CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; The Departed ... '2 คน 2 คม' ของ 2 ชาติ ที่คมไม่เท่ากัน

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (3 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (3 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (6 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     25.00%
     25.00%
     50.00%
     0.00%
     0.00%


    ถ้าจะมีการทำแบบสอบถามกับคนอเมริกัน-ฮอลลีวู้ดเกี่ยวกับหนังต่างประเทศที่เขารู้จัก เชื่อว่าส่วนใหญ่คงจะไม่ค่อยได้รู้จักมักคุ้นกับหนังฮ่องกงที่มีชื่อว่า "Infernal Affairs" กันสักเท่าไหร่ และอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหนังเรื่องนี้คือเรื่องราวจุดเริ่มต้นที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนังถึงฟอร์มอุดมคุณภาพตามปากคำของผู้กำกับ "มาร์ติน สกอร์เซซี่" ในการสร้างหนังแอ๊คชั่น ทริลเลอร์ เฉือนคม ที่มีชื่อว่า "The Departed"

    ในขณะที่คนซีกโลกนั้น อาจจะรู้สึกสนุกบันเทิงกันอย่างเต็มพิกัดกับเรื่องราวสายลับสองหน้าแสนจะแปลกใหม่อย่างนี้ก็ตามที ...แต่ผิดกันกับคนเอเชียจำนวนไม่น้อยที่ต่างพากันผิดหวังในแรงบันดาลใจของผกก.ที่ได้ชื่อว่า เป็นมือวางอันดับต้นๆในสายหนังอาชญากรรมคนนี้

    ของอย่างนี้มันก็ว่ากันไม่ได้ ที่จะต้องมีหวังกันบ้าง... แล้วยิ่งนี่คืองานแรงบันดาลใจที่ได้ชื่อว่า เคยเป็นหนังฮ่องกงที่แสนจะคลาสสิคในใจใครหลายๆคนอีกอย่างนี้ มันเลยอดไม่ได้ที่จะต้องมีการเปรียบเชิงมวย ...

    Infernal Affairs อาจจะดูเสียเปรียบรูปร่างความสันทัด ตรงที่มีฟอร์มงานสเกลการสร้างเป็น 'มวยวัด' ...ซึ่งต่างกับ The Departed ที่มีความเป็นฮอลลีวู้ดประกาศตัวตนอย่างชัดเจน อีกทั้งฟอร์มงานก็ยังใหญ่ ทุนหนา สามารถประกาศศักดาได้แต่เริ่มสร้างว่า ข้าคือ 'มวยเวที' ตัวจริง

    แต่ในจุดจบของมวยคู่นี้ มันก็เป็นเหมือนทุกทีไป ที่คนมาทีหลัง ยังไม่เก๋าเกม มักจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสมอ ...มวยเวที หรือจะสามารถสู้ มวยวัด ที่หมัดหนัก ต่อยเจ็บ มีเชิงการต่อสู้ที่แน่นเหนียว มากกว่ามือใหม่หัดชกเพิ่งขึ้นเวทีสนาม ที่ยังไม่เคยได้ลองลิ้มรสเวทีบ้านๆ อย่างคนเป็นมวยวัดมาก่อนหน้า

    ผมเป็นคนหนึ่งที่ยอมรับในฝีมือการสร้างหนังของผกก.สกอร์เซซี่ อยู่ไม่น้อย และก็ยังหวังเล็กๆว่าจะได้เห็นผกก.เก๋ามือคนนี้จะได้จับออสการ์ตัวเป็นๆสีทองๆสักครั้งหนึ่ง แต่ผมต้องขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า... ถ้าหนังเรื่องนั้นที่ทำให้เขาได้รางวัลออสการ์ (ไม่ว่าจะเป็นสาขาหนังยอดเยี่ยม หรือว่าผู้กำกับก็ตามแต่) เป็นหนังเรื่องนี้แล้ว ผมคงจะทำใจยอมรับมันได้อย่างยากเย็นเลยทีเดียว

    ถ้าลองเป็นที่ตัวผมเองไม่เคยได้ดู IA ฉบับเก่ามาก่อนหน้านี้แล้ว ...มันก็คงจะไม่ยากเย็นนักที่ผมจะเกิดความประทับใจในหนัง IA ฉบับใหม่เรื่องนี้

