Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เมื่อคนดูร้างราโรง หนังรายได้ลดฮวบ คนไม่สนใจหนังโรงอีกต่อไป

    ปีนี้ เป็นปีที่คนดูหนังกันน้อยลงนะ น้อยจนน่าจะเรียกว่า น่าใจหาย

    ยิ่งดูรายได้หนังสัปดาห์นี้ หนังที่ขึ้นอันดับหนึ่ง เปนชู้กับผี มีรายได้ไม่ถึง 10 ล้าน ยิ่งน่าใจหายหนัก นี่หรือหนังอันดับหนึ่ง
    ซึ่งที่จริง หนังอันดับที่ 1 ทุกสัปดาห์หลังๆก็รายได้แย่มาเป็นเดือนๆแล้ว ทั้งที่ปกติ ถึงแต่ละปีจะมีช่วงแย่ ก็ไม่เคยเห็นแย่ขนาดนี้

    ผมคิดว่า มี 3 เหตุผล ที่ทำให้เดี๋ยวนี้ คนไม่เลือกจะดูหนังในโรงมากเหมือนเคยอีกต่อไป.....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ผมว่า สาเหตุแรกคงเป็นเพราะ คนเริ่มจะเลือกหนังดูมากกว่าที่คิด จะดูหนังทั้งที่ต้องเอาแบบคุ้มค่าตั๋ว
    หนังประเภทที่จะเรียกคนดูได้ ต้องทำให้คนดูคนหนึ่งจูงอีกคนมาดูหนังได้อย่างชัดๆ ถึงจะได้รายได้งามๆ
    อย่างปีนี้ ก็มีอย่าง ก้านกล้วย ที่ลากพ่อแม่ลูกมาดูหนังได้ หนัง Seasons Change ที่คู่แฟนจูงมือกันมาดูได้
    โกยเถอะโยม โหน่งเท่ง ที่ยังลากเอาแฟนดาวตลกมาอุดหนุนกันได้อยู่ แต่ไม่รู้สูตรนี้ ปีหน้าจะยังใช้ได้ไหม
    นอกนั้น ถ้าไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่ซัมเมอร์จากฮอลลีวู้ด ก็ไม่อาจเรียกว่าหนังทำเงินได้เลย เพราะได้ไปเรื่องอย่างมากก็ 30 ล้าน

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เหตุผลที่สอง น่าจะเป็นเพราะ โรงหนังที่ชักจะขูดรีดเอาเปรียบขึ้นทุกวัน ยิ่งภาวะเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง แต่ตั๋วหนังกลับแพงได้ใจ
    แถมโปรโมชั่นออกมาก็มีเล่นแง่กลับกลอก จนคนแถวนี้เอามาด่ากันได้เรื่อยๆ ทำให้คนน่าจะเข็ดขยาดไปกับการใช้วันหยุดไปดูหนัง
    เพราะราคาก็ไม่ถูก แถมดวงไม่ดี เจอการบริการแย่ๆ ถึงแม้จะเป็นส่วนน้อย แต่ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ เลือกจะหนีจากโรงไปรอแผ่นดู

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เหตุผลที่สาม ก็ต่อเนื่องมาจากหนัง ที่ทุกวันนี้ หนังออกจากโรงลงแผ่นแท้เร็วมาก จนคนไม่เห็นค่าของการไปดูหนังที่โรงอีกแล้ว
    เพราะรออีกหน่อย แผ่นก็ออก และเดี๋ยวนี้ การไปดูหนังเร็วกว่าใคร ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปคุยกับใครได้อีกต่อไป เพราะคุยไปก็เท่านั้น
    ร้านเช่าที่เคยฟุบๆจนเงียบเหงาไปพักหนึ่ง กลับมาฟื้นตัว แล้วก็ทำรายได้เหมือนเคย หนังตามกระบะลดราคา ก็หนีห่างโรงไม่เท่าไหร่
    บวกกับภาวะเศรษฐกิจ ทำให้การดูหนังจากแผ่นที่ก็ออกเร็ว กลายเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลขึ้นมาทันที ใครจะจ่ายแพงไปดูในโรงอีก
    ในเมื่อซื้อแผ่น เช่าแผ่นมาดูได้ทั้งบ้าน ไม่ชอบก็จ่ายนิดเดียว แถมไม่ต้องเสียค่ารถค่ากินตอนออกไปดูหนังอีกต่างหาก คุ้มกว่าเยอะ

    ==================================================================

    ผมลองมานั่งดูสาเหตุแต่ละข้อที่ผมพอจะคิดออก พอมาดูแล้วมันน่าเขกกระโหลกคนวงในมากจริงๆ.....

