CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดูแล้วมาคุยกัน ... Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์

      ชอบมาก ห้ามพลาด (18 คน)
      ชอบ (12 คน)
      เฉยๆ (5 คน)
      ไม่ชอบ (1 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (2 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 38 คน

     47.37%
     31.58%
     13.16%
     2.63%
     5.26%


    ... เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นเพื่อนๆจากใน blog และ เชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2006&date=03&group=1&blog=1

    ...ถึง Saw จะเป็นเรื่องของ ฆาตกร ที่จับเหยื่อมาทรมานให้ตายอย่างอเน็จอนาถ เป็นหนังที่เต็มไปด้วยฉากสยดสยองเลือดนองพื้น ไม่ว่าจะเป็นจาก เลื่อยขาตัวละคร , ถูกเผาทั้งเป็น , ตกลงไปในทะเลเข็ม , ควักลูกตา ฯลฯ เรียกได้ว่า Saw ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่หนังกลุ่มลาบเลือดของผมเช่นเดียวกับ หนังชุดลาบเลือดทรมานเหยื่ออย่าง Texas chainsaw massacre , Wolf creek ฯลฯ

    แต่ Saw สามารถฉีกตัวเองให้แตกต่างไป ตรงที่ จิ๊กซอว์ ไม่ได้ฆ่าคนเพราะความป่วยจิตแต่แอบมีข้อคิดสอนใจอันเนื่องมาจากปมของตัวเอง และ ความคิดสร้างสรรค์ในการตายของตัวละครก็ผ่านการคิดมาอย่างดี และ ที่สำคัญที่สุดที่ต่างจากเพื่อนร่วมสำนักฆาตกร นั่นคือ การฆ่าของจิ๊กซอว์ เป็น เกมส์ที่มีกฎกติกา และ เจ้าของเกมส์ก็แฟร์พอที่จะปล่อยเหยื่อให้มีชีวิตรอดหากทำตามกติกาได้

    ... Saw สองภาคแรก มุ่งเน้นไปที่ คุณค่าของการมีชีวิต และ การใช้ชีวิตให้คุ้มค่า  โดยมีคุณครู จิ๊กซอว์ คอยสอนสั่งนักเรียนผ่านการเลือกเหยื่อมาเล่นเกมส์ ซึ่ง ถ้าเล่นผ่าน ก็จะได้รับการปลดปล่อยไปเป็นอิสระ

    คุณครูจิ๊กซอว์ กลับมาอีกครั้งในภาคสาม ซึ่งถ้าใครได้ตามมาทั้งสองภาคก็คงรู้ว่า คุณครูของเราใกล้ไปเยี่ยมลูกศิษย์ในนรกตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เนื่องจาก ภาวะเนื้องอกในสมองของเขาเอง และ ในภาคที่แล้ว ครูของเราก็ได้ผู้ช่วยใหม่ที่เขาหวังว่าจะสานเจตนารมย์ของตัวเองสืบต่อไป นั่นก็คือ อแมนด้า เหยื่อจากภาคแรก

    บทเรียนบทใหม่ในสภาวะใกล้ตายของ จิ๊กซอว์ เป็นบทเรียนเรื่อง การให้อภัย

    ...เหตุการณ์บางเหตุการณ์สามารถสั่นคลอนสถานภาพชีวิตคู่ให้พังทลายได้ในพริบตา โดยเฉพาะหากเป็น ความตายของคนในครอบครัว เช่นเดียวกับ ในหนัง In the bedrooms ที่ฝันร้ายของตัวละครคู่สามี-ภรรยาตามติดมาจากการตายของลูกชาย และ ฝันร้ายนั้นทำให้มนุษย์เราไม่มีวันตื่นหรือหลุดพ้น นั่นเพราะ มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า ความแค้น คอยกดไว้ตลอดเวลา

    แต่เราจะสามารถให้อภัย กับ เรื่องราวเหล่านั้นได้หรือไม่ นั่นดูจะไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะ จิ๊กซอว์เองก็ดูมีแผนบางอย่างซ่อนไว้ในใจ ด้วยเหตุผลของคนใกล้ตาย

