| ชอบมาก ห้ามพลาด (6 คน) |
| ชอบ (6 คน) |
| เฉยๆ (2 คน) |
| ไม่ชอบ (0 คน) |
| ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 14 คน |
เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + เชิญชวนไปแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=06-2006&date=22&group=1&blog=1
ข้อมูล: หนังมีความยาว 83 นาที / หนังได้รับเรท PG / กำกับโดย Tim Johnson จากผลงาน Antz และ Karey Kirkpatrick คนเขียนบทจาก Chicken Run / หนังดัดแปลงจากการ์ตูนภาพชื่อเดียวกับหนัง / ใน IMDB.com ให้คะแนนเรื่องนี้ 7.3/10 ส่วนใน http://www.rottentomatoes.com ให้เรื่องนี้ Fresh ด้วยคะแนน 73%
... หลังการจำศีลอันยาวนาน Verne ตื่นขึ้นมาในฤดูใบไม้ผลิพร้อมพวกพ้อง (ครอบครัวเม่น , พ่อ-ลูก Possum , สกั๊งค์สาว , กระรอกเจ้าความเร็ว) พวกเขาต้องตกใจเมื่อไปพบกับแนวรั้วมหึมาที่กั้นอยู่ตรงหน้า ครั้นข้ามอีกฝั่งหนึ่งไปก็พบว่า ผืนป่าของพวกเขาครึ่งหนึ่งถูกมนุษย์ยึดครองแล้วแทนที่ด้วยหมู่บ้านจัดสรร
ปัญหาสำหรับ พวกเขา คือ พวกเขาจะหาอาหารจากไหนให้เพียงพอในการมาตุนไว้สำหรับฤดูหนาวหน้าที่จะมาถึง เมื่อผืนป่าของเขาถูกรุกราน มันก็เท่ากับ แหล่งอาหารของพวกเขาก็ร่อยหรอลงไป
Verne เต่าช่างครุ่นคิดระแวดระวัง วิตกกังวล ผู้เป็นเหมือนผู้นำของกลุ่ม เสนอในที่ประชุมว่า ถ้าค่อยๆเก็บอาหารไปเรื่อยๆ มันก็จะทันและเพียงพอก่อนถึงฤดูหนาวถัดไป เข้าตำรา ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ตรงตามทฤษฎี อยู่อย่างพอเพียง
แต่แล้ว การก้าวเข้ามาของ RJ แรคคูนจอมซ่า ก็เหมือนทางเลือกใหม่ เพราะเขามากับไอเดียเก๋ไก๋สไลเดอร์ เสนอในที่ประชุมว่า โอกาสทองอยู่ตรงหน้าจะช้าไปใย อาหารมากมายก่ายกอง สีสันแพ็กเกจสดใสรอให้ไปขโมยมาจาก เหล่ามนุษย์ที่อาศัยในหมู่บ้าน
แน่นอนว่า นโยบาย ทุนนิยมฉาบฉวยชวนเชื่อเจือปนสีสันเหมือนลูกกวาด รสชาติหวานแต่ไร้สารอาหาร ของ RJ ย่อมทำให้ ไม่ว่าสัตว์หรือคน อดเผลอคล้อยตามไปได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะในยุคสมัยนี้ เราไม่นิยมการอดทนรอ และ มักนิยม การได้อะไรมาก็ตามด้วยวิธีที่เร็วกว่า ง่ายกว่า และ เห็นผลชัดเจนกว่า
นั่นทำให้ Verne กับ นโยบายของเขาต้องตกกระป๋องไปในพริบตา ซ้ำร้ายเมื่อเขาทักท้วง เพื่อนๆกลับมองว่าเขาอิจฉา RJ
...พวกนั้นไม่ทันรู้ตัวเลยว่า นโยบายประชานิยม ที่ RJ นำมาเสนอซื้อใจแถมหว่านขนมกรอบแกรบทันสมัยนั้น มันแฝงเบื้องหลังอยู่ พวกเขากำลังถูกหลอกใช้ เพราะแรงผลักดันของ RJ มาจาก การที่เขาถูก Vincent หมียักษ์บีบบังคับให้หาอาหารมาชดใช้ภายในเจ็ดวัน มิฉะนั้น RJ จะกลายเป็นอาหารแทน
Verne อาจจะช้า อาจจะห่วงหน้าพะวงหลัง นั่นก็เพราะ สิ่งที่เขาคิดถึงเป็นอันดับหนึ่ง คือ เพื่อนที่เป็นเสมือนครอบครัว
RJ คล่องแคล่วฉับไว ไม่ลังเล ไม่เป็นห่วงใครพร้อมส่งเพื่อนเข้าไปลุย นั่นก็เพราะ สิ่งที่เขาคิดถึงเป็นอันดับหนึ่งคือ ตัวเอง
...สิ่งที่ RJ หยิบยื่นให้คนอื่นๆ คือ ข้อเสนอที่มีต้นทุนราคา(ขนม,อาหาร)แฝงประโยชน์ส่วนตัว แต่สิ่งที่ เพื่อนสัตว์ป่าหยิบยื่นให้ RJ กลับมา ไม่ใช่สิ่งที่หาซื้อได้ด้วยเงิน นั่นคือ ความจริงใจที่ไม่มีอะไรแอบแฝง
