CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หวานมันส์ .... ชำแหละหนัง: The Grudge 2, ให้คุณค่ากับเหยื่อที่ถูกคำสาปได้ดี แต่ไม่มีอะไรโดเด่นซักนิด

      10 - 9.5 / 10 (0 คน)
      9 - 8.5 / 10 (0 คน)
      8 - 7.5 / 10 (3 คน)
      7 - 6.5 / 10 (5 คน)
      6 - 5.5 / 10 (2 คน)
      5 - 4.5 / 10 (1 คน)
      4 - 3.5 / 10 (2 คน)
      3 - 2.5 / 10 (0 คน)
      2 - 1.5 / 10 (1 คน)
      1 - 0 / 10 (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 15 คน

     0.00%
     0.00%
     20.00%
     33.33%
     13.33%
     6.67%
     13.33%
     0.00%
     6.67%
     6.67%


    นี่ก็ Halloween แล้ว ก็คงคิดว่าต้องแซงคิวหนังที่เขียนอยู่ 2-3 เรื่องที่กำลังเขียนอยู่ช่วงนี้ จึงมาเขียนถึงเรื่องนี้ทันที

    SPOIL อีกแล้วนะครับ

    .... The Grudge และ Ju-On คือหนังสยองขวัญจากฝั่งดินแดนซูชิ ที่สร้างเพื่อหลอกคนดูและให้คนดูได้สนุกกับมัน
    อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องมีอะไรมาขวาง ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกก็รู้จักหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่ต่างจาก The Ring แล้ว
    และที่หนังยังคงไม่ต่างกันก็เพราะ หนังยังเป็นหนังของ Takashi Shimizu อยู่ดี จึงไม่มีอะไรต่างกันซักเท่าไหร่

    ใน The Grudge 2 คือหนังภาคต่อของ The Grudge ที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรกับ Ju-On ซักนิด เป็นเรื่องราวที่พยายาม
    จะบอกที่มาและที่ไป ของผีแม่และผีเด็กปะแป้งอย่างกระจ่างซักที รวมถึงสาเหตุที่แม้จริงว่าทำไม Kayako ต้องทำ
    อย่างงี้กับเหยื่อที่ถูกสาปของเธอทุกราย??? และเป็นเรื่องราวที่พยายามจะต่อให้ยาวมากขึ้น และ รวมถึงอะไรบาง-
    อย่างที่เพิ่มความน่าแปลกใจ

    .... แต่พอเอาเข้าจริง ภาคต่อของหนังสยองเรื่องนี้นั้น ทำได้ห่างชั้นมากๆ เมื่อเทียบกับ The Grudge และ Ju-On เพราะ
    คุณพี่ Takashi Shimizu เล่นนำเอามุขผ่างๆ ที่เคยใช้มาแล้ว จาก Ju-On 2 (ภาคแรกก็ด้วยเป็นบางฉาก) และ หนังผีที่
    มีแนวเดียวๆกันหลายๆเรื่อง (มีชัตเตอร์ของไทยด้วย!!!!) มาผสมผสานทำให้คนที่ดูหนังผีบ่อยๆ ชินไปกับมันไปเสีย
    แล้ว ทั้งๆที่ในตัวอย่างทำได้น่ากลัว แต่เมื่อถึงหนังจริงๆ หนังกลับหลายเป็น Scary Boring ซะอย่างนั้น แถมมีฉาก
    ที่ชวนหลับซะอีก ทำให้ความสยองเรื่องนี้กลายไปอยู่ในระดับหนังอนุบาลไปเลย ยิ่งตอนที่ควรจะน่ากลัวอย่าง ฉาก
    ในห้องล้างรูป น่าจะทำได้น่ากลัวนะ แต่กลายเป็นยังกะ รายการโชว์ Mad TV ซะงั้น แถมไอ้หนุ่มหน้ามนต์ อย่าง
    นาย Edison Chen ก็ยังเก๊กหล่อจึงไม่สมบทบาทที่ตัวเองเล่น

    แต่ในภาคนี้ ถึงจะไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าการเชื่อมเรื่อง กับการเล่าเรื่องทำได้ดีมากๆ รวมถึงการที่ใส่
    ความเป็น Drama ในตัวละครไปอีกด้วย ทำให้คนดู (บางคน) อาจจะรู้สึกสงสารเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ได้รับคำสาป
    ครั้งนี้ โดยแยกเป็น3เรื่องตามนี้

    - Aubrey Davis ได้รู้ข่าวจากแม่ที่นอนป่วยอยู่ว่า Karren ผู้เป็นพี่สาวเข้าโรงพยาบาล และกำลัง ถูกสอบสวนคดีไฟ
    ไหม้ ที่แฟนหนุ่มของเธอถูกไฟคลอกเสียชีวิต ในบ้านแห่งหนึ่งในโตเกียว แม่ของเธอไม่สามารถ ไปญี่ปุ่นด้วย
    ตัวเองได้ จึงให้Aubreyเป็นคนไปรับพี่สาวกลับอเมริกา ซึ่งเมื่อเธอได้ไปถึง ก็พบกับนักข่าวหนุ่มชาวฮ่องกง Eason
    และก็ได้พบกับพี่สาว ที่มีสภาพไม่ปกติ แถมพี่เธอก็ฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาเธอ เธอกับ Eason จึงอยากจะตามหา
    สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดครั้งนี้ แต่เธอเองก็เจอความจริงอย่างที่เธอคาดไม่ถึง

    - Allison เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติในโตเกียว เธอพยายามจะเข้ากับเพื่อนที่นั่นให้ได้ โดยยอมทำทุกอย่าง แม้
    กระทั่งไปลองของที่บ้านบรรยากาศหลอน ที่ถูกไฟไหม้ตามที่เพื่อนจอมเซี้ยว Vannessa และ Miyuki  ท้าลองของ
    ทั้งที่รู้ว่ามีการตาย และเหตุการณ์ลึกลับเกิดขึ้นมากมายที่นี่ และเรื่องไม่เป็นเรื่องก็เกิดขึ้น เมื่อ Allison ได้ถูกคำสาปนี้
    ตามล่าไปเรื่อย และ Miyuki กับ Vannesa ก็หายตัวไป จึงทำให้เธอเกิดอาการหวั่นกลัวกับการหนีคำสาปนี้ ซึ่งมันทำ
    ให้ตัวเธอเริ่มที่จะไร้สติมากขึ้น

    - Jake คือหนุ่มน้อยที่รู้สึกไม่พอใจพ่อตัวเองที่กำลังจะแต่งงานใหม่ เขายังรู้สึกเสียใจกับการจากไปของแม่ และไม่
    เข้าใจว่า ทำไมพี่สาวถึงเข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ย กับว่าที่แม่เลี้ยงได้รวดเร็วเหลือเกิน นอกจากนี้ เขายังไม่เข้าใจว่า ทำไม
    เพื่อนบ้านถึงเก็บตัว และไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ดูเหมือนทุกคนในอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ จะมีพฤติกรรมแปลกขึ้น

    ซึ่งทำ3เรื่องเอง ได้เชื่อมโยง ตัดเรื่องราวไปเรื่องราวมา แบบสลับกันไป ในแบบ Ju-On และ The Grudge แล้วก็
    พยายามจะตัดเรื่องราวให้คนนั้นชวนสงสัย และอยากติดตามมากขึ้น แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เพราะบางครั้งถ้าไม่ใช่
    ตัวละครเอกของเรื่องนั้นๆ เรื่องราวของหนังบางทีจะไม่มีเหตุผล พร้อมกับรูโหว่ ที่คนดูก็งงอยู่ว่า แล้วมันเป็นแบบนี้
    ได้อย่างไงเนี๊ย ในเมื่อหนังก็ไม่บอกให้เราได้เห็นกัน รูโหว่ ที่ว่าก็ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนของพี่ Jake ถูกเข้าสิงได้ไง???
    ครูที่ปรึกษาของ Allison เป็นผีได้อย่างไร??? Aubrey รู้เรื่องผี Kyako ได้เร็วเกินไปรึเปล่า??? และที่แน่นอนผมเชื่อว่า
    หลายคนคงสงสัยแบบผม ทำไมพ่อของ Jake ถึงสงสัยว่าเมียตัวเองไปมีคนอื่นนะ??? มันไม่เมคเซ็นซ์น่ะครับ

    แต่เรื่องราวของพวกได้รับคำสาป (ที่เด่นๆนะ) กลับทำได้ดูน่าสงสารมากกว่า ภาคที่ผ่านมา คงจะมี2คนที่เห็นได้ชัด
    คือ Aubrey และ Allison คนแรกมีปมในอดีตเล็กๆน้อยๆแถมแม่ของตัวเอง ไม่ได้รักตัวเธอเองเลยซักนิด แถมพี่สาว
    ของเธอกลับเป็นผู้ที่ถูกได้รับความรักมากที่สุด มันเลยเป็นจุดที่จะต้องไปเชื่อมต่อกับจุดเฉลยของเรื่อง จึงทำให้ตัว-
    ละครตัวนี้ ต้องไปหลอกให้ Allison ได้นำคำสาปไปต่อสู่คนอื่นๆ ทำให้ตัวเธอก็ต้องโดน Kyako หลอกเรื่อยไป จนจะ
    เสียสติก็ตอนจะจบเนี๊ยแหละ ซึ่งมันก็น่าสงสารนะ เพียงแต่งานนี้ทำได้ด้อยมากๆ น่าจะเล่าได้ดีกว่านี้แต่ก็ทำไม่ได้
    เรียกได้ว่า ความ Drama ของตัวละครเด่นๆ ภาคนี้ทำได้ดี แต่นอกนั้นกระจอกไปหมดล่ะครับ ไม่รู้ว่า ถ้ามีภาค3
    จะยังมีใครไปดูอ่ะป่าวเนี๊ย????

    หวานมันส์ ที่มีรสชาติ คลั่งสิงโตคำราม
    - 3 นักแสดงหลักของเรื่อง Amber Tamblyn (Aubrey), Arriel Kebber (Allison) และ Matthew Knight (Jake) ที่ทำได้ดี
    กว่านักแสดงคนอื่นๆของเรื่อง โดยเฉพาะ Arriel Kebber ที่เดี๋ยวนี้เห็นเธอเล่นหนังอยู่บ่อยๆ พอเห็นเธอในเรื่องนี้ คิด
    ว่า อีกไม่นาน นักดูหนังชาวไทย คงได้รู้จักชื่อเธอแน่ๆล่ะครับ เรื่องนี้เธอเล่นได้น่าสงสารดี
    - พี่สาวของ Jake น่ารักดี แต่ไม่น่าตายเลยอ่ะ
    - เพลงโดย Christopher Young ดีกว่าตอนที่เขาทำ The Grudge หน่อยนึง ชอบมากๆตอนที่เขาทำ Emily Rose และก็
    ภาคนี้ก็ทำได้ดี เท่ากับ Emily Rose จริงๆครับ

    หวานมันส์ ที่ยังจืดไป คลั่งอินทรีย์เหล็ก
    - มุขผ่างๆๆๆ เก๋าเก่าจริงๆ ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยซักกะนิด
    - Edison Chan นี่ถ้าพี่แกไม่เล่นจะดีกว่านี้นะ
    - เด็กปะแป้งครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ การเป็นตัวติ๊งต๋องซะงั้น
    - มุขตลกหลายๆมุขที่ไม่น่าเอาเข้ามาแทรกเลย
    - รูโหว่เพียบเกินเหตุไปนะ!!!!!
    - ผกก. Takashi Shimizu เริ่มไม่มีกึ๋นแล้ว
    - นอกจากจะฆ่าคนไปเรื่อยๆแล้ว ยังฆ่าเวลาไปเปล่าๆด้วยนะ

    สรุปแล้ว: เฉยๆนะ คือแบบพอเข้าใจแล้วว่าทำไมมันไม่ดังที่เมกา แล้วก็ทำได้งั้นๆไม่มีอะไรน่าจดจำจริงๆ
    หนังน่าจะทำได้น่ากลัวกว่านี้ แต่ไม่เลือกเพราะมัวแต่ไปใส่อารมณ์ตัวละครเอกอยู่ จึงทำให้เราได้เห็นแบบนี้ ซึ่ง
    มันก็ไม่เสียดายตัง แต่เหมือนเช่าโรงแรมเข้าไปนอนมากกว่า โดยรวมแล้วเป็นหนังที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ แต่ถ้าใคร
    อยากดู การแสดงของ  Arriel Kebber ก็คงพอใจแหละ คงให้เรื่องนี้ ในประมาณ 4.5/10 ละกัน ทำได้ไม่ดีนัก

    คราวหน้า: อาจจะเขียน Crank และ หมากเตะฯ ไม่เสร็จนะครับ เพราะว่าตอนนี้เผิดเทอมแล้ว แล้วก็เริ่มจะไม่มี
    เวลาเขียนแล้วล่ะ จึงอาจจะต้องตัดทอนบางเรื่อง ไปลงไว้ตอนที่หนังลงแผ่นไปแล้วล่ะครับ ที่เขียนแล้วก็คือ
    The Guardian ครับ และพึ่งไปดู Monster House มาสนุกมากๆ กำลังจะเขียนด้วยครับ แต่ที่แน่ๆ อยากเขียน
    The Prestige มากๆนะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูหนังนะ แต่อยากดูมากๆเลยตอนนี้ ส่วน SAW III ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเลื่อนรึเปล่า?

    เมื่ออ่านแล้วก็ช่วยลงความเห็นกันหน่อยนะครับ ลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้อ่านครับ

    แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 01:47:46

    แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 49 01:47:21

    จากคุณ : billy bob - [ 1 พ.ย. 49 01:46:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com