ความคิดเห็นที่ 1 สรุปนีโอคือตัวอะไรในเมทริกซ์ครับ ไม่รู้ครับรอคนอื่นมาตอบ เทพพยากรณ์คืออะไรครับ มีความสำคัญอะไรในเมทริกซ์ครับผม เทพยากรณ์น่าจะเป็นโปรแกมครับช่วยให้เมทริกสมดุล สายลับสมิท ที่คืนชีพขึ้นมา ทำไมถึงมีความสามารถพอ ๆ กับนีโอเลยละครับ และสามารถแตกตัวได้ด้วย น่าจะคล้ายคล้ายๆกับไวรัสที่กลายพันอยู่ในคอม(เปรียบเอาครับ)คือมันลุกลามในคอมแล้วนีโอคือโปรแกรมสแกนไวรัสครับต่อสู้กันเรื่อยจนโปรแกรมสแกนชนะซะงั้น จากคุณ : iceteen - [ 3 ต.ค. 49 10:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอาแบบที่ผมเข้าใจละกัน คิดซะว่าเมทริก คือคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่เครื่องนึงโดยใช้แหล่งพลังงานจากการจับคนในโลกจริงๆมาเป็นแบตตารี่ แล้วก้อสร้างโลกหลอกๆในสมองคนเหล่านั้นขึ้นมา คนที่ไม่มีรูที่คอ คือคนที่เกิดจากภายนอก ไม่ได้ถูกจับมาเป็นแบตตารี่ นีโอคือคนที่เคยเป็นแบตตารี่แล้วหลุดออกมาภายนอก นัยว่าเป็นผู้รู้แจ้งเห็นจริงทุกสิ่ง เมื่อคนภายนอกพยายามที่จะเข้าไปในเมทริก มันก้อเหมือนว่าเราเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในคอม เมทริกก็จะสร้างโปรแกรมขึ้นมาขัดขวาง หรือพวก antivirus น่ะเอง สมิธคือ1ในantivirus ที่ตอนหลังระบบรวนแล้วกลายเป็นvirus เสียเอง ตัวละครที่มีความสำคัญในเมททริกส่วนใหญ่ก็คือโปรแกรมหลักๆในคอมพิวเตอร์น่ะเอง หรือไม่ก้อเป็นพวกโปรกแกรมที่ไว้เขียนโปรแกรมอื่นน่ะแหละ ซึ่งมีทั้งช่วยเหลือพระเอก หรือทำลาย ต่างกันไปตามหน้าที่ คนทำกุญแจก้อคงประมาณโปรแกรมCrack ทั้งหลายแหล่ นอกจากนี้เรื่องนี้ยังเล่นกับเรื่องของความเชื่อทางศาสนาด้วย คือประมาณว่าmixกันระหว่างเทคโนกะความเชื่อ สังเกตดูครับว่าตัวละครที่เกี่ยวกับการคาดคะเน ความเชื่อ ต่างๆ จะแสดงด้วยคนเอเชีย เพราะชาวเอเชียมีศรัทธาในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้มากกว่าคนตะวันตก คือเรื่องนี้มันลึกซึ้งอ่ะ เขียนไปมาแล้วงง รอคนอื่นมาตอบต่อละกัน จากคุณ : ของมีคม - [ 3 ต.ค. 49 10:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลองไปหา Animatrix มาดูครับ มันจะมีหลายๆตอนที่บรรยายความเป็นมา ว่าทำไมโลกใน Matrix ถึงเป็นแบบนั้น ส่วนแก่นหลักๆของ Matrix ในความเห็นส่วนตัวของผม เท่าที่บังเอิญได้เรียน วิชาปรัชญาตะวันตก มาเห็นว่าหลายๆอย่างสอดคล้องกันนะครับ อย่างเช่น หลักปรัชญาของ Plato ที่เชื่อว่า โลกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน (Divided Line) ซึ่งก็คือ Visible Realm ซึ่งก็คือโลกที่วัตถุสามารถมองเห็นได้ เสมือนโลกแห่งความจริงในหนัง และ Intelligible Realm คือโลกที่ต้องใช้ ความรู้และเหตุผลในการ รับรู้สิ่งต่างๆ เสมือน โลก Matrix ในหนัง ส่วนตัวละครต่างๆ เท่าที่ผมมานั่งๆคิด แต่ละคนนั้นแสดงออกถึงแนวคิดแต่ละอย่างใน Tripatite Soul ซึ่งประกอบไปด้วย Apetitive (ความต้องการด้านร่างกาย) อย่างเช่น ไซเฟอร์ Spirited (ส่วนของอารมณ์) ซึ่งตรงนี้ นีโอ แสดงออกให้เราได้เห็นอย่างมากเลยครับ (โดยเฉพาะในภาค 2)   