ความคิดเห็นที่ 1 James Bond ----------------------- Code name : 007 สายลับหน่วย MI6 ของอังกฤษซึ่งสายลับที่มีรหัสขึ้นต้นด้วย 00 จะมีสิทธิพิเศษคือสิ่งที่เรียกว่า "License to kill" หรือฆ่าคนได้โดยไม่ผิดกฏหมายอังกฤษ แต่อยู่ในขอบเขตที่ว่าต้องเป็นการฆ่าที่อยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ และต้องทำรายงานส่งทีหลัง (ฆ่าก่อนรายงานทีหลังว่างั้นแหละ) Favourite beverage : วอดก้ามาร์ตินี่ เขย่าแต่ไม่คน (Vodka Martini , shake but not stir) คำแนะนำตัว : My name is Bond , James Bond. เป็นคำพูดประโยคเด็ดที่บอนด์ทุกคนจะต้องพูดอย่างน้อย 1 ครั้งในทุกภาค เคยอ่านหนังสือรวมเกร็ดเจมส์ บอนด์ (อยู่ที่บ้านต้องไปค้นก่อน มีเกร็ดเล็กน้อยมากมายเลยครับ) ว่าตอนแรกที่เอียน เฟลมมิ่งกำลังหาบอนด์คนแรกอยู่นั้น เขาเห็นณอน คอนเนอรี่ซึ่งทำงานเป็นเด็กส่งของ เดินผ่านหน้าห้องพอดี และเค้าก็บอกว่า "คนนี้แหละเจมส์ บอนด์" พร้อมกับเรียกให้ณอนมาลองทดสอบ โดยการใส่ชุดทักซิโด้ คาบซิการ์เปิดประตูห้องพร้อมกับเตินเข้ามาพูดคำแนะนำตัว ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนของณอนให้มาเป็นบอนด์คนแรก และได้รับการยกว่าเป็นบอนด์ที่เหมาะสมที่สุด (ยังไม่ได้เทียบกับคนล่าสุดนะ) อันนี้คือโปสเตอร์ของณอน คอนเนอรี่ พร้อมกับ Posting ที่คนรู้จักมากที่สุดของ ณอน เลยมั้งครับ จากคุณ : Go-Kung - [ 14 พ.ย. 49 12:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาวุธ : Walther PPK เป็นปืนประจำกายของบอนด์ทุกภาค ซึ่งตอนหลังได้เปลี่ยนเป็น Walther P99 ในภาค Tomorrow never dies ซึ่งเป็นการเปลี่ยน model ของปืนให้เหมาะสมตามสมัย รวมทั้งมีการเปลี่ยนไปใช้ Walther P5 ในตอน Octopussy (+ Never Say Never Again) เพียงตอนเดียวด้วย โดย Walther PPK เป็นปืนที่มีขนาดเล็ก จุกระสุน 7 นัด (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) สามารถติดที่เก็บเสียงได้ พกพาสะดวกเหมาะกับงานสายลับของบอนด์ อันนี้เป็น Walther PPK model ที่ใช้มายาวนานมาก (ตั้งแต่ณอนจนถึงทิโมธี ดาลตันเลยมั้งครับ ถึงจำไม่ผิด) ขอบคุณ #5 คุณoldmanhandsome สำหรับข้อมูลที่ถูกต้องครับ ^^ ขอบคุณ #14 คุณวิคเตอร์สำหรับข้อมูลเรื่อง P5 ครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 14:49:24 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 13:23:04 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 13:22:22 จากคุณ : Go-Kung - [ 14 พ.