ไม่ได้มาตั้งกระทู้ซะปีกว่าๆ พอดีเมื่อวานเกิดเหตุการณ์เจอมากะตัวก็เลยตั้งใจจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ
เมื่อวานเย็นดิชั้นกะเพื่อนไปซื้อของกันที่ห้างซุปเปอร์ฯใหญ่แถวถนนราชดำริ ดิชั้นก็ฝากมือถือเอาไว้กับกระเป๋าเพื่อน (เพราะจะได้เดินตัวเปล่าๆสบายๆ) กระเป๋าเพื่อนเป็นกระเป๋ายีนส์สะพายข้าง ตรงสันกระเป๋าทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา มีช่องเล็กๆ สำหรับใส่มือถือพอดี ใส่มือถือของดิชั้น กับเพื่อนคนละข้าง ขณะที่ดิชั้นปลีกตัวมาดูของอีกล๊อกนึง เพื่อนกำลังยืนเลือกแปรงสีฟันอยู่ มีป้าแก่ๆคนนึงก็เข้ามาเบียดเพื่อนดิชั้น ยื่นมือมาเลือกแปรงสีฟันด้วย เพื่อนดิชั้นเห็นเป็นคนแก่ ตามมารยาทก็เลยถอยหลบมาข้างๆให้ป้าเลือกได้ตามสบาย ป้าแกก็หยิบอันโน้นอันนี้ เพื่อนดิชั้นก็คอยเหลือบตามองเพราะป้าเลือกอย่างงงๆ เดี๋ยวเผื่อจะได้อธิบายให้ป้าฟังได้ ..
สักครู่ก็มีผู้หญิงอีกคนวัย 40 กว่าๆ ถือตะกร้าเบียดด้านทางป้าเข้ามาดูแปรงสีฟันอีกคน เสร็จแล้วก็ย้ายฝั่งมาเบียดทางด้านเพื่อนดิชั้น (ซึ่งถอยมายืนริมสุดของชั้นวางแล้ว) เพื่อนบอกว่า เหมือนเค้าเอาตะกร้ามาเบียดโดนหลังนิดนึง เพื่อยื่นมือเข้ามามาเลือกแปรงสีฟัน แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ย้ายฝั่งไปอยู่ข้างป้าอีกครั้ง
แล้วทันใดนั้นเอง ป้าที่เลือกแปรงอยู่ดีๆ ก็วางแปรงลงทันที แล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เพื่อนดิชั้นก็งงๆว่าเอ๊ะ ทำไมอยู่ดีๆก็ไปทันที แล้วผู้หญิงคนที่หิ้วตระกร้าก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง จังหวะนั้น เพื่อนดิชั้นรีบก้มดูกระเป๋าสะพายเห็นฝากระเป๋า(เป็นกระดุมแปะ) ที่ใส่มือถือของดิชั้นเปิดอยู่ มือถือหายไป ก็รีบเดินตรงมาทางดิชั้นถามว่าดิชั้นเอาโทรศัพท์ไปเปล่า ดิชั้นบอกว่าเปล่า แค่นั้นเองเหมือนมาเอาคำตอบเพื่อความชัวร์ว่าโดนล้วงไปแน่ๆแล้ว ตาก็มองไปทางป้าที่กำลังรีบเดินงุดๆออกไป เดชะบุญที่อีป้าคนนั้นแม่งหันหลังกลับมามองเพื่อนดิชั้นอีกที เพื่อนดิชั้นก็เลยเกททันทีว่าป้าเอาโทรศัพท์ไปแน่ๆก็เลยรีบวิ่งตามป้าไป
แต่ดิชั้นซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว ว่าเพื่อนรีบวิ่งไปไหน รู้แต่ว่าโทรศัพท์กูหายแน่ๆ ก็สละรถเข็นวิ่งตามเพื่อนไป แต่จุกอก เศร้าสุดๆว่าหายอีกแล้วเหรอเนี่ยะ ด้วยความโง่ของดิชั้นคิดว่าล่าสุดใช้มือถือที่ร้านซิสเลอร์ในห้างฝั่งตรงข้าม ก็นึกว่าเพื่อนรีบวิ่งไปที่ร้านฝั่งโน้น ขอให้ได้คืนเถอะ เพื่อนดิชั้นก็วิ่งลงบันไดเลื่อน ดิชั้นก็วิ่งตาม ห่างกัน 2-3 ขั้นบันได (คนห้างนี้แม่งก็เยอะชิบบ) พอถึงชั้นหนึ่งเป็นประตูทางออกของห้าง ดิชั้นซึ่งวิ่งตามมาติดๆ เห็นเพื่อนวิ่งเข้าไปจับแขนป้าถามว่า ป้าครับป้าเห็นโทรศัพท์มือถือผมรึเปล่า ป้าก็ส่ายหน้า ป้าครับที่ป้ายืนเลือกแปรงสีฟันกับผมเมื่อกี้นี้ไง จังหวะนั้นดิชั้นก็เกททันทีเหมือนกัน และเข้าไปถึงตัวป้าพอดี เหลือบไปเห็นมือถือของดิชั้นในมือของอีป้า ดิชั้นจี๊ดขึ้นสุดๆคว้าแขนป้าบอก
นี่ไงป้าโทรศัพท์หนู ป้าทำอย่างงี้ได้งัยอ่ะ ป้าขโมยนี่... ป้าก็หน้าสลดรีบส่งคืน พูดขอโทษๆ ที่บ้านจน อะไรต่างๆนานาที่เป็นคำแก้ตัว แถมขอร้องดิชั้นว่า เดี๋ยวชั้นให้เงินเธอๆ ดิชั้นก็สติแตก เพราะเคยทำโทรศัพท์หายไปเครื่องนึงแล้ว เหมือนอีป้าคนนี้แหละที่จะต้องเป็นคนรับผลกรรมเครื่องที่แล้วด้วย เพื่อนดิชั้นจะเป็นแบบสุภาพนุ่มนวลถาม..ป้าแล้วผู้หญิงอีกคนเค้าเป็นคนล้วงโทรศัพท์ใช่มั๊ย เค้าไปไหน ป้าก็ปฏิเสธอย่างเดียว บอกไม่รู้ๆ เค้าไปแล้ว ไม่รู้จักกัน เค้าเอามาส่งให้ ป้าพยายามสะบัดแขนให้หลุด ดิชั้นก็เลยบอกว่าไม่ได้ป้า หนูต้องจับป้าส่งตำรวจ ดิชั้นตะโกนเรียกยามๆ แป๊บเดียวยามก็มา ช่วยจับป้า แล้วพากันเข้าไปในห้องรปภ.
หัวหน้ารปภ. ค้นกระเป๋าอีป้าคนนี้ ในกระเป๋าป้าแม่งรวยกว่าดิชั้นอีก มีเงินสด แบงค์พัน 15 ใบ และแบงค์อื่นๆ รวมกัน 20,400 บาท ที่สำคัญ มีมือถือ 3 เครื่องรุ่นใหม่ๆเดิ้นๆทั้งนั้น 2 เครื่องปิดและอีกเครื่องเปิดอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นของป้า เพราะตอนอยู่ในห้องนั้นมีสายเรียกเข้าตลอด น่าจะเป็นอีผู้หญิงผู้ร่วมแก๊งค์โทรเข้ามาถามสถานการณ์แน่ๆ ป้าก็บอกว่ามือถือทั้งหมดเป็นของป้า ลูกชั้นซื้อให้ๆ แถมยังยื้อของกลับคืน เค้าเลยใส่กุญแจมือป้าซะเลยค่อยสงบลง หลังจากนั้นดิชั้นกับเพื่อนก็ต้องตามไปให้ปากคำที่สน. ไปถึง 3 ทุ่มครึ่ง กว่าจะเสร็จ ตี 1 กว่า (โห..เป็นคนดีนี่มันลำบากอย่างนี้นี่เอง มิน่าละ.. - -)
อ้อ...ลืมเล่าไปอีกอย่าง อีป้าคนนี้ไม่ใช่คนไทยด้วยค่ะ เป็นคนเขมร ตอนแรกดิชั้นก็นึกว่าคนพม่า ป้าคนนี้ชื่อ KHANE NANA อายุ 62 ปี คิดดูแก่ปูนนี้แล้วยังทำบาปอีก ตามปกติแล้วดิชั้นจะเป็นคนใจอ่อนกับคนแก่มากๆ เพราะดิชั้นรักยายมากๆ แต่พอเจอคนแบบนี้ ดิชั้นน๊อตหลุดจริงๆค่ะ เพราะมือถือเดี๋ยวนี้เป็นหมื่น เกือบ 2 หมื่นทั้งนั้น ถ้าเพื่อนดิชั้นไม่มีสติ ไม่ทันรู้ตัว วันนี้อีป้านี่ก็ตบไปได้ เกือบครึ่งแสนแล้วล่ะ คิดแล้วมันแค้นใจจริงๆ
อ้อๆ อีกนิดๆ ตอนที่อยู่ในห้องรปภ. เค้าบอกว่าวันนี้มีล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เงินหายไป 4000 ดอลล่าร์ และเมื่อชั่วโมงที่แล้วมีตกทองด้วย วันนี้มีคนมาแจ้งรวมๆแล้วมูลค่า 200,000 บาทแล้ว
ยาวไปหน่อยนะคะ แต่ตั้งใจจะมาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนฟังว่า ในห้างสรรพสินค้าที่เรามักจะมีความสุข ยืนเลือกของอย่างเพลิดเพลิน ก็มีมิจฉาชีพเดินปะปนอยู่ในนั้นกับเราๆด้วยนะคะ และอาจจะเล็งเราเป็นเหยื่อ นี่ถ้าดิชั้นกับเพื่อนไม่เจอกับตัวก็ยังคงร่าเริง ไม่ทันระวังตัวเหมือนเดิม บางทีดิชั้นยังเคยวางกระเป๋าถือไว้บนรถเข็นแล้วหันไปเลือกของเลยด้วยซ้ำ แต่เจอแบบนี้เข็ดแล้วจริงๆ ต่อไปอย่าว่าแต่ไปห้างเลย ไปไหนๆต้องระมัดวังตัวกว่านี้ แค่นี้ล่ะค่ะไม่เคยพิมพ์กระทู้ยาวขนาดนี้เลย

โชคดี บุญรักษาค่ะ 
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 16:02:34
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 15:41:23