CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ ดูแล้วมาคุยกัน ... The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ +++

      ชอบมาก ห้ามพลาด (31 คน)
      ชอบ (7 คน)
      เฉยๆ (7 คน)
      ไม่ชอบ (1 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 46 คน

     67.39%
     15.22%
     15.22%
     2.17%
     0.00%


    ... เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นอื่นๆ และ เชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2006&date=15&group=1&blog=1

    ... The King and the Clown เข้าฉายบ้านเราแบบแสนน่าเสียดายของ ที่ค่ายหนังโปรโมทกันแบบหน่อมแน้ม ติ๋มๆขวยๆ กลัวจะขายไม่ออก เหมือนไม่เชื่อมั่นในหนังของตัวเอง

    ทั้งที่ The King and the Clown คือ หนังเกาหลีที่น่าจะดีที่สุดของปีนี้ อีกทั้งยังเป็นหนังดีที่ดูง่ายดูสนุก พิสูจน์จากการทำเงินมหาศาลเมื่อฉายที่บ้านเกิด และ กวาดรางวัลมาแทบทุกสำนักแถมยังเป็นตัวแทนประเทศเกาหลีเข้าชิงออสการ์ปีนี้

    ชื่อหนังพูดถึง ตัวละครสองสถานะ คนสามคน ที่มีความผูกพันเกี่ยวโยงกัน

    ...จางซัน และ กองกิล เป็น สองนักแสดงตลก กองกิล เป็น ชายหน้าหวาน เขาจึงเป็นที่หมายปองของนายจ้างหลายคนที่หวังใช้เขาเป็นที่ระบายอารมณ์ทางเพศ จางซัน คอยปกป้อง กองกิล ไม่ให้ถูกคนลวนลาม และ กองกิล ก็เป็นคนปกป้องจางซัน จนพลั้งมือฆ่าคนตาย

    ทั้งคู่ระหกระเห็จเร่ร่อนเล่นละครให้คนดู เป็น เรื่องราวของ พระราชาองค์ปัจจุบันในยุคสมัยโซซอน ที่ครองราชย์โดยใช้อำนาจกดขี่ประชาชน ปรนเปรอตัวเองด้วยความสำราญไปวันๆ เสพสุขกับมเหสีข้างกายโดยไม่ใส่ใจประเทศชาติ

    ผลของการล้อเลียนนี้เอง ทำให้คณะละครตลกถูกลงโทษแล้วเรียกเข้าวัง เพื่อแสดงสดต่อหน้าพระราชา ก่อนที่เหตุการณ์จะพลิกผัน กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจ จนได้พักอาศัยและได้งานคอยให้ความบันเทิงอยู่ในวัง

    พวกเขาไม่ทันรู้ตัวเลยว่า ณ.ตอนนั้น พวกเขาได้เริ่มต้นขึ้นขี่หลังเสือแล้ว

    ...เมื่อใดก็ตามที่เริ่มขี่หลังเสือ ชีวิตย่อมต้องต่างไปจากเดิม เพราะ หากคิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็จำต้องคุมเสือให้อยู่หมัด แต่หากหวังจะลงกลับมาใช้ชีวิตธรรมดาสามัญเหมือนเดิม ก็ย่อมเสี่ยงต่อการถูกเสือจับกิน

    สภาพจิตและอารมณ์ที่แปรปรวนของ พระราชา ก็ไม่ต่างอะไรจากเสือ

    ในเวลาหนึ่งพร้อมจะให้รางวัล ข้าวของเงินทอง จนอิ่มเอม พร้อมจะลงมาเล่นตลกร่วมกับนักแสดง แต่อีกจุดหนึ่งก็พร้อมจะประหารชีวิตข้าราชบริวารอย่างไร้เหตุผล ไร้กฎเกณฑ์ในชั่วพริบตาเพียงเพราะไม่พอใจ


    ดังนั้นหากหวังจะให้ จางซัน กับ กองกิล คุมเสือตัวนี้ให้ได้นั้น คงเป็นเรื่องยากเย็นเกินความสามารถ และ เมื่อทั้งคู่หวังจะลงจากหลังเสือโดยออกจากวังเพื่อไปใช้ชีวิตเช่นเดิม ก็ยากจะเป็นจริง เมื่อพระราชา เกิดต้องตาต้องใจ กองกิล

