ความคิดเห็นที่ 6
จากสยามรัฐ สะดุดรัก...ความรักเยียวยาได้ - 1/9/2549
สะดุดรัก...ความรักเยียวยาได้
ด้วยชื่อเรื่อง สะดุดรัก ที่นำแสดงโดย แอนดริว เกร็กสัน กับ บัวชมพู ฟอร์ด ทำให้ หน้าละคร เรื่องนี้ดูเป็นละครรักสดใสวัยหวาน แต่ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่มาชวนให้ สะดุดใจ ว่ามันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ก็น่าจะเป็นเพราะว่า
นี่เป็นละครเรื่องแรกที่ แอนดริว เกร็กสัน ขึ้นชื่อในฐานะ ผู้จัดละคร ซึ่งด้วย ภาพลักษณ์ นักแสดงติสต์แตก โลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก ของเขา ทำให้พอจะอนุมานได้ว่า คนอย่างแอนดริว! เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องทำละครเอง เขาไม่น่าจะเริ่มต้นด้วยละครแนว กุ๊กกิ๊กเบากะโหลก อย่างแน่นอน
รวมทั้งการที่ละครเรื่องนี้มี สินจัย เปล่งพานิช ที่เป็นหนึ่งในยอดนักแสดงหญิงที่รับงานอย่างพิถีพิถัน ก็ยิ่งทำให้แน่ใจว่า ละครเรื่องนี้น่าจะมีอะไรที่มากกว่าการเป็นละครโรแมนติกเบาสมองแน่ๆ ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ !
ชีวิตสะดุดรัก แต่ชื่อเรื่อง สะดุดรัก ก็ไม่ได้เป็นการตั้งชื่อผิด หรือเป็นการหลอกล่อผู้ชมแต่อย่างใด เพราะเนื้อเรื่องแท้จริงเป็นเรื่องราวของ ความรักที่ทำให้ชีวิตของใครบางคนต้องสะดุด ฉุกใจหันกลับมามองชีวิตที่ผ่านมา เพื่อจะพบว่า ตัวเขาเองเดินชีวิตผิดพลาดมาอย่างไม่น่าให้อภัยโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาเฝ้าหวังถึง โอกาส สำหรับการกลับตัว แต่... จะมีใครให้โอกาสเขามั้ย?
กฤษณ์ (แอนดริว เกร็กสัน) กับ พิมพ์จันทร์ (สินจัย เปล่งพานิช) 2 แม่ลูกที่หากินด้วยการเป็น 18 มงกุฎระดับเซียนที่หลอกต้มตุ๋นผู้คนไปเรื่อยๆ กฤษณ์เฝ้าหวังว่า เขาอยากจะเลิกอาชีพนี้เพื่อหันไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติบ้าง แต่พิมพ์จันทร์กลับมองว่า เรามาไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับแล้ว
กฤษณ์คงจะ เดินตามแม่ ไปเรื่อยๆ ถ้าหากว่าเขาจะไม่เผอิญไปพบกับ เพียงลดา (บัวชมพู ฟอร์ด) ครูสอนศิลปะเด็ก สาวสวยผู้มองโลกในแง่ดี ที่ทำให้เขาต้องกลับมาทบทวนจุดมุ่งหมายในชีวิตอย่างจริงจังอีกครั้ง
แต่มันไม่ง่ายอย่างงั้น เมื่อวังวนแห่งโลกอาชญากรรมพร้อมที่จะดึงให้ชีวิตของ 2แม่ลูกต้องพลัดเข้าสู่หลุมดำอย่างยากที่จะถอนตัว แล้ว 2 แม่ลูกคู่นี้จะทำอย่างไร?
ตั้งแต่ต้นปีมา มีละครไม่กี่เรื่องที่จะเรียกความสนใจผมให้ไปตามหาหนังสือมาอ่านก่อนที่ละครจะลงจอได้ หนึ่งในนั้นก็คือ นางบาป ที่เคยเขียนไปแล้ว กับเรื่องนี้ สะดุดรัก สำหรับเรื่องหลังนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นละครของแอนดริว ที่มีแอนดริวเล่นกับสินจัย แค่นี้จริงๆ !
