CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หวานมันส์ .... ชำแหละหนัง (คนละเส้นทาง ที่มาพร้อมด้วยความผิดหวัง!!!!!!) ภาค2: เขาชนไก่

      10 - 9.5 / 10 (0 คน)
      9 - 8.5 / 10 (0 คน)
      8 - 7.5 / 10 (0 คน)
      7 - 6.5 / 10 (2 คน)
      6 - 5.5 / 10 (1 คน)
      5 - 4.5 / 10 (2 คน)
      4 - 3.5 / 10 (1 คน)
      3 - 2.5 / 10 (0 คน)
      2 - 1.5 / 10 (2 คน)
      1 - 0 / 10 (4 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     0.00%
     0.00%
     0.00%
     16.67%
     8.33%
     16.67%
     8.33%
     0.00%
     16.67%
     33.33%


    นี่เป็นงานเขียนที่ต่อมาจากภาคแรกน่ะครับ ภาคแรกเรื่อง SAW III ก็ไปอ่านได้ที่นี่ครับ
    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4905815/A4905815.html

    คำเตือน: งานเขียนเรื่องนี้ ได้เผยเนื้อหาของหนังอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควรฉนั้น สำหรับผู้อ่านนะ-
    ครับ ผมขอบอกเลยนะครับว่า ถ้าใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ก็เปลี่ยนใจมาอ่าน Spoil ที่ผมเขียนก็ได้นะครับ


    เขาชนไก่

    .... ในเวลาที่เด็กมัธยมปลายกำลังศึกษาอยู่นั้น มีอยู่สิ่งๆเดียวที่เหมือนกับเป็นฝันของพวกเขา ใน
    เวลาที่พวกเขานั้นกำลังศึกษาอยู่ เป็นหน้าที่ที่ใครเป็นในอนาคตก็ไม่ต้องแบกรับภาระอะไรมาก
    แต่ถ้าไม่เป็นล่ะก็ คงรู้นะครับคงจะต้องไปวัดใจกันอีกทีละกัน ว่าจะคุณจะต้องรับหน้าที่ หรือว่า
    จะผ่านแบบฉลุยไปเลย ชื่อของภาระนี้คือ ร.ด. หรือ วิชารักษาดินแดนทหาร นี่เอง

    .... ทหารเป็นสิ่งที่วัยรุ่นหลายๆคนไม่คิดอยากจะเป็นเลยซักนิด เพราะว่าพวกเขาหลายๆคน ต่าง
    ก็มีฝันที่ตัวเองวาดไว้ในอนาคต ร.ด. คือทางเลือกนึง ของวัยรุ่นชายไทยหลายๆคน ได้เลือกที่จะ
    รับมัน ถ้าคุณได้เข้ามาร.ด.ปี1 คุณจะรู้เองว่า ยังไม่มีอะไรที่มันจ๋ามาก ยังเป็นเรื่องระเบียบวินัย
    ได้เรียนรู้กันอยู่ แต่เมื่อย่านเข้าปี 2 หลายๆอย่างก็เริ่มที่จะโหดมากขึ้น เป็นทวีคูณแบบที่ไม่นึก
    ไม่ฝันเลยทีเดียว เพราะว่าคุณจะมีระเบียบเป็น 2 เท่ากว่าปีแรก และก็คุณจะต้องถูกฝึกยากกว่า-
    เดิม และคุณก็ต้องมีวินัยด้วย รวมถึงปี2 เมื่อถึงท้ายภาคฤดูกาล ก็จะถูกส่งไปที่ เขาชนไก่ เพื่อ-
    ให้ได้ฝึกฝนจริงถึง 2 คืนด้วยกัน

    และมาถึงในหนัง แน่นอนครับ หนังจับความถึง ร.ด. ปี3 ซึ่งเป็นปีที่ยากที่สุด และเป็นปีที่ต้อง
    อดทนมากที่สุดบรรดา3 ปีที่ผ่าน และเขาชนไก่ในเรื่อง ก็เป็นปีที่3นี้ เช่นเดียวกันครับ ซึ่งถ้าใคร
    ได้เคยมีประสบการณ์ที่ เขาชนไก่แบบผมเมื่อต้นปี ก็จะรู้ว่า มันเป็นประสบการณ์ที่มีหลายรส
    ชาติจริงๆ และก็ไม่ได้เป็นฝันร้าอย่างที่คิด

