ความคิดเห็นที่ 1 Jack & Bobby Episode 21: Stand By Me หลังจากแจ้งความเรื่องอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาถึงนำแรนดี้ที่บาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไปและร่างที่เสียชีวิตของมิซซี่ส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่พื้นถนนมีร่องรอยของกวางที่กระโดดออกมาขวางหน้ารถ รอยล้อรถที่เกิดจากการเบรคอย่างกระทันหันและรอยหักหลบกวางจนรถไถลตกถนน แจ็ครับสมอ้างกับตำรวจว่าเป็นคนขับรถ เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แจ็คหารือตกลงล่วงหน้ากับมาคัสและคอร์ทนี่ถึงเรื่องนี้ก่อนหน้าที่ตำรวจจะมา ทั้งสองคนยอมทำตามเพราะรู้ดีว่าถ้าบอกความจริงกับตำรวจว่ามาคัสเป็นคนขับรถ ภาพในสายตาของตำรวจและคนทั่วไปจะดูแย่กว่ามาก เพราะมาคัสดื่มเหล้าไปเล็กน้อย แม้จะไม่ถึงกับเมาแต่สังคมจะประนามว่าเขาเมาแล้วขับทำให้เกิดอุบัติเหตุจนเพื่อนต้องตาย และมาคัสจะต้องถูกดำเนินคดี แต่ถ้าให้แจ็คที่ไม่ได้ดื่มเหล้าแม้แต่น้อยเป็นคนขับ อุบัติเหตุจะกลายเป็นเรื่องสุดวิสัย สังคมจะตำหนิเขาน้อยกว่ามาคัสมาก และแจ็คจะไม่ถูกดำเนินคดี แจ็ค มาคัสและคอร์ทนี่ถูกพาตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาล ผลการตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกายของแจ็คมีค่าเป็น 0 เขาไม่ได้ดื่มเหล้าจริงๆ ที่โรงพยาบาล ผู้ปกครองของเด็กๆที่ได้รับแจ้งข่าวรีบไปรับลูกๆของตนเอง พ่อแม่ของมิซซี่หัวใจสลายเมื่อทราบว่าลูกสาวของพวกเขาเสียชีวิต ตำรวจนัดสอบปากคำพวกเด็กๆในวันรุ่งขึ้น แรนดี้ยังคงหมดสติอยู่และถูกนำเข้าห้อง ICU.เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด วันรุ่งขึ้นที่สถานีตำรวจ แจ็ค มาคัส และคอร์ทนี่ถูกสอบปากคำแยกกัน ทั้ง 3 คนให้การตรงกันว่าแจ็คเป็นคนขับรถเพราะเขาไม่ได้ดื่มเหล้าเลย รถเป็นของแรนดี้แต่แจ็คอาสาขับรถให้เพราะแรนดี้ดื่มจนเมา แรนดี้กับมิซซี่นั่งอยู่ในตอนหลังของรถกระบะทำให้ถูกเหวี่ยงออกจากรถตอนที่รถไถลตกถนนและชนต้นไม้ ทั้ง 3 คนยังกังวลเรื่องแรนดี้ที่ยังหมดสติอยู่ ตำรวจรอสอบปากคำแรนดี้เป็นคนสุดท้าย ตอนนี้มีแรนดี้เพียงคนเดียวที่อาจบอกความจริงกับตำรวจว่าที่จริงแล้วใครเป็นคนขับรถ ปีเตอร์ไปปรึกษาเรื่องลูกกับเกรซ เขาเป็นห่วงคอร์ทนี่ที่ไม่ยอมแสดงความรู้สึก ไม่ยอมระบายความอัดอั้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นออกมาบ้าง เพราะมิซซี่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอต้องรู้สึกผูกพันกับคอร์ทนี่มาก เกรซบอกว่าแจ็คก็ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเช่นกัน แต่คอร์ทนี่อ่อนไหวกว่าแจ็คมากเพราะเธอเพิ่งสูญเสียแม่ไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ปีเตอร์กลัวว่าคอร์ทนี่จะรับไว้ไม่ไหวและกลายเป็นเด็กมีปัญหา หลวงพ่อ Belknap พ่อของมิซซี่ไปหาแจ็คที่ร้านอาหารที่แจ็คทำงานอยู่ เขาบอกแจ็คว่าเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้มิซซี่เขาขอไม่ให้แจ็คไปร่วมงานศพของเธอ แจ็คจำยอมรับปาก วอร์เรนไปหาบ๊อบบี้ที่บ้าน ทั้ง 2 คนเรียนจบชั้นเกรด 8 และกำลังจะขึ้นเกรด 9 