และหลังจากที่ได้อ่านแล้วก็พบว่า ไม่ผิดหวัง เพราะนี่เป็นบทประพันธ์ที่มาพร้อมความเข้มข้น ทันสมัย ในการสะท้อนภาพสังคมยุคใหม่ได้อย่างเข้มคม เสียดสี แสบคัน ตัวละครมีสีสันสุดขีด เรื่องราวสนุกชวนติดตาม ไดอะล็อกคมคาย แฝงแง่คิด ที่สำคัญจบลงอย่างให้ความหวังสำหรับคนที่เดินก้าวพลาดในชีวิต เป็นละครในแบบที่ผมอยากเห็นในละครไทย ณ วันนี้
แกนหลักของละครเรื่องนี้คือ การที่ผู้เขียนพาคุณผู้ชมไปสัมผัสกับชีวิตของ 2 แม่ลูกที่ยึดอาชีพ 18 มงกุฎ โดยลงลึกถึงมูลเหตุแห่งการกระทำที่ทำให้เขาและเธอต้องกลายเป็นคนที่ทำร้ายสังคมอย่างไม่น่าให้อภัย
ทั้งนี้ เป็นเพราะว่าทั้งสองต่างก็เคยตกเป็น เหยื่อ มาก่อนเช่นกัน พิมพ์จันทร์เคยเป็นนักร้องมาก่อน เธอหลงรักชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่แล้วกลับถูกเขาหลอกเอาเงินเธอไปเล่นการพนัน ครั้นเมื่อเธอมีลูก เขาก็ขอร้องแกมบังคับให้เธอยอมเป็นเมียน้อยของเศรษฐีแก่รายหนึ่ง โดยหลอกว่าลูกของเธอเป็นของเศรษฐีรายนั้น เพื่อที่จะหลอกเอาเงินมาอีกทอดหนึ่ง
ครั้นพอสามีเธอตาย พิมพ์จันทร์จึงพาลูกหนีออกมาจากเศรษฐีรายนั้นแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอกลายเป็นคนที่ไม่ศรัทธาในความรัก และเริ่มหากินด้วยการหลอกกลวงต้มตุ๋นไปวันๆ จนกลายเป็นอาชีพหลัก
กฤษณ์เองก็กลายเป็นคู่หูของแม่ที่ทำงานด้วยกันมาตลอด แต่สำนึกฝ่ายดีก็เตือนให้เขาเห็นว่า นี่เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เขาอยากจะยุติอาชีพนี้ แต่อาชีพนี้ก็เป็นเหมือนคนที่ขึ้นขี่หลังเสือที่ลงไม่ได้ นอกจากจะควบตะบึงต่อไปจนกว่าจะตกจากหลังเสือแล้วโดนมันขย้ำกิน
พิมพ์จันทร์ถูกขู่จากสุพจน์ (ทอม ดันดี) คนที่รู้เห็นเหตุการณ์ที่พิมพ์จันทร์กับกฤษณ์ก่อคดีฆ่าคนตาย และเขาใช้เป็นเหตุผลในการขู่ให้ 2 แม่ลูกต้องออกปฏิบัติการต้มตุ๋นผู้คนไปเรื่อย ด้วยจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเขาอีกทอดหนึ่ง
จนกระทั่ง 2 แม่ลูกเกิดมาสะดุดรักเข้าพร้อมกัน เมื่อพิมพ์จันทร์เกิดไปหลงรักศุภกิจ(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) เศรษฐีนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เหยื่อรายล่าสุดของเธอ ที่แสดงออกว่า เขารักเธออย่างจริงใจ และกฤษณ์ไปหลงรักเพียงลดา ลูกสาวของศุภกิจ นั่นเองที่ทำให้ 2 แม่ลูกเกิดเปลี่ยนใจ
แต่ถึงตอนนั้น ก็เป็นตอนที่ กรรม ที่เขาและเธอก่อไว้มันก็ตามมาเรียกตัวไปชดใช้พอดี ตัวละครเปี่ยมสีสัน บทละครเรื่องนี้เป็นฝีมือของ ปราณประมูล ที่เชื่อถือได้ในเรื่องฝีมือ จากผลงานหลายเรื่องที่ผ่านมา พิจารณาจากคาแรกเตอร์ของตัวละคร ผมไม่ทราบว่าเป็นไอเดียของคนเขียนบท หรือของแอนดริว แต่ที่แน่ๆ 2 คาแรกเตอร์หลักคือ กฤษณ์ กับ พิมพ์จันทร์ เป็นตัวละครที่มีสีสันสุดๆ ซับซ้อน หลากอารมณ์ เรียกว่าเป็นบทในแบบ หวังรางวัล เลยทีเดียว
