CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    <<< ดูแล้วมาคุยกัน (ฉบับ Merry christmas ผู้อ่านจ้า) ... The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ >>>

      ชอบมาก ห้ามพลาด (16 คน)
      ชอบ (7 คน)
      เฉยๆ (5 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 28 คน

     57.14%
     25.00%
     17.86%
     0.00%
     0.00%


    man : "ก่อนอื่นขอ flower Merry christmas เพื่อนๆทุกคนครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ และสุขภาพแข็งแรง แจ่มใสร่าเริง ตามอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ( season changes) กันทุกคนเน้อflower

    จขกท. ขอพูดคุยก่อนเล็กน้อยว่า The Holiday คือ หนังโรงเรื่องสุดท้ายของปีที่จะรีวิวในกระทู้ “ดูแล้วมาคุยกัน” ครับ จากที่ได้ตั้งกระทู้พูดคุยกันเกี่ยวกับหนังโรง รวมปีนี้เขียนไปทั้งสิ้น 70 เรื่อง (อู้ว เพิ่งนับ ไม่อยากจะเชื่อว่าปีนี้เขียนได้เยอะขนาดนี้)

    ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามอ่าน ,เพื่อนๆที่คอมเม้นท์แสดงความเห็นพูดคุย และ เป็นกำลังใจกันมาตลอดทั้งปีคร้าบ

    กระทู้ + Blog ที่จะตั้งถัดๆไป ขอเชิญชวนเพื่อนๆมาร่วมพูดคุยส่งท้ายปีกับ 10 คาแรคเตอร์ประทับใจของปี ,10 ฉากประทับใจ และ 10 หนังชอบ 5 หนังไม่ชอบ ปิดท้ายปี 2549 นี้ แล้ว ปีหน้าฟ้าใหม่ มา “ดูแล้วมาคุยกัน” อีกครั้งครับ"




    .... เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป , อ่านความเห็นอื่นๆ และ เขิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=12-2006&date=24&group=1&blog=1


    คุณจัดการกับชีวิตอย่างไรในวันที่ใจสลาย ?

    ก่อนจะถึงช่วงหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาสไม่กี่วัน

    สาวชนบทจากอังกฤษอย่าง ไอริส ค้นพบว่า เพื่อนร่วมงานของตัวเองที่แอบคบกันมานาน ประกาศเปิดตัวคู่หมั้นกลางอากาศโดยไม่มีระแคะระคายมาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทียังจู๋จี๋สวีทหวานกันอยู่

    สาวอเมริกันสุดฮิปอย่าง อแมนด้า ค้นพบว่า คนรักที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันไปมีอะไรกับรีเซพชั่นของบริษัท แถมยังตำหนิว่าเธอเป็นเหมือนตัวการที่ทำให้ชีวิตคู่ไปไม่รอดจากความบ้างานและไม่ใส่ใจอีกฝ่าย

    ...หลังจากรับรู้ความจริงที่ทำให้หัวใจต้องแตกสลาย คนหนึ่งร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง คนหนึ่งไม่หลั่งน้ำตาแต่ว่ามีอาการทางกาย แม้จะแตกต่างทางการแสดงออกแต่ทั้งสอง มีความรู้สึกลึกๆในใจไม่ต่างกัน นั่นคือ

    ความเจ็บปวด

    ...เมื่อต้องเจ็บปวดจากความรัก หลายคนพยายามทำตัวให้ยุ่งเหมือนกับที่เคยอ่านเจอในคอลัมน์หรือตำราจิตวิทยา ด้วยเชื่อว่า อะไรๆมันจะดีขึ้น แต่ปรากฎว่ายิ่งทำอะไรต่อมิอะไร ใจก็ยังเจ็บอยู่เหมือนเดิม

    และสิ่งที่สองสาวในหนังเรื่องนี้เลือกทำ คือ เปิดเว็บไซต์สำหรับผู้ต้องการแลกเปลี่ยนบ้าน และจัดการแลกเปลี่ยนบ้านกันเป็นเวลาสองสัปดาห์ ด้วยหวังว่า การเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

    ...ในตอนต้น ทั้งคู่พบว่า แม้เดินทางข้ามทวีปหลายพันไมล์ ใจก็ยังไม่หายเจ็บ เช่นเดียวกับที่หลายๆคนพยายามหาอะไรทำให้ยุ่งๆด้วยหวังว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นไปและ หัวใจจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม

    ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงต้องโยนคู่มือทำใจทิ้งไป เพราะเข้าใจว่า วิธีเหล่านั้นไม่ได้ผล ซึ่งที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
    เหตุที่ไม่ได้ผล นั่นเป็นเพราะสิ่งที่ ทั้งเรา ทั้งไอริส และ อแมนด้า พยายามจัดการคือ พฤติกรรม แต่สิ่งที่เจ็บช้ำอยู่ข้างในคือ ความรู้สึก

    ไอริส เปลี่ยนแปลงแค่พฤติกรรม แต่ ความรู้สึกของเธอยังผูกใจไว้กับ แจสเปอร์ ผู้ชายที่มีเธอเป็นแค่คนสำรอง ส่วน อแมนด้าแค่ย้ายบ้าน แต่ ความรู้สึกของเธอยังถูกจำกัดกรอบด้วยความคิด

    …ศาสตร์ที่เรียกว่า Enneagram ซึ่งใช้เพื่อเข้าใจตัวเองและคนอื่นๆนั้น แบ่งคนออกเป็น 9 ลักษณะ(type) และ จับกลุ่มรวมกันได้เป็น 3 ศูนย์ ลักษณะของคนที่เด่นในความคิดจะมีศูนย์กลางที่สมอง และ ลักษณะคนที่ใช้ความรู้สึกเป็นหลักก็จะมีศูนย์กลางอยู่ที่หัวใจ ซึ่งนั่นคือ ลักษณะเด่นของสองตัวละครหลักในเรื่อง

    ...หลายฉากในหนังฉายตัวตนของสองสาวให้เราได้เห็นว่า อแมนด้า คือคนที่ใช้ความคิดนำทางชีวิตไป เราจะเห็นภาพความคิดเธออยู่ตลอดเวลา และ เห็นว่าเธอจมอยู่กับความคิด ส่วน ไอริส คือ คนที่ใช้ชีวิตโดยให้ความสำคัญกับความรู้สึก เธอพร้อมที่จะเจ็บและพร้อมที่จะสุขโดยไม่ทันได้คิดว่า สิ่งที่เป็นอยู่นั้นมันดีจริงๆสำหรับเธอหรือไม่ เธอเจ็บปวดโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่ต้นก่อนจะถูกบอกเลิก กับการมีชีวิตแบบหวานอมขมกลืน อยู่ใน วงจรของความร้าวราน

    …วงจรของความร้าวราน เป็น วงจรความรักที่เหตุผลไม่อาจช่วยเหลือใครให้หลุดพ้น

    ตัวอย่างเช่น เราอาจบอกเพื่อนเราไม่รู้ต่อกี่หน ให้เดินออกมาจากคนรักประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายที่มีแต่คอยทำร้ายจิตใจ

    บทจะร้าย ก็อาจอาละวาดทำร้ายร่างกาย หรือ ไปสวีทหวานกับอีกคน ทำให้ต้องทนเจ็บช้ำ จนคิดที่จะเลิกราจากอีกฝ่ายไปเสียที แต่ พอบทจะดี ก็หวนกลับมาเอาอกเอาใจ และ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ จนลืมวันเก่าๆที่เคยเจ็บและเลิกคิดจะแยกทาง ทั้งที่รู้ว่า อีกไม่นาน ความเดี๋ยวร้ายของเขาก็จะกลับมา

    แจสเปอร์ คนรักเก่าของไอริสเป็นกรณีศึกษาที่ดีของ คนรักที่มักจะฉุดให้อีกฝ่ายต้องตกอยู่ในวงจรนี้ คนรักที่ไม่เคยเห็นคุณค่าใดๆนอกจากหวังให้ตัวเองมีความสุข และ มีความสามารถในการปรนเปรอคำหวานและการเอาใจ

    แจสเปอร์ ทำให้ ไอริส รู้สึกถึงการมีคุณค่า การเป็นคนสำคัญ และ ผู้ชายอย่างแจสเปอร์ก็คือคนที่ฉวยโอกาสจากความสัมพันธ์ด้วย การสร้างคุณค่าจอมปลอมเพื่อหวังผลตอบแทน

