CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ ; The Holiday ... ความ'ปวด'เป็นขั้วบวกขั้วลบ สองสาวได้มาพบ'รัก'ในที่สวยงาม

      เกรด A -> 9-10 คะแนน (12 คน)
      เกรด B -> 7-8 คะแนน (6 คน)
      เกรด C -> 5-6 คะแนน (2 คน)
      เกรด D -> 3-4 คะแนน (0 คน)
      เกรด E -> 1-2 คะแนน (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 20 คน

     60.00%
     30.00%
     10.00%
     0.00%
     0.00%


    จริงเหรอ ? ที่เขาว่ากันว่า คนอกหัก อยากดามรัก ต้องไปเที่ยว...

    มันก็ดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันเท่าไรนักหรอก แต่ทว่ามันดันประสบความสำเร็จมาได้นักต่อนักแล้ว ซึ่งยกตัวอย่างได้เช่น สองสาวต่างขั้ว "อาแมนด้า" และ "ไอริส" ที่ช้ำรักนักก็หนีมันซะเลย

    "อาแมนด้า" ... เป็นเจ้าของธุรกิจรับตัดต่อหนังตัวอย่างให้สนุกมันส์สุดลิ่ม แต่ในชีวิตส่วนตัวของเธอรสรักกับชายของเธอมีแต่จะมันส์ไม่ออก เพราะความระแวงที่เธอคิดเองทักเองว่า เขากำลังปันใจไปมีกิ๊ก ...แล้วมันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่คิดที่ทำให้เธอไม่ลังเลจะตัดสินเด็ดขาด สะบั้นรักของเธอทิ้ง โดยที่มันไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักแอะอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นเขาเป็นกัน

    "ไอริส" ... เป็นคอลัมนิสต์สาวมือดีที่ทำข่าวเรื่องรักๆใคร่ๆแสนซาบซึ้ง แต่ในชีวิตส่วนตัวของเธอ ความรัก(เขา)ข้างเดียวทำให้เธอแสนจะซาบซึ้ง จนน้ำตาไหลนองเมื่อเธอได้รู้ข่าวว่า ผู้ชายคนนั้นกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เธอ

    สองสาวต่างก็เจ็บปวดในความรักของเธอ และสองสาวต่างก็ไม่อยากเจอหน้าคู่อริที่ทำการร้าวรานหัวใจของเธอด้วย ...ซึ่งมันก็มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นที่พวกเธอจะทำได้ นั่นก็คือ การหนี

    สองสาวได้มารู้จักกันผ่านทางเน็ต และเสนอขอแลกเปลี่ยนบ้านกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ...โดยที่ อาแมนด้า ขอหลบความเจ็บไปอยู่กระท่อมหลังน้อยของไอริสที่เมืองเล็กๆในอังกฤษ ส่วน ไอริส ก็หนีความปวดไปอาศัยในคฤหาสน์สุดหรูของอาแมนด้า ในมหานคร แอล.เอ.

    การได้ย้ายถิ่นชั่วคราวของสองสาว ดำเนินไปได้ด้วยดี ...ความสวยงามของสถานที่ ช่วยผสานหัวใจร้าวๆ ให้คืนกลับมาสู่ความสุขอีกครั้งหนึ่ง แต่กระนั้นความต้องการที่อยากจะพักรัก ก็ยังไม่ได้พักอยู่ดี เมื่อสองสาวดันมาเจ๊อะกับสองชายเสน่ห์ล้น น่ารักเหลือเข้าซะนี่...

    "แกรห์ม" ... เป็นชายมีมาดเท่ห์เพลย์บอย ที่บังเอิญเกิดมาเป็นพี่ชายของไอริส ในคืนแรกที่อาแมนด้าขี้เหงาเจอเขา บวกด้วยความเมาของฝ่ายชาย เผลอเรอทำให้เกิด เอส.อี.เอ็กซ์. ขึ้นมาในบัดดล ...แม้ตัวอาแมนด้าจะได้เผลอใจมีสัมพันธ์รักไปแล้วก็ตามที แต่ด้วยความที่ยัง
    เข็ดหลาบต่อรักครั้งเก่า เลยทำให้อาแมนด้าคิดว่า เธอจะไม่จริงจังกับชายคนนี้เป็นอันขาด

    ความเจ็บซึ่งเป็นขั้วบวกที่แข็งแกร่งของอาแมนด้า เมื่อมาเผชิญกับขั้วลบที่อ่อนโยนของแกรห์ม ...แล้วความต่างศักย์ที่ได้จะเป็นความรักหรือไม่ ?

