จุดที่สื่อมวลชนถามอังลีมากที่สุด ก็คือ การตัดสินใจเลือกดาราทั้งสี่คน ประมวลจากข้อมูลที่ได้สรุปดังต่อไปนี้
1. อังลีเลือกดาราที่อายุน้อย เพราะต้องการให้เน้นความสดใสของความรักในวัยหนุ่มมาก ๆ ดีกว่าเลือกดารามีอายุ ซึ่งทั้งคู่ต้องเล่นเป็นชายสูงวัยขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทั้งคู่ก็มีปัญหาบ่อยกับการถ่ายทำ เพราะมักจะเล่นเป็นคนแก่เกินไป อังลีต้องเน้นเสมอว่า ยูเล่นเป็นคนอายุ 40 นะไม่ใช่ 60
2. ทำไมไม่เลือกดาราที่เป็นเกย์มาเล่น อังลีตอบว่าเขาสนใจที่จะหาดาราที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น ไม่ได้สนใจว่าเป็นเกย์ และไม่เคยถาม ผมชอบคำตอบเขาครับ มันเป็นคำตอบของคนทำงานนะ ไม่ได้มาสนใจประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับงานหรอก
3. ฮีธมีลักษณะของคลาสสิคอเมริกันคาวบอย รวมทั้งความทุ่มเทของเขาต่อบท แม้บทจะเสี่ยงต่อภาพพจน์ของเขาก็ตาม อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของคนดูต่อส่วนตัวของเขาน้อยกว่า gyllenhaal มาก อาจเป็นเพราะการตกหลุมรักกับดาราสาวในเรื่อง แถมเป็นคุณพ่อลูกอ่อนตอนหนังฉายดูเป็น family man มากๆ ทำให้ข้อสงสัยว่าเขาเป็นเกย์หรือไม่ดูตกไป อีกอย่างบทของเขามีลักษณะความเป็นผู้ชายสูงกว่า โดยเฉพาะฉากชกต่อยกับสิงห์มอเตอร์ไซค์นั้นเน้นความเป็นแมนให้ฮีธมาก เพื่อตอกย้ำว่าชายคนนี้ไม่ใช่เกย์ เป็นผู้ชายธรรมดาที่เกิดความผูกพันกับเพื่อนแต่ไม่สามารถจบมันได้
4. Gyllenhaal เป็นดาราที่ขอทดสอบบทของเอนนิสก่อน อังลีเลือกให้เขาเป็นแจ็คแทน เพราะเขากล้าทุ่มเทให้กับบทเป็นอย่างมาก เขาได้รับผลกระทบมากกว่า เนื่องจากหนังฉายในช่วงที่ตัวเองโสด และบทของเขาก็ feminine มากกว่าฮีธ เวลาปรากฎตัวในงานต่าง ๆ เขาต้องคอยหลบแฟนภาพยนต์ที่เป็นเกย์ การที่เขากล้าแสดงบทนี้ผมว่าเพราะเขาเป็นเด็กฮอลีวู้ด พ่อแม่ก็อยู่ในวงการบทภาพยนต์ คำปรึกษาและฝีมือของอังลีที่ผ่านมาทำให้ ย่อมทำให้แจ็คกล้าเสี่ยง เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าการเล่นหนังให้อังลีนั้นเป็นโอกาสที่จะได้รับการเพ่งเล็งจากสื่อมวลชนสูง ผลก็คืองานแสดงของเขาได้รับการพูดถึงถี่มากที่สุดในช่วงก่อนออสการ์ ในระหว่างแสดงแสดงแจ็คบอกว่าเขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้อง และทนมองฮีทกับแฟนตกอยู่ในความรัก อันนี้อาจเป็นไปได้ว่าทำให้อินกับบทบาทขึ้น
5. ฮีธและแจ็คทำงานเข้าขากันดีมาก ทั้งคู่ไม่เคยกดดันหรือรู้สึกแข่งขันในงานที่ทำร่วมกัน และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมาำก ๆ แจ็คเป็นพ่ออุปถัมให้ลูกของฮีธ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสร้างสรรค์ประเด็นสำคัญในหนังให้อีกด้วย เช่น แจ็คเป็นคนเสนอไอเดียฉากจูบในซอกตึกให้มีการผลักกระแทกผนังตึกกันทั้งสองฝ่าย หรือฮีธเป็นเจ้าของความคิดที่ให้มีการสลับเสื้อตัวในเป็นตัวนอกในหนัง