และ Reason อย่าง มอเฟียส หรือ Oracle นอกจากนั้นอย่างในตอนสุดท้าย ที่นีโอสละชีวิตตนเอง ก็เข้าหลักปรัชญาของ St.Bonaventure เรื่อง Darkness above the light หรือการที่จะเข้าสู่สัจธรรมอันสูงสุดได้นั้น ต้องผ่านความทรมานอันสูงสุดก่อน ส่วน The One ก็มาจากหลักของ Plotinus ครับ คือ The One เป็น Source ของทุกสรรพสิ่ง เรียกว่าทุกอย่างมีต้นกำเนิดมาจาก The One > จิต (Will, Mind, Spirit)> วิญญาณ (Cosmic, World soul) > ร่างกาย นั่นอาจจะเป็นที่มาที่ว่า ทำไม Neo ถึงควบคุมอะไรหลายๆอย่างในโลก Matrix ได้ นั่นเอง   สรุปแล้ว ตามความคิดผม (งงกันมั้ยครับเนี่ย = =") Neo ผู้เป็น The One ก็คือ Source ของทุกสิ่งนั่นแหละครับ และก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าเครื่องจักรต้องตามกำจัดเพราะว่า เครื่องจักรต้องการควบคุมทุกสิ่งเอง   ส่วนเทพพยากรณ์ ในหนังบอกว่าเป็นโปรแกรมหนึ่งครับ แต่ผมมองว่าเป็นตัวที่ทำให้ นีโอ รู้ถึงหน้าที่และจิตวิญญาณที่แท้จริงของตนเองมากกว่า (เลือกระหว่าง Spirited หรือ Reason) ส่วน สมิท ได้รับส่วนแบ่งพลังจากนีโอมาตอนที่ถูกฆ่าในภาคแรกครับ ทำให้หลุดจากการควบคุม เสมือนเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่กระจายตัวเองเพื่อทำลายทุกอย่างน่ะครับ อาจจะดูผมคิดมากไปซักนิด แต่หนังมันก็ชวนให้คิดจริงๆ ผมว่าหลักศาสนา อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องซักเท่าไหร่ในเรื่องนี้ (แต่บางคนก็คิดนะครับ แล้วแต่) สำหรับผมมันเป็นหลักปรัชญาตะวันตกเต็มๆเลยแหละครับ จากคุณ : พี่หมีขั้วโลก - [ 3 ต.ค. 49 10:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านเล่น http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4697439/A4697439.html จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 ต.ค. 49 10:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Oracle เป็น Database อ่ะครับ เมื่อคุณมีข้อมูลทุกอย่างและฉลาดมากๆ คุณย่อมรู้ถึงความเป็นไปทุกอย่างจึงกลายเป็นผู้พยากรณ์หรือ Oracle อ่ะครับ ถ้าจะดูเรื่องนี้รู้เรื่องควรจะศึกษา พุทธศาสนากับเรื่องคอมอ่ะครับ จากคุณ : ทล-ษ-พัก - [ 3 ต.ค. 49 11:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้รู้ใช่ใหมครับว่าโลกแมททริคคือโลกจำลองที่เอาคนไปอยู่ จะพยายามใช้คำง่ายๆละกันครับ คราวนี้ตามหลักทฤษฏีที่ว่าไม่ว่าระบบจะสมบูรณแบบแค่ใหนมุนษย์จะสะสมปัณหาในระบบจนเออเร่อก่อเกิดผู้ต่อต้านเสมอ (เดอะวัน) แมททริกจึงสร้าง เทพพยากรมาเป็นโปรแกรมชี้นำ เดอะวัน ให้ไปในทางที่สุดท้ายมีสองทางเลือก และที่ผ่านมาเดอะวันรุ่นก่อนๆ เลือกให้มนุษยรอด และเริ่มต้นกลับที่ศูนย์มาหลายรอบ แมททริกสร้างโปรแกรมตัวหลักมาสองตัว 1 ตาลุงสถาปัตในห้องขาว คือโปรแกรมดูแลโลก  แมททริก 2 ป้าพยากรคือโปรแกรมที่สร้างมาเพื่อดูแลส่วนที่เออเร่อ(เดอะวัน) สายลับคือโปรแกรมค้นหาและกำจัดส่วนที่เออเร่อครับ ป้าพยากรณคือโปรแกรมที่ค้นหาและดูแลส่วนที่เออเร่อให้ไปตามเป้าหมายคือสันติภาพจริงๆ แต่ ระบบหลักมั่นใจว่า ทางเลือกสุดท้ายสองข้อจะถูกบังคับให้ส่วนที่เออเร่อเลือกทางที่ระบบยอมรับได้ แต่ล่ะส่วนทำหน้าที่ตัวเองอย่างเที่ยงตรงดังนั้นสายลับจึงมองว่าเทพยากรณเป็นศรัตรู   ซึ่งตัวระบบแมททริกก็มั่นใจว่า เมื่อเดอะวันถูกดูแลด้วยเทพพยากรณ ก็จะนำไปสู่ทางเลือกสุดท้าย ที่จำใจต้องเลือกให้รีเซ็ตระบบ เพื่อความอยู่รอดของมนุษย(มากกว่าแฟน) แต่ป้าพยากรณก็พัฒนาตัวเองมาตามเวลา  ในรุ่นเดอะวันคนล่าสุดจึงมีความเปลี่ยนแปลง ทีละนิดส่งผลให้เดอะวันเลือกทางเลือกที่ ไม่เป้นไปตาม ระบบคาดหวังไว้ ถ้าไม่มีรูที่คอก็เข้ามาไม่ได้ครับ พระเอกไม่ได้เกิดใหม่นะครับ แต่อยู่ในหลอดแก้วนั้นแต่แรก ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าหลับอยู่ในแมททริก ตาลุงกุญแจคือ คนที่ดูแลทางผ่านในระบบครับ พูดง่ายๆว่าเป้นคนที่มีทางเชื่อมไปหาผู้ดูแลระบบ คือตาลุงในห้องขาว ตัวขาวๆสองตัวนั่นเป็นโปรแกรมสายลับรุ่นก่อนครับ จากตอนแรกที่ระบุว่า นีโอก็คือความเออเร่อที่ไม่อาจเลี่ยงได้ของระบบ และตอนที่ส่วนหนึ่งของนีโอเข้าไปในตัวสมิทก็ทำให้ระบบของสายลับตัวนั้นเออเร่อตามไปด้วยครับ จากคุณ : garun studio - [ 3 ต.ค. 49 13:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อผมลองตอบแบบผมมั่งนะตอบแบบหนังเลยนะ นีโอคือหนึ่งในกลไควบคุมของเมทริกซ์ครับ คืออย่างงี้ในเมทริกซ์เนี่ยมันจะมีกลไกหลายๆอย่างหลายโปรแกรมทำงานต่างๆกันไป โดยเมนหลักของโปรแกรมก็คือโปรแกรมที่เรียกตัวเองว่าสถาปนิกเขาคือผู้ออกแบบสร้างทุกอย่างรวมถึงความเป็นไปและสังคมในเมทริกซ์ เมทริกซ์แรกที่เขาสร้างขึ้นมานั้นสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างไม่มีความขัดแย้งโลกอยู่อย่างสงบสุข แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมทริกซ์กลับล่มสลาย(อันนี้ผมตีความไม่ออกอะว่าทำไม) เขาเลยลบเมทริกซ์ทิ้งและสร้างโอราเคิลขึ้นมาเพื่อไปศึกษามาว่าทำไมเมทริกซ์แรกที่น่าจะสมบูรณ์ถึงล่มสลาย ซึ่งโอราเคิลก็ได้คำตอบมาว่า ทางเลือกคือสิ่งที่มนุษย์ต้องการ แม้99%จะยอมรับโดยดุษฎีแต่มักมี1%เสมอที่ต้องการเลือกไปทางอื่น ดังนั้นสถาปนิกจึงสร้าง(เรียกว่าสร้างคงไม่ถูกน่าจะใช้คำว่าค้นหาจนเจอมากกว่านะ)เดอะวันขึ้นมาเพื่อให้เขาเป็นผู้นำ1%ที่ต้องการทางเลือกอื่นได้ออกไปสู่โลกนอกเมทริกซ์ โดยมีโอราเคิลเป็นผู้นำทาง และเมื่อถึงจุดสิ้นสุดเขาก็จะให้โอราเคิลนำทางเดอะวันกลับมายังเมทริกซ์เพื่อบอกสาเหตุที่แท้จริงของเดอะวันว่าเขาเป็นเพียงทางเลือกที่สร้างมาเพื่อควบคุมระบบเท่านั้น แล้วทำการทำลายไซออนเสีย แล้วให้เดอะวันเลือกมนุษย์22คนออกไปเพื่อสร้างไซออนใหม่และเมื่อไซออนสร้างเสร็จเดอะวันจะถูกดึงกลบมายังเมทริกซ์แล้ว สถาปนิกก็จะเก็บข้อมูลจากเดอะวันแล้วสร้างเดอะวันคนใหม่ให้เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในไซออนตามหาและเริ่มเมทริกซ์ใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งมาถึงยุคของนีโอที่เป็นยุคที่6ของเดอะวันแล้ว ซึ่งในครั้งนี้โอราเคิลมีความคิดต้องการที่จะเปลี่ยนวิถีของเมทริกซ์เธอต้องการให้เกิดสันติระหว่างคนกับหุ่นยนต์นั่นคือการนำทางไปสู่จุดจบของเรื่องทั้งหมด โดยในทางเลือกสุดท้ายเมื่อนีโอต้องเลือกระหว่าง ช่วยคนรัก กับยอมรับข้อตกลงของสถาปนิก(แบบที่เดอะวันคนก่อนๆทำ) เธอมั่นใจว่านีโอจะต้องเลือกช่วยทรีนิตี้เมื่อเป็นเช่นนั้นจริง เท่ากับว่าระบบของเมทริกซเสียไปทันที จะไม่มีการคัดเลือกคนออกไปสร้างไซออนใหม่และไซออนเก่าก็จะถูกทำลายโดยเหล่าเซนทิเนล และมนุษย์ชาติก็จะสูญสิ้น รวมไปถึงเมทริกซ์ที่กำลังถูกไวรัสที่มีชื่อว่าสมิทธิ์ครอบครองด้วย ทางเลือกสุดท้ายที่นีโอเหลือคือการไปยังเมืองของหุ่นยนต์เพื่อเจรจาต่อรองให้ปล่อยผู้คนในเมทริกซ์ เสียแล้วตนเองจะช่วยกำจัดสมิทธิ์ให้ ซึ่งฝ่ายหุ่นยนต์ยอมรับในข้อเสนอเมื่อ นีโอทำลายสิมทธิ์ได้แล้วทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาวะปกติ หุ่นยนต์เลิกทำสงครามกับมนุษย์และเปิดทางเลือกให้กับคนที่อยู่ในเมทริกซ์เพื่อเลืกที่จะออกไปยังโลกภายนอกหรืออยู่ในเมทริกซ์ก็ได้ จากคุณ : นายสองสี - [ 3 ต.ค. 49 13:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 copy จาก คุณ  CARAGIO   เรื่องจริงๆก็คือ ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือการวางแผนของเทพยากรณ์ครับ เรื่องของประวัติความเป็นมาของเมทริกซ์ คงต้องไปดูเอาเองจาก Animatrix นะครับ ส่วนเรื่องในไตรภาคนี้ ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่า "พระเจ้า"ของเมทริกซ์ มี อยู่สองคน คือเทพยากรณ์ และสถาปนิก (เปรียบเสมือนบิดา-มารดาแห่งเมทริกซ์) ทางผู้กำกับวางบทสองตัวนี้ให้เหมือนกับตัวแทนของชาย-หญิงนั่นเองครับ สถาปนิก จะคอยจัดการในเรื่องของสิ่งที่"เป็นเหตุเป็นผล"ทั้งหลาย เช่นสิ่งที่คำนวณได้ ตัวเลข ดาต้าต่างๆ (พูดง่ายๆคือสิ่งที่เป็นรูปธรรม) ในขณะที่เทพยากรณ์จะเป็นผู้ดูแล เรื่องของอารมณ์ และสิ่งที่เป็นนามธรรมต่างๆ ลองดูคู่ของสิ่งต่างๆต่อไปนี้ดูนะครับ สมองซีกซ้าย-ซีกขวา เหตุผล - อารมณ์ วิทยาศาสตร์ - ศิลปศาสตร์ ชาย - หญิง เหล่านี้คือสิ่งที่เทพยากรณ์และสถาปนิกดูแลและจัดการครับ ทีนี้ ถ้าได้ไปดู Animatrix แล้ว คงจะทราบว่าเครื่องจักรนั้นอยากจะเป็นมิตรกับมนุษย์แค่ไหน แต่มนุษย์ต่าง หากที่ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมตกลงเป้นมิตรด้วย กลับมองเครื่องจักรเป็นศัตรูตลอดมา เมทริกซ์ ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว 6 เวอร์ชั่น โดยการทดลองถูกผิดเรื่อยมา แต่ละครั้งก็ทดลองเรื่องหลักๆคืออารมร์ของมนุษย์ (ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์อะไรบ้าง) แต่ ทุกครั้ง ผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกันคือ จบลงด้วยการล่มสลายของไซออน และสร้างขึ้นมาใหม่ เหมือนกงกำกงเกวียนที่วนไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุด ตราบที่มนุษย์ยังไม่รู้จักคำ ว่าเสียสละ ความสงบสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องจักรต้องการมาตลอด ทีนี้ เราคงทราบมาจากหนังภาคสองแล้วนะครับว่า ในเมทริกซ์ทุกๆเวอร์ชั่น