    ในหนังเอง ใช้ตัวละคร หน่อย เป็นตัวเล่าเรื่องของการฝึกที่เขาชนไก่ครั้งนี้ และตัวละครได้โยง
    ถึงบรรดาเพื่อนๆ ที่จะฝึกรักษาดินแดนที่เขาชนไก่ครั้งนี้ด้วย แต่ละคนก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน
    ซึ่งก็เหมือนกับตัวแทนของกลุ่มเพื่อนเด็กมัธยมปลายๆแบบทั่วไปเนี๊ยแหละ ตัวละคร หน่อย เป็น
    ตัวละครที่เชื่อคนง่าย ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง ซักเท่าไหร่ ใครขู่ก็กลัว ใครบอกอะไรแปลกๆ ก็
    เชื่อพวกเขาไปหมด ซึ่งตัวละครนี้มีลักษณะที่เหมือนกับพวกไม่มั่นใจตัวเองทั่วไปเนี๊ยแหละ (แต่
    ทำไมหน้าตามันดีจังเลยวะ) การมาเขาชนไก่ครั้งนี้เป็นอะไรที่น่าจะทำให้เขาเรียนรู้ชีวิตให้ดีขึ้น
    อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งนึงที่เขาได้เรียนรู้คือ ความสามัคคีกับเพื่อนๆ ที่จะต้องรักษาไว้ตลอดในเวลา
    ที่อยู่ที่ เขาชนไก่

    ในบรรดาเพื่อนๆเขาก็มีลักษณะที่ต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว และก็อย่างกะคนละโลกเลยที-
    เดียว ไม่ว่าจะ ปืน หนุ่มสำอางค์ ขี้หลี, พอลล่า เพื่อนหนุ่มผู้มีหัวใจสาว ทั้งหน้าตาและกิริยามารยาท,
    เก้ง  - ก้าง  แฝดนรกคู่ป่วนตัวจริง, มด เพื่อนร่างท่วมอารมณ์ดี คลั่งไคล้การกินเป็นชีวิตจิตใจ,
    สมนึก เพื่อนตี๋ที่เชื่อเรื่องวิญญาณและสิ่งลี้ลับ, บุญรอด  เพื่อนขี้โม้ และมั่นใจในความฉลาดของ
    ตนจนเกินเหตุ, อิฐ เพื่อนผู้เงียบขรึม ห้าวและเกเรที่สุดในหมู่เพื่อน และ บ็อบ  ผู้ที่ไม่เคยยอมใคร
    หนำซ้ำยังพยายามวางตัวเป็นผู้นำกลุ่มเพื่อนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันก็เหมือนตัวแทนของพวกกลุ่ม-
    เพื่อนวัยรุ่นไทยเสียจริงๆ แต่ว่ากลับกลายเป็นกลุ่มเพื่อนนี้ มีอิฐคนเดียวที่ไม่มีใครคิดที่จะเข้าใกล้
    ด้วย หน่อยก็1ในนั้น เหมือนกันที่ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้อิฐ แต่ในเมื่อต้องพักอยู่ในเตนท์เดียวกับ อิฐ
    ทัศนาความคิดก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เขาพบว่า อิฐเป็นคนที่น่าคบมากๆคนนึง เขาไม่มีเจตนาที่
    จะเกเรเลยซักนิด แต่ในสถานการณ์ที่เขาจำเป็นต้องทำ เขาจึงเลือกไม่ได้ จึงจำใจต้องทำไป

    ถ้าพูดถึงตัวหนัง จะเรียกได้ว่าหนังมีจุดบอดเยอะมากๆ อยู่พอสมควร อย่างแรกคือ เลือกนักแสดง
    (นักศึกษาวิชาทหาร) ที่มาเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่เหมาะกับบท แต่มันไม่เป็นธรรมชาติเสีย
    เลย บทบางตัวละคร ทำได้จืดชืดมากๆ บางตัวละครก็ไม่มีเหตุผลในการกระทำ บางตัวละครไม่เป้า
    หมายแน่ชัดที่แท้จริง ที่จะถ่ายทอด สุดท้ายหนังก็เลยต้องมาเจอจุดซ้ำซากอะไรในหลายๆอย่างอยู่
    พอสมควร แต่ไม่ใช่แค่นั้น หนังถ่ายทอดเรื่องราวที่เขาชนไก่ไม่ดีนัก หนังนำเสนอเรื่องราว แค่
    ครึ่งนึงเดียวเอง ของการฝึกที่เขาชนไก่ หนังไม่ได้นำเสนอบนพื้นฐานบนหลักของความเป็นจริง
    แต่กลับนำเสนอ ในส่วนที่เฮฮามากกว่า การฝึกที่ดูโหดเหี้ยม