    .... Saw III เปิดเรื่องไม่ต่างจากภาคก่อนๆนั่นคือ ให้คนดูได้เห็น วิธีการสอน ของคุณครูจิ๊กซอว์ ด้วยการกำจัดตัวละครส่วนเกินจากภาคที่แล้ว ก่อนที่จะเปิดฉากเล่าเรื่องของตัวละครชุดใหม่

    ในภาคนี้ก็เช่นกัน หนังเล่าเรื่องของตัวละครสองชุด


    เจฟฟ์ ถูกจับมาเล่นเกมส์ เนื่องจาก เขาเป็นพ่อที่มีชีวิตจมอยู่กับความแค้นที่ลูกชายถูกรถชน และ คนขับก็ถูกปล่อยโดยไม่ยุติธรรมสมกับความผิดที่ลงมือ เขาเป็นผู้ตัดสินใจในการผ่านด่านแต่ละด่าน ว่าจะไว้ชีวิตผู้ที่เกี่ยวข้องในการปล่อยให้คนผิดรอดกระบวนการยุติธรรม หรือไม่ เพราะชีวิตคนพวกนั้นถูกแขวนไว้กับเกมส์ของจิ๊กซอว์


    ส่วนอีกด้านหนึ่ง ลินน์ หมอสาวที่รู้สึกว่า ชีวิตครอบครัวกำลังมาถึงทางตัน ถูกจับให้มารักษา คุณครูจิ๊กซอว์ ซึ่งเราต่างก็รู้ว่าป่วยเป็นเนื้องอกของสมองระยะสุดท้าย และ สภาพร่างกายทำได้มากสุดแค่นอนในห้องพร้อมสายน้ำเกลือ เธอมีชีวิตรอดอยู่ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เมื่อใดก็ตามที่หัวใจเขาหยุดเต้น ก่อนเกมส์ของเจฟฟ์สิ้นสุด ปลอกคอของเธอก็จะระเบิดในทันที


    ... Saw 1  สดที่สุด และ เป็นภาคที่ดีที่สุด แม้จะมีความไม่สมเหตุไม่สมผลอยู่มากในแผนที่หลอกไว้ แต่การหักมุมตอนจบที่แรงพอก็กลบให้คนดูลืมๆไปได้ หนังทำให้ต้องอึ้งกับฉากจบที่เหมือนตีแสกหน้าคนดูกับสิ่งที่เรารู้เห็นตรงหน้าแต่ละเลยตั้งแต่วินาทีแรกของหนัง

    ... Saw II  อาศัยของเก่ากินจากภาคแรก มาเล่าเรื่อง โดยการจับเหยื่อมาเป็นกลุ่มเพื่อผ่านด่านทดสอบทีละด่าน มันทำให้ภาคสองนี้ดูเหมือนเป็นเกมส์มากกว่าเป็นหนัง แต่ก็ยังสามารถหลอกล่อให้คนดูต้องหลงกลกับเรื่องคู่ขนานในตอนท้าย

    ... Saw III  เป็นเรื่องยากที่จะหลอกคนดูให้จั๋งหนับเหมือนสองภาคก่อน เพราะคนดูทั้งสองภาคนั้นน่าจะจับทางได้แล้วว่า เกมส์ของ Saw มีรูปแบบที่ชัดเจน คือ การเล่าเรื่องคู่ขนานก่อนที่จะต้องมาขมวดให้เกี่ยวข้องกันในตอนจบของทั้งสองเหตุการณ์ และ ต้องมีจุดหักมุมในตอนท้าย แต่ ผมเองก็ยังโดนหลอกให้ต้องทึ่งอยู่ดี กับ การล่อหลอกหักมุมคนดูตามยุทธวิธีเส้นผมบังภูเขา ที่ภาคก่อนทำมาได้ นั่นก็คือ สองจุดที่คาดไม่ถึง


    exclaim ตัวอักษร ตัวเอียง ถัดจากนี้ Spoil เฉลยจุดสำคัญในหนัง



    หนึ่ง คาดไม่ถึงว่า หมอลินน์ จะเป็น ภรรยาของ เจฟฟ์ การเปิดเรื่องตอนต้นหลอกคนดูอย่างผมได้สนิทใจ เพราะบทที่วางไว้ว่าเธอมีปัญหาชีวิตคู่ กับ ภาพของเธอกับชายที่นอนข้างๆซึ่งมีท่าทางหมางเมิน หลอกให้เข้าใจว่า ทั้งคู่ที่เห็นเป็นสามี –ภรรยา โชคดีที่ไม่ได้อ่านเรื่องย่อในหนังสือบางเล่มมาก่อนที่บอกคนอ่านตั้งแต่ต้น โดยไม่รู้ว่านี่เป็นจุด twist สำคัญจุดหนึ่งของหนัง