    ...ในตอนต้น หนังสร้างให้คนดูได้เห็นภาพพระราชา ดูเหมือน คนอำมหิตป่วยจิตน่ารังเกียจ ก่อนจะค่อยๆสร้างมิติให้กับตัวละครมากขึ้นกว่าการจะเป็น ตัวร้ายด้านเดียว เพราะยิ่งดู หนังก็จะค่อยๆเฉลย ความอ่อนแอและความไม่มั่นคงในใจของตัวละคร ผ่านการแสดงของเหล่าตัวตลกและกองกิล


    สำหรับ พระราชา และ กองกิล

    มเหสีเข้าใจว่า ความผูกพันของทั้งคู่เป็นความสัมพันธ์ฉันท์คนรัก นั่นจึงทำให้ มเหสีวางแผนบ่อนทำลายกองกิล มเหสีไม่มีโอกาสรู้เหมือนคนดูที่จะค่อยๆเห็นว่า กองกิล ไม่ได้เข้ามาเติมเต็มความรู้สึกพิศวาสเสน่หาที่หายไปของพระราชา แต่ กองกิล เข้ามาเติมเต็ม ความอ่อนโยน ความอบอุ่น ความนุ่มนวล ที่หายไปพร้อมแม่ที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัย

    หุ่นกระบอกของกองกิล ที่เล่นให้พระราชาดูและพระราชาลงมาเล่นด้วย นัยหนึ่ง ก็เหมือนการเล่นเพื่อบำบัดเยียวยา(play therapy) บาดแผลในจิตใจของพระราชา

    การแสดงชุดสำคัญต่อหน้าพระพันปี เป็น ฉากสำคัญที่ช่วยให้เราได้เห็นที่มาและเติมเต็มอดีตที่หายไปของพระราชา ผู้ที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่สูญเสียแม่ด้วยฝีมือคนใกล้ตัว

    เด็กที่สูญเสียพ่อแม่ พร้อมถูกบังคับให้ลืมๆไป เด็กที่เป็นเช่นนี้ ย่อมเติบโตมาพร้อม การขาดความรู้สึกมั่นคงในจิตใจ(insecurity) ขาดความรักความอบอุ่น(lack of love and nurturing) ส่งให้กลายมาเป็น คนที่ต้องแสวงหาความสุขมาปรนเปรอให้อิ่มเอม เหมือนเด็กไม่รู้จักโต แล้วยิ่งต้องมาเป็นกษัตริย์

    การถูกเทียบกับ พ่อ ซึ่งเป็น กษัตริย์ที่ได้รับการเคารพนับถือ เป็นเหมือน ภาพร่างที่สมบูรณ์แบบชนิดยากจะไปถึง(perfect ego ideal) ยิ่งกดดันและทำให้ เขายิ่งต้องพยายามสร้างเกราะให้ดูเข้มแข็ง น่าเสียดาย ที่เกราะนั้นคือ ความโหดร้าย ที่คอยปกปิดความเปราะบางใน จิตใจ ซึ่งผันแปรไปตามความเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต

    กองกิล ก็ไม่ต่างอะไรจาก ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่มาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย แต่เมื่อ พระราชาได้เห็นอีกด้านของกองกิลที่ไม่ใช่ ความนุ่มนวลอ่อนโยน แต่เป็น ด้านของความใจเด็ดและความที่ไม่อาจครองครองกองกิลได้ เขาก็พร้อมจะโยนตุ๊กตาตัวนี้ทิ้ง และหันกลับไปหามเหสีที่เป็นของเล่นของตาย

    หาก กองกิล และ พวกพ้อง ช่วยให้พระราชาได้สัมผัสความรู้สึกที่หายไป ได้ค้นพบความจริงที่เจ็บปวด พระราชาเองก็ช่วยให้ กองกิล และ จางซัน เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากยิ่งขึ้น

    ..เราจะเรียกความสัมพันธ์ระหว่าง จางซัน กับ กองกิล ว่าอย่างไร มิตรภาพ หรือ ความรัก

    เชื่อว่าเมื่อหนังจบลง อาจแบ่งให้คนดูออกเป็นสองฟากฝั่ง บ้างก็เชื่อว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน บ้างก็เชื่อว่าพวกเขามีความรักกันเช่นเดียวกับ แจ๊ค และ เอนนิส ใน Brokeback mountain เพราะหลายฉากที่กรุ่นๆแสดงถึงความรู้สึกห่วงและหวงไปพร้อมๆกัน

    ก่อนที่จะถกกันเพื่อหาบทสรุป หากลองคิดอีกด้านว่า นิยามของความสัมพันธ์คู่นี้ มีความสำคัญอย่างไร? การที่เขา เป็น เพื่อน หรือ เป็นคนรัก มีความหมายหรือเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตพวกเขาหรือไม่?

