10 - 9.5 / 10 (2 คน)
	9 - 8.5 / 10 (0 คน)
	8 - 7.5 / 10 (0 คน)
	7 - 6.5 / 10 (0 คน)
	6 - 5.5 / 10 (1 คน)
	5 - 4.5 / 10 (1 คน)
	4 - 3.5 / 10 (0 คน)
	3 - 2.5 / 10 (0 คน)
	2 - 1.5 / 10 (0 คน)
	1 - 0 / 10 (2 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 6 คน

	33.33%
	0.00%
	0.00%
	0.00%
	16.67%
	16.67%
	0.00%
	0.00%
	0.00%
	33.33%

.... เหตุการณ์ 11 กันยา ปี 2001 ในภาพยนตร์ ยังคงไม่หยุดอยู่แค่ United 93 หรอกครับ เพราะว่าหนังแนวแบบนี้คงไม่
หยุดสร้างอยู่ที่เรื่องใดเรื่องนึง แต่คงจะไปอีกยาวไกลแน่ๆ และในอีก10ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นหนังใหญ่เกี่ยวกับ
เหตุการณ์นี้แบบเต็มรูปแบบเลยก็ได้ ฉนั้นนอกจากปีนี้จะมี United 93 แล้ว ทาง Oliver Stone ก็ขอสร้างหนัง9/11
กับเขาบ้าง

.... World Trade Center เล่าเรื่องอีกมุมมองต่างจาก United 93 ตรงนี้หนังได้เจาะประเด็นถึงเหยื่อของเหตุการณ์การ
ถล่มซากจากตึก WTC อย่างแท้จริง โดยหยิบยกเรื่องราวของ 2 ตำรวจกู้ภัยที่ไปตกอยู่ในนั้นจริงๆ และไม่ได้เป็นเรื่อง
ราวเชิดชูเกียรติของฮีโร่ ใน 9/11 ซะเท่าไหร่ แต่นี่เป็นเรื่องราวของการทนอยู่ และ รอคอย ที่จะมีปฏิหาริย์ มาช่วย-
พวกเขาจากภัยร้ายครั้งนี้

.... John McLoughlin เจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเอก ที่เป็นคนที่แน่วแน่ และจริงจังกับทุกๆอย่างที่เขาประสบมา และ Will
Jimeno เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีพอร์ตออธอริตี้ ต้องเจอเรื่องแบบที่เขาไม่เคยคิดว่า พวกเขาจะสามารถรับมือมัน
ได้ ในวันที่11 ก.ย. 2001 ที่เขาทั้ง2คนจะต้องไปช่วยคนในตึก WTC ให้รอดปลอดภัยออกมาให้ได้ แต่เมื่อเขาทั้งคู่
และ นายตำรวจอีก2คนไปถึง ขณะที่กำลังจะเริ่มการกู้ภัย ตึกได้เริ่มที่จะถล่มแบบไม่คาดฝัน ซึ่งมันเกิดขึ้นได้เร็ว-
มากๆ ทำให้ทั้ง2คนนี้ต้องติดอยู่ในซากตึก WTC ที่พังทะลายเหลือแค่ซาก ซึ่งทั้งคู่ติดอยู่ในบรรยากาศที่อึกอัด และ
ต้องภาวนาให้ใครซักคนนึง มาพบเขาทั้งคู่ และชาวยเขาทั้งคู่จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบนี้

.... เรื่องราวไม่ได้ Focus ไปถึง2คนนี้เท่านั้น เรื่องราวยัง Focus ไปถึงคนรักของพวกเขา หรือ ครอบครัวของพวกเขา
ที่รอคอยให้เขาทั้งคู่นั้นรอดกลับมาจากเหตุการณ์แบบนี้ให้ได้ ซึ่งตรงนี้ถึงว่าเป็นการเล่าเรื่องของหนังที่สามารถคลุม
หัวใจคนดูและอยากให้รู้สึกถึงคนที่ต้องเผชิญกับเหตุร้ายในวันนั้น

.... ในครอบครัวของพวกเขาทั้ง2คน ก็ได้พยายามภาวนาให้พวกเขากลับมาที่บ้านมาเจอะกับคนในครอบครัวอีกครั้ง
ให้ได้ ไม่ว่าจะภรรยาของ John McLoughlin Donna McLoughlin ที่เธอเองพยายามภาวนาให้ John กลับมาหาครอบ-
ครัว ของเขาให้ได้ เพราะว่ามีลูกๆและเธอรอเขาอยู่ และภรรยาของ Will Jimeno ก็เช่นกัน Allison Jimeno ที่ตัวเธอ
เองนั้น เริ่มจะไม่สบายใจอย่างหนักซะเท่าไหร่ เพราะอย่างนึงคือเธอกำลังท้องแก่ที่อีกไม่นานเธอจะให้กำเนิดลูก
ของเธอและ Will ซึ่งตอนที่ Allison ได้ทราบว่า Will ยังไม่ถูกค้นพบเจอนั้น ไม่ยิ่งทำให้เริ่มหนักอกหนังใจไม่ขึ้น
ถ้า Will ไม่สามารถกลับมาจากภารกิจครั้งนี้ได้ เธอเจอบอกยังไงกับลูกสาวของเธอ และลูกที่เธอกำลังจะให้กำเนิด

.... ในวันร้ายไม่ใช่แค่มีการเจอเรื่องเลวร้ายหรือต้องไม่เคราะห์กรรมของคนกลุ่มๆนึงอย่างเดียว แต่ยังมีชายคนนึง
ที่ขอเข้ามาสู้การกู้ภัย เพื่อตามหาผู้รอดชีวิตครั้งนี้ เพราะในเมื่อตอนนี้เขาก็ไม่ได้รับใช้ประเทศชาติ อีกต่อไปแล้ว
เขาจึงรวมความกล้าอีกครั้ง และภาวนาจิตรใจที่มีต่อพระคริสที่เขานับถือ ไปช่วยผู้ที่เคราะห์ร้ายในซากตึก WTC
เพราะเขาเชื่อว่า ยังคงมีคนดีหลงเหลืออยู่ในนั้นอยู่ Dave Karnes

.... การที่ John McLoughlin และ Will Jimeno ทั้ง2คน ติดอยู่ในซากตึก WTC นั้น ไม่ใช่แค่เขาจะเจอเรื่องโชคร้าย
แต่มันเป็นเหมือนการที่คนทั้งคู่ ได้มาประทุกข์และได้หันหัวเข้ามาฟังเรื่อง ราวของกันและกัน ว่าชีวิตเขาก่อนที่
จะมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เคยเจออะไรมาบ้าง ชีวิตครอบครัวเป็นยังไง และลักษณะตัวเองนั้นเป็นนั้น เป็นยังไง
มันทำให้ในระหว่างที่ติดอยู่ เปรียบเสมือนว่า John McLoughlin และ Will Jimeno ได้มาเป็นเพื่อนกันในระดับนึง
แล้ว และเหมือนกับว่าทั้งคู่จะต้องภาวนาให้ปฏิหาริย์มาพาเขากลับไปโลกข้างบนที ซึ่งตรงนี้แหละจะเป็นบท
พิสูจน์ของชีวิตพวกเขายังอยากจะมีชีวิตต่ออีหมั๊ย และจะสู้เพื่อความรักที่รออยู่ที่บ้านรึเปล่า???

.... หนังเรื่องนี้นั้น ไม่ใช่เป็นหนังที่เกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 11 ก.ย. 2001 อย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังเป็นเรื่องราว
ที่เชิดชูของความกล้าหาญอดทนของลูกผู้ชายที่แท้จริง ที่รอคอยเวลาที่ออกไปจากที่ๆพวกเขา ไม่อยากจะอยู่เลย
เพื่อกลับไปหาคนรักของพวกเขา และกลับไปที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกครั้งนึง ซึ่งหนังเรื่องนี้เองถือว่าเป็นการกลับมา
โชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งของ Oliver Stone หลังจากทีผกก.พึ่งจะไปเสียฟอร์มแบบอภิมหาวินษสกรรมจากเรื่อง
Alexander ที่หนังเจ๊งไม่เป็นท่า แถมหนังไม่ถูกใจใครเลยซักนิด พอมาใน WTC เป็นหนังที่เล่ามุมมองที่ไม่
เหมือนกับหนังเรื่องก่อนๆของ Stone เพราะเรื่องนี้ไม่มีการพูดวิพากษ์วิจารณ์สังคมอะไรเลยซักนิด ไม่มีการนำ
เรื่องการเมืองมาถูกพูดถึงในหนัง แบบที่หนังเรื่องก่อนๆของเขาเคยทำ และหนังเรื่องนี้ เป็นที่มีมุมมองถึงการ
มองโลกในแง่ดีเรื่องแรกของเขาก็ว่าได้ เพราะว่าหนังก่อนๆหน้านี้ของเขาที่เขาทำส่วนใหญ่ มันเหมือนกับ
จิตรด้านมืดของมนุษย์ที่แท้จริง จนเลี่ยงไม่ได้ แถมเรื่องราวส่วนใหญ่พยายามจะให้ออกมาในแนวถึงลูกถึงคน
ซะด้วย จึงเห็นได้ชัดเลยว่าหนังเรื่องนี้ Stone ไม่ได้การให้เป็นหนังที่ดูหนักแน่นแบบที่เขาทำมาอย่างเดียว
แต่ต้องจะเกียรติกับผู้ที่เคราะห์ในวันนั้น อย่างจริงๆจังๆน่ะครับ

.... สำหรับนักแสดงของหนังเรื่องนี้ Nicholas Cage พูดตามความจริงเรื่องนี้เขาก็เล่นได้ดีนะ เพียงแต่มันก็ไม่
ต่างกับผลงานก่อนๆของ Cage เขาเลย รู้สึกว่าเรื่องนี้การแสดงของเขาจะดูไม่ค่อย Click กับความรู้สึกคนดูเท่า-
ไหร่ เมื่อเทียบเท่ากับงานแสดงอื่นๆของเขาก่อนหน้าเรื่องนี้ แต่ที่ต้องขอชมคือ MIchael Pena ใครที่ชอบหมอนี่
ใน Crash กับบทช่างกุญแจ มาใน WTC ใครจะสวมบทได้ค่อนข้างน่าเห็นใจคนดูมากๆ จนผมยังรู้สึกจะน้ำตา
ไหล ไปกับตัวละครของเขาหลายต่อครั้งมาจริงๆ จึงเป็นการแสดงที่ออกมาได้ดีที่สุดใชีวิตของเขาไปเลย อยาก
ให้เขาได้เข้าชิง Oscar สาขานักแสดงนำชายจริงๆ เพราะเขาเล่นได้ดีแบบที่เราเห็นใจตัวละครของเขาอ่ะ ถึง
แม้ตัวของ Pena อาจจะดูไม่ค่อยเหมือนกับ Jimeno ตัวจริงก็ตาม แต่ของเขาถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างจับใจจริงๆ

(มีต่อ)