CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; Death Note ... เกมล่ายังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพเหยื่อ

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (12 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (19 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (2 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 33 คน

     36.36%
     57.58%
     6.06%
     0.00%
     0.00%


    เป็นของธรรมดา ที่การ์ตูนขายดี คนติดตรึม และมีพลอตเรื่องลุ้นสนุกน่าติดตาม อย่างนี้ ... จะถูกแปรรูปอุตสาหกรรมกลายเป็นหนังในโรงสักเรื่องหนึ่ง และ "Death Note" ก็ต้องเป็นหนึ่งในเรื่องนั้น

    Death Note ฉบับภาพยนตร์ ... เป็นเรื่องราวของ "ไลท์" นักศึกษานิติศาสตร์ที่ไม่ปลื้มกับ การที่กฎหมายไม่สามารถพิพากษาคนชั่วที่โดนปล่อยลอยนวลอย่างง่ายๆ มีหลายต่อหลายครั้งที่ผู้โดนกระทำมักจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้กับผู้กระทำ และก็มีหลายต่อหลายคนที่ผู้เดือดร้อนมักจะได้รับการปฏิเสธจากศาลยุติธรรมอย่างไม่ไยดี

    ด้วยเหตุฉะนี้ มันเลยทำให้ไลท์เป็นปลื้มกับ สมุดโน้ตที่เขาพบกลางถนน สมุดโน้ตของยมทูตที่สามารถนำมาใช้เขียนชื่อคนที่เราอยากจะให้ตายได้ และไลท์ก็หวังจะใช้มันเพื่อทำให้ตัวเองได้เป็นพระเจ้าผู้สร้างโลกในอุดมคติซึ่งปราศจากความเลวทรามของอาชญากรรม จบ!!!

    แต่มันยังไม่จบง่ายๆแค่นั้น ...เพราะทุกครั้งที่ไลท์เขืยนชื่อลงไปใน Death Note การจบลงชีวิตของผู้ร้ายด้วยโรคหัวใจล้มเหลว มักจะสร้างข้อกังขาความสงสัยให้กับตำรวจมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังทำให้นักสืบลึกลับมืออันดับหนึ่งของโลก นามว่า "L" ยิ่งกระหายอยากจะไขคดีปริศนานี้ให้กระจ่างมากขึ้นไปด้วย

    L ให้ความช่วยเหลือกับกองสืบสวนตำรวจญี่ปุ่น ให้คืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถฟันธงได้ว่า "คิระ" (ชื่อที่ 'ไลท์' ได้รับการขนานนามจากประชาชนผู้เป็นปลื้มในการกระทำของเขา) ที่พวกเขากำลังไล่ล่า ต้องอาศัยอยู่ใน โตเกียว เป็นอย่างแน่นอน

    ขณะเดียวกันนั้นที่ตำรวจกำลังจะพยายามหาหนทางพิทักษ์คิระ "ไลท์" ก็ยังไม่ยอมถอย รักษาสิทธิ์ของผู้ครอบครอง ทำการพิทักษ์ความชั่วให้หมดไปอย่างไม่ลดละ ...พร้อมทั้งยังพยายามสืบเสาะหาการดำเนินงานของเหล่าตำรวจ และเก็บคนที่พยายามเข้ามาก้าวก่ายในการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ...หนึ่งในคนๆนั้น ต้องรวม L ไว้อีกคนหนึ่งด้วย

    ในการต่อสู้ระหว่างสองฟากฝั่งความเก่งกาจ ความคิด และความยุติธรรม ..."ไลท์" และ "L" คือ คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ และไม่มีใครยอมใครจนกว่าจะมีใครที่ตายกันไปข้างหนึ่ง ...