ซึ่งถ้าเป็นไอเดียของ แอนดริว ก็ถือว่าเขาหวังพิสูจน์ฝีมือตัวเองด้วยการ เล่นของยาก กับบทบาทที่ท้าทายยิ่ง รวมทั้งบทแม่ ที่เขาเลือกมอบบทนี้ให้ สินจัย ด้วย
บทตัวละครสมทบก็มีสีสันไม่แพ้กัน ผมชอบบท ปาริตา (อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์) ที่เป็นเหยื่อรายหนึ่งของแม่ลูกคู่นี้แต่ดันมาหลงรักกฤษณ์ แม้จะรู้ว่าเขาหลอก แต่เธอก็มี ลูกบ้า พอที่จะรู้สึกสนุกที่จะเล่นเกมกับเขาต่อไป ด้วยความรู้สึกที่อยู่ระหว่างความรักกับการอยากเอาชนะ เป็นตัวละคร นางร้าย ที่มากับความลุ่มลึก มีมิติ ที่ซับซ้อนในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นในละครไทย
บท ฉกาจ (สุประวัติ ปัทมสูต) นายตำรวจแก่ที่ถูกพักงานเพราะรับสินบน แต่ก็ยังไม่วายแอบรับจ๊อบจากโจรเพื่อตามล่าโจร 2 แม่ลูก ทั้งก็ยังหวังที่จะกลับไปเอาหน้ากับอาชีพตำรวจอีก เป็นบทที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างความดีกับความเลวที่มีสีสันดี
นี่เป็น 4 คาแรกเตอร์หลักที่โดดเด่นน่าสนใจ แอนดริว สนุกเต็มที่กับการเล่นบทที่ซับซ้อน ซึ่งเขาเคยทำได้ดีมาแล้วจากผลงานที่ผ่านมาหลายเรื่อง มาเรื่องนี้เขาจึงอัดให้ตัวเองได้โชว์เต็มที่ ด้วยบทที่มีคาแรกเตอร์ ทั้งรักศิลปะ แต่ก็เป็นโจรไปด้วย มีทั้งบทโรแมนติกหวานแหวว ดรามาเข้มข้น แอ็กชันเลือดสาด อาละวาด สาดอารมณ์ ไปจนถึงติดคุกติดตะราง งานนี้มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอีกแน่
สินจัย นั้นหายห่วงในเรื่องฝีมืออยู่แล้ว บทที่ลุ่มลึก ซับซ้อนเช่นนี้ ส่งมาเถอะ สินจัยจัดให้ แบบรับประกันคุณภาพหายห่วง แต่ถ้าไม่ใช่สินจัย ผมนึกถึง ธัญญา โสภณ,จริยา แอนโฟเน่ ก็น่าจะให้ความเข้มข้นได้ไม่แพ้กัน
อิม-อชิตะ เป็นนักแสดงรุ่นใหม่คนหนึ่งที่ผมเฝ้ามองด้วยความสนใจ เพราะเธอดูตลกติงต๊องไร้สติ แต่เธอมักจะได้รับการหยิบยื่นให้เล่นบทที่ต้องการคุณภาพที่หลากหลายแนว อย่างเช่น บทผีเก็บกดใน ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, บทสาวติงต๊องใน เพื่อนสนิท, บทนางร้ายกรี๊ดกร๊าดในละครช่อง 7 ที่จำชื่อเรื่องไม่ได้ ฯลฯ และในเรื่องนี้เป็นอีกบทบาทที่เปิดโอกาสให้เธอได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่
สุประวัติ เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่เพียงไม่กี่คนที่น่าจะนึกถึงเมื่อคุณต้องการบทตัวละครที่ แก่แต่เก๋า สักบท สุประวัติเล่นได้อย่างมีสีสันและกวนบาทา ซึ่งถ้าตัวละครตัวนี้อายุน้อยกว่านี้อีกหน่อย ผมนึกถึง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง มาก่อนเลย
