PANTIP.COM : A4226106 ใครจำเหตุการณ์แก๊สระเบิดถ.เพชรบุรีตัดใหม่ได้บ้าง? [วิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 6

..

น่ากลัวอ่ะครับ ><

..

จากที่เคยอ่านๆและได้ยินมา เป็นเรื่องที่รุนแรงมากเลย

ปล. ไปหาข้อมูลได้อันนี้มาอีกอันนึงฮะ

http://72.14.203.104/search?q=cache:Lr3Yfzq0XLgJ:rdd.mcot.net/np/46/08/10/54.htm+%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94&hl=th&gl=th&ct=clnk&cd=1

รายงาน:ฟื้นคดีดัง...รถแก๊สระเบิด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
(คมชัดลึก 10 ส.ค.46)

ความสูญเสียอย่างมหันต์ อันเกิดจากความไม่ได้มาตรฐานของรถบรรทุกแก๊ส บวกกับความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่ ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญ เหตุการณ์ "รถแก๊สระเบิด" ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ร่วมชะตากรรมอย่างไม่มีวันลืม

"รถแก๊สระเบิด" ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ คือโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ยากจะลืมเลือนไปจากความทรงจำ ของคนไทยหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ร่วมชะตากรรม ไม่เพียงแต่ความทรงจำอันโหดร้ายเท่านั้น ตามร่างกายยังปรากฏรอยแผล อันบ่งบอกถึงความเลวร้ายของวันอันแสนหฤโหด ทุกครั้งที่มองภาพบาดแผลเหมือนจะเห็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงซ้อนทับขึ้นมายังไงยังงั้น

เป็นเวลาเกือบ 4 ทุ่มแล้ว สำหรับวันที่ 24 กันยายน 2533 บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ยังคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์เพราะเป็นวันจันทร์เริ่มต้นสัปดาห์ บ้างก็เพิ่งออกจากที่ทำงานมุ่งหน้ากลับบ้าน ขณะที่อีกหลายคนกำลังเตรียมตัวเข้านอน และยังมีอีกหลายชีวิตที่เพิ่งเริ่มต้น แสงสียามราตรีบนถนนเพชรบุรีกำลังสว่างไสว เชิญชวนผู้คนที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของค่ำคืนมาสัมผัส

บริเวณแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรีตัดใหม่ทั้งขาเข้าและขาออกยังมีรถวิ่งกันขวักไขว่ บางคนจอดรอสัญญาณไฟติดเป็นแถวยาว เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเข้ามากระทบโสตสัมผัส โชเฟอร์รถบรรทุกสิบล้อ บรรทุกแก๊สวิ่งลงมาจากทางด่วนพยายามเหยียบคันเร่ง เพื่อให้พ้นไฟแดง แต่ด้วยน้ำหนักรถที่บรรทุกมาบวกกับความเร็ว ส่งผลให้โชเฟอร์คนดังกล่าวไม่อาจบังคับเอาไว้ได้ รถจึงพุ่งเข้าชนรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงอย่างจัง

เหตุการณ์น่าจะจบอยู่ที่อุบัติเหตุรถชนกันเท่านั้น แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ !!!

ด้วยแรงเหวี่ยงของรถทำให้รถพลิกตะแคง จากนั้นได้ไถลไปกับพื้น ด้วยแรงเสียดสีกับพื้นถนน ทำให้ถังบรรจุแก๊สรูปแคปซูล 2 ถัง ถังละ 20,000 ลิตร หลุดออกจากตัวรถ และเกิดเป็นความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นการเพิ่มแรงอัดให้กับแก๊สที่บรรจุอยู่ภายใน

ถังเหล็กไม่อาจทนแรงเสียดสีได้ปริแตก แก๊สที่มีแรงอัดมหาศาลเหมือนได้รับการปลดปล่อยพวยพุ่ง ออกมาข้างนอกเป็นละอองขาวปรากฏเสียงดังฟู่ๆ ประกอบกับสะเก็ดไฟจากรถที่ประสบอุบัติเหตุ ไม่กี่อึดใจเหตุการณ์ทั้งหมดก็ดูเหมือนภาพที่ยุ่งเหยิงในคืนฝันร้าย

บึ้ม บึ้ม บึ้ม !!! เสียงระเบิดดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าส่งผลให้ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กลายเป็นทะเลเพลิงไปในพริบตา

ผู้คนนับร้อยชีวิตที่อยู่บนท้องถนนต่างรู้สึกตัวตื่นจากอาการตะลึงพรึงเพริด เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลั วปนกับเสียงกรีดร้องอย่างขวัญเสีย สลับกับเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของผู้คนที่ตกอยู่ท่ามกลางกองเพลิง คนที่เหลืออยู่ในรถต่างหนีเอาชีวิตรอดอย่างลนลาน ตะเกียกตะกายเปิดประตูรถออกมา แต่ยังช้ากว่ารังสีมัจจุราชที่พวยพุ่งกลืนกินเอาทุกชีวิตที่อยู่แวดล้อมอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี

บางรายถูกไฟคลอกทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ เสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ใครที่หนีไม่พ้นก็ถูกย่างสดอยู่ในรถเก๋งของตัวเองเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก

พระเพลิงยังไม่หยุดคร่าชีวิตผู้คนอยู่เพียงแค่นั้น แต่กลับลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีก เมื่อถังแก๊สอีกถังที่ยังติดอยู่กับตัวรถไม่อาจทนทานความร้อนได้ กลายสภาพเป็นระเบิดลูกย่อมๆ ทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า ตึกแถว 2 ฟากถนนเกิดไฟลุกท่วม ลามไปติดแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เกิดเป็นลูกไฟสูงท่วมตึก 3 ชั้น

หม้อแปลงไฟฟ้าช็อตกระแสไฟถูกตัดขาด ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรีผู้คนที่อาศัยอยู่ไกลออกไป เห็นภาพลูกไฟปรากฏพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สีแดงฉานอย่างบ้าคลั่ง ตรงกันข้ามกับคนที่อาศัยอยู่ในตึกแถว ต่างขวัญผวาวิ่งหนีเอาตัวรอดโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น กลายเป็นความโกลาหลเพราะต่างอยู่ในความมืดและเคว้งคว้าง

เช่นเดียวกับอีกหลายชีวิตที่พักอยู่ในชุมชนแออัด ด้านหลังตึกแถวที่ตั้งเรียงรายอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน

แสงเพลิงยังคงลุกไหม้ต่อไปจากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง ผู้คนที่พยายามดิ้นรนหนีตาย จากอุบัติภัยครั้งนี้ชีวิตแล้วชีวิตเล่าถูกสังเวยอยู่ในกองไฟในคืนจันทร์หฤโหด เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ชีพ ตำรวจดับเพลิงพร้อมรถน้ำหลายสิบคัน พยายามฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิง แต่เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ในขณะนั้น เพราะแก๊สอยู่ในสถานะฟุ้งกระจายไปในอากาศ

จาก 4 ทุ่มจนถึงเช้ามืดของอีกวัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากนั้นจึงดำเนินการค้นหาเก็บกู้ซากศพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากกองเพลิง ภาพที่เห็นค่อนข้างบั่นทอนความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกู้ภัย บางคนที่ถูกไฟเผาจนเหลือ แต่เศษชิ้นเนื้อก้อนเล็กๆ แม้แต่กระดูกก็แทบไม่เหลือ เป็นภาพที่น่าอเนจอนาถ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสลดหดหู่

อุบัติเหตุซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมหนึ่งในบันทึกความทรงจำของคนไทยครั้งนั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 59 ราย บาดเจ็บ 89 ราย รวมทั้งตึกแถว 3 ชั้น ตั้งแต่ซอยจารุรัตน์ หรือซอยเพชรบุรี 37 เรื่อยไปได้รับความเสียหาย 21 คูหา โดยเฉพาะหอพักสตรีเพชรถูกพระเพลิงเผาจนพินาศย่อยยับ ขณะที่ฝั่งตรงข้ามถูกเผาเสียหาย 17 คูหา

ขณะที่ชุมชนแออัดด้านหลังถูกเผาวอดกินพื้นที่รวม 2 ไร่ แต่มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากถึง 100 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังพบว่ารถยนต์ได้ถูกเผาผลาญไป 43 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีรถเมล์ อยู่ในอาณาบริเวณใกล้เคียงด้วย ไม่เช่นนั้นยอดผู้เสียชีวิตอาจจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้

เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวทะเบียน 71-0415 กทม.ของบริษัทอุตสาหกรรมแก๊ส-สยาม จำกัด เลขที่ 60/3 หมู่ 11 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตพระโขนง กรุงเทพฯ มีนายสุทัศน์ ฟักแคเล็ก เป็นผู้ขับขี่ซึ่งถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาที่นั่งคนขับ

แต่สิ่งที่สะกิดใจเจ้าหน้าที่ก็คือ รถบรรทุกแก๊สคันนี้ ไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดไว้คือ ไม่มีข้อต่อระหว่างถังแก๊สกับตัวรถ ซึ่งข้อต่อดังกล่าวมีประโยชน์ในการยึดติดกับตัวรถ ไม่ให้เคลื่อนตัวหรือหล่นลงมาจนเกิดอันตราย นอกจากนี้ยังไม่มีสายรัดถังแก๊สเหมือนกับที่รถบรรทุกแก๊สทั่วๆ ไปใช้กัน

.

จากคุณ : +-+ jackiezzz +-+ - [ 26 มี.ค. 49 01:36:57 ]