ย. 49 12:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Step ของหนัง.... ----------------------- เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในภาคที่ 3 Goldfinger ครับ ก็คือเริ่มมาตอนแรกจะเป็นฉากที่บอนด์เดินมา โดยมีวงกลมของลำกล้องปืนจับไปที่บอนด์ตลอด และบอนด์ก็หันมายิงสวนกลับมาที่ลำกล้องปืนนั้นพร้อมกับเข้าสู่การเปิดตัวบอนด์ โดยอาจจะอยู่กับผู้หญิง หรือกำลังทำภารกิจลับสักอย่างอยู่ แล้วก็มีการต่อสู้เล็กๆน้อยๆเป็นน้ำจิ้ม แล้วจึงตัดเข้า Opening scene โดยจะใช้เงาของผู้หญิงเป็น Background แล้วจึงเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักของหนังครับ โดยที่บอนด์จะไปรับภารกิจจาก M ซึ่งเป็นหัวหน้า และรับอาวุธ+ของใช้สำหรับภารกิจนั้นจาก Q โดยที่เกือบทุกภาคนี่จะต้องมีการแอบเกี้ยวมิสมันนีเพนนี ซึ่งเป็นเลขาหน้าห้องทำงาน M สักนิดหน่อยด้วย และในระหว่างปฏิบัติภารกิจ บอนด์จะได้เจอผู้หญิงอย่างน้อยอีก 2 คน คนแรกคือนางเอกของเรื่อง หรือที่เรียกกันติดปากว่าสาวบอนด์นั่นเอง ส่วนอีกคนจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ฝั่งผู้ร้าย และบอนด์จะใช้เสน่ห์ของตัวเองหลอกล่อให้ช่วยเหลือ หรือสืบข่าวจากเธอ และเมื่อปฏิบัติภารกิจไปเรื่อยๆจนจบ บอนด์รอดตายจากภารกิจนั้นได้ โดยที่ไม่ลืมที่จะช่วยสาวบอนด์ของตัวเองให้รอดตายมาด้วยกันเสมอ แล้วจึงจบด้วยการ ..... (ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ) ของบอนด์กับสาวบอนด์ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 13:12:19 จากคุณ : Go-Kung - [ 14 พ.ย. 49 13:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ผมเขียนขึ้นเท่าที่จำได้นะครับ หากเพื่อนๆเห็นว่าตรงไหนผิดก็รบกวนช่วยท้วงติงด้วยนะครับ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือรวมเกร็ดเจมส์บอนด์อยู่กับตัว เดี๋ยวกลับบ้านแล้่วจะเอามาลงให้อ่านกันครับ มีเกร็ดน่ารู้เยอะแยะมากมายเลยทีเดียว เชิญท่านอื่นเสริมต่อได้เลยครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 13:24:24 จากคุณ : Go-Kung - [ 14 พ.ย. 49 13:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปืนของ บอนด์ มาเปลี่ยนจาก "วอลเธอร์ พีพีเค" เป็น "วอลเธอร์ พี 99 " เต็มตัวในบอนด์ ตอน Tomorrow Neverdie ครับ เพราะตอนต้นเรื่อง บอนด์ยังใช้ PPK อยู่ จากคุณ : oldmanhandsome - [ 14 พ.ย. 49 13:12:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบๆเอาอีก จากคุณ : วังวัง - [ 14 พ.ย. 49 13:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 วอดก้า มาตินี่ เขย่า แต่ไม่คน จากคุณ : Wphat - [ 14 พ.ย. 49 13:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฉากเปิดตัวที่เดินออกมาแล้วยิงผ่านช่องปากกระสุนปืน แล้วฉากก็เหมือนเลือดอาบลงมาสีแดง ถ้าไม่ใช่ 007 แล้วจะเป็นใครล่ะครับ จากคุณ : หลังโรง - [ 14 พ.ย. 49 13:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จาก Wikipedia รูป Ian Fleming ผู้แต่ง จากคุณ : L.ก.ฮ. (Lkorhol) - [ 14 พ.ย. 49 13:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จาก Wikipedia ภาพ James Bond ตามจินตนาการของ Ian Fleming ผู้แต่ง จากคุณ : Lkorhol - [ 14 พ.