จะจบลงด้วยการที่เดอะวันเข้าไปพบสถาปนิก และเลือกที่จะปกป้องไซออนไว้ (อย่างที่ สถาปนิกให้นีโอเลือกทรินิตี้กับไซออน) ซึ่งการเลือกไซออนกับอีกตัวเลือกหนึ่ง(ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าเป็นตัวเลือกที่เดอะวันคนก่อนๆตัดใจไป และเลือกปก ป้องอนาคตของมนุษยชาติแทน) จำได้มั้ยครับ ถ้านีโอเลือกไซออน ทรินิตี้จะตาย แต่มนุษยชาติยังคงอยู่รอดได้ แต่ถ้าเลือกทรินิตี้ ช่วยเธอได้ก็จริง แต่เครื่องจักรจะฆ่ามนุษย์ทุกคนทันที ทำให้เผ่าพันธุ์ มนุษย์ล่มสลาย ซึ่งเดอะวันคนก่อนๆเลือกที่จะปกป้องมนุษย์ไว้ งงมั้ยครับ คือถ้าเลือกไซออน มนุษย์ส่วนมากตายก็จริง แต่เครื่องจักรจะให้เดอะวันเลือกตัวแทนชายหญิง ไว้23คน เพื่อมาสืบทอดไซออนต่อ แล้วรีเซ็ทเมทริกซ์อีกครั้งเพื่อสร้างเวอร์ชั่นใหม่ แต่ไม่ใช่กับนีโอครับ นีโอเลือกที่จะช่วยคนรัก โดยยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมนุษย์ที่เหลือดี นี่แหละที่เป็นจุดเปลี่ยนของเมทริกซ์เวอร์ชั่นนี้ ทีนี้มาถึงจุดสำคัญครับ อย่างีท่ผมบอกไว้ว่า ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมากกว่าการวางแผนไว้แล้วของเหล่าเครื่องจักร เพื่ออะไรกัน? ก็เพื่อให้มนุษย์ผู้บ้าคลั่งทั้งหลายได้เรียนรู้ ถึงความสงบสุขเสียที ไม่มีการรุกราน สองเผ่าพันธ์คือมนุษย์และเครื่องจักรสามารถอยู่ร่วมกันบนโลกใบเดียวกันได้อย่างสงบสุข (สังเกตตอนที่นีโอไปหาเจ้าแห่งเครื่องจักรคนเดียวนะครับ เครื่องจักรถามว่า "เจ้าต้องการอะไร" นีโอตอบสั้นๆคำเดียว "Peace(สันติ)" สังเกตดีๆจะพบว่าเจ้าแห่ง เครื่องจักรยิ้มอย่างพอใจ) ทั้งสมิธและนีโอ มอร์เฟีย ทรินิตี้ ฯลฯ คือสิ่งที่เทพยากรณ์วางหมากไว้ทั้งหมดเลยครับ การเกิดมาของนีโอ การสงสัยในการมีชีวิตอยู่ของนีโอ การที่ส่งทรินิตี้ให้เจอกับ นีโอ การกบฏของมอร์เฟีย ฯลฯ นี่เองเป็นสาเหตุว่าทำไมเทพยากรณ์จึงรู้ทุกอย่าง (ก็หล่อนเป็นคนกำหนดบทบาทของทุกชีวิตมาแล้วนี่) แม้กระทั่งตอนที่สมิธไปหาเท พยากรณ์เพื่อยึดร่าง เขาถามว่า "คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าผมจะมา แล้ทำไมคุณถึงยังนั่งรอให้ผมมาอีกล่ะ?" นี่ก็เป้นสิ่งที่เทพยากรณ์วางไว้แล้วเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กับสถาปนิกครับ ในตอนท้ายของภาคสองเราจะเห้นว่า สถาปนิกดูเหมือนจะวางตัวตรงข้ามกับเทพยากรณ์ เพราะทั้งสองไม่ลงรอยกันในเรื่องนี้นั่นเอง สถาปนิก นั้นไม่เชื่อว่ามนุษย์จะสำนึกได้(ตามแบบฉบับของผู้ชาย) ในขณะที่เทพยากรณ์พร้อมจะลองเสี่ยงดู (ตามแบบฉบับของผู้หญิง) สังเกตตอนท้ายภาคสามสถาปนิกพูดกับ เทพยากรณ์ว่า "คุณนี่เล่นเกมอันตรายจริงๆ" แลวเทพยากรณ์ก็ตอบว่า "อยากจะเปลี่ยนก็ต้องเสี่ยงกันหน่อยล่ะ" (ผมจำบทภาคภาษาอังกฤษไม่ได้ ขออภัยครับ) แล้วเซราฟก็พูดว่า "คุณรู้อยู่แล้วใช่มั้ย?" เทพยากรณ์ตอบว่า "ฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันเชื่อ (I believe)" เทพยกรณ์เชื่อว่าท้ายสุดแล้ว นีโอจะรู้ซึ้งถึงคำว่าความรัก สันติภาพ อย่างดีที่สุด เชื่อว่าแม้ไม่มีทางชนะ แต่เขาก็จะสู้กับสมิธจนถึงวินาทีสุดท้าย