CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; หมากเตะ รีเทิร์นส ... อุตส่าห์ปั่นไซต์โค้งได้สวย แต่ลูกดันหลุดออกนอกกรอบซะงั้น

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (3 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (5 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (1 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 10 คน

     30.00%
     50.00%
     10.00%
     0.00%
     10.00%


    หมากเตะ รีเทิร์นส ... หนังฟุตบอล คอมเมดี้ ดรามา ที่มาพร้อมกับกลุ่มนักกีฬาซึ่งมีชื่อเฉพาะเป็นของตัวเองว่า 'Underdog' ...เรื่องราวทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นที่เซียนพนันสุดเก๋า "เจ๊มิ่ง" ได้ลั่นปากสาบานไว้ว่า ถ้าเจ๊ถูกหวยรางวัลที่ 1 จะฉวยเงินทั้งหมดนำไปให้สมาคมฟุตบอลฯใช้ไปผลักดัน บอลไทยให้ไปบอลโลก โดยขอเพียงมีข้อเสนอว่า ทางสมาคมต้องยินดีที่จะรับหลานชายของเธอซึ่งเป็นโค้ชมือดีในพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่าง "พงศ์นรินทร์" กลับมารับหน้าที่เป็นกุนซือคุมทีมชาติไทยอีกด้วย ...แต่แล้วอะไรๆก็ไม่เข้าล็อก เพราะทางสมาคมก็ดันทุรังไปเรียกใช้บริการคนแซมบ้าบราซิล แทนซะอย่างงั้น

    ในเมื่อบอลไทยไม่คิดจะเอาคนทั้งสองไปบอลโลกด้วย ก็เลยเป็นเหตุอันบังเอิญให้เจ๊มิ่งและพงศ์นรินทร์ ผู้ชีช้ำกระหล่ำดองทั้งสอง ต้องหนีร้อนไปพึ่งร้อนกว่า กับการยอมเป็นนายทุนและกุนซือ ให้กับ Lucky Loser ...ทีมชาติอาวี ซึ่งได้เข้ามาคัดบอลโลกด้วยความฟลุ๊กอย่างงงๆ แต่ก็ดันไปเกิดเรื่องโชคร้ายที่พึ่งสูญเสียนักบอลเกือบทั้งทีมจากอุบัติเหตุรถคว่ำกันซะอย่างงั้น

    มันจึงเป็นหน้าที่ของโค้ชมือฉกาจคนนี้ ที่จะต้องทั้งผลัก-ดัน-ดึง-ทึ้ง-กระชาก-ลากถู ทุกวิถีทางเพื่อจะให้ ทีมอาวี ได้มีโอกาสติดเป็น 1 ใน 32 ทีมสุดท้ายที่จะได้ไปบอลโลกอย่างลากเลือด ...แต่ช้าแต่อุปสรรคอันใหญ่หลวงมันมักจะมาตอนท้ายหนัง กับเรื่องที่น่าจะง่ายมันกลายเป็นยากก็ตรงที่ ปราการด่านสุดท้ายซึ่งอาวีจะต้องเจอะ ดันกลายเป็นทีมชาติไทยไปได้ซะนี่ ...แล้วอย่างนี้ โค้ชพงศ์นรินทร์ผู้ที่ใจหนึ่งแสนจะรักชาติภูมิใจบ้านเกิด แต่ก็อีกใจก็ยังแค้นไม่หายที่คนชาติเดียวกันเคยกล้าหักหลัง เขาจะต้องทำตัวอย่างไรดีเนี่ย ในเมื่อชาติทั้งสองล้วนสำคัญต่อเขาทั้งสิ้นซะนี่ ?

    หลังจากจำเป็นต้องสูญเสียโอกาสไปให้กับเรื่องของความไม่เห็นพ้องระดับชาติที่จำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเอาไว้ ...การกลับมาของ หมากเตะ (ที่เคย โลกตะลึง) ในรูปโฉมใหม่นี้ ดูจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเล็กๆสำหรับค่ายหนังคุณภาพ จีทีเฮช ค่ายนี้ ...แม้ว่าการกลับมาหนนี้จะไม่สามารถรักษาความสดใหม่น่าดูได้เท่าของเก่า (ยอดรายได้ 4 วันแรก แป้กสนั่นยิ่งกว่า มหา'ลัย เหมืองแร่ เคยทำเอาไว้ซะอีก) แต่อย่างน้อยในท้ายที่สุด ก็ยังจะมีคอหนังไทยกลุ่มหนึ่ง(ที่เป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ)ซึ่งเคยเรียกร้องจะดู ก็รู้สึกสมใจที่ได้ดูเสียที

    ตัวผมนั้น มีความคาดหวังสูงที่อยากจะดูหนังสนุกๆ จากการเสียเวลา สองชั่วโมง นั่งชมหมากเตะ รีเทิร์นส เรื่องนี้... เหตุผลคงจะเป็นเพราะของเก่านั้นได้รับการร่ำลือวิจารณ์หนาหูในห้องเฉลิมไทยว่า ดูสนุก มันส์ ฮา แล้วยิ่งนี่เป็นหนังเรื่องใหม่จากหนึ่งในทีมผู้กำกับ "แฟนฉัน" ซะด้วย มันก็เลยเป็นเหตุจำเป็นที่ผมจะต้องมองหนังเรื่องนี้ไว้ในแง่บวกจนคิดว่า น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผมได้

    แต่กับความเป็นจริงแล้ว ที่ผมได้ผ่านตามานั้น มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นไปซะหมด ... หนังของผู้กำกับ ปิ๊ง-อดิสรณ์ เรื่องนี้ ยังทำได้ไม่ถึงขั้นที่ผมหวังจะได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นส่วนของความเป็นคอมเมดี้เอาฮา หรือดรามาที่หวังขายความกินใจ หมากเตะไม่สามารถแตะต้องได้อย่างเต็มที่ ดูจะทำเพียงขอแค่ผ่านๆผิวๆซะมากกว่า โดยไม่ได้คิดจะเน้นย้ำจริงจังกับแนวทางเรื่องไหนสักอย่าง แล้วยังมีประเด็นบางประเด็นที่ถ้าเจาะจงลงไปอีกก็สามารถสร้างความลึกให้กับตัวหนังได้มากขึ้นไปด้วย แต่หนังก็เลือกจะขายบันเทิงจ๋าเสียจนลืมจุดดีๆจุดนี้ไปอย่างน่าเสียดาย (เช่น เรื่องของความขัดแย้งในใจที่ต้องเลือกระหว่างบ้านเกิดกับบ้านปัจจุบันของ พงศ์นรินทร์ มันน่าจะซึ้งได้มากกว่านี้ถ้าหนังใส่ใจเพิ่มบทบาทพล็อตส่วนนี้ลงไปให้หนักแน่นกว่านี้อีก)

    ส่วนของมุขตลก นับว่าพอสร้างความสนุกครื้นเครงได้พอควร แต่ก็ยังมีให้ติตรงที่ การเล่นของเหล่านักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่ฟิตให้แข็งแรงพอต่อการรับส่งมุข ซึ่งไม่ลื่นไหลพอจะให้เกิดความฮากับคนดูได้อย่างเด็ดขาด ...มุขบางมุขถ้าเน้นย้ำหรือจี้เส้นให้ถูกจุดแล้ว มันก็สามารถทำให้คนดูขำเอาเป็นเอาตายได้อยู่แล้ว แต่หนังก็ไม่ยอมส่งให้เล่นได้สุดๆซะนี่ ...ทั้งที่ปกติแล้ว ผมจะหัวร่องอหายได้ง่ายมาก แต่กับการดูหมากเตะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังคอมเมดี้พันธุ์แท้นั้น กลายเป็นว่าต่อมขำของผมได้ใช้งานไม่บ่อย

    บทหนังดูจะเป็นความน่าผิดหวังอย่างมหันต์สำหรับผมเลยก็จริงอยู่ ...แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีอยู่สิ่งหนึ่งภายในสิ่งที่ไม่ดีนั้น ซึ่งโดดเด่นโดดเด้งจนเตะตาและเตะใจผมเข้าอย่างจังเลยก็คือส่วนที่เป็นพลอต บ้านพี่เมืองน้อง และโดยเฉพาะกับฉากไฮไลท์ของเจ๊มิ่ง ซึ่งสามารถกระตุ้นต่อมน้ำตาจากผมได้ด้วยประโยคที่ง่ายๆ แต่กินใจเลยทีเดียว (นี่เป็นส่วนที่เรียกความประทับใจในหนังเรื่องนี้ได้มากที่สุดแล้ว)

