CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; "The Village Album" ... รูปถ่ายหนึ่งใบ กับ หลายใจจดจำ

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (9 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (2 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (1 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     75.00%
     16.67%
     8.33%
     0.00%
     0.00%


    กล้องหนึ่งตัว มือหนึ่งข้าง นิ้วชี้หนึ่งนิ้ว ของคนถ่ายหนึ่งคน กดย้ำชัตเตอร์ลงไปหนึ่งครั้ง มีเสียงดังแชะขึ้นมาหนึ่งที เสร็จสมบูรณ์กลายเป็นรูปถ่ายหนึ่งใบ ที่ทำให้คนโดนถ่ายทุกคนอยากจะจดจำเสี้ยวเวลาหนึ่งเวลานั้นไปจนวันตาย...ถ้าตราบใดที่รูปนี้ยังไม่สูญสลาย มันก็จะติดตรึงเป็นภาพถ่ายในอัลบั้มรูปที่เขาจะรักและผูกพันกับมันตลอดไป

    ตัวผมเองมีเรื่องเกี่ยวกับ "รูปถ่าย" เรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันครับ... มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ ในการไปล้างรูปครั้งล่าสุดที่มีเรื่องอะไรให้ต้องรู้สึกผิดหวัง...

    ในช่วงเดือนตุลาที่ผ่านมา แม่ของผมได้ไปทำธุระการงาน พร้อมกันนั้นยัง(หนีลูก)เที่ยวไปตามที่ต่างๆ ในเชียงใหม่อีกด้วย ...ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ได้ขึ้นไปเที่ยวดอยแห่งหนึ่ง (ซึ่งต้องขอโทษที่ผมจำชื่อไม่ได้) กับกลุ่มเพื่อนๆของแม่ ...แม่ของผมประทับใจกับหมู่บ้านบนดอยแห่งนี้เอามากๆ โดยเฉพาะกับผู้คนที่อาศัยอยู่บนนั้น ทุกๆคนล้วนแต่มีไมตรี มีความน่ารัก ต้อนรับพวกๆของแม่เป็นอย่างดี จนทำให้แม่อยากจะชวนพวกเขามาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ...พวกผู้เฒ่าคนชราบนดอยที่ห่างไกลซึ่งแสงแฟลชและโลกดิจิตอล พอโดนชวนก็ได้แต่ตื่นเต้นกันใหญ่ และอยากจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งสักครั้งจะมีผ่านเข้ามาในชีวิต ...

    เขาเตรียมตัวเตรียมการกันอย่างครบครันครบถ้วนด้วยการสวมใส่เครื่องประดับต่างๆนานา เสื้อผ้าเสื้อผ่อนสวมกันให้หล่อสวย สร้อยเครื่องเงินที่เก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีก็เพิ่งจะมามีวันนี้ที่จะได้ใช้ ... พอได้เวลาที่แม่ผมจะแชะ แต่ละคนก็จัดท่าจัดทางที่แสนจะน่ารัก หวังขึ้นกล้องให้ดูดี ...แม่ผมถ่ายรูปพวกคุณตาคุณยายมาก็สัก สี่ห้ารูปได้ ทั้งนั้นก่อนจะกลับก็ให้คำมั่นสัญญาอีกด้วยว่า รูปทุกรูปจะต้องส่งไปรษณีย์กลับมาให้ถึงมือเป็นแน่นอน ...