    "ไมลส์" ... ชายเสน่ห์อบอุ่นร่างท้วม ที่มีความขี้เล่นเป็นกันเอง เขาคือคอมโพสเซอร์เพลงซาวด์แทรกประกอบหนัง ที่เคยสร้างตัวโน้ตเป็นภาพความรักได้ชวนประทับใจมานักต่อนัก แต่ภาพความรักในชีวิตจริงของไมลส์กลับไม่เป็นไปตามโน้ตที่เขาบรรเลง เมื่อคนรักของเขายังคงแอบนอกใจไปมีกิ๊กกั๊กให้ตำลูกตาเขาเข้าอย่างจัง ไอริส ซึ่งรู้ดีในเรื่องรักๆแบบนี้ เลยขอทำหน้าที่เป็นเพื่อนผู้ปลอบใจให้ ซึ่งการที่ต้องคอยปลอบกันไปปลอบกันมาอยู่อย่างนี้ ก็ไม่พ้นที่สุดท้ายทั้งสองจะดันตกหลุมรักกันเอง

    ความเจ็บซึ่งเป็นขั้วลบที่อ่อนแอของไอริส เมื่อมาเผชิญกับขั้วบวกที่เข้มแข็งของไมลส์ ...แล้วความต่างศักย์ที่ได้จะเป็นความรักหรือไม่ ?

    เมื่อความปวดเป็นขั้วบวกขั้วลบ ของสองสาวได้มาพบรักในที่สวยงาม ...ในสุดท้ายตอนจบ ของ The Holiday มันจะได้เป็นรักที่ชั่วคราว หรือ ถาวร อันนี้ต้องไปตามติดบทสรุปกันเอาเอง

    The Holiday ... เป็น โรแมนติก-คอมเมดี้ งานถนัดของ ผกก. แนนซี่ ไมเยอร์ส ที่เคยผ่านพ้นประสบการณ์ความรักแสนเฮฮามาแล้วกับ What Woman Want และ Something's Gotta Give ...ในความคิดนักวิจารณ์ เธอเป็นผู้กำกับหญิงที่เก่งกาจในทางสร้างความกลมกล่อมรสหนังรักให้ออกมามีรสชวนประทับใจ แต่ทว่าจากความคิดที่ผมเคยผ่านงานชิ้นที่สองของเธอมา (เรื่องแรกว่าจะดู ก็ยังไม่ได้เช่ามาสักกะที) ผมยังไม่ใคร่ปลื้มในฝีมือเธอซะเท่าไหร่ เพราะ SGG ยังมีอะไรให้รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆ ในความยาวยืดของมัน

    แม้ The Holiday จะมีพลอตหนังที่สไตล์เดิมนอนมาแต่ต้นจนจบเรื่อง ทว่าความเป็นหนังเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องรักเรื่องนี้ทำออกมาให้มีอะไรน่าติดตาม มีอะไรให้อยากสนุกสนานไปกับมันกันทั้งเรื่อง

    ความกลมเป็นเนื้อเดียว มีมากกว่า SGG ...งานชิ้นนี้ ของ ไมเยอร์ส เปรียบได้กับ คอฟฟี่เมท ที่ผนวกเอาความหวานปะแล่มของรสรัก เข้ากันกับความมันของเนื้อครีมคอมเมดี้ กำลังดี๊กำลังดี ...ใน 130 นาทีที่ลิ้มรสเข้าไปรู้สึกได้ถึงความประทับใจ จนเมื่อหมดถ้วยมันก็เกิดความรู้สึกอยากจะดื่มแล้วดื่มอีกไปเรื่อยๆ

    ทีมนักแสดงหลักทั้ง 4 คน เข้าถึงบทบาทที่ตัวเองได้รับ และสร้างความรู้สึกเสมือนว่าเขา/เธอเป็นคนๆนี้อยู่ในเวลานั้น ... คาเมรอน ดิอาซ เป็นอาแมนด้าได้ไม่มีที่ติ (ผมหาข้อติทางการแสดงไม่ได้ ก็ขอติที่ใบหน้าโทรมเยินงั่กที่แทบจะหมดเค้าความเคยเป็นนางฟ้าชาร์ลี) , เคท วินสเล็ต เล่นเรื่องไหนก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง (ภาพของโรส ไททานิค ไม่เคยกลับมาหลอกตาผมได้เลยในทุกทีที่ดูหนังเธอ) และที่ถูกใจมากไปกว่าการแสดงก็คือ เธอดูน่ารักมากกับการเป็น commedian หญิงคนใหม่ , จู๊ด ลอว์ ดูอบอุ่น น่าสัมผัส และถ้าผมเป็นผู้หญิง ก็พร้อมจะตกหลุมรักชายมาดเท่ห์คนนี้อย่างไม่ต้องรีรอสุนัขมาคาบไป , แจ๊ค แบล็ก ดู nice กับภาพลักษณ์ใหม่ เขาสลัดภาพความเป็นตลกห่ามทิ้งไปอย่างหมดจด กลายเป็นผู้ชายรูปไม่หล่อแต่น่ารัก ที่เชื่อได้ว่าผู้หญิงคนไหนได้อยู่ใกล้แล้วต้องมีเผลอใจหลงรักกันบ้างแหละ

