้อสินค้าลิขสิทธ์ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีคือ มีการคัดสรรผลงาน เพราะเราไม่สามารถซื้อได้หมดเหมือนซื้อแผ่น Vampire Mp3 ดังนั้นเราจะซื้ออะไรเราคงต้องคัดแล้วว่ามันดีที่สุด ใช่จริง โดนจริง ถึงจะหยิบยื่นเงินซื้อเข้ามา ก็จะเกิดการคัดเลือกผลงาน ผลงานไหนด้อยคุณภาพก็ขายไม่ออก ซึ่งทำให้ค่ายเพลงต่าง ๆ พัฒนาตัวเองด้วย อีกทั้งเงินทองที่ค่ายเพลงได้มา ก็ได้มาเต็มเม็ดเต็มหน่วยศิลปินที่ขายผลงานได้ก็แสดงว่ามีความสามารถที่ดี ก็มีกำลังใจในการผลิตผลงานออกมา พวกผลงานขยะก็จะลดลง เพราะมันขายไม่ออก  แต่มันก็เป็นโลกในอุดมคติ เพราะปัจจุบันยังไม่มีใครทำให้มันเป็นจริงขึ้นได้ อีกทั้งการปลูกจิตสำนึก หรือเจตคติที่ดีในเรื่องของลิขสิทธ์ก็ยังไม่มากพอ ไม่ดีเพียงพอ เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ -*- จากคุณ : Fwd - [ วันสิ้นปี 11:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าตั้งต้นการคิดด้วย bias แล้ว ยังไงคำตอบก็ออกมาตาม bias จากคุณ : Kindaichi - [ วันสิ้นปี 11:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกวันนี้พวก indy เขาทำออกมาแบบไม่กลัวก็อป ไม่ง้อค่ายใหญ่ เขา็ก็มียอดขายอยู่ในระดับพอไปได้ แปลว่า ทุกวันนี่ที่ตลาดมันเป็นแบบนี้เพราะนายทุน ยัดเยียดเพลงด้วยสื่อตัวเอง ขนาดมีคลื่นเยอะ ยังจะมั่วนิ่มประมูลเอาคลื่นที่เป็นคลื่นข่าวและสาระมาทำอีก มันจะบงการรสนิยมคนฟังไปถึงไหนมิทราบ จึงสนับสนุนให้สนับสนุนค่ายใหญ่เฉพาะนักร้องที่มีคุณภาพจริงๆเท่านั้น นักร้องย้อมแมว หลอกเด็ก ไม่ซื้อ แต่ค่ายเล็กๆ ถ้าวงไหนเข้าตาจริงๆ ควรซื้อของแท้ครับ นายทุนจะได้ไม่รวยเกินไป ศิลปินมีฝีมือแท้ๆก็จะได้อยู่รอด จากคุณ : bbiggy - [ วันสิ้นปี 12:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลอกคำตอบ ตาคินได้มั้ยเนี่ย จากคุณ : jetboat - [ วันสิ้นปี 12:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เทปผีซีดีเถื่อนจะหายไปเอง ในระยะยาวถ้าคนใช้เนทมากขึ้น เพราะคนจะฟังเพลงออนไลน์หรือซื้อทางเนท อ่านข่าวว่าเกาหลีมีร้านขายซีดีปิดร้านไปเรื่อยๆ ต่อไปเทปคงเลิกผลิต ตามด้วยซีดี เครื่องเสียงต่อไปมี port USB เวลาฟังก็เอา thumb drive หรือMP3playerเสียบ อ้อ..เคยเห็นโฆษณาเครื่องเสียงมี port USBแล้ว จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ - [ วันสิ้นปี 13:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเป็นเรื่องซอฟท์แวร์ผมว่า เราเองก็จะได้ประโยชน์ด้วย เพราะจะเกิดความจำเป็นในการ ทำเองใช้เอง.... ...