CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดูแล้วมาคุยกัน ... โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"

      ชอบมาก ห้ามพลาด (26 คน)
      ชอบ (12 คน)
      เฉยๆ (7 คน)
      ไม่ชอบ (6 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (3 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 54 คน

     48.15%
     22.22%
     12.96%
     11.11%
     5.56%


    … เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + เชิญชวนไปแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=08-2006&date=11&blog=2


    เคยเป็นไหม ?

    ...วันวานคนข้างตัวเราเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก แต่วันนี้ ทำไมเราเห็นเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ มองไปข้างๆดูน่ารักกว่าแฟนเราเสียอีก

    ...วันวานคนข้างตัวเราเป็นเจ้าชายแสนดี แต่วันนี้ทำไมเขาเอาแต่ใจเอาแต่นอน มองไปบนรถไฟฟ้าคนหล่อๆหน้าตาดี หรือ คนรู้จักบางคนยังช่างเอาอกเอาใจมากกว่าแฟนเราอีก

    วันวานที่เคยสนุกสดชื่น วันวานที่เคยสุขสดใส วันเหล่านั้น มันหายไปได้อย่างไร ทำไมวันนี้เหลือแต่แค่วันธรรมดาๆที่อยู่ไปเพียงวันๆ

    ...ความรู้สึกที่เกิดขึ้นข้างต้นเป็นคำถามที่หลายๆคนแอบคิดในใจ บางคนก็ไม่กล้าพูด บางคนก็เก็บเอาไว้ และ บางคนเลือกที่จะไปหาคำตอบจากที่อื่น จากคนอื่น

    รงค์ ชายหนุ่มนักเขียน เลือกไปหาหมอนวด เมื่อภรรยาละเลยความกุ๊กกิ๊ก เรื่องบนเตียง และ เรื่องหวานๆ

    แดง ภรรยาสาวของรงค์ เลือกไปคบหาสมาคมกับหมอหนุ่ม เมื่อเห็นว่าสามีไม่เอาใจใส่ ปล่อยตัว ไม่ช่างเอาอกเอาใจ ไม่ดูดีเหมือนในอดีต

    ทางเลือกที่ต่างฝ่ายต่างหาทางระบายออก นำมาซึ่งจุดแตกหักของความรัก และ อุบัติเหตุที่เขาและเธอไม่มีโอกาสแก้ตัว

    ... จากเค้าโครงเรื่อง จากหนังตัวอย่าง จากช่วงเวลา 1/3 แรกของหนัง ผมนั่งดูไปฟันธงไปว่า ผมต้องประทับใจชนิดน้ำตาพรั่งพรู แต่ปรากฎว่า หนังตัวอย่างที่เรียกน้ำตาผมได้เป็นเม็ดๆพอได้ดูตัวหนังจริง หนังกลับดูดน้ำตาที่กำลังจะไหลในทุกฉากที่ควรจะร้องไห้กลับคืนเข้าไปในเบ้าตา ทำได้แค่น้ำตาคลอๆเป็นช่วงสั้นๆ

    คงจะดีไม่น้อย หากหนังจะคงอารมณ์ความเป็นหนัง โรแมนติคดราม่า และ มีมุกตลกจากโน้ส-อุดม แซมเป็นช่วงๆ บวก ชั้นเชิงในการล่อหลอกคนดูซักหนึ่งขยักในตัวบทหนัง เพียงเท่านี้ โคตรรักเอ็งเลย ก็สามารถที่จะขึ้นหิ้งเป็นหนังรักไทยๆรุ่นใหม่ชั้นดี ที่เวลาผ่านไปใครก็บอกต่อและน่าจดจำ แต่ ผู้กำกับ กลับโยนโอกาสนั้นทิ้งไปแล้วทำให้ โคตรรักเอ็งเลย กลายเป็น หนังเท่ๆเรื่องหนึ่งที่ซึ้งเล็กๆเรียกเสียงฮือฮา มาแล้วก็จากไป

    ซึ่งสำหรับผมแล้ว โคตรรักเอ็งเลย จะสมบูรณ์กว่านี้ถ้าหนังจะตัด

    1.ตัวละคร พิง ลำพระเพลิง ทั้งหมดในหนังออก ... ซึ่งจริงอยู่บทนี้ช่วยในการเล่าเรื่องและซ่อนอะไรไว้ตอนท้าย แต่ ไม่ตลกและดูโดด ทุกครั้งที่เขาโผล่ออกมา หากผู้กำกับจะเลือกออกมาเล่นในหนังก็ไม่น่าที่จะออกมาให้หนังเสียทิศทาง ดูอย่าง ฮิตช์ค้อก หรือ M. Night Shyamalan การปรากฎตัวของเขาไม่ทำให้หนังสะดุดแต่อย่างใด