    ความเข้มข้นของ Death Note ฉบับภาพยนตร์ ภาคแรก มันอยู่ตรงที่ ... เกมๆนี้ จะยังไม่มีใครแพ้ใครชนะ เพราะนี่เป็นแค่ยกแรก ที่คนทั้งสองต่างจะแลกหมัดต่อหมัดกันอย่างถี่ถ้วน แต่ทุกลูกล้วนมีน้ำหนัก และความหนักแน่น แต่ละลูกอัดเข้าไปรับรองต้องมีแอบจุก

    และด้วยความที่ทั้งสองฝ่าย ต่างก็ไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา หวังจะเอากันให้คนตรงข้ามตายไปสถานเดียว ...ทั้ง ไลท์ และ L ก็เลยไม่สนใจอะไร ถ้าจะไปทำให้คนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งเรียกว่า 'เหยื่อ' ต้องเป็นอันตายไปเพราะเกมที่พวกเขาสองคนกำลังเล่น

    Death Note ภาคแรก ...เป็นการนำเนื้อเรื่องจากเล่มที่ 1-4 มาดัดแปลงเล่าเรียง มีทั้งส่วนที่ยังคงไว้ให้มีเหมือนในหนังสือ และส่วนที่เปลี่ยนไปเพื่อให้รับการความพอดีของการเป็นหนัง ...ผู้กำกับ "ชูซุเกะ คาเนโกะ" สามารถจัดการรวบรัดตัดตอน แมงก้าความหนา(รวมสี่เล่ม) เสร็จสรรพสี่ร้อยกว่าหน้านี้ ให้กลายเป็นหนังทริลเลอร์ระทึกในเวลา 2 ชั่วโมงได้อย่างน่าพอใจ ...อาจจะมีที่เสียดายในส่วนบางส่วน ซึ่งตัวหนังไม่ยอมเดินตาม หรือไม่เอาฉากบางฉากที่ผมอยากเห็น มาใส่เอาไว้ (เช่น ฉากการฆ่าที่ซากุระทีวีสุดมันส์ ฉากกักตัวไลท์ในคุกที่ระทึกปนสงสัย)  ...แต่ในเมื่อหนังเรื่องนี้ทำให้ผมดูสนุกได้แล้ว ก็เลยเป็นอันยอมให้อภัยอย่างไม่มีข้อแม้

    ตัวหนังสามารถรักษาความเป็น Death Note ไว้ได้อย่างไม่น่าผิดหวัง ...ยังคงความระทึกชนิดที่หัวใจคนดูต้องเต้นตุ้มๆต่อมๆ ลุ้นไปตามเหตุการณ์และการแข่งขันของตัวละคร ความตื่นเต้นที่เคยสัมผัสได้จากภาพนิ่งและตัวหนังสือมีให้รู้สึกถึงสำหรับแฟนเก่าที่ชื่นชอบภาษาแมงก้า แม้อาจจะไม่เต็มที่สุดกู่แต่มันก็ทำให้เวลาที่หมดไปในโรงหนังนั้นถือว่าคุ้มค่าราคาตั๋ว ไม่ต่างไปกับตอนที่เรารอจะเสียเงิน 40 บาท ลุ้นความคืบหน้าและการหักมุม กันไปเป็นเล่มๆ

    ผมชอบในส่วนของบทหนัง ที่เลือกจะมีความแตกต่างเปลี่ยนไปจากฉบับอ่าน ...ไม่ว่าจะเป็นการตัดบทในจุดเริ่มต้นของตัวละคร ไลท์ ซึ่งเปลี่ยนไปได้อย่างสมเหตุสมผล , การเพิ่มตัวละครใหม่ และใส่บทบาทเพิ่มเติมให้บางตัวละคร มีความหนักแน่น และน่าเร้าอารมณ์ลุ้นมากไปกว่าเดิม , การใส่รายละเอียดบางเรื่องที่ฉบับแมงก้า ยังทำได้ไม่เคลียร์ รวมไปถึง การดำเนินเรื่องในช่วงไคลแม็กซ์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ตรึงคนดูให้ติดกับความมันส์อย่างถอนตัว(จากเก้าอี้)ไม่ขึ้น และสุดท้ายกับฉากจบที่แสนจะเรียบง่าย แต่ก็กลายเป็นได้ใจ คนอยากจะดูภาคสองไปในบัดดล...