    แล้วเราก็จะพบว่า มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

    ...ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน หรือ คนรัก สิ่งที่ทั้งคู่มีให้แก่กันคือ ความห่วงใยจริงใจ ความเสียสละ และ พร้อมปกป้องอีกฝ่ายด้วยชีวิต

    หนังฉลาดที่จะนำเสนอภาพความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ออกมาชัดเจนแต่ก็ไม่โจ๋งครึ่มโจ่งแจ้ง ไม่มีแม้แต่ฉากที่เป็นภาพการแสดงความรักฉันท์คนรัก ไม่มีการกอดจูบลูบไล้ จนถึงตอนท้ายที่ จางซัน ใช้คำว่า รัก ออกมาเพียงครั้งเดียว

    หนังให้คนดูตีความได้ตามความคิดของแต่ละคน แต่ไม่ว่าใครจะแปลความสัมพันธ์นี้อย่างไร ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า

    กองกิล และ จางซัน เกิดมา มีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน

    และ ความสัมพันธ์นี้ เป็น ความสัมพันธ์ที่ใครได้ดูอาจต้องอิจฉา เมื่อพบว่า บางทีในชีวิตจริง เราสามารถให้คำนิยามกับคนข้างตัวได้อย่างชัดเจนว่า เพื่อน หรือ คนรัก แต่กลับไม่สามารถสัมผัส การมีชีวิตเพื่ออีกฝ่ายได้เท่ากับตัวละคร

    นั่นอาจเป็นเพราะ บางครั้ง คนเรามัวแต่หมกมุ่นในการหาคำจำกัดความให้ความสัมพันธ์ของกันและกันมากเกินไป มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจีบให้อีกฝ่ายเป็นแฟนเรา คอยแต่เฝ้าครอบครองเพื่อให้คนอื่นรู้ถึงความเป็นเจ้าของ ฯลฯ จนลืมไปว่า

    ความสำคัญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การได้ชื่อว่า เพื่อน กิ๊ก คนรัก แฟน ฯลฯ แต่ อยู่ที่ ตัวความสัมพันธ์ เองว่า เราพร้อมหรือยังที่จะเอาใจใส่และห่วงใยในอีกฝ่ายด้วยใจบริสุทธิ์ พร้อมที่จะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขและปลอดภัย โดยไม่ได้คำนึงถึง ความสุขความปลอดภัยของเราเพียงฝ่ายเดียว

    ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ได้ชื่อเรียกนำหน้าความสัมพันธ์ แต่ ในตัวความสัมพันธ์นั้น แต่ละคนล้วนอยู่เพื่อตัวเอง






    exclaimSpoiler alert ข้อความตัวเอียงต่อไปนี้ เฉลยจุดสำคัญและตอนจบของหนัง




    หนังปิดฉากลงพร้อมบทสนทนาที่เจ็บปวดแต่กินใจ

    กองกิลถามว่า “หากชาติหน้ามีจริงท่านอยากเกิดเป็นอะไร พระราชาอย่างนั้นหรือ”

    จางซันตอบว่า “ไม่ ข้าอยากเกิดเป็นนักแสดงอีก”

    กองกิล ถามกลับว่า “ทำไมถึงขออะไรโง่เง่าอย่างนั้น ที่เป็นอยู่แบบนี้ ยังเจ็บไม่พออีกอย่างนั้นหรือ”

    จางซันตอบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า “โลกนี้คือละคร”

    แล้วทั้งคู่ก็เล่นละครบทสุดท้ายร่วมกัน ละครตลกที่พวกเขาสามารถเขียนบทได้ทุกอย่างดั่งปรารถนา ยกเว้น ละครชีวิตที่ไม่สามารถลิขิตได้ดั่งใจหวัง

    ภาพสุดท้ายของหนัง คงเป็น การแสดงที่พวกเขาได้มีโอกาสกำหนดบทบาทและหัวเราะร่วมกันไปตลอดกาล แต่เป็น การแสดงที่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป





    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 49 09:56:14

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 19 ธ.ค. 49 09:55:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com