ย. 49 13:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 #8 โจวซิงฉือ ปลอมตัวมา... จากคุณ : wario - [ 14 พ.ย. 49 14:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ก่อนเริ่มหนังต้องมีเพลงประกอบภาพยนตร์ก่อน และก็ต้องมีเงาสาวๆ มาร่ายรำยั่วยวน ก่อนที่จะเข้าสู่การดำเนินเรื่องตามปกติ จากคุณ : ระยะเผาขน - [ 14 พ.ย. 49 14:06:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ป๋าเอียน เฟลมมิ่ง ผู้เขียนนิยาย007 เคยทำงานในหน่วยสืบราชการลับของราชนาวีอังกฤษ เป็นคนวางแผนชิงเครื่องถอดรหัส Enigma ของเยอรมันด้วย แต่แผนถูกยกเลิก และยังเป็นที่ปรึกษาให้ William J Donavan ในการร่างโครงสร้างของ OSS หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ ที่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกเปลี่ยนมาใช้ชื่อ CIA ส่วน เจมส์ บอนด์ นั้นเป็นรูปแบบของสายลับในอุดมคติที่ เอียน เฟลมมิ่ง หรือคนที่ทำงานสายลับจริงๆ อยากจะเป็น อยากมีชีวิตเหมือน ซึ่งสายลับจริงๆนั้นไม่ได้ทำงานแบบ เจมส์ บอนด์ จากคุณ : วิคเตอร์ - [ 14 พ.ย. 49 14:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ Walther P99 ในช่วงหลังๆ ก่อนหน้านั้นในภาค Octopussy ที่โรเจอร์ มัวร์ เป็น 007 และภาค Never Say Never again ที่ปู่คอนเนอรี่กลับมารับบท 007 ครั้งสุดท้าย มีการเปลี่ยนปืนไปใช้ Walther P5 แทน PPK รุ่นเก่าด้วย แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 49 14:23:21 จากคุณ : วิคเตอร์ - [ 14 พ.ย. 49 14:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ชื่อของ เจมส์ บอนด์ นั้น ป๋าเอียน เฟลมมิ่ง นำมาจากชื่อนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับการดูนก (พวกปักษีวิทยา) เพราะเห็นเป็นชื่อธรรมดาๆ ดูเชยๆดี จากคุณ : วิคเตอร์ - [ 14 พ.ย. 49 14:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับ Never Say Never Again นั้นเป็นหนังบอนด์ที่ไม่ถูกนับอยู่ในซีรี่ย์ 007 ครับ เพราะในตอนนั้นเกิดความขัดแย้งกันในทีมงานผลิตหนังบอนด์ ทำให้มีทีมงานคนหนึ่ง (จำชื่อไม่ได้ครับ) แยกตัวออกมาแล้วทำการสร้างหนัง 007 ออกมาแข่งกับค่าย MGM/UA ซึ่งเป็นผู้ผลิตหนังบอนด์ทั้งหมด โดยดึงณอน คอนเนอรี่กลับมารับบทบอนด์อีกครั้ง ในตอนที่ชื่อ Never Say Never Again ทั้งๆที่ณอนตอนนั้นก็แก่ได้ที่แล้ว (ผมหงอกแล้วนะ ตอนแสดงต้องใส่วิกเล่น) โดยที่เนื้อเรื่องนั้นเป็นการนำเอา Thunderball หนังตอนที่ 4 มาดัดแปลงเนื้อเรื่องใหม่ เช่นเดียวกับ Casino Royale ที่มีการสร้างเป็นหนังทีวีมาก่อนหนังโรงตอนแรก (Dr.No) เสียอีก แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จนกระทั่งมาถูกนับเป็นหนังบอนด์ตอนที่ 21 ในการสร้างครั้งนี้นี่เ้อง จากคุณ : Go-Kung - [ 14 พ.ย. 49 14:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าว....