    ไอริส ไม่รู้ตัวหรอกว่า ตัวเองไม่ได้เริ่มต้นเจ็บปวดตอนที่รู้ความจริง แต่เธอนั้น เจ็บแบบไม่รู้ตัว นับตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาอยู่ในวงจรนี้ ความเจ็บที่มีคำหวานและการเอาใจ คอยกลบไว้ให้ลืมว่าตัวเองนั้น เจ็บปวดและทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด

    ไอริส และ อีกหลายๆคน ไม่ทันได้ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ไม่ทันตระหนักว่าตัวเองนั้นดีเพียงพอ ไม่ทันได้รู้ว่าชีวิตที่ดูเหมือนจะมีความสุขในวงจรที่ว่านี้แท้จริงแล้วมันเหนื่อยแสนสาหัส และ เรายังดีพอหรือมีค่ามากพอที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้

    วงจรนี้ก็เป็นวงจรเดียวกับที่ ไมล์ ชายหนุ่มที่เธอพบในบ้านหลังใหม่ต้องเผชิญ ทั้งคู่ได้มีโอกาสที่จะหลุดจากวงโคจรนี้ไอริสจะสามารถเดินออกมา เมื่อวันที่เธอได้สัมผัสถึงความรู้สึกภายในได้เข้าใจไม่ใช่แค่ที่เหตุผล แต่ได้สัมผัสเข้าไปข้างในจริงๆ ว่า การมีชีวิตอยู่ในวงจรนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ

    ไม่ใช่แค่นั้น การมีเธอ ที่ดีอย่างสม่ำเสมอและจริงใจ ก็ช่วยให้ ไมล์ ได้ค้นพบ ใครบางคนที่ยืนอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจในวันที่ใจเจ็บปวด เมื่อทั้งสองหลุดจากวงโคจร ก็ทำให้ได้พบ คนที่เติมเต็มกันและกัน ได้พบ ชีวิตที่ดีกว่าเดิม

    ...ส่วน อแมนด้า ที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวใดๆ ก็ไม่รู้ว่าทำไมภายในร่างกายมันจึงแสนอึดอัดทรมาน การไม่มีน้ำตาไม่ได้แปลว่าเธอไม่เจ็บปวด

    เหตุผลอธิบายได้จาก ข้อเท็จจริงที่ว่า คนที่มักแสดงออกด้วยอาการทางกาย(somatization) มักเป็น คนที่ไม่ถนัดหรือไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกของตัวเอง และ ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาอย่างเหมาะสม จิตใต้สำนึกจึงแปรเปลี่ยน ความรู้สึกไม่ว่าจะเป็น โกรธ เกลียด ร่าเริง ดีใจ ฯลฯให้ออกมาเป็น อาการทางกาย เช่น หายใจไม่อิ่ม เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดหัว นอนไม่หลับ ฯลฯ


    เราจะเห็น อแมนด้า เพียรพยายามหาอะไรทำให้หมดวัน และ สมองของเธอนั้นจัดการเปลี่ยนความรู้สึกให้ออกมาเป็นหนังตัวอย่าง แทนภาพความคิดความรู้สึกของตัวเธอ และ สมองก็คอยจะหาเหตุผลต่างๆนานาในการตัดสินใจว่าเธอควรหรือไม่ควรคบกับเกรแฮม
    สิ่งที่เธอขาดหายไปนั้นคือ การพยายามสัมผัสความรู้สึกและความต้องการตัวเอง ว่าใจเธอนั้นปรารถนาอะไร ไม่ใช่ สมองสั่งว่าควรทำอะไร

    อแมนด้าอยู่กับ ความกลัว และ ความคิด ที่มักจะคอยจินตนาการเรื่องราวต่างๆล่วงหน้า เธอลืมไปว่า ความรักไม่ได้อาศัยความคิด แต่ ความรักมีรากมาจากความรู้สึก

    ในตอนท้าย การร้องไห้ จึงเป็น สิ่งที่ร่างกายเธอช่วยเธอให้ได้กลับไปเข้าใจว่า ความรู้สึกรักใครสักคนนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าเหตุผลนานัปการที่เธอยกตัวอย่างขึ้นมา




    (มี่ต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 49 17:12:51

    แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 49 12:53:55

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 25 ธ.ค. 49 12:47:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com