| เกรด A > 9-10 คะแนน (5 คน) |
| เกรด B > 7-8 คะแนน (6 คน) |
| เกรด C > 5-6 คะแนน (6 คน) |
| เกรด D > 3-4 คะแนน (3 คน) |
| เกรด E > 1-2 คะแนน (11 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 31 คน |
ด้วยความที่คุ้นเคยพบหน้าผ่านจอสี่เหลี่ยมในครัวเรือน มาหลายปีดีดัก ...ทุกวันพุธ ช่วงเวลาสี่ทุ่ม โดยส่วนใหญ่แล้ว การนั่งรับชม รายการ "ชิงร้อยชิงล้าน" ถือ
เป็นเรื่องปกติของผม ...แน่นอน เหตุผลที่ผมชอบดูรายการนี้ คงไม่ใช่เพราะการแข่งขันของดารา การเปิดป้ายชิงเงินล้าน หรอก แต่เหตุผลที่ผมจะตอบ ก็ไม่ยาก
ที่จะคาดเดา ก็เหมือนคนหลายๆคน ที่กดรีโมทมาดูรายการนี้ ... เพียงเพราะ "แก๊งสามช่า" ถูกต้องนะคร้าบ!!!
และด้วยความที่ผมติดตามชมผลงาน ของ "แก๊งสามช่า" ในจอแก้วมาได้นานนม ...จึงไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องตัดสินใจ ในเมื่อพวกเขาทั้งสามจะขึ้นจอเงินพร้อมกันทั้งที ...ร้อยยี่สิบบาทจะหนีโรงภาพยนตร์ไปที่ไหนได้
"โหน่ง+เท่ง นักเลงภูเขาทอง" ... ผลงานการหันมาเอาดี ในงานภาพยนตร์ครั้งแรก ของ บริษัทบันเทิงจ้าวแห่งเกมส์โชว์เมืองไทย ...Work Point Entertainment ด้วยการที่คลุกคลีกับวงการบันเทิงมานานหลายสิบปีแล้ว เป็นมาทั้งเบื้องหนังและเบื้องหลัง (ก่อนที่เขาจะผันตัวมาเป็นเจ้าพ่อเกมส์โชว์ "ถูกต้องนะคร้าบ" นั้น เริ่มแรกเดิมทีนั้นก็ยังเป็นแค่นักแสดงตลกบทเล็กๆในหนังในละครหลายๆเรื่อง) ...ก็ถึงทีของ เสี่ยตา - ปัญญา นิรันดร์กุล จะได้เดินหน้าไปอีกก้าว สร้างหนังไทยเป็นของตัวเองขึ้นมา หลังจากที่เคยฝันมานานก็ได้เวลาสักที ...
"หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม" เป็นทีมงานที่ได้รับการแต่งตั้งจากเสี่ยตา ให้เข้ามาทำหน้าที่สร้างฝันให้เป็นจริง ...โดยได้ผู้นำทีม เป็นครีเอทีฟมือหนึ่งของเวิร์คพอยท์ ซึ่งเป็น
เบื้องหลังของรายการดังๆเด่นๆ ทุกๆรายการ ..."พาณิชย์ สดสี" ยังเป็นชื่อที่เสี่ยตา ไว้ใจมอบหมายให้มาทำหน้าที่ กำกับการแสดง ในผลงานหนังไทยเรื่องแรกของเขาและคงไม่มีใครมาทำหน้าที่นี้ได้อีกแล้ว ในเมื่อเขาคนนี้นั่นแล ก็คือ ผู้ปลุกปั้น "แก๊งสามช่า" ขึ้นมาให้กลายเป็นคณะตลกซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย นั่นเอง ...ด้วยการที่เขารู้จักตัวตน และออกแบบตัวละครให้ทั้งสามรับหน้าที่ปู้ยี้ปู้ยำมาแต่ไหนแต่ไร จึงเป็นที่ตัวเขานั้นเองที่จะต้องมาจัดการ เพิ่มความยาวสาวความยืด ของ ละครสามช่า เวอร์ชั่นชั่วโมงกว่า เรื่องนี้...