เค้าพูดไปหมดแล้ว แล้วผมจะพูดอะไรอ่ะเนี่ย......... อะ จิงดิ คนแรกที่บอนด์มีอะไรด้วย มักไม่ใช่นางเอกตอนนั้น อาจจะตัวประกอบ นางราย ไม่ก็ ... ก็ได้ นางเอกเห็นมีแค่สองสามคนที่ อันจ๊ะอึนตรึย กลางเรื่อง ตอน เรื่อง ภาค ก่อนล่าสุด...เซ็งเลยครับที่รู้ว่า ฮัลลี่ เบอร์รี่เป็นสาวบอนด์ แต่มิริด้า ฟอรช์ (คนโปรดผม อยากได้แฟนหน้าตางี้มักๆ คนที่ผมแอบชอบก็หน้าแนวๆ นี้แหละ) พ่อบอร์ดโดนลากขึ้นเตียงก่อน... เลยเฉลยว่าเป็นแผนตัวโกงซะงั้น เห็นกันทุกภาค ขนาดไปเกาะอะไรนะ ยังหาสาวได้ ไม่พ้นนางร้ายอีก (ส่วนใหญ่สาวๆโดนหลอกนะ ผมว่า บ้างก็ว่าชอบแต่ไม่รู้ใครหลอกใคร) เพราะงั้น คนแรกที่บอนด์มีอะไรด้วย ไม่ใช่นางเอกตอนนั้น ฟันธงขอรับ !!!!!! แถมอีกอย่าง บอนด์ ไม่ชอบสาวสีผิวอื่นนอกจากขาว... แต่มันก็เอาได้หมด...สาวเอเชียที่ประกบบอนด์มีไรด้วยคนเดียวมั๊ง ผิวดำอีก 1 นอกนั้น หลากหลายเชื้อชาติปนๆ กันไปแต่ล้วนเป็นคนขาวทั้งสิ้น....เหอะๆๆ แบบว่าพวก 00 License to kill เค้าพูดไปแล้ว ผมว่าน่าจะพูดฝั่งตัวโกงดีกว่า ตัวโกงบอนด์ ส่วนใหญ่ "มีเงิน" ครับ ต้องรวยโคตรๆ ผมจำไม่ได้ว่าตลอดชีวิตการดูบอนด์เคยซัดกับคนจนๆ ที่ไหนบ้าง แผนก็มักจะเพิ่มความร่ำรวยให้แก่ตนเอง คนรวยบางคนมีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกครับ ไม่ก็ยึดครองโลกไปเลย รวยไม่รวย บางคนมีเกาะส่วนตัว มีบ่อนคาสิโนใหญ่ยักษ์ มีอาคารยักษ์กลางทะเล มีโรงเก็บเครื่องบินในบ้าน มีเงินจ้างลูกน้องเป็นกองทัพ ขนาดตอนหลังๆ ยังมีเศรษฐีน้ำมัน เจ้าพ่อสื่อ ล้วนแล้วแต่เป็นพวกรวยๆๆ ร๊วยรวยทั้งงั้น ไหนใครว่ารวยแล้ว พอแล้วไง เหอะๆๆ และมักจะฉลาด ไม่ก็ มีลักษณะที่เต็มที่กับชีวิต บางคนเอาบอนด์ไปใส่ไว้ในกับดักสารพัด... ซึ่งคิดดีๆ ผมว่ายิงๆ ไปก็จบแล้ว เป็นผมๆ ไม่เล่าแผนให้มันฟังหมด แล้วจับขึงกับเครื่องยิงเลเซอร์หรอก... ยิงๆ มันไปซะ คุณก็ได้ครองโลกแล้ว มิ้วๆๆๆ และจะปิดจุดอ่อนเรื่องทุกเรื่องด้วยของเล่นของ Q บางอย่างผมว่าทำมายังกะ Q เค้ามีองค์ว่ามันต้องใช้ คนใหม่ที่ มาแทน ไม่เห็นเจ๋งเท่าเลย บอกตามตรงผมโหวด คุณโบนนิ่ง น่าจะไปเป็น Q คนใหม่ที่สุดเพราะมาดให้มากๆ เจ๋งที่สุดเท่าที่เป็นตัวโกงเห็นจะเป็น Goldfinger ไอเดียบรรเจิดมากๆ ทองจะกลายเป็นของหายาก เศรษฐกิจจะดับวูบ โอ้ว... แถมฉาก "ชั้นหวังให้ แกตาย" มันจับใจมาก แม้เจ้านี่จะโง่เอาบอนด์เข้าเลเซอร์ที่หลอมทองก็ตาม....เฮ้อออ จากคุณ : มิ้วๆ - [ 14 พ.ย. 49 14:54:29 A:61.7.174.133 X:61.7.174.133 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่มอีกนิดละกันก่อนไปทำงานต่อ ถึงจะเป็นสายลับเจ้าชู้ขา fun free แต่ เจมส์ บอนด์ เคยแต่งงาน 1ครั้ง ในภาค On her majestic secret service ที่เป็นภาคเดียวที่ จอร์จ ลาเซนบี้ เข้ามาเป็น 007 แต่หลังจากแต่งไม่กี่นาที บอนด์ ก็กลายเป็นหม้าย หลังภรรยาที่เพิ่งแต่งงานถูกมือสังหารยิงต่อหน้าต่อตา จากคุณ : วิคเตอร์ - [ 14 พ.