    มันก็คงจะเป็นเพราะ The Departed ล้วนแต่มีองค์ประกอบทุกอย่างที่แข็งปั้ก ไล่ไปตั้งแต่ ผู้กำกับมือดี(ที่ออสการ์อยากจะมอบรางวัลใจจะขาด) งานบทหนังที่ลงตัว ดำเนินเรื่องเหตุการณ์สนุก และมีความซับซ้อนในแง่ของอารมณ์ อีกทั้งยังได้ทีมนักแสดงที่ส่งมาขายหนังอย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปิโอ (ขวัญใจสาวแท้สาวเทียม) ,แมตต์ เดมอน (ขวัญใจหนุ่มแมนๆคนที่ชอบหนังสายลับเจสัน บอร์น) และ แจ๊ค นิโคลสัน (ขวัญใจคนรุ่นใหญ่ ทั้งชายและหญิง)

    องค์ประกอบทั้งสามส่วนนี้ ล้วนสอดประสานทำงานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยแทบจะไม่มีจุดไหนที่เป็นจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ ... The Departed เป็นหนังแอ๊คชั่นฮอลลีวู้ดจ๋าที่มีแต่จุดแข็ง สามารถเจาะใจคนดูให้รู้สึกชอบ รู้สึกประทับใจกับมันได้ไม่ยากเย็น

    แม้ผมจะรู้สึกประทับใจกับคุณภาพฝีมือใน The Aviator งานชิ้นก่อนของลุงสกอร์เซซี่มากก็ตามที แต่ถ้าพูดในแง่ของความสนุกเพลิดเพลินของการได้ดูหนังจากผกก.คนนี้แล้ว ต้องยอมรับเลยว่า นี่คือ เรื่องที่ดีที่สุดจากหนังที่ผมเคยดูมาทั้งหมดของคนๆนี้  เขาสามารถจัดการเรื่องราวที่มีความกว้าง ทั้งในส่วนของการหักเหลี่ยมเฉือนคม  ความซับซ้อนทางความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจและโจร อีกทั้งยังมีความลึกของตัวละครให้อยู่ในหนังที่มีความยาวกำลังดี ไม่ยืดเกินไป ไม่สั้นจนไม่รู้เรื่อง ...หนังเดินหน้าเรื่องราวไปด้วยความเร็วรี่ ฉับไว ใครที่ไม่ยอมจับตัวเองให้นิ่งอยู่ในสมาธิแล้ว อาจตามไม่ทันคำพูดของตัวละครที่รัวเร็วกันอย่างว่องไว (ก็จะมีในช่วงแรกๆ ที่ผมอ่านซับยังไม่ทันจะหมด แต่ตัวละครก็ตัดบทพูดประโยคต่อไปซะแล้ว) เท่าที่เคยดูหนังของลุงคนนี้มา ไม่เคยเห็นจะมีเรื่องไหนที่พูดไวคิดไวเท่าหนังเรื่องนี้เลยนะเนี่ย

    ในฐานะที่ The Departed เป็นหนังแอ๊คชั่นหวังตลาดเรื่องหนึ่ง ส่วนของบทหนังเท่าที่เป็นอยู่นี้ก็นับว่าดีพอแล้ว ...บทซับซ้อนมากพอที่จะทำให้คนดูต้องขบคิดตามหนัง ส่วนของเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆก็ผูกก็เรียงร้อยเล่าออกมาได้น่าติดตาม และเข้มข้น ...แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้จริงๆแล้ว ไดอะล็อกคำพูดก็ควรจะลดความเข้มข้นลงมาด้วย เพราะ คำว่า F**K ที่ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือยนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้ภาพพจน์ของหนังเรต R เรื่องนี้ ดูสนุกสะใจวัยสะรุ่นแต่อย่างใด ... รังแต่จะสร้างความกระดากหูให้กับวัยสะรุ่นอย่างผมซะมากกว่า

    แต่ถ้าว่ากันถึงความมีอคติกับ IA ฉบับรีเมคนี้แล้ว ความรู้สึกกระดากหูในคำพูดหยาบคาย แทบจะหลงๆลืมๆมันไปได้เลย ...เพราะความรู้สึกขัดใจในการเลียนแบบ รังแต่ทำให้ผมต้องสนุกระทึกกับหนัง ด้วยความรู้สึกที่อึดอัดมากไปกว่านั้นอีก

    The Departed ลอกแบบ หรือจะพูดว่า ตัดแต่งฟิล์มของ IA มาทำตรงๆก็ไม่ผิด ... ฉบับรีเมคนี่มีความเป็นตัวของตัวเองเพียงแค่เล็กน้อย ส่วนมากที่เราได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ล้วนแต่เป็นภาพเดิมๆ มิติเก่าที่เราเคยผ่านตามันมา และติดใจมันอย่างยังไม่รู้ลืม พอหนังรีเมคเลือกที่จะเดินตามของเก่าอย่างไม่คิดผิดเพี้ยนแล้ว นั่นก็เป็นข้อเสียโดยเจตนาที่ต้องกลายเป็นโทษมหันต์สำหรับคนเคยดูหนังฉบับเก่ามาก่อน

    มันก็ไม่ใช่ความผิดของคนทำหรอก ที่เลือกจะเดินตามรอยเหมือน IA อย่างนี้ ...แต่มันก็ยังดันไปผิดตรงที่ คนทำยังไม่สามารถที่จะสร้าง The Departed ให้เข้มแข็งได้เทียบเท่าของเก่าได้

    ก็อย่างที่ผมได้เปรียบคู่มวยคู่นี้ไป ...The Departed ก็ยังเป็นได้แค่มวยเวทีที่ยังคงใหม่ สด ซิง และไม่เคยได้ซดแข้งกะใครมาก่อน ...การที่นักมวยผู้นี้เลือกจะเจริญรอยตามนักมวยวัดที่ยิ่งใหญ่อย่าง IA นั้น อาจจะเป็นความตั้งใจที่ดีก็จริง แต่พอดันไปประมาทฝีมือ และผยองตัวคิดจะสู้กับมวยที่เข้มกว่า แข็งกว่าแล้ว พอจบศึกคู่นี้ มือใหม่หัดชกก็เลยเป็นฝ่ายที่ต้องเจ็บตัว เป็นเรื่องธรรมดา ...

    แม้ผมจะเพิ่งชมไปแหม่บๆ ว่างานกำกับของ ลุงสกอร์เซซี่ เรื่องนี้ดีที่สุด ...แต่พอเอาไปเทียบกับงานของสองผู้กำกับใน IA แล้ว ชั้นเชิงความสนุกในการทำของคนที่อายุน้อยกว่า ดันกลับสูงกว่าคนอายุมากที่ผ่านประสบการณ์มาหลายสิบปีซะอีก  

    ผมอาจจะรู้สึกดีกับบทหนังในฉบับใหม่ภาคเดียวนี้อยู่ก็จริง ...แต่พอเอาไปเทียบกับบทหนังฉบับเก่าทั้งสามภาคแล้ว ความเข้มข้นของเรื่องราวในแต่ละช่วง และความซับซ้อนของอารมณ์ตัวละครทุกๆตัว ล้วนแต่ดูน่าเชื่อถือ และน่าสนใจแทบทั้งนั้น ถึงจะอืดอาดมากไปแต่ก็ให้ความประทับใจสูงกว่าการเดินเรื่องในเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งที่ต้องการความกระชับ และรวดเร็วเสียอีก

    แล้วกับในส่วนของการแสดง แม้ว่าจะได้ทีมดาราที่เล่นถึงก้นบึ้งความลึกของมิติตัวละครแล้วก็ตาม แต่ก็มาเสียตรงที่หนังรีเมคจับตัวละครแต่ละตัวอย่างผิวเผินมากเกินจะทำให้คนดูรู้สึกผูกพัน ...สองบทบาทที่นักวิจารณ์ต่างก็ชื่นชมกันมากอย่าง ลีโอนาร์โด (รู้สึกดีมากที่เขาสามารถสลัดภาพความเป็นคุณชายที่คาตาผมมาตลอดออกไปได้หมดจดเสียที) และ แจ๊ค สำหรับผมแล้วก็อยากจะถือว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเลยทีเดียว แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงอีกว่า ไม่ว่าจะการแสดงให้ความกดดันจิตตกอย่างถึงขีดสุดในบทบาท "บิลลี่ คอสติแกน" หรือจะเป็น ความร้ายกาจเข้ากระดูกดำของ "แฟรงค์ คอสเตลโล่" นั้น ทั้งสองคนก็ยังเข้มข้นได้ไม่ถึงขีดขั้นที่ "เหลียงเฉาเหว่ย" กับ "เจินจื้อเหว่ย" เคยให้เอาไว้ได้