    รูปถ่ายยังคงเก็บเอาไว้ในเมมโมรี่การ์ดของกล้องเป็นอย่างดี ไม่สูญสลายจากไป จนถึงตอนที่ผมกับแม่นำมันไปล้างรูปที่ร้าน ... ก่อนที่จะอัดภาพได้ ทางร้านก็จะต้องขอให้เราได้ลองเช็ครูปก่อน และเลือกภาพที่ต้องการ ในตอนนั้นยังไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น รูปทุกรูปยังคงปกติอยู่ทุกประการ ...จนกระทั่งแม่เลือกรูปจนเสร็จ และผมก็ทำการปิดไดร์ฟ โดยเข้าโหมดปิดฮาร์ดแวร์อย่างปลอดภัยเป็นปกติที่ผมจะทำ หลังจากที่ผมถอดการ์ดออก ตั้งแต่ตอนนั้นปัญหามันก็เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเป็นไปได้

    ผมแน่ใจว่าผมทำทุกอย่างๆถูกต้องแล้ว แต่ทำไมตอนที่นำการ์ดเปิดไว้ในคอมส่งรูป ถึงเปิดไม่ได้เลย ...มิหนำซ้ำพอลองฟอร์แมตใหม่แล้ว รูปถ่ายบางรูปก็เกิดเสีย อีกทั้งบางรูปก็ไม่มีข้อมูลแสดงอีกเลย (แต่รูปที่ไม่อยากจะล้างก็ดันเหลือรอดมาได้ซะนี่) ...ซึ่งรูปของคนเฒ่าคนแก่ที่แม่ต้องการอยู่นั้น ต่างก็เกิดความเสียหายอยู่ในกรณีหลังทุกๆรูป

    ผมถามทางร้าน และตอบคำถามทุกคำถามของร้านโดยละเอียด ... ถึงสาเหตุของมัน ถึงปัญหาต่างๆที่น่าเป็นไปได้ ซึ่งสุดท้ายในบทสรุปมันก็ไม่มีใครฝ่ายไหนจะตอบถึงสิ่งที่มันเป็นไปได้ถูก

    จะไปโทษทางร้านเลยก็เห็นไม่ได้ หรือจะโทษตัวเอง ผมก็คิดดีแล้วว่าไม่น่าจะทำอะไรผิดพลาดเลย แต่ทำไมนะทำไม ...คำมั่นสัญญาที่แม่เคยเอาไว้จะต้องสูญสลายเพราะเรื่องที่ไม่อาจหาสาเหตุอันแน่นอนได้เรื่องนี้

    ทั้งแม่และผมรู้สึกใจหายและเสียใจ กับเรื่องๆนี้ จนรู้สึกกังวลในสิ่งที่เคยพูดเอาไว้กับคนที่นั่นอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ... ผมเองก็ไม่รู้ ทางร้านก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาได้อย่างไรจริงๆ พอได้มีโอกาสลองฟอร์แมตใหม่อีกครั้งมันก็ให้ผลที่ไม่แตกต่างไปจากครั้งแรก มันก็เลยหมดปัญญาจะไปสืบเสาะหาวิธีให้รูปคืนกลับมาได้เหมือนเดิมอีก

    ซึ่งสุดท้ายแล้ววิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของเรื่องราวนี้ มันก็คือ การเขียนจดหมายตอบกลับไปเพื่อขอโทษซึ่งคำสัญญาที่ไม่อาจรักษาได้ และแม่ของผมยังขอสัญญาอีกครั้งหนึ่ง ว่า...ถ้ามีโอกาสกลับไปเที่ยวใหม่ จะกลับไปถ่ายรูปทุกๆคนด้วยอย่างแน่นอน

    แม้เราแม่ลูกต่างรู้ล่วงหน้าเช่นกันว่า คนที่นั่นทุกคนคงจะไม่ว่าอะไร และตอบกลับมาด้วยคำว่า "ไม่เป็นไรหรอก" ...แต่เราทั้งคู่ก็รู้ดีอยู่ ถึงในใจลึกๆของเขาที่น่าจะบ่นเสียดายในโอกาสดีๆที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีใครมาใจดีถ่ายรูปสวยๆหล่อๆให้เขาได้อีก

    กล้องหนึ่งตัว มือหนึ่งข้าง นิ้วชี้หนึ่งนิ้ว ของคนถ่ายหนึ่งคน กดย้ำชัตเตอร์ลงไปหนึ่งครั้ง มีเสียงดังแชะขึ้นมาหนึ่งที เสร็จสมบูรณ์กลายเป็นรูปถ่ายหนึ่งใบ แต่ด้วยปัญหาหนึ่งเรื่องแท้ๆเลย ที่ทำให้หลายใจที่อยากจะจดจำในภาพถ่ายต้องสูญสลายหายไป...