เหล่าเพื่อนๆหยิบยื่นมิตรภาพให้ สร้างที่พักให้ใหม่ มอบความไว้วางใจพร้อมทำทุกอย่างที่ RJ แนะนำ ความจริงใจของพวกเขามีค่าเป็นเพียงเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ของ RJ พวกเขาเป็นเหมือนคนซื่อจากชนบทที่กำลังถูกหลอกใช้จากคนกรุงที่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ต่างอะไรจาก สังคมมนุษย์
แต่ หากเราพยายามมองด้วยปราศจากอคติ เพื่อทำความเข้าใจ เราก็จะพบว่า เล่ห์เหลี่ยมของ RJ มันก็มีที่มา RJ เป็นผลผลิตมาจากสังคมที่ทอดทิ้งเด็กและเยาวชน เขาไม่ได้มีโอกาสเติบโตมาเหมือนคนอื่นๆ เขาไม่ได้มี พ่อที่คอยสอนลูกอย่าง Possum ไม่ได้มีครอบครัวที่ให้ความอบอุ่นเหมือนครอบครัวเม่น หรือ ไม่มีแม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่คอยชี้แนะอย่าง Verne เขาเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว เรียนรู้แต่เพียงการต่อสู้เอาชีวิตรอดไปวันๆ
...แล้วเวลาก็เป็นตัวพิสูจน์ว่า การได้อะไรแบบฉาบฉวยรวดเร็ว นั้นไม่จีรังยั่งยืน การอยู่แบบพอเพียงของ Verne อาจดูช้า แต่ก็มั่นคงและปลอดภัย เพราะเมื่อนโยบายรวยทางลัดของ RJ ประสบความสำเร็จมากขึ้น มันก็ทำให้ เหล่ามนุษย์ รู้สึกว่า ถูกรุกราน เจ้าของหมู่บ้านจึงว่าจ้างหน่วยพิฆาตสัตว์ exterminator มาไล่ล่า Verne , RJ และ สรรพสัตว์ร่วมก๊วน
หลังจากความลับถูกเปิดเผย เพื่อนๆบอก RJ ว่า ขอเพียงเขาเอ่ยปากซักคำอย่างตรงไปตรงมา ทุกคนก็ยอมช่วยเหลือ ไม่จำเป็นต้องหลอกลวง
มันทำให้หัวใจของ RJ ได้สัมผัสความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ชีวิตที่เขาเคยเรียนรู้แค่เพียงว่า สู้เพื่อตัวเอง กำลังได้รับบทเรียนใหม่ๆของการ ทำเพื่อคนอื่น บทเรียนที่แยกย่อยมาจากตำราของมิตรภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นครอบครัว เขาเริ่มเข้าใจถึงคำว่า มิตรภาพ และ ครอบครัว ที่ Verne พูดถึงและต่อสู้เพื่อปกป้องมาตลอด
จะมีประโยชน์อะไรถ้าเราได้ทุกอย่างในครอบครอง แต่มีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลกที่มีวัตถุรอบกาย
นอกจากนี้ หลังต่างฝ่ายต่างผ่านการเรียนรู้จากกันและกัน RJ ก็ได้รู้ว่า การไตร่ตรอง รอบคอบ บางครั้งมันก็จำเป็นสำหรับคนที่ทำอะไรรวดเร็ว เพราะมันก็ทำให้เขารอดตายมาได้ ด้วยกระดองที่ใช้ป้องกันตัว และ การเชื่อในสัญชาติญาณก็จำเป็นในการเอาตัวรอดสำหรับคนที่คิดมากจนเกินไปอย่าง Verne
... Over the hedge อาจมีฉากหน้าเหมือนการ์ตูนติ๋มๆ แต่เนื้อในของมันแอบแฝงเนื้อหาเสียดสีสังคมอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น การแดกดันพฤติกรรมการอยู่เพื่อกินของมนุษย์ได้อย่างเจ็บแสบในฉากที่ RJ แนะนำให้เพื่อนป่า รู้จักมนุษย์ หรือ การเปรียบเทียบการรุกรานของมนุษย์ที่มีต่อป่า และ การรุกคืนจากป่าต่อมนุษย์ผ่านการขโมยอาหาร หนังยังมีข้อคิดสอนใจเด็กๆเกี่ยวกับ ความเป็นเพื่อน , การอยู่ร่วมกับผู้อื่น , การแบ่งปัน และ เนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัว
อย่างไรก็ดีพล็อตของหนังค่อนข้างขาดความกระชับ จึงทำให้หนังไม่ได้อัดแน่นความสนุกเต็มเปี่ยมตลอดเวลา ยิ่งครึ่งแรกของหนังมันรู้สึกเบาๆโหวงๆ หากไม่ได้ภาพตัวการ์ตูนที่สวยงามมาดึงดูดความสนใจ ก็อาจทำให้คนดูผู้ใหญ่เผลอหลับไปก่อนที่จะมีโอกาส ได้มาสนุกสนานเต็มอารมณ์ในช่วงครึ่งหลัง