    อีกอย่างหนึ่งที่เป็นข้อดีของหนัง ก็คือ การดำเนินเรื่องของหนังที่ลื่นไหลกลบข้อด้อยของตัวบทไปได้อยู่ ...การหาตัวนักบอล(มือสมัครเล่น) การฝึกต่างๆ การเก็บตัว และการแข่งขัน ทำให้บรรยากาศของหนังดูเพลินๆได้อย่างไม่ต้องไปคิดถึงความอ่อนของตัวเรื่อง  

    บทบาทการแสดงหนังครั้งแรก ของมือปืนมือรางวัล ของพี่เอ๊กซ์-จักรกฤษ ทำหน้าที่ได้ดี และเด่นกว่าใครเพื่อน ...แววตา ความมุ่งมั่น และอารมณ์กดดันภายใน ทุกอย่างดูจริงจากการแสดงออกที่เล่นน้อยแต่ได้มาก ถ้าบทหนังเปิดโอกาสให้มีความลึกมากกว่านี้อีกสักหน่อย ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรที่พี่เอ๊กซ์จะสามารถเล่นบีบอารมณ์ได้สุดๆมากกว่านี้ไปอีก ,น้าน้อย โพธิ์งาม เป็นตัวละครที่เล่นตลก ได้ตลกที่สุดของหนังเรื่องนี้ (มุขที่ผมขำเสียส่วนใหญ่ มักจะต้องมีเธอเป็นส่วนประกอบอยู่ในนั้น) พอถึงฉากให้เศร้าเคล้าน้ำตาแล้ว ก็อย่างที่ผมบอกไป เธอทำให้ฉากนั้นออกมาถึงจุดพีคในอารมณ์อย่างที่ควรจะเป็น , สองหน้าใหม่ ที่สวมบทเป็น "แสงเหล็ก" และ "ตุ๊กตา" ...สองคนนี้ เป็นหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยจะสำแดงอะไรจนน่าสนใจนัก แต่ผมเองก็รู้สึกได้ถึงเคมีความน่ารักในเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน (มุข วิค วาโปรับ เป็นมุขตลกที่น่ารัก และทำให้ผมอินจนอยากจะเอาไปใช้บ้างในชีวิตจริง) โดยเฉพาะกับฝ่ายหญิงที่ทำเล่นตัวแสนงอนได้อย่างน่าหยิกน่าหยอกซะจริงเชียว (ชั้นมันมิสคอลนี่ ไม่ใช่มิสยูนิเวิร์ส ...น่ารักทั้งมุขและคนเล่นมุข) ส่วนนักแสดงประกอบคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่เป็นสีสันได้พอสมควร แต่ก็ไม่มีตัวละครไหนที่หาญกล้าจะขโมยซีนเพื่อนร่วมจอได้อย่างเต็มที่

    ในส่วนที่หนังถูกเปลี่ยนแปลงจากชื่อประเทศเพื่อนบ้านของเรา ไปเป็นประเทศอาวีนั้น ...ก็นับว่ายังคงดูลื่นไหล กลมเกลียวไปกับปากนักแสดงได้อย่างไม่มีตะขิดตะขวงใจ  

    หมากเตะ รีเทิร์นส ... ได้ดีเพราะมีจังหวะการทำประตูที่ส่งงได้เต็มเท้า ตัวนักเตะ(หมายถึง ผู้กำกับ)ก็วางท่าปั่นไซต์โค้งและได้วางลูกให้เข้ากรอบอีกอย่างสวยงาม เสียดายที่ไปขาดความแม่นยำอย่างเด็ดขาด เพราะตอนจบของความพยายามนี้คือการหลุดออกนอกกรอบไปอย่างไม่น่าเลยจริงๆ ...นี่เป็นหนังที่ผมอาจจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างและถือเป็นงานที่ดีน้อยสุดจากมวลหมู่ผู้กำกับทั้ง 4 แห่ง 365 Films แต่ยังไงก็ตามแต่ มันก็ยังสามารถจะดูเอาสนุกเอาเพลินได้อยู่ ไม่น่าจะทำให้คนที่หวังหนังบันเทิงเสียดายเงิน เสียดายเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน

    เกรด B

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 49 17:55:22

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 30 ต.ค. 49 17:50:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com