    ชาวบ้านใน The Village Album นับว่าโชคดีที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเขาได้มีภาพของตัวเองเก็บเอาเป็นความทรงจำอันไม่ลืมเลือน ...แต่ชาวบ้านบนดอยแห่งนั้นคงจะได้แต่เสียดายและเสียใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ได้ถูกบันทึกเก็บไว้ในอัลบั้มความทรงจำที่นับวันจะมีแต่เลือนลานไปเรื่อยๆ อีกทั้งในชีวิตจริงของพวกเขา ก็คงจะไม่มีตาแก่เจ้าของร้านถ่ายรูปคนไหน คิดจะเดินจ้ำขึ้นเขาลงห้วยอย่างบากบั่นเอาเป็นเอาตาย เพื่อขอถ่ายรูปพวกเขาเก็บเอาไว้อย่างที่ในหนังเรื่องนี้เป็นอยู่หรอก ...

    The Village Album ... หนังญี่ปุ่นดรามาอารมณ์ละเมียดอีกหนึ่งเรื่องซึ่งได้รับโอกาสดีๆเข้ามาฉายอย่างเงียบๆในบ้านเรา เล่าเรื่องราวของหมู่บ้านสุขสงบแห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะต้องพบความเดือดร้อน เพราะส่วนหนึ่งของที่แห่งนั้นกำลังจะกลายสภาพไปเป็นเขื่อนกั้นน้ำเพื่อสร้างความเจริญให้กับคนในชนบท ...เนื่องด้วยคนที่นั่นบางส่วนจะต้องจำใจจากลาไปหาที่อยู่แห่งใหม่อย่างถาวร เลยทำให้สำนักงานหมู่บ้านคิดจะทำอัลบั้มอนุสรณ์ที่ระลึกฝากไว้ให้กับชาวบ้านทุกครัวเรือนที่เคยมีส่วนร่วมเป็นสังคมของที่นี่ ...ตาแก่เจ้าของร้านถ่ายรูปในหมู่บ้าน "เคนอิจิ" ขันอาสาจะทำหน้าที่นี้ด้วยความเต็มใจ โดยขอข้อแม้เพียงแค่ให้ช่วยตามลูกชาย "ทาคาชิ" ที่หนีไปอยู่โตเกียว กลับมาช่วยเหลืองานเป็นผู้ช่วยให้เขาสักครั้งหนึ่ง

    ทาคาชิ มีความใฝ่ฝันที่จะเป็นตากล้องฝีมือดีเฉกเช่นที่พ่อเขาเป็น แต่ด้วยความขัดแย้งบางอย่างกับพ่อในเรื่องของพี่สาวจึงทำให้เขาต้องออกจากโลกชนบทที่เขาอยู่แต่เกิด มาเผชิญกับสังคมขนาดใหญ่ในเมืองหลวงที่คนทุกคนต่างแก่งแย่งซึ่งหน้าที่การงานความเป็นใหญ่ โดยที่ทาคาชิก็คิดไปเองว่า พ่อเขาก็ไม่เคยใส่ใจใยดีเขาอยู่แล้วแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นการกลับไปบ้านที่จากมานานในครั้งนี้ เขาจึงไม่ได้คิดจะกลับไปคืนดีหรือจะขอโทษในสิ่งที่เขาเคยทำมากับพ่อ ...ขอเพียงแค่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีก็เท่านั้นเอง