ย. 49 15:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Sean Connery ที่เป็นบอนด์คนแรก ก่อนหน้านั้นก็เป็นนักแสดงมาก่อนนะครับ เพียงแต่บทไม่เด่นไม่ดังเท่ารับบทเป็นบอนด์ หากใครได้ดูเรื่อง The Longest Day (1962) หนังดังของปีเดียวกับที่ Dr. No ออกฉาย จะเห็น Sean Connery เป็นหนึ่งในทีมนักแสดงด้วย เป็นตัวประกอบ(เพราะเรื่องนี้ดารามากจริงๆ มี John Wayne ด้วย) และที่ Sean Connery ไม่ได้เล่น บอนด์ ต่อคงไม่ใช่เพราะแก่ เพราะว่า Roger Moore ที่รับบทต่อจากแก อายุมากกว่า Sean Connery ถึง 3 ปี Sean Connery เกิด 25 August 1930 เล่น บอนด์ตอนแรก Dr.No ตอน อายุ 32 เลิกเล่นตอนสุดท้ายคือ Diamonds Are Forever (1971) (ของ MGM) ตอนนั้น อายุ แค่ 41 ***** Pierce Brosnan เล่น บอนด์ ตอนแรก คือ GoldenEye (1995) ตอนนั้น Pierce อายุ 42 ปี เลิก Die Another Day (2002) ตอนอายุ 49 ปี Roger Moore เกิด 14 October 1927 อายุมากกว่าปู่ Sean 3 ปี เล่น บอนด์ ตอนแรก คือ Live and Let Die (1973) ตอนนั้นอายุ 46 ปี!! เล่นตอนสุดท้ายคือ A View to a Kill (1985) ตอนนั้นอายุ 58 ปี (เลิกเพราะแก่จริงๆ) ****หมายเหตุ Sean Connery กลับมารับบท บอนด์ อีกครั้งจากเรื่อง Never Say Never Again (1983) แต่ไม่ใช่หนังของ MGM เลยไม่นับ ตอนนั้น Sean อายุ 53 ปี Sean Connery เป็น บอนด์ คนเดียวที่ได้ออสการ์ (ทบสมยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Untouchables ที่เควิน คอสเนอร์ เป็นพระเอก) จะสังเกตุได้ว่า บอนด์ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ดารา ที่เรียกได้ว่า เจ้าบทบาท หรือ แสดงเก่งอะไรนักหนา ภาคนี้เลยอยากเอานักแสดงที่มีฝีมือทางด้านการแสดง อย่าง Daniel Craig มารับบทนี้ดูบ้าง จากคุณ : Gary - [ 14 พ.ย. 49 15:33:54 A:125.24.185.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขำ Sean Connery ตอนที่เล่นเรื่อง The Rock ตอนที่ป๋ากับนิโคลัสเคทสู้กับนาวิกในอุโมงค์ใต้ดิน เคทถามว่าลุงทำแบบนี้ได้ยังไง ลุงแกบอกว่า "ลุงฝึกมาโดย 007 หน่วยข่าวกรองอังกฤษ" ซึ่งอันที่จริงใครฟังซาวแทรกซ์ก็จะรู้ว่าไม่ได้พูดแบบนี้ แต่ทีมพากย์ใส่ไปเอง ฟังครั้งแรกแอบขำ 555+ จากคุณ : nusfish - [ 14 พ.ย. 49 16:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Desmond Llewelyn แสดงเป็น Q 17 เรื่อง จากคุณ : Lkorhol - [ 14 พ.ย. 49 17:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ^ | | รู้สึกเหมือนใน soundtack ป๋าแกก็พูดทำนองนี้นะคะ จากคุณ : LamiaAzure - [ 14 พ.ย. 49 17:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Roger Moore เท่อ้ะ จากคุณ : จากวันที่เธอไม่อยู่ - [ 14 พ.ย. 49 22:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มีดาราหญิงคนเดียว (มั้ง) ที่ได้เล่นเป็นตัวเอก ที่ไม่ใช่ตัวหลัก ประเภท เอ็ม มิสมันนีเพนนี ฯลฯ 2 ตอน คือ โม้ด อดัม โดยเล่นเป็นหญิงสาวที่ถูกยิงตายในตอน The man with the golden gun และได้กลับมารับบทนางเอก คือตัว octopussy ในเรื่อง octopussy สำหรับปืน วอลเทอร์ พีพีเค นั้น เริ่มใช้ตั้งแต่ตอน Dr.No โดยคิวให้ลูกน้องเอามาให้ แทนปืน บาเร็ตต้าที่ เจมส์ บอนด์ใช้อยู่ เพราะเห็นว่าเหมาะสำหรับผู้หญิงใช้มากกว่า สำหรับเรื่อง Never Say Never Again นั้นเป็นตอนเดียวกับเรื่อง Thunderball ตอนนี้มีปัญหาตั้งแต่ตอนสร้างครั้งแรกแล้ว จะมีชื่อของใครซักคน (จำไม่ได้)ก่อน Albert R.Broccoli & Harry Saltzman ขึ้นก่อนในไตเติ้ลหนัง อ้อ Roger moore อายุมากกว่า Sean Connerry นะครับ เพียงแต่ว่าผมดกกว่าเท่านั้น Albert R.Broccoli & Harry Saltzman เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกัน จนกระทั่ง ตอน The Spy who loved me ที่เหลือเพียง Albert R.Broccoli เพียงคนเดียว ฯลฯ เดี่ยวนึกออกแล้วจะมาอัพเดตเพิ่ม จากคุณ : arty - [ 15 พ.ย. 49 00:38:10 A:202.57.168.183 X: TicketID:118497 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาเพิ่มเติมครับ เดสมอนต์ เลเวอร์ลิน เล่นเป็น Q ทั้งหมด 17 ตอน คือ เล่นตั้งแต่ภาคที่ 2จนถึง ภาค The World is not enough (ไม่ได้เล่น 2 ตอน คือ Dr.No กับ Live & let die อันเป็นตอนแรก ที่ Sean Connerry กับ Roger Moore แสดง) โดยในภาคสุดท้าย ได้เปิดตัวผู้ช่วย ซึ่งเป็นคิวคนใหม่นั่นเอง และเขียนบทให้คิว ลาออก บอกจะไปพักผ่อน ซึ่งตัวจริง ก็เสียชีวิต หลังจากนั้นไม่นานนัก ในหนัง Q เป็นผู้เชียวชาญ ประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งตรงข้ามกับตัวจริง เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ชอบพวกของไฮเทค เลย จากคุณ : arty - [ 15 พ.ย. 49 00:49:46 A:202.57.168.183 X: TicketID:118497 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ปู่ของ Albert R.Broccoli เป็นผู้คิดค้นผัก บล็อคโคลี่ รูป Walther PPK จาก คคหที่ 2 ไม่ใช่ปืนจริง เป็นปืนอัดลม แบบใช้ก๊าส CO2 จากคุณ : Nenko (Nenko) - [ 15 พ.ย. 49 05:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แบร์รี่ เนลสัน คือบอนด์ผู้อาภัพที่สุด เพราะแทบจะไม่มีใครรู้จักเขาเลย เขาเป็นพระเอกในละครโทรทัศน์เรื่อง "Casino Royale" ในปี1961 ซึ่งปรากฎว่าเจ๊งไม่เป็นท่า ก็เลยถูกระงับไม่ให้สร้างต่อ ก่อนะกลายเป็นหนังใหญ่ที่มีปู่ฌอน เป็นผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นบอน์คนแรกในกาลถัดมา อ้อ คห.26ครับ... ปู่ของ Albert R Broccoli (ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะชื่อโจเซฟ) เป็นผู้นำพันธุ์ผักชนิดนี้จากอิตาลีไปปลูกในสหรัฐครับ หาใช่ผู้ "คิดค้น" ไม่ จากคุณ : patyawi - [ 16 พ.ย. 49 23:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่งไปดู Casino Royale กลับมาค่ะ ... เป็นบอนด์ที่ ดิบ เถื่อน สะเทือนจอ จริงๆค่ะ จากคุณ : Fernny - [ 17 พ.ย. 49 03:06:24 ]