    สอง ไม่ทันได้สังเกตว่า ทุกคำพูดของ คุณครูจิ๊กซอว์ เขาไม่ได้พูดกับ ลินน์ แต่เป็นคำพูดที่ใช้ทดสอบลูกศิษย์ตัวเอง อแมนด้า ว่าจะสามารถผ่านการทดสอบทัศนคติการทำงานได้หรือไม่ จะสามารถดำเนินตามรอยตัวเองได้หรือไม่ และ อแมนดา ก็แสดงให้เห็นว่า เธอไม่สามารถที่จะเป็นจิ๊กซอว์ได้ เธอไม่กล้าที่จะปล่อยให้เหยื่อรอด และ วิธีการที่เธอใช้แตกต่างไปจากจิ๊กซอว์ นั่นคือ เธอปิดทางเลือกของการมีชีวิตทุกเส้นทางของเหยื่อ




    ทั้งอแมนดา และ จิ๊กซอว์ ไม่ได้มีใครวิเศษไปกว่าใคร ทั้งคู่ต่างก็เป็นแค่ฆาตกรที่ฆ่าคนตายโดยอาศัยเหตุผลของตัวเอง สิ่งเดียวที่จิ๊กซอว์มีมากกว่า และ อแมนด้า กับ เหยื่อคนอื่นๆอีกหลายคนที่ตายไปตั้งแต่ต้น ไม่มี นั่นคือ การเคารพกฎกติกา

    ... จะว่าไปแล้ว รอบๆตัวเราจิ๊กซอว์ มีชีวิตอย่างไม่มีตัวตนคอยทดสอบมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ว่าเมื่อกิเลสบังตาตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็น ราคะ โทสะ หรือ โมหะ พวกเขาจะยังสามารถเคารพตามกติกา หรือว่า จะแหกกฎเพื่อตอบสนองกิเลสตัวเอง เช่นเดียวกับ นายตำรวจในภาคสอง รวมไปถึงตัวละครในภาคนี้เป็นตัวแทนของมนุษย์ ที่ปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกชั่ววูบเข้าครอบงำจนทำลายชีวิตตัวเอง

    .... หากดูตามโครงสร้างของเรื่องแล้ว ผมชอบ Saw III มากกว่า สองภาคที่ผ่านมา เนื่องจากภาคแรกนั้นมีดีตรงการหลอกคนดู แต่ ประเด็นที่ใส่เข้ามาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตนั้น มันยังดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นส่วนเกินที่จงใจให้หนังมีสาระ เป็นเหมือนความจงใจที่ไม่เนียน

    ครั้นภาคสอง การหยิบประเด็น การรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิต เข้ามาในหนังจับใส่ได้อย่างลงตัวกว่าภาคแรก แต่ ในส่วนของความโหดหรือความสนุกในแง่ของหนังระทึกขวัญชั้นดี กลับ ด้อยลงถนัดใจ ภาคสองเหมือนการเล่นเกมส์ผ่านด่านทีละด่านมากกว่า แถมนักแสดงที่เลือกมาเห็นได้ชัดว่าจงใจเลือกสาวๆเซ็กซี่ซึ่งก็ตามมาพร้อมการแสดงที่น่าผิดหวัง

    ภาคสาม เด่นตรงผสม ประเด็น(การให้อภัย) กับเน้น การล่อหลอก ได้อย่างกำลังดี จะเสียก็ตรงที่ ความสดใหม่ของหนังนั้นลดลงไปเยอะแล้วยิ่งถ้าเทียบกับภาคแรก นั่นทำให้ การตายหลายๆฉาก เช่น แข็งตาย , กระดูกสันหลังฉีก , ห่วงมรณะ ฯลฯ ไม่ชวนให้คนดูอึ้ง ทึ่ง เสียว ได้ แต่ ก็ยังมีอีกหลายฉากที่ยังพอขายได้อยู่ เช่น เครื่องบิด ที่สร้างความอึดอัดขณะดูได้ดี หรือ ฉากศัลยกรรมสมองสดๆที่ใครไม่ได้ใช้ชีวิตในห้องผ่าตัดคงต้องแอบปิดตาดูข้างเดียวด้วยความสยดสยองน่าดู


    สิ่งที่ชอบsmile

    1.การหลอกคนดู ... จะให้ดี การไม่รู้อะไรเลยของ SAWIII มีส่วนทำให้สนุกได้มากขึ้น เพราะตามหนังสือหรือตามเว็บหลายแห่งที่เล่าเรื่องย่อมีการแถมเฉลยจุดสำคัญในหนังไว้โดยไม่รู้ตัว ส่วนตัวแล้วชอบภาคนี้เพราะทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าหนังมีขุดหลุมหลอกและก็จับตาดูอย่างดีก็ยังพลาดไป

    2.ประเด็นในหนัง ... หนังฉลาดที่นำ การให้อภัย มาเล่นจนวินาทีสุดท้าย ควบคู่ไปกับการ ทดสอบ ได้อย่างแนบเนียน

    สิ่งที่ไม่ชอบmad

    1.ความสดและสร้างสรรค์ที่ลดลง ... ฉากการตายแต่ละตอนเริ่มก้าวเข้าสู่ความจำเจ เมื่อเทียบกับภาคแรก และ หนังก็เริ่มจะใช้เลือดมากขึ้น แสดงฉากฉีกขาดของเนื้อหนังเกินความจำเป็นเพื่อให้คนดูสยอง ทั้งที่ภาคก่อนๆไม่ต้องลงทุนถึงขนาดนี้ ความช่างคิดในการออกแบบการตายภาคนี้ลดน้อยถอยลงอย่างน่าเสียดาย


    สรุป  ... ตาม saw มาสองภาคแล้ว จะไม่ตามมา see Saw สาม ก็ดูจะกระไรอยู่ และ การมาดูพร้อมไม่คาดหวังเพราะได้อ่านคำวิจารณ์จากฝั่งเมืองนอกว่ามันมาพร้อมกับ เกรด C ก็ยิ่งทำให้การ see Saw III ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ภาคนี้ แม้จะไม่ดีที่สุด แต่ก็เป็น Saw ที่ดีกว่าภาคสองอย่างชัดเจน

    ป.ล. พรุ่งนี้วันพ่อ ชวนพ่อไปดู The Village Album กันดีกว่าครับlove อีกหนึ่งหนังที่อบอุ่นกินใจ และ จะช่วยให้เข้าใจคุณพ่อได้มากยิ่งขึ้น


    ideaบทความเกี่ยวเนื่อง

    Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2005&date=25&group=1&blog=19

    Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2005&date=05&group=1&blog=1


    haha ดู(อ่าน)หนัง(สือ) ให้ข้อคิด ชวนคุณคลิกไปอ่าน ไปคุย และ ร่วมเป็น 1 ความคิดเห็นในหนังที่คุณเคยดู ที่ http://aorta.bloggang.com

    The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2006&date=29&group=1&blog=1

    007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=11-2006&date=20&group=1&blog=1

    รักครั้งแรกของคุณเป็นอย่างไร ? (Sugar & Spice / My girl & I )
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2006&date=02&group=4&blog=1

    fileBlog ปักหมุด : หนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับ"พ่อ" เรื่องใดที่อยู่ในใจคุณ
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2006&date=04&group=11&blog=1




    รักคุณ ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม โดย "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า

    ฮ่าฮ่าฮ่าปีใหม่นี้ มอบ "หนังสือรัก" เป็นของขวัญแด่คนที่คุณรักฮ่าฮ่าฮ่า

    แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 49 09:13:15

    แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 49 09:06:47

    แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 49 09:04:33

     
     

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 4 ธ.ค. 49 09:00:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com