    2.ส่วนของลูก ...ซึ่งไม่จำเป็นต่อเนื้อหาหลักเท่าไรนัก เป็นส่วนลูกเล่นที่ดีแต่เก็บไว้ใช้กับหนังเรื่องอื่นน่าจะดีกว่า

    3.ส่วนผีหลอก ... ทำได้ดี แต่ มันควรจะไปอยู่ในหนังผีหรือหนังเรื่องอื่น เพราะทำให้หนังเปลี่ยนอารมณ์อย่างแรง และ เปลี่ยนทิศทางของหนังอย่างสิ้นเชิง เมื่อหนังกลับมาสู่โหมดซึ้งคนดูก็ทำใจเปลี่ยนตามมาได้ไม่อินเท่าตอนแรกแล้ว แถมยังต้องมานั่งจดจ่ออีกว่า จะมีอะไรหลอกๆอีกหรือเปล่า

    4.ส่วนหักมุมเป็นว่าเล่น ... ไม่มีประโยชน์อันใดเลยต่อตัวหนัง กับการหักแล้วหักอีก มีประโยชน์ก็เพียงแค่ การได้โชว์ฝีมือการเขียนบทที่แสดงการล่อหลอกให้คนดูเดาไม่ได้ การหักมุมซ้ำๆถ้ามองทางทฤษฎีจิตวิทยาแล้วเทียบได้กับ เวลามนุษย์เราเจออะไรประหลาดใจ ก็มักจะตกใจ ตื่นเต้น แต่ถ้าเจอซ้ำๆ คนเราก็จะเกิดภาวะดื้อด้าน(desensitized) และ กลายเป็นเฉยๆไปในที่สุด

    5.ลดความซับซ้อนหรือเล่าให้ง่ายขึ้น ... ด้วยลูกเล่นที่มากมาย ด้วยการหักมุมกันเป็นว่าเล่น ทำให้หนังซับซ้อนเกินเหตุ และ ความซับซ้อนเกินเหตุเมื่ออยู่ในหนังก็ทำให้คนดู ต้องคิด และ พอคิดมาก ก็จะไม่อินกับตัวหนัง เพราะต้องเสียสมาธิกับการเรียบเรียงเนื้อหา จริงๆถ้าหนังจะจบลงตรงฉากนางเอกกลับไปหาพระเอกหลังจากอ่านพบ ความทรงจำที่พระเอกบันทึกไว้ในโน้ตบุ้ค น่าจะดี ฉากนี้ซึ้งดีทีเดียว ตอนที่เห็นโน้สเปิดประตูออกมาทำหน้าเหรอหรา กับ ไหมที่เข้าใจว่าคนรักตัวเองนั้นรักเธอมากแค่ไหน

    6.เพลาๆความตลกในฉากที่กำลังซึ้งเศร้าอยู่ ... ฉากซึ้งก็ควรจะซึ้งชนิดเอากันให้ตาย หนังมีโอกาสทำได้ถึง แต่ การใส่มุกตลกลดทอนการนำพาอารมณ์ของคนดูไปเยอะทีเดียว


    ...6 ข้อข้างต้น เป็นจุดอ่อนที่แสดงตัวตนของผู้กำกับ ถึงความพยายามที่จะใส่ จะโชว์ ซึ่งยอมรับว่า ไอเดียที่มีนั้นดี แต่ ไม่จำเป็นเลยที่ต้องปล่อยของดีหมดในทีเดียว เพราะมันทำให้ผลที่ออกมา ไม่ลงตัว จนกลายเป็นล้น

    แถมตัวงานที่ออกมาดูจะสะท้อนความสมาธิสั้นของผู้กำกับที่เปลี่ยนอารมณ์หนังเป็นว่าเล่น ฉากที่น่าจะซึ้งกระชากน้ำตาแต่กลับอดใจหยอดมุกไม่ได้ทั้งที่ไม่จำเป็น หรือ บางฉากก็ตัดเปลี่ยนไปรวดเร็วทั้งที่กำลังซึ้งๆอยู่ จึงเป็นเหตุผลให้ผมตอบตัวเองได้ว่า เพราะอะไร หนังตัวอย่างไม่ถึงสามนาทีเรียกน้ำตาผมได้ แต่หนังทั้งเรื่องกลับไม่ได้ไปแม้แต่หยดเดียว เพราะเมื่อไหร่ที่น้ำตาคลอๆพร้อมจะไหลก็ถูกกระชากอารมณ์ไปอีกด้านหนึ่ง