    ตลอดการเดินทางที่พ่อกับลูกคู่นี้ ต้องเดินไปด้วยกัน มีเรื่องราวมากมายที่ได้เกิดขึ้น ให้ต้องประสบพบทั้งเรื่องดีๆ และสิ่งที่เป็นอุปสรรค ...การผ่านพ้นซึ่งเหตุการณ์ต่างๆนานาทำให้เคนอิจิและทาคาชิ ได้กลับมาศึกษาความเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่งอย่างรู้จักและลึกซึ้งมากกว่าเดิม การปรับเปลี่ยนทัศนคติ และความคิดที่เคยแตกแยก ทำให้พ่อลูกทั้งสองหันกลับมามองหน้ากัน และสร้างความสัมพันธ์อันจริงใจในสายเลือดเดียวกันที่ยังคงผูกพันแน่นแฟ้นเสมอมา แม้วันเวลากำลังจะเปลี่ยนผันอีกหนึ่งชีวิตให้ใกล้วันตายเข้าไปเรื่อยๆก็ตามที

    หนังมาพร้อมกับการนำเสนออันราบเรื่อย เชื่องช้า ที่เดินหน้าเป็นเส้นตรงไม่คดโค้ง หนังไม่มีลูกเล่นหลอกล่อใจอะไรให้แพรวพราว หนังไม่ได้ใส่ใจจะสร้างจุดกระตุ้นให้คนดูอินจนเกินเลย ...TVA ทำในสิ่งที่หนังดรามาพื้นๆเป็นกัน คือ การสร้างเรื่องราวของความสัมพันธ์ในกลุ่มคนที่เน้นความเรียบง่ายเอาเข้าว่า

    ถ้าคนบางคนจะหลับเพราะความอืดไม่ชวนเร้าอารมณ์ของมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดปกติวิสัยอะไรเลย ...แต่สำหรับคนที่รักจะดูหนังดรามาเนิบนาบแล้ว นี่คงเป็นอีกหนึ่งหนังที่น่าจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกดีๆไปกับมันได้ไม่ยากเลย

    หนังได้งานกำกับอารมณ์ ที่เข้าขั้นพอดิบพอดี ไม่อัดอั้นจนล้น และไม่ปล่อยปะละเลยจนงั้นๆ ... หนังใช้ภาพบรรยากาศบ้านนอกอันดูสวยเจริญตาได้คุ้มกับการช่วยเล่าเรื่องที่มีทั้งด้านแสนจะอบอุ่นและชวนให้โศกเศร้าหัวใจ ได้การแสดงสื่ออารมณ์ของกลุ่มนักแสดงที่ฝีมือดี (ที่ผมชอบมากก็คือบทเคนอิจิ ของ "ทัตสุยะ ฟูจิ") และทำการรับส่งทอดความอินได้อย่างเข้ากันมีความลงตัว ได้บทหนังอันละเมียดละไมในการปลดปล่อยอารมณ์คนดูให้รู้สึกอยากติดตามไปพร้อมกับหนังที่เดินหน้าด้วยความเป็นธรรมชาติอย่างเรียบง่าย และข้อคิดดีๆเป็นการปลุกหัวใจให้คนดูรู้สึกถึงความงดงามในความรักและผูกพันของคนเป็นพ่อ-ลูก อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกดีๆในด้านบวก ต่อสถานที่ที่เราเรียกกันง่ายๆอย่างติดปากว่า 'บ้านนอก'

    หนังถึงพร้อมไปด้วยความเป็นหนังดรามาชั้นดีที่ช่วยให้อิ่มเอิบในอารมณ์จนล้นกระเพาะอาหารความสุขได้ตลอดแต่เริ่มต้นจบจบเรื่อง ผมรู้สึกประทับใจในสิ่งที่หนังเป็นอยู่ ผมชื่นชมในความสวยงามบนเรื่องราวของมัน ...เพียงแต่กับความรู้สึกสุดท้ายที่มีต่อหนังเรื่องนี้หลังดูจบของผมกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคาดไว้ซะทั้งหมด ...อัลบั้มรูปถ่ายเรื่องนี้ ยังขาดหายไปซึ่ง 'ความโดน' และ 'จุดสูงสุด' ที่หนังดรามาเรื่องหนึ่งควรจะพึงมี