    ในส่วนของการแสดงเข้าคู่ ...ทั้งดิอาซ-ลอว์ และ วินสเล็ต-แบล็ก คือ สองเคมีที่ลงตัว และได้ผลลัพธ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงามของหนังรักเรื่องนี้

    ไม่ใช่เฉพาะตัวหลักที่เล่นได้โดดเด่นเท่านั้น ยังต้องรวมสามบทสมทบที่ทำหน้าที่เป็นพลอตรอง และมากไปกว่านั้นก็ถือเป็นสามตัวขโมยซีนที่แสนจะน่ารักทุกทีที่อยู่บนจอ... อีไล วอลเลซ ในบท "อาร์เธอร์" เป็นตัวละครที่ใส่เข้ามาเสริมเรื่องราวให้มีแง่มุมที่ลึกซึ้งสำหรับตัวละครอย่าง ไอริส ยิ่งไปกว่านั้น พลอตที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้เขียนบทหนังตกอับของเขา ยังทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจในฉากไฮไลท์ที่เขาขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัลเกียรติคุณ , สองตัวละครสาวน้อย ดูน่ารักน่าชังสมวัย เป็นเด็กที่ใครต่อใครได้เจอเป็นต้องประทับใจในความแก่นแก้ว

    ถ้าจะดู The Holiday เพื่อหวังเอาความเป็นหนังรักขายภาพประทับใจ... เรื่องนี้สามารถให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คนดูไม่สามารถละสายตาจากจอเพื่อหันมามองนาฬิกาดูเวลาความยาวที่ผ่านไป อารมณ์ของหนังคละคลุ้งไปด้วยความโรแมนติก อบอวลไปด้วยไออุ่นความรักที่ลอยละล่องไปพร้อมกับพัฒนาการสองตัวละครนางเอกที่เดินหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวของตัวเธอ ...บทหนังสามารถถ่ายทอดอากัปกิริยาของตัวละครให้ออกมาอยู่ในความพอดี แม้ตัวแสดงเองออกจะโอเวอร์แอ๊คติ้งไปบ้างก็ตามที กับสถานการณ์ที่หนังใส่เข้ามาประกอบเรื่องก็ไม่ยากไม่เย็นที่จะทำให้คนดูรู้สึกเกิดความอินไปกับมัน    

    ในส่วนของอารมณ์คอมเมดี้นั้น ก็สร้างความสนุกสนานได้ไม่น้อยไปกว่ากัน ... หนังแอบหยอดความขำลงมาประปรายดำเนินพร้อมไปกับเรื่องราวที่ต่อเนื่อง มุขตลกของหนังไม่เน้นเอาฮาปวดกราม แต่ความขำขันของมันจะมาพร้อมกับรอยยิ้มที่คนดูรู้สึกพอใจในความน่ารักของมัน (เช่น ฉากที่สองสาวคุยโทรศัพท์ โดยมีหนึ่งหนุ่มเป็นกขค ก็ยิ้มได้เพราะความเปิ่นเป๋อของไอริส , ฉากที่ไมลส์ แสดงความเป็นกูรูรู้เรื่องเพลงสกอร์หนังดัง แจ๊ค แบล็กสามารถใช้ประโยชน์ในความเป็นตัวเขาได้ดี , มุขโฆษกบรรยายหนังนี่ก็โดนได้ทุกที ที่เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของชายคนนี้โพล่งออกมา)

    The Holiday ... เป็นหนังเรื่องเดียวในรอบปีนี้ ที่ผมยิ้มแบบหุบไม่ลงกับมันไปได้ทั้งเรื่อง ความสุขที่ได้รับตลอดการชม จบลงด้วยความประทับใจในความเป็นโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่กลมกล่อม เข้าคู่เข้ารสกันได้อย่างพอดีและเพียงพอ ...แม้ความยอดเยี่ยมของมันอาจจะไม่สามารถเทียบเท่าหนังรักรอบตัวอย่าง Love Actually ได้ แต่ความรักที่มีในผลงาน ของ แนนซี่ ไมเยอร์ส เรื่องนี้ คือ หนังดีที่อยากจะให้ทุกคนได้ดูเป็นเรื่องสุดท้ายในรอบปีนี้

    ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง...ครับ

    เกรด A

    สำหรับทุกคนที่ได้เผลอเข้ามาในกระทู้รีวิวนี้ ...อย่าเพิ่งรีบออกไปนะครับ อยากขอให้ช่วยลง ความเห็นของคุณกับความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ ได้ประทับเก็บไว้ในกระทู้นี้ด้วย ... "1 Comment ของคุณ มีค่าเท่ากับ 1 Happy ของจขกท."

    ขอบคุณครับ รักคนอ่าน

    แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 49 16:15:50

     
     

    จากคุณ : OncE UPoN'-'a MaN - [ 29 ธ.ค. 49 16:14:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com