    ==================================================================

    สาเหตุแรกนั้น มาจาก คนเริ่มเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ซึ่งนั่นแหละ ทำให้ผู้สร้างต้องปรับตัว ต้องรู้จักสร้างหนังให้ดีเพื่อคนดู

    เพราะเดี๋ยวนี้ มองไปทางไหน ก็เห็นแต่หนังแย่ๆมากกว่าหนังดี จนคนไม่กล้าจะเข้าโรงไปดูหนัง เพราะโอกาสจะโดนหลอกมีสูง
    แต่ผู้สร้างหลายรายก็ยังมองตลาดในแบบมองอยู่คนเดียว ทึกทักเอาว่า คนดูชอบดูหนังแบบนี้ ชอบดูหนังผี หนังตลก แล้วก็แห่สร้างกันมา
    โดยลืมไปว่า คนดูมาดูหนัง ไม่ได้มาดูเพราะมันเป็นหนังผีหนังตลก แต่ดูเพราะว่าเป็นหนังดีน่าสนุกหรือไม่ต่างหาก ที่คนเขามาดู

    หนังที่ไม่เข้าแนวเลย แต่พอดูตัวอย่าง อ่านเนื้อเรื่องสนุก คนก็พร้อมจะไปดู อย่างก้านกล้วย Seasons Change ที่ก็ไม่ใช่หนังผีหนังตลก
    เมื่อผู้สร้างไม่เคยเข้าใจข้อนี้ เลยมีหนังแย่ๆออกมาเต็มไปหมด จนคนดูก็ไม่รู้สึกอยากจะเข้าโรงอีกต่อไป หนังก็เลยรายได้ตกลงทุกปี
    เราไม่ต้องสนใจว่าหนังฮอลลีวู้ดรายได้มันก็แย่เหมือนกัน แต่พอมาดูรายได้หนังไทย มันยิ่งแย่กว่า ยิ่งเมื่อเทียบกับหลายปีก่อนหน้านี้

    นี่คือ การทำร้ายตัวเองของผู้สร้างหนังไทย ข้อที่ 1.....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เหตุผลที่สอง เป็นผลทางอ้อมที่ดันคนดูออกไปจากโรงโดยไม่ตั้งใจ อันเนื่องมาจากความสะเพร่า และความโลภมากของโรงหนัง

    เพราะอันที่จริง คนดูพร้อมจะไปดูหนังที่ไหนก็ได้ ขอให้เป็นโรงดีโรงสะอาด มีบริการที่ดี ราคาสมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบพวกเขา
    แต่เมื่อเครือโรงหนังหนึ่ง (คงไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ) อาจจะคิดว่า ตัวเองครองจ้าวยุทธจักรของโรงหนังแล้ว ก็เลยจะทำอะไรก็ได้
    ก็เลยออกโปรโมชั่นมาหลอกลูกค้าสารพัด การบริการก็แย่ลง ราคาค่าขนมค่าน้ำก็แพง จนทำให้คนดูมองสภาพแวดล้อมโรงผิดไปจากเดิม

    ตอนนี้ คนเข้าใจว่า ที่โรงหนังคือที่ดูดเงินออกจากกระเป๋าเขาโดยไม่จำเป็น นอกจากการโดนหลอกโปรโมชั่นที่เป็นส่วนน้อยที่จะโดนแล้ว
    คนทั่วไป ที่ไม่สนใจโปรโมชั่น ก็ไม่ได้คิดว่า โรงหนังเป็นที่ที่น่าเดินอีกต่อไป เพราะเหมือนกับไปเดินห้างเอ็มโพเรียมยังไงยังนั้น
    ทั้งที่ของก็ไม่มีอะไร แต่แพงเหลือหลาย ไปดูหนังที จ่ายเกือบพัน ไปคนเดียวก็จ่ายเกือบครึ่งพัน ตายพอดี ดูหนังจ่ายแพงขนาดนี้
    ปลาเน่าตัวเดียวก็เหม็นทั้งโขลง ยิ่งเป็นปลาตัวเท่าฉลามด้วย ยิ่งเน่าไปหมด โรงเครืออื่นเลยพลอยโดนหางเลขไปด้วย โดนด่าก็บ่อยขึ้น

