CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ( : ดู วิธ มายเซลฟ์ : ) เด็กหอ ... อยากจะบอกใครสักคน ว่า... [SPOILER]

      เกรด A > 9-10 คะแนน (53 คน)
      เกรด B > 7-8 คะแนน (30 คน)
      เกรด C > 5-6 คะแนน (0 คน)
      เกรด D > 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E > 1-2 คะแนน (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 84 คน

     63.10%
     35.71%
     0.00%
     0.00%
     1.19%


    หลังจาก ได้เห็น ความสำเร็จ ของเพื่อนคนที่หนึ่ง กับหนังเดี่ยวเรื่องที่หนึ่ง ไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงทีของ กลุ่มเพื่อน 365 ฟิล์ม คนที่สองจะออกโรง และแล้วเพื่อนคนนี้ ก็ได้พิสูจน์ว่า หนังเดี่ยวเรื่องที่สอง ของเขา นั้นไม่ใช่ธรรมดา...เพราะ อย่างน้อยตอนนี้ 50 ล้าน ก็เป็นการโฆษณาการันตีได้อย่างดี

    ทรงยศ สุขมากอนันต์ ...หนึ่งในหก ของผู้ก่อการรำลึก "แฟนฉัน" กลับมาพร้อมผลงานการบินเดี่ยวหนแรก ที่นำเอาเสี้ยวหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตนักเรียนประจำของเขามาเล่าใหม่ ใส่สีสัน แต้มความสนุก กำเนิดเป็นหนังไทย ดรามา - ระทึกขวัญ เรื่องล่าสุด "เด็กหอ"

    ทุกๆคน ที่ได้เห็น "เด็กหอ" ในแรกพบ (ไม่ว่าจะในรูปของตัวอย่าง โปสเตอร์ หรือว่าสปอตโฆษณา) คงพากันหลงเชื่อไปหมดว่าหนังเรื่องนี้ คือ หนังผี ... ความจริงก็คือหนังเรื่องนี้ มันก็คือ หนังผี ไม่มีผิดเพี้ยน ...เพียงแต่ว่า ผีของเด็กหอ ไม่ใช่ ผีสยองขวัญ ...มันคือ ผีดรามา ที่ใช้บรรยากาศเป็นตัวกระตุกขวัญ

    ผกก. ย้ง ได้พูดเอาไว้ว่า "โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่อยากใช้คำว่า สยองขวัญ กับหนังเรื่องนี้ ...แต่ว่าหนังผี ในแบบของผมมันเป็นหนังผีบรรยากาศ  เป็นหนังผีบรรยากาศที่ต้องฟังเรื่อง ต้องรู้เรื่องราวนั้นๆ และเห็นภาพนั้น ถึงจะรู้สึกอะไรกับมัน" ด้วยคำพูดเหล่านั้น มาสะท้อนย้อนดูกลับตัวหนังแล้ว คนที่รู้สึกถึงความน่ากลัว ความไม่ไว้ใจ ก็คือ คนที่สามารถตอบโจทย์ หนังผี เรื่องนี้ ของเขาได้ ...ด้วยความที่ หนัง ต้องใช้จินตนาการในการรับชม คนดูหลายคนที่หวังจะช็อกกับ การหลอกออกมา แฮ่!!! คงได้แต่ พกพาเอา "ความผิดหวัง" กลับบ้านไปเต็มๆ

    ถึงแม้ว่า หนังจีทีเฮซ เรื่องนี้ จะออกมาดี ไม่มีผิดหวัง ...แต่สำหรับผมแล้ว "เด็กหอ" เรื่องนี้ คือ หนังดี จีทีเฮซ ที่ควรค่าจะชอบน้อยที่สุด

    ช่วงเวลาครึ่งแรกของหนัง... เด็กหอ มีเรื่องให้น่าติดตามมากมาย มีการเปิดเรื่อง ปูเรื่อง ที่ชวนสนใจ ชวนคิด ชวนสงสัย อย่างเช่น ...เหตุผลอะไร ทำไมต้นถึงถูกย้ายโรงเรียนอย่างปุบปับ ...เรื่องผีที่กลุ่มพี่เพ้งเล่า มันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องอำ ...ครูปรานีเป็นอะไร ทำไมถึงมีพฤติกรรมอันแปลกประหลาด ...แล้ว ด.ช. วิเชียร ช่ำชอง เขาคือใครกันหนอ? นอกจากมีปมให้ชวนขบแล้ว การมีบรรยากาศที่อืมครึม เป็นตัวช่วยการดำเนินเรื่อง ยิ่งทำให้หนังผีเรื่องนี้ พาให้เราเกิดความคิดต่างๆนานา ที่มันอาจจะเป็นอย่างนั้น หรือหักมุมอย่างนี้ ซึ่งทั้งหมดมันก็ขึ้น อยู่กับจินตนาการของเรา นั่นแล ...ที่ทำให้ช่วงเวลานั้น ดูสนุกตามแต่ Imagination ของแต่ละคน

    แต่หนังดันมาตกม้าตายเอาตอนครึ่งเรื่อง เพราะช่วงเวลาหลังจากนั้น ...เด็กหอ แทบหมดเครดิต สูญสิ้นความน่ากลัว ความน่าคิด เกือบไม่เหลือ แม้ว่า การเฉลยความจริงของ วิเชียรจะทำได้ดี และทำได้ถูกจังหวะ (เอาหนังผีตลกมาทำให้คนดูท้องคัดท้องแข็ง ก่อนที่จะมาหักดังเปราะเสียเอาจิตแทบกระเจิง) แต่หลังจากนาทีนั้นเป็นต้นมา หนังแทบไม่ต้องใช้ความคิด แต่ใช้ความเป็นไปได้ เข้าช่วย ที่จะพาหนังเดินหน้า เฉลยเรื่องราวทั้งหมดไปจนถึงจุดสุดท้าย ...ความเป็นไปได้ หมายความถึง การคาดเดาได้เลยว่า ตัวละคร ต้องทำอย่างนั้น ต้องคิดอย่างนี้และแล้ว ความเป็นไปได้ ที่ผมคิด มันก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีผิดเพี้ยน ...ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ไม่มีอะไรให้แปลกใจ