    ขอบอกเลยนะครับ ว่า ไม่มีนักศึกษาวิชาทหารรคนไหน ไปเดินเพ่นพ่านไปมาอยู่แถวจุดขายของ
    ได้ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลาพักกินข้าว คุณจะมีเวลาไปจีบสาวได้ที่ไหนล่ะ??? เพราะว่าเรื่องจริง
    ไม่มีสาวสวยๆมาขายของให้เราได้เห็นหรอก อีกอย่างบางครั้งในการฝึกปี3 พวกจ่าเขาไม่ปล่อย
    ให้ไปไปซื้ออาหารด้วย จะไปเป็นประจำได้อย่างไร???? คุณไม่สามารถไปไหนต่อไหนได้ ถ้า
    พวกจ่าเขาไม่อนุญาตให้ไป หลายๆอย่างในหนังดูแล้วบิดเบือนกับประการณ์ที่ผมเคยเผชิญ
    เมื่อต้นปีครับ หนังไม่ได้บอกว่า จะต้องย้ายที่พักไปมา 2-3 ครั้ง ในการฝึก เพราะว่าต้องเดิน
    สำรวจที่บ่อยๆ หนังไม่ได้บอกอีกว่า ต้องขึ้นเขาเพื่อไปไว้พระข้างบนนู้น แล้วให้กลับลงมาให้ไว
    อย่างนั้นแหละ ผมว่าหนังน่าจะนำเสนอเรื่องราวตรงนั้นด้วย แต่ในการฝึกวิ่งตลุมบอลในเรื่อง
    ในโอเว่อร์เกินเหตุนะ ของจริงๆมันต้องมีระเบิดจริงๆ แต่อยู่ห่างไกลมากกับที่ๆวิ่งน่ะ และก็
    จะต้องจินตรนาการในขณะที่วิ่งด้วย แต่เล่นเอาระเบิดมาใช้จริงๆจังๆ ซึ่งมันไม่หรอกครับไอ้
    การฝึกแบบนี้ พูดๆจริง ผมไม่เชื่อว่า ผกก. ได้ไปฝึกที่เขาชนไก่นะ?????

    ผกก.ของเรื่อง พูดจริงๆ ผมชอบตอนที่เขาทำ กั๊กกะกาว์นนะ แต่กลับเรื่องนี้ ทำไมถึงทำได้แย่
    ขนาดนี้ หนังไม่มีทิศทางที่แท้จริงในการนำเสนอ แถมยังเล่าเรื่องได้ไม่เข้ากับประสบการณ์
    จริงๆที่ผมเจอมาซะอีก แถมหนังเบี่ยนเบียงเรื่องราวจริงๆซะเยอะมากๆด้วยแหละ ผมจึงไม่
    แน่ใจว่า ผกก.ได้เคยไปเขาชนไก่มาจริงๆรึเปล่าเนี๊ย เพราะที่ผมประสบมาการฝึกที่เขาชนไก่
    มันเข้มงวดกว่านี้นี่???? เอาเหอะถืออย่างไง ก็ให้เห็นว่า การที่ไม่รีเสริช์ดีๆก่อนถ่ายหนังมัน
    จะเป็นยังไง มันก็คงเหมือนกับหนังเรื่อง เขาชนไก่ เนี๊ยแหละ ถือว่าฝีมือตกไปจริงๆ และรู้
    อะไรด้วยว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะเล่าเรื่องราวการไปเขาชนไก่ได้ดีไปกว่า การที่ได้ไปเจอ
    ของจริงนะครับ ผมบอกตามตรงว่า การฝึกร.ด. 3 ปี และการไปเขาชนไก่ ใน 2 ปี ที่ผ่านมาเป็น
    ประสบการณ์ที่ผมจะจำไปวันตายเลย

    หวานมันส์ ที่มีรสชาติ คลั่งสิงโตคำราม
    - ฉากขามา และขากลับ ของ หน่อย ดูแล้วนึกถึงขามาและขากลับใน เหตุการณ์เขาชนไก่เมื่อต้นปีที่ผมเคยเจอ
    - พี่ก้อยน่ารักดี ถึงบทจะดูงั้นๆก็เหอะ