    แม้ว่าการคัดเลือกทางหน้าตา และลักษณะตามตัวละครในฉบับการ์ตูนจะไม่ค่อยถูกใจแฟนนักอ่านสักเท่าไหร่ ...แต่เรื่องของฝีมือ เป็นที่ถูกใจต้องจินตนาการ มีทั้งคนที่สามารถถอดแบบของตัวละครที่สวมมาได้อย่างเนียน และคนที่ทำได้เกินกว่าหนังสือเขากำหนดกรอบเอาไว้อีก

    ทัตซึยะ ฟูจิวาระ ในบทบาทของ "ยางามิ ไลท์" ... ถึงหน้าไม่ให้(เอาซะเลย) แต่ใจก็แสดงได้อย่างไม่มีที่ให้ติ แล้วยังทำให้ผมเกลียดไลท์ ยิ่งกว่าในหนังสือซะอีก ...บทหนังใส่มิติของไลท์ลงไปได้แน่น น่าเชื่อกว่าที่เป็นในหนังสือ ทำให้คนดู(ทั้งที่เคยหรือไม่เคยอ่าน)พร้อมจะคล้อยตามการกระทำของเขาในตอนแรก และอยากจะเปลี่ยนใจเกลียดตัวละครนี้ได้อย่างไม่เหลือไยดีในตอนท้าย การแคสติ้งทัตสึยะเข้ามารับหน้าที่ ทำได้เกินกว่าความคิดของแฟนฉบับแมงก้า และมากกว่าที่หนังสือต้องการจะให้ตัวละครนี้เป็น  

    เคนอิชิ มัตสึยามะ ในบทบาท ของ "L" ... พ่อยอดขมองอิ่มแสนเซอร์ ที่เลือกคนมาเล่นได้น่ากรี๊ดกร๊าด คอหอยแตกแหลกราญซะจริงๆ เคนอิชิสามารถเลียนการกระทำของ L ที่เราเคยเห็นเคยรู้จักจากในแมงก้ามาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นตัวละครนี้อย่างไงอย่างงั้น ...ไม่ว่าจะเป็น กิริยาท่าทางขรึมๆแต่แอบทำตัวเป็นเด็ก ท่านั่งพิลึกพิลั่นอันแสนจะเป็นเอกลักษณ์ และการเป็นโรคขนมหวานลิซึ่มขึ้นสมอง ทุกอย่างที่ L เป็น เคนอิชิเป็นแทน L ได้อย่างหมดจด

    ถึงแม้ว่า ทัตซิยะ และ เคนอิชิ ดูสมกันดีในบททั้งสอง แต่อย่างไรก็ตามที คนทั้งคู่ต่างยังไม่สามารถพอจะทำหน้าที่เป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีกันจริงๆจังๆ ...ก็อาจจะต้องไปโทษที่บทหนังซึ่งให้เวลากับการฉายแววอัจฉริยะน้อยเกินไป ในฉบับแมงก้า คนอ่านจะได้รับรู้ความเก่งกาจของสองตัวละครนี้ได้จากวิธีการคิด ทฤษฎีความเป็นไปได้ ข้อสังเกตข้อสงสัยที่ใช้ตรรกะของตัวเองเป็นใหญ่วัดกันวัดกันมา ...ในฐานะที่ผมเคยอ่านหนังสือมาก่อน ก็พอเข้าใจได้ในเรื่องของเวลาที่ต้องเร่งรัด และมีข้อจำกัดของความเป็นหนังบีบบังคับอยู่ แต่ถ้าลองเป็นผมที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนเลย ความเชื่อถือในการกระทำและแผนการความคิดของสองตัวละครนี้ อาจทำให้ผมยอมเชื่อได้ยาก (ยกตัวอย่าง ในฉากที่ไลท์ลอบนำทีวีเล็กเข้าไปอยู่ในซองขนม ในฉบับแมงก้า จะบอกเฉลยความคิดถึงวิธีการเอาเข้าไปอยู่ในซอง แต่กับฉบับหนังเลือกจะบอกกับคนดูเพียงว่า "ก็มีชั้นคนเดียวในบ้านหลังนี้ ที่ชอบกินมันฝรั่ง..." และตัดภาพเข้าสู่ฉากต่อไปในทันที ???)  