    และความสนุกที่ลดฮวบในช่วงเวลานี้ ...ยังทำให้การเฉลยความจริงต่างๆ โดนหางเลขไปด้วยเพราะ ความน่าติดตามที่หดหายไป มันส่งผลไปถึงความหนักแน่นของเรื่องราว แม้ว่า บทหนังจะให้ เหตุและผลที่น่าเชื่อถือ ก็ตามที แทนที่ การเฉลย จะทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกสนุก แต่หนังก็ทำได้เพียงแค่ เฉลยไปเรื่อยๆ เพียงขอให้ความจริงทั้งหมดมันจบในเรื่องก็คงพอ ...ถ้าจะถามหาข้อดี ในช่วงเวลานี้ นอกจากเป็นเรื่องของเหตุผล การกระทำที่ดีแล้ว จะมีก็แต่การแสดงของดาราทุกคนที่อุ้มชูประคองหนังไปได้ตลอด การที่หนังใช้ช่วงเวลานี้พูดถึงประเด็นความเหงาของคนสองคนกับ มิตรภาพในหมู่เพื่อน และตอนจบของหนังที่กลับลำทำออกมาได้สวยงาม และ ลึกซึ้ง ...อย่างน้อยๆแล้ว ผมก็ยังได้พกพาเอา "ความรู้สึกดี" กลับบ้านไปบ้าง ถึงแม้มันจะมีเพียงแค่น้อยนิด

    ถ้าเปรียบภาพรวมของหนังเรื่องนี้ เป็นเครื่องจักร มันอาจจะเป็นเพียงเครื่องจักรที่ยังเดินเครื่องได้ดี แต่ดันเสียบ่อย โอเวอร์ฮีทบ่อย แต่เมื่อจับแยกอะไหล่เป็นส่วนๆแล้ว ...ส่วนประกอบของ"เด็กหอ" คือ ฟันเฟืองที่มีประสิทธิภาพดี ...การกำกับบินเดี่ยว ของ พี่ย้ง ที่สอบผ่าน , การผสมผสานดรามา ระทึกขวัญ บวกตลกเป็นเวลา กลายเป็นบทหนังที่เกือบกลมกล่อม , งานด้านภาพและเสียงที่ทำหน้าที่เป็นบรรยากาศเล่าเรื่องได้ดี และดนตรีประกอบที่ส่งเสริมความอึมครึม

    และต้องไม่ลืมนึกถึง อะไหล่ชิ้นสำคัญ ...การแสดงที่เยี่ยม สำหรับน้องๆ และน้าๆรุ่นใหญ่
    น้องๆ... น้องแน็คที่ไม่โตแต่ตัว การแสดงฝีมือความสามารถก็โตขึ้นเยอะ , น้องไมเคิลกับงานหนังเรื่องแรก ที่สำแดงพลังวาย เอ้ย! พลังนิ่ง ผ่านสายตาและท่าทางได้ดีสุดๆ (คนหน้าตาดี อย่างเขา สักวันหนึ่งต้องได้เป็นพระเอก แน่ๆ ฟันธง!!!) , ก๊วนพี่เพ้ง และหมอหนุ่ย ก็ขโมยซีนได้เหลือหลาย สร้างเสียงฮาให้กับผมแทบทุกมุข (โดยเฉพาะมุขมอไซค์ หมอหนุ่ยนี่..กวนเบื้องล่าง..สุดๆ)
    น้าๆ... น้าแหม่ม จินตหรา กับอีกหนึ่งงานแสดง ที่ยังควรค่าแก่ คำว่า "ดาวประดับฟ้า" ...ครูปรานี จะต้องเป็นอีกบทบาทสำคัญ ในการมอบรางวัลต่างๆในปีหน้าได้แน่นอน ส่วนบท "พ่อของต้น" อาจจะมีความหมายต่อเรื่องเพียงเล็กน้อย แต่การแสดงครั้งแรกของ น้าฮาร์ท ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่เป็นส่วนเกินของหนัง

    เมื่อนำเอาความเห็นทั้งหมดมาสรุปรวมแล้ว ผมเลยอยากจะบอกใครสักคน(หรือว่าทุกๆคนที่เข้ากระทู้นี้) ว่า... "เด็กหอ" คือ หนังดี ที่น่าชม แต่ไม่น่าประทับใจ ลุ้นและสนุกเพียงแค่ต้นๆ เรื่อยและเนือย ในช่วงกลางเกือบจบ แต่ส่งท้ายได้สวยและรู้สึกดี ... เป็นหนังรอบเดียวสำหรับผม ก็พอเพียงที่ได้ดูแล้ว

    มีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่ง ซึ่งมันโดนใจผมมาก เพราะคำพูดนั้นมันเหมาะกับผมเหลือเกิน "นายมองเห็นตัวเอง แล้วนายเคยมองเห็นคนอื่นบ้างไหม"
    อย่างที่ วิเชียร ว่า ...ท่าจะจริง

    เกรด B

    อ้างอิง : คำพูดของพี่ย้ง ผมนำมาจาก หนังสือ "เอนเตอร์เทน" ฉบับที่ 866

    แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 14:46:44

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 3 มี.ค. 49 14:36:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป