มีเพื่อนน่ากลัวแบบนี้
ถ้าพี่และเพื่อนและน้อง มีเพื่อนแบบนี้ จะต้องแก้ยังไง ให้เขาเป็นคนปรกติครับ
ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง อายุ 22 ปี ตอนนี้ ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้เรียน ไม่ใช่ว่าเรียนจบ แต่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อยู่ ม .3 ยังไม่จบดี ออกมาแล้วก็อยู่กับบ้าน สาเหตุเพราะ ช่วงที่เรียน พ่อแม่ตื่นขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งไม่ทัน ก็เลยเบี้ยวไม่เข้าเรียน มาจนวันนี้
สมัยก่อน ตอนที่ผมอยู่ ม.4 ถึงตอนนี้ก็เหมือนกัน ถ้าวันไหนว่าง ก็จะแวะเข้าไปหา เพราะว่าตัวเองก็เคยเป็นเพื่อนกัน เวลาที่ไป ก็เห็นภาพคือ นอน บนเตียง มือสองมือ จับจอย เพลย์สเตชั่น ข้าง ๆ มีหนังสือการ์ตูนเป็นตู้ นับราคาได้หลายหมื่นบาท เพราะพ่อของเพื่อนคนนี้ เป็นช่างปั้นพระฝีมือดี สัปดาห์หนึ่ง ๆ ได้รายได้หลายหมื่น เลยไม่ค่อนเดือดร้อนเรื่องการหาเงิน
เวลาที่ผมอยู่กับเค้า เค้าจะมีปัญหาที่ผมแก้มาหลายปีแต่ยังไม่เสร็จสักที (มีหลายข้อนะครับ แต่ที่จริง ไม่ได้แยกเป็นข้อ ๆ แต่จะลองให้ข้อมูลเรื่องพฤติกรรมคร่าว ๆ ที่พอนึกได้ดู เพราะว่าผมเอง จะช่วย แต่ช่วยไม่ได้ ใครที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี หรือ มีความกันเอง หรือมีบุคลิกที่ดี อยากให้ลองช่วยให้ข้อคิดตรงนี้ดู เผื่อว่า อาจช่วยอะไรได้บ้าง ผมไม่อยากให้เพื่อนของผมเป็นแบบนี้ )
1. เกมส์ และการ์ตูนที่ออกมาใหม่ หรือไม่ก็วิจารณ์เกมส์นั้นเกมส์นี้ (อายุ จะ 23 แล้ว) บางครั้ง ก็พูดฝัน ๆ ทำนอง นี่ ลองคิดดูสิถ้าเครื่องเพลย์ 3 ออกมาจะเป็นยังไง โอ้ย ถ้าแบบนั้นคง.... ว่าไป
หรือไม่ก็ยกการ์ตูนมาให้อ่าน แล้วบอกว่า นายคิดยังไงกับภาพนี้ ฝีมือการวาดสู้คนนี้ไม่ได้ หรือบางครั้ง ก็ทำเป็นพูดว่า ทำไมคนไทยไม่ทำอนิเมออกมาแบบนี้ คนญี่ปุ่นทำแบบนี้สวยดี คนญี่ปุ่นดีอย่างงั้นอย่างงี้ หรือไม่ก็ พูดอวดว่า ตัวเองรู้คำศัพท์คำนั้น ๆ คำนี้
พอเวลาดูการ์ตูนพากย์ญี่ปุ่น ก็ทำเป็น ฟังรู้เรื่องให้ดู แล้วก็แกล้งขำ แบบว่า มุขนี้ ฉันแปลออก คือ ตัวละครตัวนี้ กำลังเล่นมุขอย่างนี้ ดูสิ ฉันรู้จักคำ ๆ นี้ แต่เอาเข้าจริง ๆ แนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่น ถามเวลา ก็ยังทำไม่ได้ ไม่เข้าในว่าคิดอะไรกันแน่
ไม่อยากฟังหรอก อยากบอกเค้าว่า ไร้สาระ แต่เค้าเป็นคนที่โทสะจริตมาก เพื่อนก็เถอะ
มีครั้งนึง ผมยืมวีซีดีไป แต่ทำเป็นรอยนิดหน่อย สิ่งที่เขาทำให้ดูคือ หักแผ่นซีดีทิ้งให้ดูต่อหน้า แล้วก็ทำตาขวาง ๆ
แต่ ด้วยความที่เข้าใจว่า อยู่คนเดียวมาหลายสิบ ปี ก็ยอมให้ระบายเต็มที่ พร้อมกับความห่วงใยที่กลัวว่า ถ้าไม่มาหาเขาไม่คุยเรื่องต่าง ๆ กับเขา เขาจะเอาข้อมูลเรื่องอะไรมาคิดบ้างวัน ๆ หนึ่ง เพราะอยู่แต่ในห้องกับกองการ์ตูนและเกมส์ ไม่อย่างนั้นคงเลิกคบไปแล้ว
นอกจากนั้น ยังฝันอยู่ว่า ตัวเองอยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูน ไม่ต้องการทำงานอย่างอื่น เพราะว่าตัวเองไม่เคยทำงานอะไรเลย (เคยแจกใบปลิววันเดียว) อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ทำงานเพราะว่า ไม่กล้าเจอกับคนเยอะ ๆ ด้วย ข้อนี้เอาไว้ทีหลัง
ยังมีอีกอย่างนึง คือ เค้าจะสะสมโมเดล อนิเมของญี่ปุ่น
ตัวนึง อยากบอกว่า หลายร้อย และที่บ้าน ก็ซื้อมาหลายตัวด้วย ใช้เงินเป็นว่าเล่น ค่าการ์ตูน + เกมส์ + โมเดล เท่านั้น เดือนหนึ่ง ๆ หลายพันบาท เปล่าประโยชน์ ใช่สิ ถ้าค้านก็คงไม่ได้คุยกันอีก เลยต้องรอจังหวะ ให้พูด ซึ่งไม่เคยมี หรือว่าเราโง่เอง ที่สอนคนไม่เป็น
2. พูดนินทาพ่อ พี่ แม่ คนในครอบครัวตัวเอง รวมทั้งคนรู้จักให้ฟัง ว่า เขาไม่ดีอย่างนี้นะ อย่างนั้นนะ อย่างเช่น เมื่อเดือนก่อน ผมก็กำลังนั่ง ๆ อ่านอะไรอยู่ อยู่ดี ๆ เค้าก็บอกว่า นี่ (เรียกชื่อ) เชื่อมั้ย พี่...(พี่ชาย) เค้าจะออกมาทำงานกับพ่อ แต่ดูท่าจะไปไม่รอด
(ผมละคิดในใจว่า แล้วyou ทำงานอะไรบ้าง ในหนึ่งวันไม่เคยจับอะไรเลยแม้แต่การล้างจาน ผมเลยนั่งคิดจะดัดจริตอยู่นาน เลยแกล้งเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วหันกลับมาสวนแบบไม่ให้รู้ตัว
ผมขึ้นว่า "(ชื่อเขา) แกคิดยังไงกับคนที่นินทาคนอื่น"
เขา "อืม เค้ามีจุดที่น่าตำหนิ ......นั่นสินะ ตัวฉั้นเองยังเอาตัวเองไม่รอดเลย"
นี่เป็นครั้งน้อย ๆ ที่ผมได้มีโอกาสสวนกลับ แล้วให้เค้ารู้ตัว แต่หลาย ๆ ครั้งมันไม่ง่ายอย่างงั้น เพราะ เขาไม่ทันคิดว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร ผมจำเป็นจะต้องพูดอ้อม ๆ เพราะนิสัยของเขา เหมือนกับที่ท่านอกตติดาบสพูด ที่ว่า "คนพาล เมื่อแนะนำหวังจะให้เขาดี เขากลับโกรธ" เลยพูดตรง ๆ ไม่ได้ เห็นมาหลายครั้งที่ พูดตรง เขาจะเงียบ และโกรธ
คือถ้าเป็นอย่างนั้น ผมอาจทะเลาะกัน และไม่ได้มาเจอกัน เมื่อไม่ได้เจอกัน การสนทนาก็ไม่มี เมื่อการสนทนาไม่มี เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวเอง เพราะ ไม่มีเพื่อนคนอื่น นอกจากผม และเด็กที่ร้านเกมส์ที่ช่วยให้ความคิดอะไรไม่ได้
แต่ใครจะมองว่า เพื่อนคนนี้ พาลหรือไม่ก็ตาม เขาเป็นชีวิตหนึ่งที่ผมต้องแก้ให้ได้
3. เวลาไปเดินข้างนอกด้วยกันจะทำตัวล่ก ประหม่า แล้วก็พูดอะไรแปลก ๆ เช่น เวลาเดินผ่านคนมาก ๆ อยู่ดี ๆ ก็จะคิดคำถามอะไรออกมาแล้วก็ทำเป็นถามเช่น สมมุติว่ากำลังจะขึ้นรถสาย 56 รู้ก็รู้ ว่าจะขึ้นสายนี้ แต่พอเดินผ่านกลุ่มคนอย่างเช่นวัยรุ่นอะไรแบบนี้ ก็เหมือนว่ากลัว ๆ แล้วก็ถามขึ้นมา เรามองตาก็มองออกหรอก แต่ส่วนมากเวลาแบบนี้ไม่อยากมองตาเค้า กลัวเค้าจะรู้ว่าเรารู้ แล้วเค้าจะตายลงตรงนั้นเลย
เดินห้างก็เหมือนกัน ก็เดินเหมือนว่ากลัวคนมอง เดินผ่านข้าง ๆ รถเมล์ก็เหมือนกลัวคนมอง เวลาที่ผมเดิน ๆ แล้วไปเจอเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ก็หลบข้าง หรือเดินหนีออกไป ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิง เค้าดูเหมือนจะตระหนกเอามาก ๆ
ยังไม่จบเลยครับ
จากคุณ :
SpiritWithin
- [
18 เม.ย. 49 18:30:00
]