...ทัพนักแสดงหลายคนมาให้เสียงพากษ์ หลายคนฝากฝีมือไว้ได้น่าชื่นชม เช่น รุ่นเก๋าแต่หน้าใหม่ในวงการพากษ์การ์ตูนอย่าง Bruce Willis กับการพากษ์เป็น RJ เสียงทุ้มต่ำของเขาอาจทำให้ตัวละครพูดด้วยน้ำเสียงโมโนโทน แต่มันก็แฝงความรู้สึกเหงาเดียวดายอย่างที่ต้องการนำเสนอได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็น Nick Nolte ที่มาให้เสียงหมียักษ์จอมโหดได้คุกคามดีเหลือเกิน ยังมี Wanda Sykes เป็นอีกหนึ่งคนที่เด่นขึ้นมาในการทำให้สกั๊งค์สาวตัวนี้ดูมีจริตอย่างน่ารักน่าชัง และอีกคนสำหรับแฟนๆของ Avril Lavigne ก็จะได้ฟังเสียงของเธอในการพากษ์หนังครั้งแรก
...งานแอนิเมชั่นดีๆย่อมแสดงให้เห็นว่ามีพัฒนาการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง งานด้านภาพใน Over the hedge ก็แสดงถึงความสามารถที่ไม่ได้หยุดนิ่งของทีมงานจากดรีมเวิร์ค สังเกตได้จากภาพตัวละครต่างๆในเรื่อง ที่มีรายละเอียด ดูนุ่มนวล และ เนียนงาม กว่าแอนิเมชั่นหลายๆเรื่องที่สร้างกันมา
...ไม่ใช่แค่ความงาม ตัวละครที่รังสรรค์ขึ้นมา ต่างก็มีความน่ารักและรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในตัว เช่น
คู่ Possom พ่อ-ลูก คนพ่อที่อาศัยการเอาตัวรอดด้วยการแกล้งตาย และ มีลูกสาวที่อายกับวิธีการไม่สู้คนของพ่อ แต่สุดท้ายมันก็แสดงให้เห็นว่า การเดินตามอย่างพ่อไม่ใช่เรื่องน่าอาย และ มันช่วยชีวิตได้จริง คนแต่ละคนย่อมมีวิธีการรับมือกับปัญหาแตกต่างกันตามข้อจำกัดของตัวเอง
ตัวละคร สกั๊งค์สาว ที่คิดว่า กลิ่นของตัวเอง เป็นปัญหาที่จะมีคนมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ก่อนที่สุดท้ายเราก็จะพบว่า ทุกชีวิตย่อมถูกสร้างขึ้นมาให้มีคู่ของตัวเองเสมอ เราทุกคนย่อมมีคนที่ต้องการและเห็นคุณค่า การไม่มีใครหาใช่ว่าเราต่ำต้อยด้อยค่า แต่เป็นเพราะว่า ใครคนนั้นยังตามหาเราไม่เจอ
Hammy กระรอกที่ดูไม่ฉลาดนักและมักถูกหลอกใช้อยู่เรื่อยๆ แต่มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่า คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเองเสมอขอเพียงได้ค้นพบ เพราะสุดท้าย ความเร็วชนิดหยุดโลกของมันก็ช่วยให้ทุกคนพ้นจากอันตรายสองต่อที่รุมกันเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
...ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีสำหรับงานแอนิเมชั่นตรงข้ามกับปีก่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะผลงานในปีนี้นับจาก Ice Age 2 , ก้านกล้วย มาจนถึง Over the hedge ล้วนเป็นแอนิเมชั่นที่มีสัตว์เป็นตัวละครเอก และ ทัพสัตว์ปีนี้ก็ทำผลงานนำหน้ากองทัพสัตว์ปีก่อนอย่างไม่เห็นฝุ่น( Madagascar , Chicken Little ) เป็นที่น่าจับตาต่อไปว่า รถ ที่จะมาเป็นตัวละครหลักเรื่องถัดไป (Car) จะทำให้ปีนี้เป็นปีทองของ หนังแอนิเมชั่น ได้หรือไม่
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 49 09:51:58
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
23 มิ.ย. 49 09:50:06
]