เพราะเขาเลือกที่จะเดิน มาในทางเส้นนี้ สิ่งที่เขากระทำ คือสิ่งที่เขาทำเพราะตัวเองเชื่อมั่น และเลือกเดิน รวมทั้งมนุษย์ทุกคนในไซออนก็เรียนรู้จากเรื่องราวของนีโอ ว่าถึงคราวที่จะยุติสงคราม นี้อย่างถาวรเสียที เทพยากรณ์จึงวางบทบาทมาทั้งหมด แต่ก็ปล่อยให้เรื่องสุดท้ายของมันเป็นไป คือการตัดสินใจของนีโอ ที่จะนำความสงบสุขมาให้โลกใบนี้ สังเกตดูนะครับ มนุษย์จะสามารถสร้างไซออนได้มั้ย? เสร้างเมืองใหญ่โตขนาดนั้นไว้ใต้ดิน พร้อมระบบสาธารณูปโภคพร้อม ไม่ได้แน่นอนครับ รวมทั้งการรบกับเครื่อง จักรยิ่งเป็นไปไม่ได้ เครื่องจักรไม่เคยกลัวเจ็บ ไม่เคยกลัวตาย ชำรุดก็สร้างใหม่ ในขณะที่มนุษย์จำนวนนิดเดียว ตายแล้วก็ตายเลย ไม่มีมาซ่อมแซมใหม่ได้ ไม่ว่าจะดูอย่าง ไรเครื่องจักรก็เหนือกว่ามนุษย์ทุกอย่าง พูดง่ายๆก็คือ หากเครื่องจักรคิดจะฆ่ามนุษย์ให้หมดไปจริงๆ มันก็สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ส่งที่มันเรียนรู้ก็คือ ไม่มีฝ่าย ไหนขาดอีกฝ่ายไปได้ ต้องอยู่ร่วมกัน เหมือนที่ในภาคสอง รัฐมนตรีพูดกับนีโอว่า "ถ้าอยากรู้ว่าใครอยู่เหนือกว่า ลองไปปิดสวิตซ์ดูสิ เครื่องจักรหยุดทำงาน แต่เราก็ต้องถามตัวเองด้วยเหมือนกันว่า  จะเอาอากาศมาจากไหน จะเอาน้ำดีๆมาจากไหน" เห้นมั้ยครับว่ามันต้องอยู่ร่วมกัน ขาดไปไม่ได้ เครื่องจักรตระหนักถึงเรื่องนี้ มันถึงได้พยายามสอนมนุษย์ให้รู้ด้วยนั่นเอง ต่อไปจะตอบคำถามนะครับ - สมิธรู้ในที่สุดไงครับว่าที่แท้ เทพยากรณ์ให้ยึดร่างอย่างง่ายๆ เพราะหล่อนวางแผนไว้แล้วนั่นเอง ที่สมิธแปลกๆไปเพราะเขาไปยึดร่างเทพยากรณืมาแล้ว จึงได้รับความสามารถของเทพยากรณืมาด้วย (นึกออกมั้ยครับ เหมือนไปยึดสมองคนอื่น ก็ได้รู้ความทรงจำของเขามาด้วย) เพราะสมิธก็ได้รู้ในที่สุดว่า แม้ตนจะยึดครองเมทริกซ์ได้หมดแล้ว ก็ยังเป็นแค่หมากตัวหนึ่งนั่นเอง ไม่มีทางทะเยอทะยานกว่านี้ได้ ส่วนบทสรุปของการต่อสู้ มีหลายทฤษฏีครับ ที่น่าสนใจเช่น : - สมิธกับนีโอเป็นด้านตรงข้ามของกันและกัน (แบบที่เทพยากรณ์พูดไว้ "เธอทั้งคู่ล้วนเป็นด้านตรงข้ามของกันและกัน") พอสมิธรวมกัยนีโอได้ ก็เหมือนกับ -1 +1 นั่นแหละครับ ได้0 พอดี เลยลบไปพอดี - การต่อสู้ครั้งสุดท้าย นีโอต่อปลั๊กเข้ากับเครื่องจักรโดยตรง(ปกติต่อแบบไร้สายจากยาน) จึงได้พลังเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ และเมื่อสมิธยึดครองร่างนีโอ เครื่องจักรจึงสามารถอ่านโค้ดของสมิธได้ทันที จึงสามารถหาวิธีทำลายได้ แต่ถ้าคิดตามทฤษฎีของผมแล้ว ก็จะอธิบายได้ง่ายๆ คือเมื่อสมิธยึดครองร่างนีโอแล้ว ก็ได้สมความตั้งใจของเครื่องจักรแล้ว(คือต้องการให้นีโอเสียสละ ดูว่านีโอจะเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นได้มั้ย) สังเกตดูเมื่อสมิธหันไปถามตัวอื่นว่า มันจบแล้วใช่มั้ย ตัวนั้นก็พยักหน้ากลับมา เมื่อทุกอย่างสมความตั้งใจแล้ว เครื่องจักรก็ทำการรีเซ็ทตัวเองได้แล้ว เพื่อเริ่มเมทริกซ์เวอร์ชั่นใหม่ได้ - เทพยากรณ์ป็นโปรแกรมครับ โปรแกรมไม่ได้ถูกสมิธลบไปเมหือนคน แค่ถูกทับไปเท่านั้นครับ - ซาตีเป็นโปรแกรมพิเศษก็ว่าได้ครับ เพราะเกิดมาจากความรักของโปรแกรมด้วยกัน(ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับโปรแกรม สังเกตนีโอจะถามว่า โปรแกรมมีความรักด้วยเหรอ) คือปกติโปรแกรมจะทำมาเพื่อจัดการด้านต่างๆใช่มั้ยครับ (เช่นคนอินเดียเป็นโปรแกรมจัดการเรื่องน้ำ เมโรวินเจี้ยนเป็นโปรแกรมจัดหาข่าวสาร) แต่ซาตีเป้นโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อสร้างความสวยงามให้โลกเฉยๆ (เช่นการทำพระอาทิตย์ตอนจบเป็นต้น) - ตามที่ว่ามาทั้งหมดครับ ถ้ายังงงตรงไหนก็ถามมาได้เน้อ ผมเชี่ยวชาญ อิอิ จากคุณ : CARAGIO  - [ 18 มี.ค. 49 22:53:49 ] จากคุณ : LordOfHell - [ 3 ต.ค. 49 14:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ขอบคุณมากครับที่เอาของผมมาโพสท์ ผมก็กำลังตามหาไอ้ที่ตัวเองโพสท์ไว้พอดี เผื่อจะมีใครถามอีกจะได้เอาไอ้นี่แปะไว้ อิอิ (ผมไม่ได้เซฟไอ้ที่เขียนไว้เก็บไว้ครับ) เสริมให้เข้าของกระทู้จากไอ้ที่ผมเคยเขียนนะครับ - นีโอคือคนที่เทพยากรณ์กำหนดมาแล้วให้เป็นผู้ปลดปล่อย(ตามที่บอกว่าทุกคนล้วนถูกวางหมากมาแล้ว) แต่ในฐานะมนุษย์ ก็เป้นเหมือนคนอื่นๆครับ คือเกิดในหลอดเพาะมนุษย์ของเมทริกซ์ จะออกไปได้ก็ต้องตื่นมาให้ได้เท่านั้น แล้วก็จะถูกเมทริกซ์คายทิ้ง รอให้ใครมาเก็บไปอีกที - ส่วนคนนอกเมทริกซ์ (ชาวไซออน) เข้ามาในเมทริกซ์ไม่ได้ครับ สังเกตพวกนี้ส่วนมากจะได้เป็นโอเปอเรเตอร์ หรือเป็นทหารไซออนเฉยๆ ไม่ได้เป็นพวกแฮกเกอร์เข้าเมทริกซ์เหมือนพวกพระเอก - สมิธ เป็นเหมือนโปรแกรมตรวจจับไวรัสตามที่จขกท เข้าใจครับ ถูกแล้ว ส่วนที่ว่าทำไมพอเขาฟื้นขึ้นมา ถึงมีความสามารถเหมือนนีโอ อันนี้ก็มีหลายทฤษฎี ถ้าพูดง่ายๆก็คือมันกลายพันธ์ครับ ถ้าพูดซํบซ้อนขึ้นหน่อย ก็คือตอนท้ายภาคแรกที่เขาถูกนีโอเข้าไปทำลายจากภายใน มีบางส่วนของนีโอถูฏเขียนทับลงในโค้ดของสมิธ(ตามที่เขาพูดไว้ในภาคสอง) เลยได้สิ่งที่นีโอมีมาด้วย - เมโรวินเจี้ยน เป็นโปรแกรมจัดการข้อมูลข่าวสารครับ คีย์เมคเกอร์ เป็นโปรแกรมที่เก็บพาสเวิร์ดที่ต่างๆของเมทริกซ์ไว้ (ก็คือ กุญแจนั่นเอง) สองแฝดเดรดล็อค เป็นโปรแกรมบอดี้การ์ดของเมโรฯครับ ถ้าไปดูอีกรอบ มีจุดบางจุดให้สังเกตดีๆนครับ 1.ภาคแรก ตอนนีโอไปหาเทพยากรณ์แล้วโดนบอกว่า เธอไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย แต่เธอกำลังรออะไรบางอย่าง อาจจะเป้นการเกิดใหม่มั้ง แล้วไปดูตอนจบ นีโอฟื้นขึ้นมาอีกครั้งแล้วกลายเป้นผู้ปลดปล่อย (เกิดใหม่) 2.ภาคแรกเหมือนกัน ตอนนีโอคุยกับมอเฟียสในยาน มอร์เฟียสเล่าถึงผู้ปลดปล่อยคนก่อนๆด้วย 3.ภาคสอง สังเกตบทสนทนาของสมิธก่อนจะสู้กันให้ดี ตอนนี้มีการพูดแฝงความนัยหลายๆอย่างไว้เช่น - อาจเป็นเพราะบางส่วนของคุณ(นีโอ) ถูกเขียนทับลงบนตัวผม - เราไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะเรามีอิสระ แต่เราอยู่ที่นี่ เพราะเราไม่มีอิสระ - ปราศจากเจตจำนง เราก็มิอาจดำรง (Without purpose, We cannot exist) 4.