    แมตต์ อาจถือว่าทำหน้าที่ของเขาได้ดี แต่ถ้าเอา "โคลิน ซัลลิแวน" ที่เขาเล่นเอาไว้ไปเทียบกับ หลิวเต๋อหัว แล้ว นี่ก็แทบจะเป็นบทบาทหนึ่งในชีวิตการแสดงของแมตต์ ซึ่งไม่มีช่วงเวลาใดให้ต้องจดจำ , มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ดูจะเป็น
    การเพิ่มบทที่ผิดพลาดไปสำหรับฉบับใหม่ เขาอาจจะปฏิบัติหน้าที่กวนประสาทได้อย่างเมามันส์ พอจะสร้างความผ่อนคลายให้คนดูได้อยู่บ้าง แต่ในแง่ของความจำเป็นแล้ว นี่เป็นตัวละครที่มีไว้เพื่อสร้างรกรุงรังบนจอหนังซะมากกว่า

    ส่วนกับตัวละครประกอบฉากอื่นๆนั้น ก็ต่างทำหน้าที่ประกบตัวละครหลักได้เป็นอย่างดี เพียงถ้าไม่เอาไปเทียบกับของเก่าให้น่าน้อยใจแล้ว ...ไมเคิล ชีน , วีล่า ฟอร์มิก้า และ อเล็ค บอนด์วิน ก็มีบทบาทสร้างความเข้มข้นได้มากพอดู

    The Departed ... อาจจะเป็นความคมของหนังแอ๊คชั่นฮอลลีวู้ดที่มีน้อยเรื่องจะเหลาได้คมขนาดนี้ แต่ถ้าเอาไปเปรียบกับงานต้นแบบแล้ว ความคมของฉบับใหม่ก็ยังจะดูทื่อกว่าอยู่ดี ...ผมอาจจะโชคดีอยู่หน่อยที่ไม่คิดหวังอะไรอีกหลังโดน
    สปอยล์ไปแล้ว ก็เลยดูหนังสนุก และรู้สึกชอบ แต่พอถามความรู้สึกตัวเองหลังออกโรงแล้ว ก็ไม่ต่างไปกับคนอื่นๆ ที่รู้สึกกัน คือ "สู้ของเก่าไม่ได้เลย"
           

    และถ้า The Departed จะได้หนังยอดเยี่ยมออสการ์จริงๆแล้ว ...ผมจะขอเป็นคนหนึ่งที่จะต้องเจ็บใจแทนผู้คิดและผู้สร้าง Infernal Affairs เลยทีเดียว

    ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ ;
    1. เป็นงานกำกับที่ดูสนุกที่สุดของ ลุง มาร์ติน สกอร์เซซี่
    2. การแสดงของ ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปิโอ และ แจ๊ค นิโคลสัน ...ได้เข้าชิงออสการ์ก็สมควร
    3. บทหนังที่ตัดแต่งใหม่ แล้วกระชับ ชวนระทึกใจ และเข้มข้นมากพอดู

    ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ ;
    1. การคิดจะลอกเลียน IA แต่ทำได้ไม่ถึง จนกลายเป็นความน่ารำคาญ
    2. การใช้คำ F**K อย่างฟุ่มเฟือย

    เกรด B+

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    ปล. กระทู้ที่โผล่มา 2 อันข้างล่างนี้ อันนี้เกิดความผิดพลาดตอนส่งอะครับ ...พอส่งแล้วดัน Error ซะนี่ ไม่มีการขึ้นหน้าจอว่าตั้งกระทู้เรียบร้อย ผมเลยคิดไปว่า กระทู้คงส่งไม่ได้ แต่กลายเป็นว่าไอ้ที่ Error ก็ดันโผล่ขึ้นมาอีก ...ก็ต้องขออภัยละกัน เพราะอันนี้ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นจริงๆ

    แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 49 23:34:32

    แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 49 22:05:44

    แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 49 17:35:02

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 24 ต.ค. 49 17:25:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com