โหน่ง+เท่ง นักเลงภูเขาทอง ...(พยายามทำตัว)เป็นหนังพีเรียด เล่าเรื่องไปยังปีพ.ศ. 2464 ...ช่วงเวลาที่หนังใหญ่ต่างชาติ กำลังกลายเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชน ความเจริญของแวดวงบันเทิงขนานนี้ มันได้ส่งผลกระทบต่อ มหรสพเล็กๆพื้นบ้าน ที่เรียกว่า ยี่เก ...บุญเท่ง (เท่ง เถิดเทิง) เป็นพระเอกของวิกยี่เก และคือ ทายาทผู้ที่จะสืบสานการแสดงต่อจาก พ่อแดง (อุดม ชวนชื่น) ...แม้ว่าพ่อแดงจะรังเกียจการแสดงหนังใหญ่โดยสันติ แต่ก็มิวายต้องโดนหนังใหญ่รังควานเข้าจนได้ เมื่อทางรัฐต้องการจะสร้างหนังไทยเป็นเรื่องแรก อันคือ "นางสาวสุวรรณ" โดยมีความจำเป็น(แกมบังคับ) ต้องใช้โลเกชั่นที่เป็นที่ตั้งของวิกลิเกพ่อแดง ในการถ่ายทำ จึงทำให้พ่อแดงต้องโดนไล่ที่ ...บุญเท่งจึงต้องออกโรงมาเป็นอันธพาล เพื่อปกป้องวิกลิเกแห่งนี้ โดยได้ผู้ช่วยคนสำคัญ เป็นถึงนักเลงภูเขาทอง นามว่า เสือน้อยโหน่ง (โหน่ง ชะชะช่า) ที่ต้องร่วมปฏิบัติการอย่างจำยอม เพียงเพราะชอบน้องสาวของพี่บุญเท่ง ลิ้นจี่ (อิสรีย์ สงฆ์เจริญ) ...แต่แล้ว บุญเท่งก็ต้องพบกับความลำบากใจเข้าไปอีก เมื่อเขาดันไปตกหลุมรัก นางสาวสุวรรณ ...นวลจันทร์ (นิกัลยา ดุลหา) เข้าให้ ซึ่งเธอดันมีดีกรีเป็นลูกสาวของท่านขุนที่เป็นนายทุนของหนังเรื่องนี้อีก ...แล้ว พี่บุญเท่ง ของเรา จะเอาอย่างไงดีล่ะ ตอบจบก็เดาไม่ยากเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ ก็ขอให้คุณผู้อ่านไปสดับรับดู ได้ที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ ...ท่านผู้อ่านบางท่านก็คงอยากจะรู้ว่าหนังเรื่องนี้มีความสนุกด้วยหรือ? ผมบอกได้เลยว่า ...มีครับ และมีพอที่จะทำให้ผมชอบด้วย
ผู้กำกับ พาณิชย์ สดสี ...สามารถจัดการกับครั้งแรกของเขาได้เป็นดี เขาสร้างหนังตลกที่มีเนื้อเรื่องเอาไว้เล่า ไม่ใช่หนังตลกที่นำมุขมาต่อมุขเหมือนเช่นหนังตลกไทยโดยทั่วๆไป...พลอตเรื่อง ที่นำเอาประวัติศาสตร์มีจริง มาต่อพ่วงกับการสมมติ ดูน่าสนใจ ...หนังสร้างเงื่อนไข ให้มีความขัดแย้งทางวัฒนธรรม เป็นที่ตั้ง ก่อนที่จะลากเอาเรื่องราวอีกหลายหลากทั้งในแง่ของความตลก ความโรแมนติก และความเป็นดรามา มาโยงใยผูกกัน ออกมาเป็นตัวหนังที่ทำได้ทั้งดูสนุกสนาน เพลิดเพลิน ไม่น่าเบื่อ และแอบแฝงไปด้วยสาระดีๆ ให้ได้รับกลับไป ...