อีกคนที่เลือกมาเล่นได้ดีคือ แอนดี้ เขมพิมุก ที่มาเล่นบท รวินทร์ แฟนของนางเอกที่เป็นลูกชายรัฐมนตรี ที่มีนิสัยขี้กร่าง วางอำนาจ โง่ และหื่นกาม ประเภท รู้มั้ยกูลูกใคร การที่เลือก แอนดี้ แทนที่จะไปเลือกประเภท ดาวร้ายหน้าหล่อ ทั่วไป ทำให้บทนี้ดูมีมิติที่สมจริง กลายเป็น ตัวร้ายที่น่าจดจำ อีกบทหนึ่ง
บท ศุภกิจ กับ เพียงลดา อาจดูเป็นเหมือนตัวประกอบจิ๊บจ๊อยในเรื่องนี้ ที่ดูไม่ค่อยมีสีสัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือบทที่ความสำคัญยิ่งยวด เพราะนี่คือบทที่เป็น ตัวแทนของคำว่า โอกาส สำหรับคนที่เคยเดินก้าวพลาด ซึ่งถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้ รับรองว่า โจรจะเกลื่อนกรุงยิ่งกว่าทุกวันนี้
ความรักเยียวยาได้ ที่สุดแล้ว เรื่องราวเดินไปสู่บทสรุปที่ว่า ความรักชนะทุกสิ่ง เพราะความรักนั่นเองที่เยียวยาหัวใจ 2 แม่ลูกให้กลับมาสู่สำนึกที่ถูกต้อง แม้ว่ากับบางคนมันอาจจะสายเกินไป แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า มันเป็นไปตามวิถีแห่งกรรม แต่กับอีกบางคน ยังมีโอกาสให้กลับตัว
ที่เล่ามาข้างต้น อาจฟังดูเหมือนตัวละครและพฤติกรรมในเรื่องนี้ซับซ้อนเข้าใจยาก แต่ไม่ต้องห่วง เพราะว่าผู้เขียนบทเขาได้พยายามอธิบายให้เข้าใจได้อย่างเนียนๆ ไปตลอดเรื่อง
และเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจตัวละคร กฤษณ์ ชัดขึ้น ผู้เขียนได้สร้างตัวละครเด็กชื่อ ทาโร่ขึ้นมาเป็นตัวเปรียบเทียบ ทาโร่เป็นเด็กนักเรียนของเพียงลดา เขามีแม่ที่ทิ้งเขาไปมีสามีใหม่ เวลาผัวทิ้งทีก็กลับมาหาลูกที จนสุดท้ายเธอก็ทิ้งเขาไว้ให้อยู่ในการดูแลของเพียงลดาเพื่อไปหาผัวคนล่าสุด
เพราะขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดคนคอยชี้แนะ ทำให้ทาโร่กลายเป็นเด็กที่มีนิสัยลักขโมย จนกระทั่งมาเจอกฤษณ์ที่มองทาโร่เป็นเหมือนภาพสะท้อนตัวเองในวัยเด็กเขาจึงสอนทาโร่ให้รู้จักคิดว่า เขาจะเลือกอะไรระหว่าง การโตขึ้นเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง มีเงินทอง มีคนนับหน้าถือตา กับการเป็นโจรที่มีจุดจบอยู่ที่คุก หรือไม่ก็ตาย
นั่นคือบทสรุปที่จะบอกพ่อแม่ทั้งหลายว่า คุณมีสิทธิ์เลือกได้ที่จะปั้นให้ลูกของคุณเป็น คนดี หรือเป็นโจรได้ ด้วยการที่... รักพวกเขาให้มากพอ โอบอุ้มเขาไว้ด้วยความเข้าใจ เพื่อที่ชีวิตของพวกเขาจะได้ไม่ต้องมา สะดุด จนกลายเป็น คนเลว ในสังคม เพราะทุกวันนี้มันมีมากเกินพอแล้ว
จากคุณ :
ดาวดวงใหม่
- [
1 ก.ย. 49 11:53:35
]
|
|
|