    บทบาทการแสดงของคนอื่นๆ ก็นับว่าทำได้ดี เลือกได้ถูกได้ควร เช่น รองยางามิ ...เคร่ง ขรึม ภูมิฐาน เหมือนหนังสือ , นาโอมิ ...มีความสำคัญมากขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉากไคลแม็กซ์สนุกกดดันได้อย่างสุดขีด , มิสะมิสะ อาจจะปรากฏไม่กี่นาที แต่เธอก็ขโมยจอไปด้วยความสดใสชื่นใจชาย (แอบมีเสียดายนิดๆที่ she ไม่ค่อยเปรี้ยวเข็ดฟันตามมาตรฐาน แต่แคสติ้งก็เลือกคนมาเล่นแทนโดยเกณฑ์สาวหน้าตาที่จิ้มลิ้ม น่ารัก ชวนให้ปลื้มซะจริงๆ) ส่วนตัวละครที่เพิ่มเข้ามาอย่าง ชิโอริ ...สำหรับผมแล้วอาจจะเห็นชอบด้วยที่หนังเลือกจะสร้างคนๆนี้ขึ้นมา แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่าคนที่มาแสดงนั้นไม่ถูกใจผมเอาซะเลย ผมถือว่าเธอเป็นได้แค่ไม้ประดับประกอบฉากเคียงคู่พระเอกในฉากสำคัญๆเท่านั้นเอง

    และอีกหนึ่งนักแสดงที่คนดู-คนอ่านจะลืมไปไม่ได้เลย (แต่ในขณะที่ผมพิมพ์อยู่ กลับเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า DN มีตัวละครนี้อยู่ด้วย -_-'') ก็คือ "ยมทูตลุค" ...แม้ว่าในแบบฉบับซีจี อาจจะดูไม่เนียนละเอียดเข้ากับฉากหลังสักเท่าไหร่ แต่เสียงพากย์ของคนที่มาสิงสู่วิญญาณพี่ยมตัวนี้ ก็ดันทำดีข้ามหน้าข้ามตา ไปขโมยซีนนักแสดงคนเป็นๆกันอย่างซึ่งๆหน้า แล้วยิ่งพอมารู้ว่าคนพากย์เสียงคนนี้คือ ชิโด นากามูระ พระเอกหนัง Be With You ก็สุดแสนจะแปลกใจว่า "นี่ใช่เสียง ยูจิซัง คนที่ผมเคยปลื้มจริงๆเหรอเนี่ย?" ...

    Death Note ภาคแรก... จุดเริ่มต้นของเกมล่า ที่เป็นอย่างที่ผมอยากให้เป็น แม้มันจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดซะหมด แต่ผมก็พอใจที่ฉบับหนังทำดีได้อย่างที่เห็น ความสนุกความเข้มข้นในครั้งนี้ เป็นการเรียกน้ำย่อยที่พอเหมาะพอควร จนเมื่อหนังจบไป คงทำให้ใครหลายต่อหลายคนตัดสินใจได้ในทันทีว่า ค่าตั๋วหนังอีก 120 บาท ในปีหน้านี้ คงต้องรวมหนังเรื่อง Death Note : The Last Name ไว้ในลิสต์ด้วยอีกเรื่องซะละมั้ง

    ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ :
    1. บทหนังเปลี่ยนแปลงได้เหมาะสม และพอดีกับความเป็นหนัง
    2. การรักษาความเป็น Death Note ไว้ได้ดั่งใจแฟนๆฉบับแมงก้า
    3. สองตัวละคร "ไลท์" และ "L" กับการแสดงที่เหมือนกระโดดออกมาจากตัวหนังสือ
    4. ยมทูต "ลุค" คือ สีสันในทุกฉากที่มีเขาปรากฏอยู่

    ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ :
    1. ผิดหวังนิดๆ กับบางฉากที่อยากจะเห็นในหนัง
    2. ไม่ชอบใจหน่อยๆ กับการแสดงความฉลาดของสองตัวละครเอกที่มีให้เห็นเพียงผิวๆ

    เกรด B+

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 10 ต.ค. 49 13:06:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com