ในช่วงครึ่งแรก หนังเดินหน้าด้วยความเป็นตลกเต็มตัว ...เท่าที่วัดจากการฟังเสียงตัวเอง และฟังเสียงผู้คนทั้งโรง บอกได้เลยว่า หนังเรื่องนี้ มีมุขฝืดอยู่น้อย ทั้งจากคำพูด ท่าทาง และสีหน้า ของนักแสดง ล้วนแต่กระตุ้นต่อมฮาได้อย่างโครมคราม ...ฉากบางฉากดูไม่มีอะไร ทุกอย่างออกจะเฉยๆ แต่มันก็ทำให้เราหลุดขำออกมาโดยไม่รู้ตัว ...จังหวะของหนังมันลงตัว ทุกอย่างมาอย่างมีแบบแผน ไม่ใช่การใส่สั่วๆมั่วๆลงไป เพื่อเอาฮาลูกเดียว ...มุขแต่ละมุข มาได้ถูกที่ถูกเวลา อีกทั้งหนังก็ยังใส่ใจในตัวบท มันมีเหตุมีผล มิใช่ทำไปโดยเลื่อนลอย เลยรู้สึกไม่มีจุดไหนให้ขัดใจ
พอเป็นในช่วงครึ่งหลัง หนังเริ่มหันทิศเดิน มาหาความจริงจัง ...หนังผ่อนความตลก หลงเหลือเพียงบางๆ มีความรักนิดๆ พอหวานปะแล่มๆ และใส่เอาดรามา บวกแง่มุมที่หนังต้องการนำเสนอ ซึ่งดำเนินวิถีทางนี้ได้อย่างซื่อตรงที่ทำให้เราเกิดอินตาม เพียงแต่ว่า ในการที่หนังต้องการจะจริงจังทั้งที แต่มันก็ยังจะกั้กๆ ไม่เอาจนสุด ...เช่น มีหนึ่งฉากของพ่อแดงที่ต้องการซึ้ง ทั้งที่มันถึงจุดบ่อน้ำตาใกล้แตกแล้ว แต่หนังก็ตัดฉับไปสู่ฉากถัดไป ...เป็นการตัดอารมณ์คนดูในทันที อีกทั้งการที่หนังยังเร่งความเร็วในช่วงใกล้จบ เป็นการรีบที่ทำให้หนังเข้วไป และทำให้จบด้วยความไม่สมบูรณ์ เหมือนว่าค้างคา ทุกอย่างนั้นลงเอยได้ง่ายเกินไป เมื่อหนังจบแล้วก็บอกว่าจบกันแค่นั้นเอง ...ถ้าเกิดหนังจะใส่ใจเพิ่มประเด็นความสัมพันธ์
ของคนทั้งสองฝ่าย (ยี่เกและหนังใหญ่) และบทสรุปที่มีความหนักแน่นกว่านี้สักนิด มันคงทำให้อารมณ์คนดูไม่จบง่ายๆอย่างนี้หรอก
การแสดง ของ พี่บุญเท่ง & น้องน้อยโหน่ง ...ถือว่าสบายมากอย่าห่วงในด้านตลก เล่นกันเต็มที่ เป็นเคมีที่เข้ากันอยู่แล้ว แต่ในด้านที่จริงจัง ก็แค่พอใช้ ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพได้ดีพอ , นิกัลยา & อิสรีย์ ...มีใบหน้าที่สวยคม เป็นไม้ประดับแสนงามให้กับหนังมากกว่า การแสดงก็แค่เฉยๆ ส่วนนักแสดงตัวประกอบทั้งหลาย ก็ทำหน้าที่ประกอบส่งเสริมความขำๆเสียมากกว่า คนที่ขโมยซีนได้ ดันกลายเป็น ดารารับเชิญ สาม ท่าน ...ที่ถ้าใครเห็นเป็นต้องฮา (คนหนึ่ง ใช่ หม่ำ จ๊กม๊ก แน่ๆ แต่อีกสองคน บอกไม่ได้ ...เป็นพิธีกร อุ๊ปส์!!!)
ด้านงานโปรดักชั่น ถือว่า สวยสมจริง ทุกอย่างดูน่าเชื่อถือ ...อาจมียกเว้นภาพจากคอมพิวเตอร์ ที่ยังคงบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของหนังไทยได้ดี
"โหน่ง+เท่ง นักเลงภูเขาทอง" ...เป็นทั้งหนังตลก ที่ตลกจริงๆ และไม่ไร้สาระ ความบันเทิงที่ได้อย่างเต็มเหนี่ยวสามารถปลดพันธนาการความเครียดได้เสียอย่างสิ้นเชิง ในความร้อนแรงของแสงอาทิตย์และอุณหภูมิการเมืองเช่นนี้ ยังไม่มีหนังเรื่องไหนเหมาะสมเท่าเรื่องนี้ ... หนังสนองความอยากฮาของคุณๆได้แน่ เพียงแต่ถ้าคุณไม่คิดมากกับหนังเรื่องนี้ ...สำหรับผมแล้ว ไม่เสียดายสตางค์ ไม่ผิดหวัง ชอบนะ แต่ไม่ติดใจ สำหรับรอบเดียวในโรงก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เกรด B
ปล. เพลงเครดิตท้าย ของ พี่ บอยด์ โกสิยพงศ์ เพราะมากครับ ...เสียดายนั่งฟังยังไม่ทันจบ พนักงานจะปิดประตูโรงหนังไล่ซะงั้น
V for Vendetta ... การเมืองไม่ไกลตัว ความสนุกใกล้ๆตัว [SPOILER]
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4236479/A4236479.html
Where the Truth Lies ... โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน นั้ว...นัวร์ [NO SPOILER]
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4232854/A4232854.html
Eight Below ... Cast Away ฉบับหมาหมู่
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4229335/A4229335.html
ขอบคุณครับ รักคนอ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 10:34:35
แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 10:14:25