แต่นี่คือห้องเฉลิมกรุง เกี่ยวกับเรื่องเพลงและบันเทิง ผมว่าคนที่ได้ประโยชน์คือ ค่ายเพลง และศิลปินครับ จากคุณ : Bluegear - [ วันสิ้นปี 13:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ซื้องานของศิลปินที่คุณชอบจริงๆก็พอครับ เพราะอย่าลืมว่าเพลงในอัลบั๊มที่ดังๆจริง ไงก็มาทำรวมฮิตอยู่ดีครับ จากคุณ : cpe76329 - [ วันสิ้นปี 13:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เหมือนกรรมเก่าอะนะ เมื่อก่อนพวกค่ายเพลงก็ก๊อปเพลงฝรั่งมาทำเป็นเพลงตัวเอง ตอนนี้เลยโดนเข้าบ้าง ส่วนคนบริโภคเอง คนที่มีเงินพอที่จะซื้อก็คงซื้ออะ ใครๆก็อยากได้เพลงที่ตัวเองชอบ มี คุณภาพสูง เก็บไว้ได้นานๆอยู่แล้ว ส่วนประโยชน์ถ้ามองแล้วมีหลายทางที่ได้รับแต่ที่แน่เราก็ได้ฟังเพลงเพาะๆ อะ จากคุณ : โทโมกะ - [ วันสิ้นปี 16:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมฟังmp3ครับไม่มีใครฟังเทปกับcdกันแล้วเพราะขี้เกียจกดเปลี่ยนตอนหมดม้วนเสียเวลา เห็นที่เมืองนอกมีmp3แบบถูกกฎหมายขายกันแล้ว แต่เมืองไทยยังเป็นเทปอยู่ บางทีจะซื้อcdแท้มาฟังเพลงดูหนังก็เสือกใส่ไวรัสกันโหลดลงคอมซะงั้นใช้แผ่นผีแม่งซะเลยหมดเรื่องยุ่งยาก ก็สงสารศิลปินนะอยากอุดหนุนของแท้ต้องโทษต้นสังกัดเสื่อกโง่ไม่ตามสมัยถ้าทำเป็นmp3แบบถูกกฎหมายนะผมยอมจ่ายตังค์ซื้อนะแบบขายเป็นเพลงไปเลยหรือทั้งชุดก็ได้คิดว่าถ้าทำแบบผมว่าศิลปินน่าจะขายงานได้มากขึ้นผมเชื่อว่ามีหลายคนคิดแบบผมนะ จากคุณ : barahoho (barahoho) - [ วันสิ้นปี 16:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 บางคนอาจจะเป็นเหมือนเราบ้างนะ ไม่สนใจที่จะซื้อเทปผีซีดีเถื่อนของหนังไทยหรือเพลงไทยเลย เสียดายตังค์ จากคุณ : lucky@winter (lucky@winter) - [ วันสิ้นปี 16:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จริงอย่างที่บางกระทุ้ว่า นะ ตอนที่ราคาแพง หรือ ถูก เพลงที่ผลิต ออกมาก็ไม่ต่างกันนี่นา ถ้าไม่อยากให้ มี พวก ผี มาก ก็ขายในราคาที่ สมน้ำสนเนี้อซิ ประมาณ 100 ก็น่าจะ ขายได้นะ ถ้า ขายราคาถูก ปริมาณมาก คนตัดสินใจซื้อได้ง่าย   เราก็ว่า ค่ายเทป ก็น่าจะอยู่ได้นะ จากคุณ : friend2000 (friend2001) - [ วันสิ้นปี 17:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ค่ายเพลงกับนักแต่งเพลงได้ประโยชน์มากที่สุด ศิลปินน่ะ ถึงแม้จะขายได้ล้านCopies แต่ก็ได้ส่วนแบ่งแค่นิดเดียว ที่เหลือไปอยู่ที่ค่ายกับนักแต่งเพลงหมด ศิลปินที่รวยได้เพราะรับงานEventต่างๆ ไปเล่นทีนึงก็4หมื่นอัพแล้ว(นี่คือค่ายกะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหักไปเรียบร้อยแล้วนะ) รับงานทุกวันๆ ก็คิดดูแล้วกันว่าเดือนนึงได้เท่าไหร่ อีกส่วนนึงที่ได้คือถ่ายโฆษณา ถ่ายทีนึงได้เป็นล้าน เพราะฉะนั้นถึงจะมีmp3 ก็ไม่มีผลกระทบกับตัวนักร้องเท่าไหร่(ยกเว้นแต่งเพลงเอง ก้ออาจได้รับผลบ้าง) คนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆก็คือค่ายกับนักแต่งเพลงนั่นแหละ ถึงออกมาเต้นกันเหลือเกินยังไงล่ะ จากคุณ : KikLaruku - [ วันสิ้นปี 18:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แค่นี้ ก็รวย ซะไม่รู้จะอะไรแล้ว // มี mp ทำให้มีการคานกำไร ไม่ถูก กม. แต่ก็ทำให้ราคาของจริงลงมาเองโดยอัตโนมัติ ขายถูกก็ได้ แต่ไม่ทำตั้งแต่แรก จากคุณ : กรุณาใช้บริการช่องถัดไป - [ วันสิ้นปี 19:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ้า ถามนิดนึง ถ้าศิลปิน ไม่ถูกโปรโมทโดยค่าย โดยสื่อ คนจะรู้จักกันเป็นวงกว้างมะครับ? จะมีที่ไหน จ้างไปเล่นงาน Event ที่ดึงคนดูได้มากๆหรือเปล่า? จะมีการจ้างมาถ่ายโฆษณา ขี่มอเตอร์ไซด์ จูงใจคนดูหรือเปล่า? การทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก็จะมีโอกาสรับงานมากกว่านะเอ้อ (แต่จะเล่นเพลงออกมาดีหรือไม่ดี อันนี้ตัวใครตัวมัน...) จากคุณ : xx SlipNOTE Kevin Theater xx - [ วันสิ้นปี 19:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าเรื่องของปลอม mp3 กะเรื่องเพลงที่ลอกทำนองเมืองนอกเนี่ย คนละเรื่องกัน ถ้าคุณคว้าปืนไปยิงโจรแถวบ้านด้วยความหมั่นไส้ คุณก็ไม่ต่างอะไรกะโจรคนนั้น ที่แค่ทำอะไรตามใจตัวเอง ในทำนองเดียวกัน คุณซื้อของปลอม เพราะคุณ "รู้สึก" ว่าศิลปินนั้นๆไปลอกเพลงคนอื่นมา คุณก็ไม่ได้ต่างอะไรกะโจรที่ไปปล้นร้านซีดี ถ้าคุณ "แน่จริง" ผมขอท้าแบบนี้ ศิลปินคนไหนคุณจับได้ว่าลอกงานคนอื่นมา คุณอย่าซื้องานเค้า อย่าซื้อนี่คือไม่ซื้อเลยนะ ไม่ใช่ด่าเค้าแล้วเดินไปซื้อ mp3 มา บอกเพื่อนคุณ บอกทุกคนในเนทที่คุณรู้จัก บอกเลยว่า "อย่าไปซื้อวงนี้เฮ่ย...." ทำนองเดียวกัน วงไหนคุณว่าเพลงมันเพราะเพลงเดียวทั้งม้วน ไม่ต้องซื้อเลย เกลียดมันเข้าไปเลย ถ้าทำแบบนี้กันจริงๆ งานห่วยๆก็จะขายไม่ออก วงกระจอกก็จะเลิกทำงาน และคนเก่งก็จะได้รับการสนับสนุนตามอัตราส่วน กู๋กะเฮียเค้ามีสนามบอล เค้าเตะบอลไม่เป็นหรอก แต่เค้าก็มีระบบที่จะบำรุงให้นักเตะเก่งๆอยู่กับเขา ทางที่ถูกมันมี ทำดีดีมันก็ได้ คุณจะทำกันหรือเปล่า? จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) - [ วันสิ้นปี 21:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราก็คัดนะครับ อย่างต้มยำกุ้ง เราเห็นตัวอย่างหนัง  หรือสิ่งที่เราสามารถนำมาเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับเลือกซื้อ   ซึ่งดูน่าสนใจดี  แต่มันกลับมีน้อยมากๆ  เหมือนกับการโฆษณาเกินจริง พอไปซื้อมาดู  อ้าว  ห่วย.. เงินหน่ะไม่เสียดายหรอก  เสียดายความรู้สึกดีๆ  ความคาดหวังที่มีหน่ะครับ เพลงก็เหมือนกัน ช้อยส์มันน้อยครับ  น้อยพอๆกับหนังสือห่อปก  ที่ไม่มีตัวอย่างให้อ่าน  หรือมีเพียงนิดเดียว แล้วเราจะเอาอะไรมาเป็นตัวตัดสินใจล่ะครับ จากคุณ : toppy (นางสเตนเลส) - [ วันสิ้นปี 21:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมาเก็บค่าลิขสิทธิ์ jetboat จากคุณ : Kindaichi - [ วันสิ้นปี 21:54:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ศิลปินน่ะได้ส่วนแบ่งต่อม้วนนิดเดียวครับ นิดเดียวจริงๆ พอเป็นค่าขนมเองนะครับ เพราะทางค่ายเขาหักไว้เยอะ เนื่องจากการสร้างวงดนตรีวงหนึ่งลงทุนสูงมาก หลายล้านบาท เขาก็ต้องเอาทุนคืนไปก่อน ส่วนศิลปินก็ไปได้จาก Event อย่างที่ คห 19 ว่าไว้ แต่ถ้าทุกคนหันมาซื้อแผ่นลิขสิทธิ์หมด ยอดขายก็จะสูงขึ้น ต้นทุนต่อแผ่น / ต่อม้วน ก็จะต่ำลง ศิลปิน (อาจ) ได้ค่าขนมมากขึ้น ราคาขายต่อแผ่นก็ (อาจ) ต่ำลง ผู้ซื้อก็จะได้ประโยชน์ด้วย ส่วนตัวผมซื้อแผ่นลิขสิทธิ์ทั้งหมดครับ มันละอายที่จะไปซื้อแผ่นผี นึกถึงอกเขาอกเราบ้างครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ วันปีใหม่ 07:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จริงๆมันมีหลายทางที่ศิลปินจะหาเงินได้ ทั้งการถ่ายแบบให้สัมภาษณ์ ออกงานคอนเสิร์ต ได้ทุกงานครับ แต่ได้มากได้น้อยตามส่วนนะ โอเค ถ้ามันไม่พอ .. ก็ยังมีสำหรับคนที่พัฒนาตัวเอง พูดง่ายๆว่าเป็นตัวจริงในวงการดนตรี ทั้งลิขสิทธิ์เพลง เนื้อร้อง ทำนอง การเรียบเรียง ได้ทุกอย่างครับ ริงโทนที่โหลดๆกันอยู่ มันได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก เพลงโปรโมทนี่ได้กันเป็นหมื่นเป็นแสนครับ มีหลายทางดีออกนะ จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) - [ 3 ม.ค. 49 09:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยฟังนักร้องลูกทุ่ง เขาบอกว่า ไปอัพเพลง ได้เพลงละหมื่น ทั้งอัลบั้มได้แสนนึง แต่เขาเอาไปขายได้กำไร 30 ล้าน ไม่มีแบ่งให้คนร้องอีกเลยเพะราถือว่าจ่ายค่าร้องไปแล้ว เอาเถอะครับ จะต่อสุ้อะไรไปยังไง คนร้องก็ใส้แห้งเหมือนเดิม จากคุณ : natz - [ 3 ม.ค. 49 11:04:17 ]