    หวานมันส์ ที่ยังจืดไป คลั่งอินทรีย์เหล็ก
    - นักแสดงเล่นไม่เป็นธรรมชาติเลย
    - ไม่สามารถเอาเรื่องราวในหนังมาเทียบกับประสบการณ์ที่เคยนับมาเข้ามาเทียบได้ เพราะหนังได้บิดเบือนเรื่องราวเขาชนไก่ไปอยู่พอสมควร หนังเล่าแต่ส่วนที่สนุก ไม่ได้เล่าว่ามันเหนื่อยแสนสาหัสอย่างไง ผมว่าถ้าเรื่องนี้เล่าเรื่องแบบหนังเรื่อง Jarhead ยังงั้นถึงจะดีกว่า
    - จ่าฝึกบางคนใช้ตัวจริง แต่นักแสดงอย่าง สรพงศ์ ชาตรี และ ญาณี ตราโมทย์ กลับเล่นบทจ่าฝึก ได้ไม่สมบทบาทซักเท่าไหร่นัก น่าจะมีอะไรที่เรียกสีสันได้มากกว่านี้
    - หนังไม่มีทิศทางการนำเสนอซักเท่าไหร่ และรู้สึกว่าหลายๆอย่างดูซ้ำซากมาก ( เช่นฉากตลก หรือเรื่องราวการไม่เข้ากันของบรรดาเพื่อนๆ ) ซึ่งหนังน่าจะมีการเล่าเรื่องแบบใช้อารมณ์และจิตใต้สำนึกตัวละครเล่าเรื่องมากกว่า
    - เรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลแบบที่ผมเล่าไปแล้วแหละครับ
    - หน่อยไม่ใช่ตัวละครที่ดีในการเล่าเรื่อง ถ้าให้ปืนเป็นตัวเล่าเรื่องแทน ผมว่าคงจะมีสีสันอะไรมากมายกว่านี้ อีกอย่างในบรรดาเรื่องของกลุ่มเพื่อน ปืนดูมีสีสันสุดๆ
    - มุขตลกโคตรจะแป็กเลยแหละ
    - เรื่องทรงผมของพวก นศท. ในเรื่อง ก็เหมือนกัน บอกตามตรงนะครับ ไอ้ทรงผมแบบนั้น เขาชนไก่เขาไม่ให้ผ่านหรอกครับ มีที่ไหนรองทรงเขาให้ไปได้ เขามีแต่ ขาว3ด้านเท่านั้นน่ะ!!!!

    สรุปแล้ว: ขอเรียกหนังเรื่องนี้ว่า "ไม่จำเป็นต้องโปรโมทอะไรมาก แค่ชื่อหนังคนก็ไปดูเยอะแล้ว" ผมไม่ค่อยชอบสิ่งที่หนังนำเสนอเท่าไหร่ มันบิดเบียนมากมายเหลือเกินกับเหตุการณ์ที่ผมไปเจอมาเมื่อต้นปี และก็หนังไม่ทำให้รู้สึกประทับใจซักนิด ที่ถ้าหนังเลือกดำเนินเรื่องแบบหนังเรื่อง Jarhead คงจะเป็นหนังที่ผมชอบมากๆเรื่องนึง เพราะว่าเรื่องราวของเขาชนไก่ ก็ไม่ต่างจากเรื่องราวที่ทหารไปรบเหมือนกันน่ะครับ ซึ่งสุดท้ายหนังทำได้ซ้ำซากมากๆครับ ผมคิดว่า กี๊กกะกาว์น ยังดีกว่าหนังเรื่องนี้อีกนะเนี๊ย ผมให้ 3.5/10 ครับ ผิดหวัง และ ไม่ประทับใจ สุดๆ ครับเรื่องนี้

    คราวหน้า: กำลังเขียน Happy Feet อยู่ครับตอนนี้ คิดว่าคงจะได้อ่านแบบเต็มรูปแบบแน่ๆในวันพุธแหละครับ แต่ในขณะเดียวดันก็ต้องเขียน Death Note ภาคแรก ให้เสร็จก่อนที่หนังภาค 2 จะฉาย เพราะงานเขียนเรื่องนี้ดองตั้งแต่สมัยนู้นแล้วแหละครับ

    เมื่ออ่านแล้วก็ช่วยลงความเห็นกันหน่อยนะครับ ลงก็ได้ไม่ลงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้อ่านครับ

    แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 49 20:17:37

    แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 49 20:05:20

    แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 49 17:14:12

    แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 49 17:11:58

    จากคุณ : billy bob - [ 27 พ.ย. 49 17:10:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com