วอร์เรนต้องการทำอะไรเพื่อเป็นที่รำลึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาเสนอให้ทั้งสองคนรวบรวมของบางอย่างที่เป็นความทรงจำถึงอดีตเก็บไว้ในแค็ปซูลเวลาที่เกรซเคยซื้อมาเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วเอาไปฝังไว้ บ๊อบบี้ตกลง ทั้งสองคนจึงออกไปเก็บรวบรวมข้าวของ เช่น วิกผมของอาจารย์ กางเกงในของดีน่า เด็กหญิงที่ทั้งสองคนเคยแอบชอบ เป็นต้น ตอนที่ทั้งสองคนกำลังตรวจดูข้าวของที่รวบรวมมาได้ในบ้านของบ๊อบบี้ เกรซเข้ามาเห็นและเข้าใจผิดว่าทั้งสองคนกำลังทำสิ่งที่รำลึกถึงความหลังก่อนต้องแยกจากกัน เธอพูดเรื่องที่วอร์เรนกำลังจะย้ายบ้านตามครอบครัวไปอริโซน่าในอีกไม่กี่วันนี้โดยไม่ทราบว่าวอร์เรนยังไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บ๊อบบี้รู้ บ๊อบบี้ช๊อคกับข่าวนี้และโกรธวอร์เรนที่ไม่ยอมบอกเขา บ๊อบบี้ไล่วอร์เรนออกไป ในงานศพของมิซซี่ คุณพ่อ Belknap พูดไว้อาลัยให้กับลูกสาว แต่แทนที่เขาจะพูดถึงเรื่องดีๆของมิซซี่เขากลับพูดเรื่องความผิดพลาดของเธอทั้งเรื่องการคบเพื่อนชาย เรื่องท้องและการทำแท้ง ก่อนจะปิดท้ายว่าที่มิซซี่ต้องตายเพราะว่าเธอทำบาปและพระเจ้าต้องการลงโทษเธอ นั่นทำให้ผู้มาร่วมงานตกใจและงงงันไปตามๆกัน หลังงานศพ แม่ของมิซซี่เก็บข้าวของส่วนตัวและจะย้ายไปอาศัยกับน้องสาว เธอต้องการแยกทางกับสามี เธอรับไม่ได้ที่สามีของเธอกล่าวประนามลูกสาวของตัวเองในงานศพของลูก คุณพ่อ Belknap แก้ตัวว่าเขาต้องการใช้กรณีของมิซซี่เป็นตัวอย่างเพื่อสั่งสอนวัยรุ่นหนุ่มสาวให้รู้จักระวังตนเอง แต่เธอคิดว่าคุณพ่อ Belknap เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและไม่ยอมให้อภัยแม้กระทั่งกับลูกสาวของตนเองที่ตายไปแล้ว เธออยู่ร่วมกับคนเช่นนี้ไม่ได้ หลังกลับจากงานศพ มาคัสที่รู้สึกผิดจนทนไม่ได้ตัดสินใจสารภาพกับพ่อของตัวเองว่าที่จริงแล้วเขาเป็นคนขับรถคันนั้น พ่อของมาคัสซึ่งเป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมารีบโทรศัพท์คุยกับเกรซและปีเตอร์ทันทีเพื่อเล่าความจริงและขออภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น แจ็คคุยกับบ๊อบบี้เรื่องวอร์เรน บ๊อบบี้ประชดว่าดูเหมือนทุกคนจะทราบเรื่องวอร์เรนกำลังจะย้ายบ้านกันหมด มีแต่เขาคนเดียวที่ไม่ทราบเรื่องนี้ทั้งๆที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของวอร์เรน แจ็คบอกว่าบ๊อบบี้ยังโชคดีที่รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะต้องแยกจากเพื่อนสนิทและยังมีโอกาสได้กล่าวลา เพราะเขาไม่มีโอกาสได้กล่าวลามิซซี่เลยแม้แต่น้อยทำให้บ๊อบบี้ได้คิด เกรซได้ทราบความจริงจากพ่อของมาคัส เธอคุยกับแจ็คถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้แจ็คบอกความจริงกับตำรวจแต่แจ็คปฏิเสธ แจ็คบอกว่านี่เป็นชีวิตของเขาและเขาเลือกที่จะทำเช่นนี้ แต่เกรซบอกว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ผู้ปกครองของทั้ง 3 คนคือแจ็ค มาคัสและคอร์ทนี่นัดเจอกันเพื่อหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น บ๊อบบี้ไปหาวอร์เรนที่บ้าน วอร์เรนขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องย้ายบ้านกับบ๊อบบี้ พ่อของเขารับงานใหม่ที่อริโซน่าและเขาต้องย้ายตามครอบครัวไปด้วย เขากลัวว่าถ้าบอกความจริงไปบ๊อบบี้จะโกรธ ทั้งสองคนสัญญาว่าจะยังติดต่อกันแม้ว่าจะต้องแยกจากกันไปแล้ว ที่โรงพยาบาล แรนดี้อาการดีขึ้นและฟื้นจากการสลบ คอร์ทนี่ซึ่งไปเฝ้าแรนดี้อยู่เป็นคนแรกที่ทราบเรื่อง เธอโทรฯบอกแจ็คกับมาคัส ทั้งสองคนรีบไปที่โรงพยาบาล มาคัสขอโทษแจ็คที่บอกความจริงกับพ่อ คอร์ทนี่บอกทั้งสองคนว่าแรนดี้สูญเสียความทรงจำเรื่องอุบัติเหตุ เขาจำเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนั้นแม้กระทั้งเรื่องงานเต้นรำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แจ็ครู้สึกโล่งอก คืนนั้นทั้ง 3 ครอบครัวมาประชุมกันทั้งผู้ปกครองและเด็กทั้ง 3 คน แจ็คยืนกรานเรื่องการยอมรับผิดแทนมาคัสของเขาแม้ว่าพ่อกับแม่ของมาคัสและเกรซจะพยายามบอกว่ามันเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แจ็คพยายามอธิบายเหตุผลแยกแยะข้อดีข้อเสีย เขาไม่ได้ดื่มเหล้า รถไม่ได้ขับเร็วเกินกำหนดและกวางกระโดดตัดหน้ารถกระทันหันทำให้หยุดรถไม่ทันมีหลักฐานเป็นร่องรอยบนถนนชัดแจ้ง สิ่งต่างๆเหล่านี้ประกอบกันทำให้อุบัติเหตุกลายเป็นเรื่องสุดวิสัย เขาจะโดนแค่คำตำหนิจากสังคมโดยไม่ถูกดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นมาคัส เขาจะถูกตั้งข้อหาเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้ว่าความจริงแล้วมาคัสจะดื่มไปเพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับเมาก็ตาม  สังคมจะประนามมาคัสโดยไม่สนใจความจริงดังกล่าวและมาคัสก็อาจจะต้องติดคุก ในที่สุดปีเตอร์ก็เห็นด้วยกับแจ็ค เขาบอกว่าการกระทำของแจ็คเป็นการทำเพื่อลดความสูญเสีย พวกเด็กๆต้องเสียเพื่อนสนิทคือมิซซี่ไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าบอกความจริงกับตำรวจมาคัสจะต้องติดคุก ประวัติของมาคัสจะต้องดูแย่กว่าแจ็คมาก และพวกเขาจะต้องเสียเพื่อนไปอีกคนหนึ่ง ในที่สุดเกรซก็จำต้องยอมรับกับเรื่องนี้แม้เธอจะไม่เห็นด้วยก็ตาม หลังจากกลับถึงบ้าน ปีเตอร์ถามคอร์ทนี่ว่าเธอสบายดีหรือปล่าว ในที่สุดคอร์ทนี่ก็ร้องไห้ออกมา เป็นการระบายความเสียใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาคัสไปหาแจ็คที่บ้าน เขาเอาเทปคำสารภาพไปให้แจ็ค เผื่อว่าถ้าวันใดแจ็คอยากพูดความจริงก็ให้เอาเทปนี้มาเปิด แจ็คไม่ต้องการรับเทปไว้แต่มาคัสยืนยัน บ๊อบบี้จึงเสนอให้เอาเทปเก็บไว้ในแค๊ปซูลเวลาของเขาด้วย ทั้ง 3 คนออกไปฝังแค็ปซูลเวลาด้วยกัน ในอนาคต สัมภาษณ์วอร์เรนอดีตเพื่อนสนิทของบ๊อบบี้ : วอร์เรนบอกว่าหลังจากย้ายบ้านไปแล้ว แม้ว่าจะสัญญากันไว้ว่าพวกเขาจะยังติดต่อกันต่อไป แต่เขากับบ๊อบบี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยเพราะปัญหาเรื่องการเดินทาง เรื่องระยะทางที่ห่างไกลและช่องทางการติดต่อ จนเมื่อเขาได้ยินข่าวว่าบ๊อบบี้จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เขารู้สึกแปลกใจมากเพราะเรื่องการเมืองดูจะไม่ใช่บุคลิกของบ๊อบบี้ที่เขารู้จักเลย แจ็คต่างหากที่เหมาะกับการเป็นนักการเมือง แต่เขาก็ยินดีกับบ๊อบบี้ที่ชนะการเลือกตั้ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับข่าวจากบ้านเก่าเรื่องที่มีคนขุดพบแค็ปซูลเวลาที่บ๊อบบี้ฝังไว้ มีชื่อของเขาอยู่ที่ฝาแค็ปซูล เขาจึงได้รับแค็ปซูลเวลาคืน ของที่อยู่ในนั้นทำให้เขารำลึกถึงความหลัง คงมีเพียงเทปม้วนหนึ่งที่เขาจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร เขาอยากจะติดต่อกับบ๊อบบี้เพื่อบอกเรื่องนี้ให้ทราบ แต่การจะติดต่อกับประธานาธิบดีสหรัฐโดยตรงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เขาจำเป็นต้องมีคนช่วย วอร์เรนรู้จักกับผู้ว่าการรัฐฯของเขาเพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินในการหาเสียงเลือกตั้ง เขาขอให้ผู้ว่าการรัฐฯเป็นคนกลางติดต่อท่านประธานาธิบดีให้ 2 วันต่อมาวอร์เรนก็ได้รับแจ้งให้รอรับโทรศัพท์จากทำเนียบขาว บ๊อบบี้โทรหาเขาและเชิญเขากับครอบครัวไปเยือนทำเนียบขาว บ๊อบบี้ให้การต้อนรับครอบครัวของเขาอย่างดีและเป็นคนพาชมทำเนียบขาวด้วยตนเอง จนกระทั้งครั้งหนึ่งบ๊อบบี้พาวอร์เรนเดินแยกเข้าห้องรับแขกเล็กๆไปตามลำพังโดยไม่ให้คนอื่นรวมถึงตำรวจลับติดตามเข้าไปด้วย เมื่อปิดประตูลงบ๊อบบี้ก็ถามถึงเรื่องเทปในแค็ปซูลเวลากับเขา เขาจึงทราบว่านี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่บ๊อบบี้สนใจมากที่สุด วอร์เรนบอกว่าเทปยังอยู่และยังไม่มีใครได้ดูเทปนั้น บ๊อบบี้จึงขอเทปคืนจากวอร์เรนและเขาก็ให้ไป บ๊อบบี้ดูโล่งใจมาก เรื่องในเทปคงต้องสำคัญมากแน่ๆ หลังจากนั้นบ๊อบบี้ก็ชวนวอร์เรนและครอบครัวพูดคุยถึงเรื่องในอดีตเพื่อรำลึกถึงความหลังอย่างสนุกสนานและยังท้าวอร์เรนแข่งเล่นเกมจากเครื่อง X-Box รุ่นเก่ากันอีกด้วย วอร์เรนถามบ๊อบบี้ว่าเขาเคยคิดมั้ยว่าวันหนึ่งจะได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ บ๊อบบี้ตอบว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดจากการเรียนในชั้นมัธยมด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนสนิทที่ต้องแยกจากกันไปนานหลายสิบปีจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองคนล้วนประสบความสำเร็จในชีวิต ได้แต่งงานและมีครอบครัวเป็นของตนเอง วอร์เรนเป็นนักบัญชีที่ได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียง ส่วนบ๊อบบี้ก็ได้เป็นถึงประธานาธิบดีของสหรัฐ พวกเด็กสาวๆในสมัยเรียนมัธยมน่าจะดีกับพวกเขาให้มากกว่านี้นะ ^__^ ปล. ทำไมกลายเป็นงานประจำไปแล้วเนี่ย ต้องมานั่งรีแค็ปเรื่องนี้ทุกอาทิตย์เลยเรา งือ ^^" วันจันทร์หน้าจะเป็นตอนอวสานแล้วนะครับ จะมีคำเฉลยเรื่องชีวิตหลังเรียนจบ เรื่องการตายของแจ็ค และเราจะได้ยินเสียงของท่านประธานาธิบดีบ๊อบบี้ แม็คคาริสเตอร์เป็นครั้งแรกด้วย แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 18:55:16 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 18:37:55 จากคุณ : Domingo - [ วันจักรี 17:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปล.อีกที รู้สึกว่า DVD เรื่องนี้ยังไม่ทำออกมาเลยนะครับ ถ้ามีก็คงจะเป็นของเถื่อนแน่ๆเลย จากคุณ : Domingo - [ วันจักรี 17:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ซึ้งใจคุณ Domingo จริงๆ จากคุณ : ชมพูพันทิบ - [ วันจักรี 20:15:18 ]