ความคิดเห็นที่ 42
ประวัติ ชีวิตวัยเด็ก และการศึกษา เลสลี่ จาง เกิดวันที่ 12 กันยายน 1956 ในฮ่องกง เลสลี่เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนลูกสิบคน พ่อของเขาเป็นช่างจัดเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียง แม้ว่าเลสลี่จะเติบโตในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง แต่เขาก็มีชีวิตวัยเด็กที่ไม่มีความสุข พ่อแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ฉะนั้น เขาจึงไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่ของเขานัก หลังจากจบการศึกษาระดับต้นแล้ว เลสลี่ก็ถูกส่งไปเรียนต่อที่โรงเรียนนอร์วิช ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นเขาอายุ13ปีเท่านั้น และช่วงเวลานี้เอง ที่เลสลี่ต้องเลือกชื่อภาษาอังกฤษ "เลสลี่" เป็นชื่อของนักแสดงชายชาวอังกฤษ "เลสลี่ ฮาเวิร์ด" ผู้ซึ่งแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Gone With the Wind เลสลี่เรียนต่อในชั้นอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยลีดส์ วิชาเอก การจัดการสิ่งทอ แต่เขาต้องหยุดเรียนกลางครันเมื่อกำลังขึ้นชั้นปีที่สองในปี1976 เนื่องจากพ่อของเขาป่วยหนัก
ดาราดาวรุ่ง ภายหลังที่กลับมาฮ่องกงแล้ว เลสลี่เริ่มต้นอาชีพของเขาโดยการสมัครเข้าประกวดร้องเพลง "ATV Asian Music Contest" ในปี1977 ซึ่งเลสลี่ได้รางวัลรองชนะเลิศ ในปีเดียวกัน เลสลี่ออกอัลบั้มแรกของเขา I Like Dreamin แม้ว่าจะไม่ประสบการสำเร็จ แต่เขาก็ได้แสดงละครทีวี และภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง "Nomad" ซึ่งเขาได้ถูกเสนอชื่อ ชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย ในปี1983 เขาได้กลับสู่วงการเพลงอีกครั้ง หลังจากที่เขาหมดสัญญากับ ATV แล้ว และเซ็นสัญญา กับบริษัทCapital Artists และออกอัลบั้ม "Wind Continues to Blow."
เป็นไอด้อลของวัยรุ่น ในยุค80 เลสลี่มีเพลงฮิตต่อเนื่องแบบนับไม่ถ้วน เช่นเพลง Monica, For Your Heart Only, Who Feels the Same, Sleepless Night, Thinking of You และอื่นๆอีกมากมาย เพลงโมนิก้าของเขา กลายเป็นตัวแทนของเพลงป๊อบของเด็กรุ่นใหม่ในกลางยุค80 ในปี1985 เขามีคอนเสิร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรก และอีกครั้งในปีต่อมา เลสลี่ได้รับรางวัลทางดนตรีมากมายทั้งจากTVB Jade Solid Gold Best Ten Awards และ RTHK Top Ten Golden Chinese Songs Awards รวมทั้งได้รางวัลนักร้องชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเพลงดีที่สุดแห่งปีด้วย นอกจากการร้องเพลงแล้ว เลสลี่ยังได้รับแรงผลักดันในอาชีพนักแสดงของเขา โดยได้รับบทเป็นนายตำรวจ ในภาพยนตร์ของจอนห์วู เรื่อง "โหดเลวดี" ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ทำให้เลสลี่เริ่มเติบโตในอาชีพ นักแสดง ในปี1987 เขาได้แสดงหนังของฉีเคอะเรื่อง โปเยโปโลเย รับบทเป็นคนทวงหนี้ ที่ไปตกหลุมรักผีสาว ที่เล่นโดยหวังจู่เสียน ทั้งโหวเลวดีและโปเยโปโลเย สร้างให้เขาเป็นหนึ่งของนักแสดงยอดนิยมในเอเชีย ปีต่อมา เลสลี่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำอัดลมยี่ห้อดัง "เป๊ปซี่" และจัดคอนเสิร์ตของเขาที่ฮ่องกง 23 รอบ
การรีไทร์ ในยุค80 มีสามนักร้องที่ครอบครองความนิยมในวงการเพลงของฮ่องกง เลสลี่ - แอนนิต้า มุย และอลัน ทัม กับเลสลี่และอลัน ทัม แฟนๆของทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกัน และขัดแย้งกันอย่างยาวนาน จนทำให้นักร้องทั้งคู่รู้สึกกดดันมาก ในปี1989 เลสลี่ประกาศถอนตัวจากวงการบันเทิง ซึ่งเป็นข่าวช็อคทั้งวงการบันเทิง เลสลี่สั่งลาอย่างเป็นทางการด้วยการจัดคอนเสิร์ตอำลา 33 รอบ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่แคนาดา
ดาราภาพยนตร์ เลสลี่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่ออีกหลายเรื่องกับผู้กำกับที่เป็นที่ยอมรับของวงการภาพยนตร์ ในปี1989 เขาแสดงในหนังของหว่องกาไว "Days of Being Wild, และได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ต่อมา เขาแสดงหนังของจอห์นวู เรื่องตีแสกตะวัน , แฟร์เวลมายคอนคิวบายน์ ของเฉินข่ายเกอ นางพญาผมขาวของ Ronnie Yu และHe's the Woman, She's the Man. ของปีเตอร์ ชาน แม้ว่าเลสลี่จะถอนตัวจากการเป็นนักร้องแล้ว แต่เขาก็ประพันธ์เพลงมากกว่าสิบเพลงในระหว่างนั้น และในปี1993 เขาได้รับรางวัล Best Original Movie Song Award จากหนังเรื่องนางพญาผมขาว ในงานม้าทองคำ ที่ไต้หวัน
การกลับสู่นักร้องป๊อบ หกปี หลังจากการถอนตัวของเขา เลสลี่ประกาศกลับมาอีกครั้งในปี1995 เลสลี่เซ็นสัญญากับบริษัทเร็ค เรคคอร์ด และออกอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุด "beloved" ซึ่งเป็นการรวบรวมเพลงจากภาพยนตร์ที่เลสลี่แสดง เช่น Chase, Endless Embrace, The Phantom Lover, และ Bygone Love. อัลบั้ม "beloved" บรรลุผลสำเร็จทางตลาดอย่างมาก กับรางวัล IFPI อัลบั้มที่ขายดีที่สุด ในปีเดียวกัน เลสลี่ถ่ายทำหนังอีกสองเรื่อง The Chinese Feast และ The Phantom Lover(เลสลี่เป็นผู้สร้าง)
ซุปเปอร์สตาร์แห่งนานาชาติ ในปี1996 ภาพยนตร์ที่เลสลี่แสดงทำรายได้หลายเรื่อง เช่น เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และ Who's the Man, Who's the Woman. ระหว่างคอนเสิร์ตอำลาในปี89ของเลสลี่ เขาสัญญาว่าเขาจะเปิดคอฟฟี่ช้อบ ที่ซึ่งแฟนๆสามารถนำบัตรคอนเสิร์ต มาแลกกาแฟได้ ในเดือนพฤษภา 1996 เขารักษาสัญญาของเขา โดยเปิดคอฟฟี่ช้อบในCauseway Bay ฮ่องกง ในปี1996 เลสลี่จัดคอนเสิร์ตยี่สิบสี่รอบ ที่ฮ่องกง จัดทัวร์คอนเสิร์ตในปี1997 ทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน สิงค์โปร อเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตเรีย เขากลายเป็นนักรองคนแรก ที่จัดคอนเสิร์ตรวมร้อยรอบที่ Hong Kong Coliseum ในปี1999 เลสลี่แสดงภาพยนตร์สองเรื่อง Moonlight Express, และ The Kid. ในปีเดียวกัน เลสลี่เซ็นสัญญากับบริษัทยูนิเวอร์แซล เร็คคอร์ด และในปลายปี1999 เลสลี่ออกอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุด "Countdown With You, ความสำเร็จของอัลบั้มชุดนี้ นำพาให้เลสลี่ไปสู่พิธีมอบรางวัลมากมาย ไม่ใช่แค่รางวัลจากTVB Jade Solid Gold Best Ten Awards เท่านั้น แต่จาก RTHK Top Ten Chinese Gold Songs Awards ด้วย
เลสลี่ตลอดกาล ภายหลังจากอัลบั้ม "Big Heat," เลสลี่เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตของเขา ซึ่งเริ่มต้นที่ฮ่องกง ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2000 และต่อไปที่ประเทศอื่นๆ รวมทั้งมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น แคนาดา และสหรัฐอเมริกา แม้ว่า Passion Tour จะถูกวิพากวิจารณ์ แต่มันก็เป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดของเลสลี่ บนเวทีคอนเสิร์ต Passion Tour ถูกสื่อมวลชนฮ่องกงวิจารณ์อย่างเจ็บปวด ในเรื่องเกี่ยวกับเสื้อผ้า แม้ว่าจะถูกวิจารณ์ แต่ Passion Tour ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเอเชีย Passion Tour ของเลสลี่ได้รับรางวัล Grand Salute Award และ Music Salute Award ยิ่งไปกว่านั้น เพลงที่ฮิตตลอดกาลของเลสลี่ "โมนิก้า" ยังได้รับเกียรติให้เป็นเพลงที่ชื่นชอบมากที่สุด ของศตวรรษที่ยี่สิบในฮ่องกงด้วย
จากคุณ :
cube
- [
3 พ.ย. 49 17:24:12
A:10.172.52.246 X:203.146.128.138 TicketID:114206
]
|
|
|