ความคิดเห็นที่ 1
.... หนังเรื่องนี้เป็น Animation ที่ใช้เทคนิคเดียวกับ The Polar Express นั่นคือเป็นการแสดงของนัก- แสดง แต่ถูกตัดมาเป็น Animation ที่หลังอีกที ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ใช้ทุนสร้างที่สูงขนาดเรื่องนั้น จึงทำ ให้เรื่องนี้ดูแล้ว มันหยาบๆแบบแปลกๆ ซึ่งการที่ Animation เรื่องนี้ดูหยาบๆ ก็เพราะว่า ทางทีมสร้าง ต้องการให้หนังดูเป็นแบบนั้น เพราะว่าความเป็นหนัง Animation ไม่จำเป็นจะต้องเนียนเสมอไป แต่แค่ใส่อารมณ์ธรรมชาติแบบมนุษย์เข้าไปในตัวละครหนังนั้น แค่นั้นแหละ ตัวละครของหนังจะ ดูเหมือนสัมผัสได้ทันที ยิ่งเป็นผกก.ที่เคยเป็นแค่ทีมงานอย่าง Gil Kenan ก็คงจะรู้ว่า ในหนังเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องให้มันดูสวยมาก แต่ถ้าหนังยิ่งเป็นธรรมชาติเมื่อไหร่ หนังก็จะออกดูเป็นสมจริงเท่า- นั้น ซึ่งในส่วนนี้เองถ้าเทียบกับ The Polar Express ก็จะเห็นว่าหนังนั้นดูมีความเป็นมนุษย์มาก- กว่าในด้านตัวละครเรื่อง ซึ่งผมว่านี่เป็นข้อดีที่ทำให้ Monster House ดูพิเศษมากกว่าหนัง Animation บางเรื่องเสียอีก
.... Monster House ไม่ใช่แค่ Animation แต่มันยังเหมือนหนังที่มีมนุษย์แสดงจริงๆ (ก็แน่อยู่แล้วใน เรื่องมันใช้คนเล่น) ซึ่งไม่ว่าจะเรื่องการดำเนินเรื่องนั้น มันไม่ออกมาตามสูครตามหนัง Animation ทั่วไป มันยังมีการผสมแนวหนังของมันอยู่ในหนังอีกด้วย เราจึงเห็นว่าเราเหมือนได้ดูหนัง4แนวนี้ พร้อมๆกัน (Action/Thriller/Comedy/Coming of Age) ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการท้าทายครั้งใหม่ นับตั้งแต่ สมัยหนังเรื่อง Titan A.E. ฉายก็ไม่ได้เห็นหนังแบบนี้ ออกมาให้เห็นอีกเลย แต่ตัวหนังเองไม่ได้ เน้นกลุ่มคนดูเด็กๆหรือครอบครัว อย่างเดียวแต่หนังยังสร้างเหมือนให้วัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่ได้ดู ซึ่ง เป็นเพราะตัวหนังนั้น มีมุขตลกที่ค่อนข้างฮาแบบเฉพาะกลุ่ม เด็กเล็กๆอาจจะไม่เข้าใจมุขแบบนั้น บ้านของเรื่องนี้ทำได้น่ากลัวมากๆ จนเด็กเห็นแล้วอาจจะเอาไปฝันร้าย และฉาก Action ที่ทำได้ ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร ฉนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่ Animation แบบที่เราเห็นทั่วไป
.... ใน The Polar Express พูดถึงประเด็นความเชื่อและศรัทธา ใน Monster House พูดถึงปล่อยวาง บางสิ่งบางอย่าง ที่มันควรจะจดจำเอาไว้ ไม่ว่าจะเรื่องบ้านที่วิญญาณควรถูกปลดปล่อย และก็เรื่อง ของเด็กๆของเรื่อง ที่เมื่อวันนึงถึงเวลาที่จะต้องโตเป็นวัยรุ่น ก็ควรจะหยุดการกระทำแบบเด็กๆได้ แล้ว แต่ถ้าอยากจะอำลาครั้งสุดท้าย ก็ขอทำให้มันดีที่สุด แน่นอนเรื่องนี้สอนให้คนได้มองโลกใน แง่ดีอีกแล้ว แต่คราวนี้เหมือนอยากให้คนดูหนังได้เข้าใจว่า มิตรภาพมันอยู่ทุกหนทุกจริงๆ เราจึง ได้เห็นว่า เพราะประเด็นและข้อคิดแบบนี้นี่เอง ทำให้หนัง Animation ยังคงมีคนชอบอยู่วันยังค่ำ
.... ต้องชมคนคิด Project Steven Spielberg และ Robert Zemeckis ที่สร้างสรรค์เรื่องนี้ได้น่าทึ่ง มากๆ เดิมหนังเรื่องนี้เขาทั้ง2คนจะกำกับ แต่จากที่ Robert Zemeckis ยังกำกับ The Polar Express อยู่ และ Steven Spielberg ก็กำลังทำ War of The World อยู่ ก็เลยหาคนมาทำ แต่ต้องชื่นชมว่า พวกเขาตัดสินใจถูกแล้วที่อนุมัติให้หนังเรื่องนี้ได้ถูกสร้างมา และก็เลือกคนกำกับถูกคนด้วย เพราะ ถ้าไม่มี2คนนี้ หนังก็คงไม่เกิดหรอกครับ
.... ฉากบ้านสมจริงมากๆครับ ผมรู้สึกว่าบ้านทุกหลังในเรื่อง หรือหมู่บ้านของหนังนั้น เหมือนเป็น หมู่บ้านจริงๆ ที่เราสามารถเดินได้เลย และก็นับตั้งแต่ฉากที่บ้านได้กินรถเข้าไป จนถึงตอนจบของ หนังเป็นความสนุกที่ไม่รู้ลืมจริงๆ ต้องชื่อนชมว่าเรื่องนี้เป็นที่ถูกสร้างสรรค์มาอย่างได้ดีจริงๆ และก็ยังอยากให้มันได้ฉายใน IMAX มันจะดูเป็นหนังสนุกมากๆ ยิ่ง 3D จะเหมาะมากๆจริงๆ
หวานมันส์ ที่มีรสชาติ - ผกก. Gil Kenan น่าสนใจมากๆ คนนี้ว่าผลงานเรื่องต่อไปของเขาจะเป็นยังไง - ฉากเปิดเรื่องสวยและสดใสมากๆ นี่ถ้าดูด้วย Blu-ray ภาพจะสมบูรณ์แบบจริงๆ - ช่วงเวลานับตั้งแต่ บ้านกินรถ จนถึง ตอนจบ เป็นความสนุก ที่หาไม่ได้จากหนัง Animation ทั่วไปจริงๆ - บ้านดูน่ากลัวมากๆ และ Action ของเรื่องก็มันส์และชวนลุ้นระทึกจริงๆ - Maggie Gylenhal(Z), Spencer Locke(Jenny), Catherine O'Hara(แม่) และ Catherine Turner (Constance) นี่คือ4นักแสดงที่ไม่ใช่แค่พากย์ แต่ยังเล่นบทของตัวเองอีกด้วย ถือว่าแสดงในบทบาทของตัวเองได้ใช้ได้ และก็เหมือนมนุษย์จริงๆครับ ดูแล้ว4คนนี้ดูสมบทบาทสุดๆ รวมถึงยัยหนูตอนเปิดเรื่อง Ryan Newman ที่แสดงได้ดีเช่นเดียวกัน (จะเห็นว่าเด็กน้อยคนนี้จะสมจริงสุดๆกว่าตัวละครอื่นๆ ในช่วงตอนท้ายๆ) - เนื้อหา เนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่อง ทำได้อย่างมีเหตุและผลจริงๆ - นักแสดงคนอื่นๆ ที่ให้เสียงพากย์ไม่ว่าจะเป็น Mitchel Musso (D.J.), Sam Lerner (Chowder), Steve Buscemi (Nebbercracker), Jason Lee (Bones), Kevin James (Officer Landers ), Nick Cannon (Officer Lister ), Fred Willard (พ่อ) และ Jon Heder (Skull) นี่ถ้าใครได้รู้จักเสียงของนักแสดงเหล่านี้ และมาเห็นตัวละครที่ พวกเขาพากย์ก็จะชวนมากันเฮชัวร์ๆแหละครับ - ตัวละคร Jenny กับน้องหนู3ล้อ น่ารักและสมจริงดี - ดนตรีโดย Douglas Pipes ที่ทำได้มีเสน่ห์ในแบบที่คล้ายๆกับ Danny Elfman นี่ถือว่าเป็นเรื่องแรกของเขา ที่มาทำเพลงหนังนะเนี๊ย!!!! - มุขตลกแทบทั้งเรื่องได้ใจผมทั้งนั้น!!!!! - บทบรรยายไทยโดย ธนัชชา ศักดิ์สยามกุล พี่พัชชาไม่ทำให้ผิดหวังอีกแล้วครับ - ในวันที่ได้ชมเรื่องนี้ ก็เป็นวัน Halloween ซะด้วย แถมหนังยังสมกับบรรยากาศของวันอย่างไม่ต้องปฏิเสธ
หวานมันส์ ที่ยังจืดไป - ถ้ายาวกว่านี้จะยกให้เป็นหนัง Animation แห่งปีเลย แต่นี่ยังรู้สึกหนังมันสั้นไป ทั้งๆที่ดูเพลิน
สรุปแล้ว: เรื่องนี้เป็นหนัง Animation ที่ดีมากๆ และผมรู้สึกชอบเป็นอันดับสองของปี ต่อจาก Cars แถมมันยังเป็นหนังที่สนุกเฮฮาและชวนระทึกในเวลาเดียวกัน แต่เรื่องนี้ในความเห็นผม ผมว่ามันไม่ เหมาะกับเด็กเล็กๆและคนทั้งครอบครัว ซึ่งผมก็ได้บอกไปแล้วเพราะอะไร แต่เป็นหนังที่ผมว่า Animation ไม่จำเป็นต้องดูเนียนๆเสมอไป เพราะถ้าธรรมชาติตัวละครเปรียบเสมือนคล้ายๆกับมนุษย์ หนังเรื่องนี้ก็ คงเป็นหนังที่ Animation บางเรื่องยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำหรอกครับ ยอมรับว่าเป็นหนังที่ทำได้ดีทุกประการ และเนื้อเรื่องของหนังก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน จนเนี๊ยอาจจะเป็นความบันเทิงครั้งใหม่ที่มีมาโลกภาพยนตร์ ก็ได้ สำหรับผม ผมให้ 9.5/10 ครับ ถือว่าค่อนข้างประทับใจพอสมควรครับ
คราวหน้า:ดู The Prestige แล้วชอบมากๆเลย จนต้องยกย่องให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่หักหลัง คนดูสุดๆแห่งปีเลยล่ะครับ ซึ่งผมเองกำลังเขียนอยู่ครับ แต่เปนชู้กับผี ยังไม่ได้เริ่มเลยล่ะครับ ถ้ามีเวลา ก็คงได้เขียนแหละครับ
เมื่ออ่านแล้วก็ช่วยลงความเห็นกันหน่อยนะครับ ลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้อ่านครับ
จากคุณ :
billy bob
- [
6 พ.ย. 49 16:09:49
]
|
|
|