    ด้วยความที่หนังถูกโปรโมตยกย่องให้มีระดับความเยี่ยมเดียวกันกับ Always ผมก็เลยเกิดความคาดหวังและตั้งใจอยากจะรักหนังเรื่องนี้อย่างเต็มที่... เป็นข้อความอันถูกต้องที่ผมได้สมหวังในความคิดแต่เริ่มต้นซึ่งมีต่อ TVA แต่ข้อความอันผิดพลาดไปจากสิ่งที่ปรารถนามันก็ส่งผลให้ผมรู้สึกซาบซึ้งกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่ถึงที่สุด ...ยังมีบางฉากที่ผมปล่อยใจให้เสียน้ำตาไปกับฉากที่จังหวะลงและอารมณ์ได้ แต่มันก็ไม่มีฉากไหนใน TVA ที่ทำให้ผมได้อิ่มในความรู้สึกจนเต็มหัวใจที่อยากสุขล้นอย่างเต็มที่

    "The Village Album" ... คือหนังดรามาเรียบๆ อารมณ์เรื่อยๆ ที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรในการดูให้มากมาย เพียงแค่คุณเตรียมค่าตั๋ว และเตรียมใจมาให้เพียงพอ ก็พร้อมจะสุขในอารมณ์ไปกับมันได้แล้ว ... แม้มันจะไม่ใช่หนังที่สุดยอดสำหรับผม แต่ก็ขอเต็มใจจะชวนให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสความละเมียดด้วยตัวของคุณเอง เผื่อว่าบางสิ่งที่มันขาดหายไปสำหรับผม อาจเป็นคุณที่โชคดีได้รับมันเข้าไปเติมเต็มจนอิ่มเอมหัวใจ และอยากจดจำมันไว้ในฐานะของหนังดีๆอีกเรื่องในชีวิตของคุณก็เป็นได้ ...

    ก่อนจะจบรีวิวนี้ ผมขอตั้งสัตย์ความมั่นผ่านหน้าบล็อกนี้ ที่คาดหวังจะรอคอยวันหนึ่งวันนั้น อันเป็นวันที่...กล้องหนึ่งตัว มือหนึ่งข้าง นิ้วชี้หนึ่งนิ้ว ของคนถ่ายหนึ่งคน กดย้ำชัตเตอร์ลงไปหนึ่งครั้ง มีเสียงดังแชะขึ้นมาหนึ่งที เสร็จสมบูรณ์กลายเป็นรูปถ่ายหนึ่งใบ ซึ่งอยากจะลบล้างความผิดที่เคยทำให้ใครหลายคนที่ดอยแห่งนั้นต้องผิดหวัง ...แม้มันอาจไม่ใช่ความผิดที่เจตนา แต่แม่และผมก็พร้อมจะรับผิดชอบในสิ่งที่มันเป็นไป ...ผมขอให้สัญญาครับ

    ขอแนะนำ...ครับ

    ดู{ดี} วิธ มายเซลฟ์ :
    1. อารมณ์ของหนังที่เป็นธรรมชาติ ไม่ฟูมฟาย
    2. การแสดงของทัตสุยะ ฟูจิ ...แสดงออกน้อย แต่ให้ความอินได้มากมาย
    3. ภาพบรรยากาศของบ้านนอกญี่ปุ่น ...ชวนให้อยากไปเที่ยวสักครั้ง

    ดู{ด้อย} วิธ มายเซลฟ์ :
    ความโดนที่ยังไปได้ไม่ถึงจุดสูงสุดเท่าที่หวัง

    เกรด A-

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 49 17:37:01

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 22 พ.ย. 49 17:34:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com