    ดูแล้วรู้สึกเสียดายองค์ประกอบดีๆของหนัง ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบที่เข้ากับธีมในหนังได้เป็นอย่างดีและมีความไพเราะอย่างยิ่ง , ไอเดียดีๆ , นักแสดงที่มีลูกเล่นลูกล่อลูกชน , ประเด็นความรักที่น่าสนใจ ฯลฯ

    หากหนังรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ แล้วไปตัด 6 ข้อข้างต้น แล้วไปเน้นตรงอารมณ์หนังที่ว่า "วันดีๆในอดีตมันหายไปไหนหมด" , "รักเราเป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร" เน้นเฉพาะประเด็น ความรักที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา กับ การปรับตัวของชีวิตคู่ที่อยู่มานาน เหมือนช่วง 1/3 แรกของหนัง แล้วเพิ่ม ช่วงเวลาดีๆก่อนหน้าที่จะจืดจางกว่านี้อีกหน่อยเพื่อจะทำให้ช่วงท้ายมีผลกระทบต่ออารมณ์มากขึ้น บวกกับ ลำดับจังหวะก่อนรถตกหน้าผาให้ได้อารมณ์มากกว่านี้ (ฉากตกหน้าผา น่าผิดหวังมาก เพราะมันน่าจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกต่อคนดูได้มากกว่านี้ น่าจะทำได้ถึงอารมณ์มากกว่านี้ แต่ฉากนี้กลับดูเฉยๆ)

    ผมคงจะ โคตรรัก โคตรรักเอ็งเลย มากกว่านี้

    ...ในส่วนของนักแสดง โน้ส – อุดม แต้พานิช คือ อคติอันดับหนึ่งที่เป็นปัจจัยหน่วงไม่ให้ผมดูหนังเรื่องนี้ แต่จากที่ได้ดูก็ต้องยอมรับว่าเขาเล่นได้ดี การปล่อยมุกอยู่ในระดับที่ไม่มากเกิน ในฉากเศร้าๆก็เล่นได้อย่างเข้าถึง ฉากถูกบอกเลิกเป็นฉากที่บอกความเจ็บปวดที่เขาถ่ายทอดออกมาได้ดี วิภา สารสาส กับการเป็นหน้าใหม่บนจอหนังเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ชนิดสอบผ่านได้คะแนนดีเลยทีเดียว ทั้งสองคนจับคู่เป็นคู่สามีภรรยา ที่น่ารัก และ น่าสงสาร กับการต้องปล่อยให้ความรักหมดเวลาโดยไม่รู้ตัว

    ยังดีที่เรื่องราวของ รงค์ อยู่ในมือ พิง ลำพระเพลิง ที่จะเขียนบทพลิกไปพลิกมาอย่างไรก็ได้ เพราะ เรื่องราวของ รงค์ หากมาอยู่ในชีวิตของเรา วันที่คนรักเดินจากไปก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ยิ่งหากต้องสูญเสียไปตลอดกาลโดยไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะขอโทษ หรือ บอกลา มันยิ่งเจ็บปวดยิ่งกว่า กับ ความรู้สึกผิดและคิดถึงสิ่งที่ยังไม่ได้ทำไปตลอดช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต

    ...เวลาของความรัก ไม่รู้จะจบลงเมื่อไร หากยังมีเวลาแล้วไม่ใส่ใจ จะมาบอกรักหรือทำอะไรในวันที่ความรักสิ้นสุดก็คงสายเกิน เหมือนกับที่ รงค์เคยมี โอกาส มีเวลา ที่จะขอเรียนและเล่นเปียโนกับแดงมาหลายต่อหลายปี แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงอยากไปทำอย่างอื่นมากกว่า ทั้งที่แดงเองอยากให้รงค์มาฝึกเล่นอยู่ข้างๆกัน ครั้นถึงเวลาที่เขาอยากให้เธอกลับมาสอนเขาเล่นเปียโน เจ็บปวดเหลือเกิน เมื่อวันนั้นคือวันที่แดงไม่อยากสอนเปียโนรงค์อีกต่อไป

    ความรักเองก็มีเวลา หลายคนเผลอคิดไปว่า เมื่อได้อยู่คู่กันไป ความรักเป็นของตาย ที่จะไม่จากเราไป สุดท้ายก็อาจไม่ทันได้ตั้งตัวเหมือนวันที่รงค์ถูกบอกเลิกรักขึ้นมา ใครเลยจะคิดว่า ความรักที่ไม่เคยขัดแย้ง จะต้องมาถึงวันนี้