6. บทของลอรีนได้รับคำชื่นชมไม่แพ้กัน เธอดีใจที่ได้ร่วมงานนี้และรู้สึกว่าทำไมไม่มีใครสร้างหนังแบบนี้ออกมาก่อนทั้ง ๆ เราก็เห็นเกย์กันมาแต่ไหนแต่ไร บทของลอรีนเป็นสาวเท๊กซัสที่สาวและรวย ไม่ต้องคิดมากเธอตกหลุมรักแจ็คด้วยเสน่ห์ภายนอกของเขาอย่างรวดเร็ว บทของเธอเป็นบทของหญิงสาวที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับพฤติกรรมแปลก ๆ ของสามีเนื่องจากเธอรักแจ็คมาก ภาพที่เห็นว่าเธอพยายามทำผมบลอนด์และทำตัวให้สวยขึ้นนั้นบอกเป็นนัยว่าเธอไม่เคยได้รับความรักจากสามีเลย ลอรีนเลือกที่จะหันเหความสนใจไปที่ธุรกิจและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับพฤติกรรมไปตกปลาของสามี เธอคิดเพียงว่าผู้ชายของเธอคงไปเที่ยวหาเศษหาเลยนอกบ้านกับเพื่อนบ้างเท่านั้น และยามสามีเธอพูดถึงหุบเขานั้นกับชื่อเอนนิส เธอเลือกที่จะไม่สนใจมันมากกว่าที่จะรู้แล้วเจ็บปวดมากขึ้น อย่างน้อยแจ็คก็ยังอยู่กับเธอและรักลูก ภาพที่เธอแอบยิ้มเมื่อสามีปราบพยศพ่อของเธอบ้าง บอกให้รู้ว่าเธอก็ยังมีความรู้สึก ความภูมิใจในสามีของเธอ ภาพสายตาของเธอเมื่อแจ็คขอเต้นรำกับหญิงอื่นบ่งถึงความอึดอัดใจที่ไม่ได้รับการทะนุถนอมจากคนที่เธอรักเลย เธอไม่ได้รับความสนใจจากสามีเท่าที่เธอต้องการ บทตัดสินที่ผู้คนชื่นชมมากที่สุดคือฉากรับโทรศัพท์จากเอนนิส เธอหลอกตัวเองมาตลอดว่าแจ็คคงไม่รักใครแค่เที่ยวเล่นประสาผู้ชาย เมื่อเอนนิสบอกว่าหุบเขามีจริง เรื่องที่แจ็คพูดถึงหุบเขาเวลาเมานั้นเป็นเรื่องจริง น้ำตาก็ทะลักออกมาเลยแสดงให้เห็นว่าเธอรู้ว่าสามีรักคนอื่นมากกว่า และคนอื่นนี่ก็เป็นผู้ชายจริง ๆ ด้วย การที่เธอบอกวัตถุประสงค์ของแจ็คที่จะโรยเถ้ากระดูกบนเขาและบอกให้เอนนิสลองติดต่อไปที่บ้านของแจ็คดู บอกให้รู้แล้วว่าความรู้สึกของเธอต่อสามีจบลงแล้ว และเธอยกโทษให้สามีกับเพื่อน แบบอโหสิกรรม
7. บทอัลมาเป็นบทของสาวยุคที่ยังไม่รู้จักเกย์ หรือเห็นภาพสามีจูบกับชายอื่น แต่เลือกที่จะคิดว่าฝันไปเพราะไม่เคยเตรียมตัวมาก่อน แต่พฤติกรรมของสามีที่น่าสงสัยตอกย้ำให้เธอต้องยอมรับความจริง อีกทั้งสามีก็แทบไม่สนใจครอบครัวเลย สิ่งที่ทำให้เธอเลิกกับสามีก็คือดูเขามีความสุขสดชื่นทุกครั้ง ที่ลงมากจากเขา มากกว่าอยู่กับลูกเมียอีกและไม่ได้สนใจเธอและลูกจริง ๆ เลย วิลเลี่ยมถ่ายทอดความรันทดใจของหญิงสาวได้อย่างเต็มเปี่ยมกับช่วงเวลาอันน้อยนิดของเธอในหนัง และเธอเป็นผู้ขอร้องให้ฮีธเล่น love scene กับแจ็คอย่างทุ่มเทเต็มที่เพื่อเธอ
8. บทของลูกสาวตอนจบ เมื่อเอนนิสถามย้ำถึงแฟนเก่า และถามว่าแฟนใหม่นั้นรักลูกหรือไม่ เพราะเอนนิสยึดมั่นในรักแรกของเขาไม่เคยแปรเปลี่ยน และตกอยู่ในความทุกข์จากการปฏิเสธความต้องการของตัวเองจนทำให้เกิดความผิดพลาด เขาจึงถามถึงแฟนคนแรกของลูกสาว อย่างไรก็ตามเขาก็คิดได้ว่าลูกสาวโตแล้ว เมื่อลูกสาวเอ่ยเชิญเขาไปงานแต่งงาน เขาตอบไปทันทีว่าอาจไม่ว่างโดยลืมคิดว่ามันทำร้ายจิตใจลูกสาว เอนนิสสร้างกำแพงล้อมรอบชีวิตของเขากับแจ็คในโลกส่วนตัว แยกออกมาจากโลกภายนอกแล้ว จนเผลอลืมความเป็นพ่อของลูกสาว เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเสียใจ เขาจึงรู้ว่าเขาควรจะต้องไปงานเพื่อความเป็นพ่อ
เชิญ สาวก BBM comment ด้วยครับ
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 49 18:26:18
จากคุณ :
melatonin
- [
23 มี.ค. 49 14:37:56
]