และภาคนี้มีการกล่าวคำๆหนึ่งไว้เยอะมากคือ Purpose หมายถึงจุดมุ่งหมายของการมีตัวตนอยู่ ถ้าเป็นโปรแกรม ก็คือโปรแกรมนั้นจะต้องมีจุดประสงค์ในการใช้งาน (ดังที่เทพยากรณ์พูดไว้ว่า มันมีอยู่ทุกที่ มีโปรแกรมที่ใช้จัดการเรื่องนก เรื่องใบไม้ ดอกไม้) พอรู้ตามนี้แล้วลองสังเกตสิ่งเหล่านี้ดูครับ - Purpose ของคีย์เมคเกอร์คืออะไร (ตรงที่เขาบอกว่า It's my purpose ตอนสู้บนทางด่วน) - Purpose ของสมิธเคยเป็นอะไร แล้วตอนนี้เขามี Purpose อย่างไร (ตรงที่เขาบอกว่า ผมเปลี่ยนไปแล้ว ถูกถอดปลั๊ก เป็นคนใหม่) ถ้าเขาถูกถอดปลั๊ก ทำไมเขาถึงยังอยู่ในเมทริกซ์? 5.บทสนทนาของสถาปนิก อาจจะดูงงๆ แต่จริงๆแล้วประโยคของเขาก็บอกความหมายในตัวเองอยู่แล้ว 6.สังเกตช้อนที่เดอะคิดเอามาให้นีโอก่อนขึ้นยาน เป็นช้อนเหมือนที่เห็นในภาคแรก จากคุณ : CARAGIO - [ 3 ต.ค. 49 14:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...เข้ามางงด้วยคน... จากคุณ : OB1kenobi - [ 3 ต.ค. 49 18:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อธิบายแล้วก็ยังงงอยู่ดี...เฮ้อ จากคุณ : beatriz - [ 3 ต.ค. 49 20:04:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก็ทุกอย่างคือโปรแกรมไงครับ เมทริกเหมือนวินโดวส์ สถาปนิก คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ บลาๆๆๆๆๆ ป้าทำนาย คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ บลาๆๆๆๆ ชื่อมันก็เหมือนดาต้าเบสอยู่แล้ว สถิติเพียบ รู้ทุกอย่าง ซาตี คือโปรแกรมที่สร้างสิ่งที่สวยงาม ต้นไม้ พระอาทิตย์ บลาๆๆๆ เมโร คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาข้อมูลข่าวสาร บลาๆๆๆๆ ช่างทำกุญแจ ก็คือโปรแกรมคีย์เจน ตัวอย่างก็ตอนจะขับมอเตอร์ไซค์แต่ไม่มีกุญแจ (มอเตอร์ไซค์ก็คือโปรแกรมๆนึง แต่มันมีพาสเวิร์ด) อิช่างคีย์เจนก็เจนซะ ประมาณนี้ แต่อย่าไปซีเรียสเรื่องหน้าที่มันมาก มันไม่ใช่เรื่องคอมอย่างเดียว เทคโนโลยีมันก้าวล้ำขนาด เอาเรื่องปรัชญา ศาสนา ความเชื่อ ฯลฯ มาเล่นได้ทั้งเรื่อง เนื้อเรื่องไม่ได้เป็นเส้นตรงอ่ะครับ มันแล้วแต่จินตนาการและความรู้ของคนดู แต่สุดท้าย ก็จะคุยกันได้ว่ามันประมาณนี้ จากคุณ : [:: beer ::] - [ 3 ต.ค. 49 22:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 .. ผมมองเป็นเรื่องที่ว่าด้วย กรรม "เรามาทำอะไรกันที่นี่" เล่นให้หนัก เหมือนผู้ปลดปล่อย หาทางออกให้มวลมนุษย์ ให้หลุดพ้นจากวงเวียน เมทริก ใครจะเดินตาม เดอะวัน ได้ ก็ไป.. ถ้ายังไม่ได้ รอ เดอะวัน คนใหม่ มานำทาง . . ภาคสุดท้าย ตอน นีโอ นั่งยานทะลุเมฆ เหมือน นิพพาน มากๆ จากคุณ : ฃอฅิดด้วยฅน (แปลบปลาบลำแสง) - [ 5 ต.ค. 49 19:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ******* นี่ถ้าเมื่อไหร่ช่อง 7 เอา matrix มาฉายใหม่ ก็คงมีคนมาถามอีกรอบแหงๆ 6666666 ******* เรื่องนี้ผมดูที่บ้านเป็น 10 รอบแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องเสียงที่ดังสะใจแล้ว ก็สนุกตรงตีความไปพร้อมกับหนังนี่แหละ ไม่น่าเบื่อเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ จากคุณ : monjangja - [ 6 ต.ค. 49 07:05:01 ]