    มันเจ็บปวด ที่เราต้องมาเสียดายโอกาสในอดีตที่เราปล่อยทิ้งไป เพราะความไม่ใส่ใจในวันที่อีกฝ่ายยังรักเรา เราปล่อยให้วันเหล่านั้นผ่านไปอย่างเฉื่อยชา เพราะคิดว่า ความรักไม่มีวันหมดอายุ ครั้นเราคิดจะแก้ตัว ปรากฎว่า วันนั้นมันก็สายเกินไป เพราะอีกฝ่ายหมดพื้นที่ในใจไว้ให้เราแล้ว วันนั้นเองที่เราจะได้พบว่า ความรักก็เหมือนกับต้นไม้ หากวันใดคนดูแลขาดการเอาใจใส่ก็ย่อมเหี่ยวเฉาเสื่อมสลายและตายไปตามกาลเวลา

    สิ่งที่ชอบsmile

    1.หนังตัวอย่าง ... ซึ้งมากๆ ทั้งเพลง ทั้งจังหวะ ทั้งการหยอดมุก การตัดฉากสำคัญๆ เรียกได้ว่า ลงตัวพอดิบพอดีที่จะเรียกน้ำตาและเรียกคนดู

    2.ธีมของหนัง ... ชอบความรู้สึกที่ว่า วันเก่าๆดีๆหายไปไหน และ ประเด็น ความรักที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หนังทำให้เห็นภาพเหล่านี้ได้ชัดเจน และ ใกล้ตัวมาก

    3.เพลงและดนตรีประกอบ ... ชอบเพลง เขียนถึงคนบนฟ้า มาก ได้ยินพร้อมบทพูดของตัวละครจากหนังตัวอย่างทีไร น้ำตาพาลจะไหลทุกที

    4.ไอเดียของหนัง ... หากไม่นับว่าล้นมากเกิน หลายๆอย่างจัดได้ว่าเข้าท่า เช่น ฉากสุดท้ายที่ตัวละครพบกันครั้งแรก (แม้ไอเดียจะคล้ายกับหนังเกาหลีอยู่ แต่ก็ชอบ น่ารักดี) ฯลฯ

    สิ่งที่ไม่ชอบmad

    1. หกข้อทั้งหมดข้างต้นที่อยากให้ตัดออกจากหนัง


    สรุป ... เกือบชอบมากแล้ว เพราะ ภาพรวมของหนังมีศักยภาพที่จะไปได้ดีมากกว่านี้ แต่สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์คือไม่ค่อยชอบ หนังทำได้ซึ้งเป็นช็อตๆ ไอเดียที่มีเจ๋ง แต่ รก+ล้น เกินไป เป็นการเอาไอเดียเท่ๆดีๆมาผสมกันได้ไม่ลงตัว ชอบหนังตัวอย่างมากกว่าหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่อง แอบหวังในใจว่าอยากให้ในอนาคตมีคนหยิบหนังเรื่องนี้มารีเมคอีกครั้ง แล้ว ลดความล้นกับรกของเวอร์ชั่นนี้ออกไป หรือไม่ก็ ให้คุณพิง ลำพระเพลิง ยอมตัดใจตัดต่อใหม่อีกรอบ น่าจะได้หนังรักชั้นดีมาประดับวงการหนังไทยอีกเรื่อง

    ป.ล. ... ขอหยิบหัวม้ามาสวมอีกครั้งกับการอาสาเป็นหน้าม้าเชียร์หนังน่าดู 2 เรื่องในสัปดาห์นี้ครับ >>

    หน้าม้า(กลับมาอีกครั้ง) .... Running Boy (Marathon) ซาบซึ้งกินใจ + United 93 ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=08-2006&date=11&group=5&blog=1



    haha ดู(อ่าน)หนัง(สือ) ให้ข้อคิด ชวนคุณคลิกไปอ่าน ไปคุย และ ร่วมเป็น 1 ความคิดเห็นในหนังที่คุณเคยดู ที่ http://aorta.bloggang.com

    Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=07-2006&date=30&group=1&blog=1

    Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2006&date=13&group=1&blog=1

    V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=03-2006&date=24&group=1&blog=1

    idea ขอความช่วยเหลือครับ .... ช่วยคิดชื่อ พ็อกเก็ตบุ้ค(หนัง) ของผม หน่อยคร้าบ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=5&month=08-2006&date=03&blog=1

    แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 16:26:50

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 11 ส.ค. 49 11:53:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com