    โรงหนัง จึงไม่ใช่จุดพักผ่อนวันหยุดที่ดีอีกต่อไป ไปสังเกตได้ว่า ถ้าสัปดาห์ไหนไม่มีหนังใหญ่จริง แถวคนซื้อตั๋วจะน้อยอย่างเหลือเชื่อ

    นี่คือการทำร้ายตัวเอง ของคนในแวดวงโรงหนัง ที่กระทบผู้สร้างโดยไม่รู้ตัว.....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ส่วนเหตุผลสุดท้าย มาจากความอยากได้เงินเร็วๆของผู้สร้างหนัง ที่คิดว่า การรอหนังออกแผ่น 8 เดือนแบบเก่ามันช้าเกินไป
    จึงเรียกร้องให้ออกแผ่นเร็วขึ้น เป็น 4 เดือนหลังหนังหลุดโรง จึงออกแผ่นได้ เพื่อให้มีโอกาสได้โกยเงินจากรายได้การขายแผ่นหนัง

    ซึ่งผมก็มองมานานแล้วว่า นี่ไม่ได้เป็นวิธีแก้ปัญหาหนังขาดทุนที่ยั่งยืน กลับเป็นการทำร้ายรายได้หนังในระยะยาวมากกว่าเดิม
    เพราะรายได้จากการขายแผ่นหนังนั้น ไม่อาจสู้รายได้จากโรงได้อยู่แล้ว คนไทยก็ไม่ได้มีนิสัยในการเก็บสะสมหนังมากมายขนาดนั้น
    บวกกับแผ่นผี หรือการก๊อปการโหลดหนัง ที่ยังไงก็ไม่มีวันปราบหมด เพราะคน ไม่จำเป็นต้องคนไทย ถ้าของฟรีมีได้ เขาก็เอาทั้งนั้น
    และเมื่อยิ่งไปใส่มัลแวร์กันก๊อปหนังในแผ่น ยิ่งเป็นการไล่ลูกค้าที่ควรจะได้เข้าไปอีก ยิ่งทำให้แผนการโกยรายได้ กลับแย่ลงไปอีก

    และการทำให้หนังออกแผ่นเร็ว ทำให้คุณค่าของหนังโรงหมดลงไปเรื่อยๆ เพราะในไม่กี่เดือนหลังหนังออกจากโรง คนก็จะได้ดูหนังแผ่นแล้ว
    ฉะนั้น หนังที่จะมีโอกาสในโรงจริง ต้องเป็นหนังที่ทุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ดูแล้วคุ้มค่า หรือหนังที่มีกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวางเท่านั้น
    ทำให้กลายเป็นการปิดโอกาสหนังอีกหลากหลายรูปแบบที่น่าจะมีโอกาสทำรายได้ในโรง เพราะคนจะสนใจการไปดูหนังที่คุ้มค่ามากกว่า
    คุ้มค่าก็คือ หนังที่ต้องดูในโรงเท่านั้น จำพวกหนังใหญ่ๆทุ่มทุนสร้างของฮอลลีวู้ด และหนังที่สามารถยกหมู่คณะไปดูกันได้เยอะๆ

    แต่เหนือสิ่งอื่นใด การออกแผ่นเร็วนั้น ก็ทำร้ายหนังทุกประเภท เพราะคนไม่จำเป็นต้องดูหนังในโรงอีกต่อไป
    การรีบไปดูหนังเพื่อที่จะได้คุยก่อนใครแบบเมื่อก่อน ใช้ไม่ได้แล้วเดี๋ยวนี้ คนไม่ได้สนใจแล้วว่า ไปดูหนังอะไรมาก่อน
    เพราะอีกไม่กี่เดือน ก็ได้ดูหนังในแผ่น อรรถรสอาจต่างกัน แต่เมื่อเงินทองมีค่ากว่า เก็บไว้ดูหนังที่มีค่ามากกว่าดีกว่า

    นี่เป็นการทำร้ายตัวเองของผู้สร้างหนังข้อสุดท้าย ที่ไม่รู้ว่าจะยังคิดกลับตัวทันไหม.....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ทำอย่างไรล่ะ ที่คนดูจะกลับไปดูหนังในโรงอีก.....

