CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    อยากให้ได้รับทราบการทำงานของตำรวจ สน. ทองหล่อ (เหตุการณ์นี้ดิฉันเจอกับตัวเองโดยตรง)

    เหตุเกิดที่หน้าตึกซีมิกซ์ อโศก (โดนคนเลวจับก้นและพยายามชิงทรัพย์  จากนั้นหลังว่าตำรวจจะช่วยดิฉันได้ แต่กลับพบว่าดิฉันถูกตำรวจรังแกไม่ต่างจากที่ถูกคนร้ายกระทำเลย)

    สวัสดีค่ะ ดิฉันหายไปจากบอร์ดที่นี่เสียนาน เพราะว่าทำงานทุกวันเลย กว่าจะกลับมาบ้านก็มืด ได้แต่เช็คเมล์ก็ง่วงแล้ว แต่วันนี้มีเหตุให้ต้องกลับเข้ามาเล่าอะไรให้คนที่นี่ฟังอีกครั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นดิฉันเป็นผู้เสียหาย ซึ่งได้รับทุกข์และเดือดร้อนมาก หวังว่าเมื่อจับคนร้ายได้แล้ว ตำรวจจะช่วยเราได้ แต่ก็เปล่าเลย  ตำรวจ (สน. ทองหล่อ) ทำงานเหมือนเล่นขายของ เห็นความทุกข์ของประชาชนเป็นอะไรไม่ทราบ แล้วเคยนึกถึงจิตใจคนที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกคนอื่นรังแกบ้างไหม...

    เรื่องเริ่มมาจากเมื่อวันพุธที่ 31 พ.ค.49 ดิฉันซึ่งทำงานอยู่ที่โรงแรมบางกอกบูติค (ถนนสุขุมวิท 21 อโศก  ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน) ได้ออกมาทานข้าวตามปกติ เวลา12.30 ดิฉันจำเวลาได้เป๊ะ เพราะดูนาฬิกาก่อนเดินออกมาจากออฟฟิศ

    หลังจากที่ทานอะไรเสร็จ ก็ได้เดินไปซื้อขนมขบเคี้ยวจากร้านที่ขายซึ่งอยู่ใกล้ตึกซีมิกซ์ (หมายถึงว่าถ้าเดินทางโรงแรมที่ทำงานของดิฉันไป ก็ต้องเดินเลยตึกซีมิกซ์ไปอีกนิด จะมีพวกรถเข็นและร้านแผงลอยรอมถนนมาขายอาหารและของกินมากมาย) ดิฉันก็ได้ซื้อถั่วเคลือบน้ำตาล 1 ถุงและน้ำลูกตาล (คล้ายลูกตาลลอยแก้ว) 1 แก้ว จากนั้นก็เดินกลับมาทางเดิม เพื่อจะกลับไปยังออฟฟิศ

    ขณะที่กำลังจะเดินพ้นบริเวณที่มีรถเข็นขายอาหาร สายตาได้เหลือบไปเห็น คนจรจัด แบบที่คงไม่อาบน้ำมานาน เสื้อแสงสกปรก เดินอยู่บริเวณนั้นด้วย ดิฉันจึงพยายามหลีกและเดินให้เร็ว คนจรจัดนั้นเป็นผู้ชายเดินอยู่ข้างหน้าดิฉัน สุดท้าย คนจรจัดคนนี้เดินเข้าไปหยุดที่รถเข็นไอติม ดิฉันจึงรีบเดินผ่านไป และก้าวอย่างเร็วเพราะไม่อยากอยู่ในระยะใกล้คนประเภทนี้  ตอนนั้นดิฉันเดินไปถึงหน้าอาคารซีมิกซ์แล้ว  ซึ่งอาคารซีมิกซ์จะมีทางสำหรับรถเข้าออก  ก็พอดีมีรถออกพอดี  แต่ถนนติดไฟแดง ฉะนั้นรถที่กำลังออกจากตึกซีมิกซ์จึงยังไม่สามารถออกสู่ถนนได้ ดิฉันไม่ได้รอ แต่ว่าได้เดินอ้อมหน้ารถออกไปริมถนนแล้ววกขึ้นฟุตบาท  ทันใดนั้นก็รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะมีความรู้สึกว่ามีคนมาจับก้นอย่างแรง พอหันไป ก็ไปเจอะกับคนจรจัดคนนั้น (มันโผล่มาด้านขวาของดิฉัน)  มือของมันยังจับก้นดิฉันอยู่เลย มันพูดอะไรกับดิฉัน ดิฉันไม่ทราบเพราะตกใจแต่มันยิ้มด้วย  จากนั้นก็รู้สึกว่ามือมันเปลี่ยนมาที่กระเป๋าเงินที่อยู่ในมือของดิฉันแทน  แต่ดิฉันกำเอาไว้แน่น  เพราะเพิ่งไปเดินซื้อของมา ก็ต้องระวังตัวระวังของอยู่แล้ว (ในมือของดิฉันตอนนั้น  มือขวาถือกระเป๋าสตางค์และคล้องถุงถั่วเอาไว้ที่ข้อมือ  ส่วนมือซ้ายถือน้ำลูกตาลที่เพิ่งซื้อมา แต่ยังไม่ได้ดูดเกิน 2 ครั้งเพราะมันหวาน กะจะรอให้น้ำแข็งละลายก่อน) ดิฉันได้สติก็กระชากมือขวาที่ถือกระเป๋าตังค์กลับมา แล้วเอาน้ำลูกตาลที่ถือในมือซ้ายนั้นสาดหน้ามันอย่างแรง และเขวี้ยงแก้วใส่หน้ามัน พร้อมกับกระชากหัวมันด้วยมือทั้งสอง ปากก็ร้องใส่มันว่า “ทำไมmungทำอย่างนี้... ทำอย่างนี้ทำไม  ..ทำไมมาทำแบบนี้...”  ผู้ชายคนนี้แต่งกายสกปรก แต่ที่มือสองข้างมีสร้อยประคำสีดำพันไว้ และที่คอก็มีทั้งสร้อยประคำทั้งสร้อยพระ  ระหว่างที่กระชากหัวมัน (มันผมสั้นจึงดึงยาก) สร้อยก็หลุกขาดเส้นนึง  ดิฉันเตะมันสองครั้ง  เตะแบบเตะก้านคอ แต่เนื่องจากใส่กระโปรงสั้น ขาจึงขึ้นมาได้แค่แถวเอวของมัน พอมันเห็นว่าดิฉันสู้ ดูเหมือนมันก็ตกใจ มันพยายามจะหนี แต่ดิฉันคว้าคอเสื้อมันไว้  และเอามือกระชากสร้อยมันทั้งหมด  แต่มันดึงจนขาด  เหลือแต่สร้อยซึ่งห้อยพระองค์ใหญ่มาก กำแล้วเต็มกำมือ พอดิฉันกระชากสร้อยพระเส้นนี้ของมัน มันชะงัก เหมือนจะกลับมาเอา พระนี้คงเป็นของมีค่าของมัน  แต่มันก็ตัดสินใจวิ่งหนีแทน ดิฉันจึงเอาพระในมือเขวี้ยงหัวมัน แล้วพระก็ตกไปบนพื้น มันทำเหมือนจะก้มลงไปเอา แต่ดิฉันทำท่าจะเตะใส่หัวมัน มันเลยหยุดและไม่เอาพระแล้ว วิ่งหนีแทน  มาถึงขั้นนี้แล้ว  ดิฉันเลยวิ่งตาม  วิ่งตามทั้งที่ใส่ส้นสูงและกระโปรงสั้นอย่างนั้นแหละ ไม่สนอะไรแล้ว พอดีรถติดไปแดงอยู่มันจึงไปไม่ได้ไกล ข้ามถนนไปไม่ได้เพราะถนนอีกฝั่งรถยังวิ่งอยู่เยอะ   ขณะที่ดิฉันวิ่งตามผู้ร้ายนั้น  คนแถวนั้นแตกตื่นกันมาก แต่จะหาใครมาช่วยไม่มีเลย  แม้แต่ รปภ. ของบริษัทแถวนั้นก็ไม่มีมาช่วยเลยสักคน  ในที่สุดดิฉันก็จับเสื้อคนร้ายได้ และสักพักก็มีเสียงคนตะโกนถามมาว่า “ให้จับไหม ๆ”  พอหันไปมอง ดิฉันก็พบว่าเป็นเสียงจากกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าตึกซีมิกซ์  พอดิฉันตะโกนบอกว่า  “จับ ๆ ๆ”  กลุ่มวินฯ ก็มาช่วยกันจับ ถามว่ามันทำอะไร จะให้เอาไปไว้ที่ไหน  ดิฉันก็บอกว่า มันลวนลามและจะขโมยของ แต่เนื่องจากมีแต่วินฯมาช่วย มันเลยไม่กลัวและพยายามจะหนี  ผู้ร้ายค่อนข้างสูงและแข็งแรง  ต้องใช้หลายคนจับ  และไม่มีเชือกหรืออะไรมาผูกคนร้ายเลย  ดิฉันได้แต่บอกวินฯ ว่า ต้องพาไปโรงแรม เพราะดิฉันทำงานที่โน่น ต้องโทรหาตำรวจ  แต่ต้องไปเอามือถือที่โรงแรม เพราะไม่ได้ถือโทรศัพท์มาด้วย

    จากคุณ : chan-rak-thong-fa - [ 2 มิ.ย. 49 00:16:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป