ความคิดเห็นที่ 1 ขุนช้างกะขุนแผนเคยเอาไก่ไปตีแข่งกันตอนเด็กๆอ่ะครับ จากคุณ : west - [ 22 พ.ย. 49 15:24:32 A:58.9.45.232 X: TicketID:131360 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆ แล้ว "เขาชนไก่" ไมใช่ชื่อเต็มนะคะ ตามวิวัฒนาการของภาษาไทย มักจะกร่อนคำ หรือละคำ ให้เรียกง่ายหรือสะดวกขึ้น เช่น หมากม่วง ก็กลายเป็น มะม่วง อะไรทำนองนี้ เช่นเดียวกัน "เขาชนไก่" แท้จริงแล้วมาจากชื่อเต็มๆ ว่า "หุบเขาชนไก่" ซึ่งที่มาที่ไปก็คือ นักศึกษาวิชาทหารที่ขึ้นไปฝึกและเข้าค่ายที่นั่นเป็นเวลาหลายวัน จะทำให้พวกเขาเรียนรู้ชีวิต และค้นพบความหมายที่แท้จริงของตนเอง ทำให้พวกเขารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนพบว่าตนเอง "รัก" เพศเดียวกัน หลายคู่พบรักกันที่นั่น บ้างมีอะไรมากกว่านั้น และลงมาสานต่อความสัมพันธ์กันข้างล่าง ดังนั้น "หุบเขาชนไก่" ก็ไม่ต่างอะไรกับ "หุบเขาเร้นรัก" brokechick mountain จากคุณ : last_february - [ 22 พ.ย. 49 15:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันติดชายแดนสมัยก่อนทหารต้องมารักษาการณ์  พอว่างๆไม่มีอะไรทำก็เอาไก่มาตีกัน  มันก็เลยกลายมาเป็นชื่อเขาชนไก่ คล้ายๆกับพวก หนองงูเห่า(งูเห่าเยอะ)อะไรประมาณนั้น จากคุณ : craftman - [ 22 พ.ย. 49 16:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -*- ครูฝึกเคยเล่าให้ฟังว่าใครไปทำอะไรสักอย่างที่นั่นแหละครับ ใครไปแล้วจำได้เอามาโม้ทีT_T จากคุณ : Evamania - [ 22 พ.ย. 49 16:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เขาเล่ามานะ ว่าเป็นตำนานตาม เรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน  มาชนไก่กันนะครับ   ปล. ผมไปที่นั่น 5 ปีติดครับ คือเรียน รด. 5 ปี  ซึ่งที่เขาชนไก่ รัชกาลที่ 1 คือ ฐานหนึ่งใน สงคราม 9 ทัพ นะครับ ก็เลยมี เจดีย์อยู่บนเขาด้วย  ผมได้ขึ้นไปบนเขา 3 ครั้ง ครับ ขอบอก สุดยอดเลย  คิดถึงอดีตตอนไปจัง   แบบว่าเริ่มแก่แล้วนะ จากคุณ : หิ่งห้อยตัวน้อย - [ 22 พ.ย. 49 16:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "อ้ายขุนแผนพลายงามมีความชอบ ขุนแผนให้ไปรั้งกาญจนบุรี ก-จะตอบแทนม-งให้ถึงที่ มีเจียดกระบี่เครื่องยศให้งดงาม สัปทนคนโทถาดหมากทอง สำหรับใช้ไปรณรงค์สงคราม ให้เป็นที่พระสุรินทฦๅไชย ช้างจำลองของประธานทั้งคานหาม ให้สมตามความชอบที่มีมา มไหศูรย์ภักดีมีสง่า...ฯ"      ตําแหน่งพระสุรินทฦๅไชย นี้ เป็นทำเนียบนามเจ้าเมืองกาญจน์มาแต่เดิม ปรากฏจนทุกวันนี้ มีจารึกอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เมืองกาญจน์เก่า นั้นตั้งอยู่ที่ลาดหญ้า ห่างจากเมืองกาญจน์ปัจจุบัน ราวสิบกว่ากิโลเมตร มีวัดขุนแผนวัดนางพิม ร้างอยู่ เมืองกาญจน์ย้ายมาอยู่ต้นน้ำแม่กลองตรงที่ ปัจจุบันเมื่อปี พ.ศ.2474 ตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 3 เพื่อดักรับทัพพม่า หากจะยกทัพเข้าตีกรุงเทพฯ อันเป็นเมืองหลวงใหญ่หลังกรุงศรีอยุธยาล่ม เมืองกาญจน์ตามเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน คือเมืองกาญจน์เก่าที่ลาดหญ้า มีย่านสำคัญคือ "เขาชนไก่" เป็นถิ่นย่านบ้านเดิมของขุนไกร พ่อของขุนแผน เมื่อครั้งนางทองประศรี แม่ขุนแผน พาขุนแผนหรือพลายแก้ว ตอนยังเด็ก หลบราชภัย ก็มาตั้งรกรากอยู่ที่ "ดอนเขาชนไก่" ย่านเมืองกาญจน์เก่านี่เอง บนยอดเขาชนไก่มีลานกว้าง มีหลักหินแสดงบริเวณอยู่ เชื่อกันว่า เป็นลานชนไก่ของขุนแผน... จากที่นี่ค่ะ http://lib.kru.ac.th/rLocal/stories.php?story=06/08/26/4648748 แก้ไขบรรทัด วรรคให้อ่านง่ายๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 17:38:49 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 17:35:45 จากคุณ : Cookie Jar - [ 22 พ.ย. 49 17:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โห....คห2 จินตนาการบรรเจิดมาก จากคุณ : WJade - [ 22 พ.ย. 49 17:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เขาชนไก่เดินขึ้น,ลงที...แทบบ้า จากคุณ : ฟอร์มอร์ลีนคุง (ฟอร์มอร์ลีนคุง) - [ 22 พ.ย. 49 18:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อันนี้ครูฝึกที่เขาชนไก่เล่าให้ฟังนะคับ สมัยต้นรัชกาลที่1 เกิดสงคราม9ทัพเป็นสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างไทยกะพม่า คือพม่าได้ยกกองกำลังมาทั้งหมด9ทัพด้วยกัน มีทัพหนึ่งก็ได้ยกมาทางทุ้งลาดหญ้า (บริเวณเขาชนไก่ในปัจจุบันและเป็นอำเภอหรือตำบลอะไรซักอย่างนี่เหละของจังหวัดกาญฯ) ฝ้ายไทยเลยใช้เขาชนไก่เป็นที่ซุ่มดูกำลังพม่าว่าจะมาเมื่อไหร่ เวลาว่างทหารไทยก็เอาไก่มาตีกัน เพื่อแก้เซ็ง อันปรากฎเป็นลานชนไก่บริเวณยอดเขาจนถึงทุกวันนี้และยังมีศาลของรัชกาลที่1อยู่ด้วย ผมได้ขึ้นไปครั้งเดียวเองคับเพราะเรียนแค่ปี3 ระยะทาง2กิโลแต่ว่าทางมันชันมากคับ ยิ่งตอนจะถึงยอดเขา ถ้าหยุดเดินอาจมีหงายท้องตกเขาได้ ครูฝึกชี้ให้ดูกองถ่ายเรื่องพระนเรศวรแต่ผมหาไม่เจอ จากคุณ : เสื้อแดง กางเกงขาว ถุงเท้าดำ - [ 22 พ.ย. 49 18:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นอย่างที่ คห.2 บอก  น่าจะเรียก "เขาชนไข่" ไปเลยเนอะ จากคุณ : K@ni - [ 22 พ.ย. 49 18:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เชื่อ คห.ที่ 2 ครับ จากคุณ : คนหลัก4 - [ 22 พ.ย. 49 18:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คห.2 คิดได้ เก่งมากๆ จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 22 พ.ย. 49 20:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เขาชนไข่ - -" จากคุณ : Darin1984 - [ 22 พ.ย. 49 22:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #9 คุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินตอนที่ครูฝึกเล่าให้ฟังสำหรับพวกที่สมัครใจเดินขึ้นเขาอ่ะ... ระยะทางจากตีนเขาถึงยอดเขา 2 กิโล.........แม้ว (-_-") จากคุณ : จิบเดียวก็ซึ้งแมน - [ 22 พ.ย. 49 22:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คห.10 เอาอย่างนั้นเลยเหรอ คิคิ จากคุณ : Vanilla (Vanilla Cream Factory) - [ 22 พ.ย. 49 22:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขายพล๊อตด่วน >< คห 2 จากคุณ : Paradise is Nowhere - [ 23 พ.ย. 49 02:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คิดได้ด้าย คนเรา ออกแนวหมกมุ่นนะ ^^ จากคุณ : สุขุม นุ่ม ลึก - [ 23 พ.ย. 49 02:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไอ้ 2 กิโลอะไม่เท่าไรหรอกครับ แต่ไอ้ความชัน+กับสัมภาระเนี๊ยเอาการอยู่ หลักไม่ดีสามารถกลิ้งตกมาได้เลยนะครับ จากคุณ : chocolato - [ 23 พ.ย. 49 11:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาฮา  เขาชนไข่ อิอิ จากคุณ : อิคาริ ชินจิ - [ 23 พ.ย. 49 20:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขำ เขาชนไข่ ด้วยคนคับ อิอิ .. จากคุณ : เด็กชายหัวหอม - [ 23 พ.ย. 49 21:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เขา ชน ไข่ วากกกกกกกกกกกกกกก     อืม....อ่านะ จากคุณ : คุณชายอ่านะ - [ 23 พ.ย. 49 21:54:09 ]