    1. สำคัญที่สุด ผู้สร้างต้องหันกลับมาสร้างหนังโดยพิจารณาเนื้อหามากขึ้น มากกว่าจ้องแต่จะขายอย่างเดียว ซึ่งส่วนใหญ่มีดีแต่เปลือก
       การทำเช่นนี้เพื่อทำให้หนังส่วนใหญ่ในตลาด มีแต่หนังดีมากกว่าหนังแย่ ทำให้สภาพแวดล้อมการไปดูหนังน่าดูขึ้น
       
       ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการซื้อแผ่น VCD-DVD ด้วย เพราะเดี๋ยวนี้แพ็คเกจดีวีดีดูน่าเก็บมาก โดยเฉพาะหนังดีๆทั้งหลาย
       เมื่อหนังดี คนดูก็อยากเก็บแผ่นที่ดีๆ ไม่อยากไปซื้อของก๊อปให้ดู Cheap ผมคนนึงล่ะที่ถ้าหนังดี จะซื้อแผ่นแท้มาเก็บ
       แต่ถ้าหนังห่วย อย่าว่าแต่แผ่นแท้เลยครับ แผ่นก๊อปก็ยังไม่เก็บ หรือถ้าเกิดนึกคึกอยากจะดู ก็คงไปหาของกีอปของโหลด

    2. โรงต้องเลิกเอาเปรียบคนดูหนัง พยายามลดออพชั่นในโรงให้น้อยลง แต่สนใจการบริการมากขึ้น ใส่ใจคนดูให้มากขึ้นกว่าเดิม
       เรียกว่า ความจริงใจต่อลูกค้า ซึ่งเป็นนิสัยเสียของพ่อค้าคนไทย ที่ชอบเอาเปรียบลูกค้าพอตัวเองมีอำนาจ ตรงนี้ต้องกำจัดออกไป

    3. ถ้าทำได้ ก็ควรจะยืดเวลาการออกแผ่นออกไป ทำให้หนังโรง ไม่ไล่กับการออกแผ่นหนัง อันทำให้หนังโรงหมดคุณค่าไป
       หลายคนอาจบอกว่า ยังไงหนังโรงก็มีคุณค่าอยู่ในตัวอยู่ดี แต่คนทั่วไปไม่ได้สนนี่ครับ เขาสนว่า เขาจะจ่ายยังไงให้คุ้มค่ามากกว่า
       
       หนังโรงกับการออกแผ่น ไม่ควรอยู่ใกล้กันเกินไป การทำให้หนังโรงเป็นความพิเศษที่คนต้องรอดู ไม่งั้นต้องรออีกนาน จะมีคุณค่ากว่า
       ยืดไปสัก 6 เดือนก็ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีผลต่อผู้บริโภคนัก แต่การทำให้หนังโรงกับการออกแผ่นแยกกันไกลหน่อย ก็ดีกว่าให้มันใกล้กัน
       ถึงแม้ว่าแผ่นผีจะออกมาคั่นทาง แต่จะไปสนทำไมล่ะครับ หนังเข้าโรงมันก็ออกแผ่นแล้ว ยังไงก็แก้ไม่ได้ คนจะดูแผ่นผี มันก็ดูอยู่ร่ำไป
       ทำหนังให้ดี และยืดเวลาแผ่นออกไปนิด ทำให้ตัวหนังมีคุณค่า คนจะหันไปดูหนังในโรงเพิ่มขึ้น ได้รายได้จริงๆจากทั้งสองทาง

       แผ่นผีไม่ต้องไปสนหรอกครับ เดี๋ยวนี้ก็ใช่ว่าจะขายดีอะไร แล้วแผ่นผีก็มีตลาดของเขา คนที่ซื้อแผ่นผีก็จะยังซื้อไป คนไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ

    ทั้งสามข้อ ต้องทำพร้อมกันไป ซึ่งน่าจะทำให้สถานการณ์การดูหนังโรงดีขึ้น.....

    ยังอยากเห็นโรง มีคนเบียดเสียดกันแย่งซื้อตั๋วอยู่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังแบบไหนก็ตาม เดี๋ยวนี้มันดูแห้งแล้งน่าใจหายพิกล.....

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 49 09:28:20

    จากคุณ : อายานุ - [ 10 พ.ย. 49 01:40:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom