อ่านเรื่องย่อสปอยล์ (แหลกราญ) ได้ที่นี่เพื่อเป็นการทบทวนความจำ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5003250/A5003250.html



ต่อไปนี้คือคำวิจารณ์



1. ทำไมต้องเป็น Big Bang Love?

ทฤษฎี Big Bang (การระเบิดครั้งใหญ่) ของ Abbe George Lemaitre  เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยการอุบัติขึ้นของจักรวาล จักรวาลกำเนิดจากการระเบิดใน "จุดเดียว" และ "ปริมาตรที่เป็นศูนย์" การเริ่มต้นของวัตถุทั้งมวลในจักรวาลนั้นเกิดจากสิ่งที่เป็นชิ้นเดียวกัน จากนั้นจึงถูกแยกออกจากกัน

Big Bang Love จึงเป็นการอุบัติขึ้นของความรัก โดยกำเนิดจากการระเบิดใน “เพศเดียวกัน” (จุดเดียวกัน)

ชื่อเดิมของหนังเรื่องนี้คือ 46-Oku Nen no Koi หรือ “รัก 4600 ล้านปี”  โลกของเราตอนนี้มีอายุได้ 4600 ล้านปีแล้ว หากความรักอุบัติขึ้นเมื่อ 4600 ล้านปีที่แล้ว มันย่อมได้ชื่อว่าเป็นรักแรกของมวลมนุษยชาติ  รักแรกที่ไม่ใช่ความรักระหว่าง “ชาย” กับ “หญิง”  แต่เป็นความรักระหว่าง “ชาย” กับ “ชาย”  



2. สัญลักษณ์ต่างๆในเรื่องหมายถึงอะไร

@ จรวด กับ ปิรามิด

ตัวละครในเรื่องบอกว่ามันคือ “อวกาศ” (จรวด) กับ “สวรรค์” (ปิรามิด) แท้ที่จริงแล้วยังมีความหมายบางอย่างที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น แน่นอน...ขอให้คุณลองตั้งใจมองภาพจรวดกับปิรามิดให้ดีๆอีกครั้ง คุณว่ารูปร่างมันเหมือนกับอะไร



ถ้าไม่ใช่...
ศิวลึงค์  กับ ฐานโยนี


ตามคติฮินดู ศิวลึงค์ คือ สัญลักษณ์แทนเพศชาย ฐานโยนี คือ สัญลักษณ์แทนเพศหญิง

คาสึกิ ชิโรบอกกับอาริโยชิ จุนว่า“ถ้านายปีนขึ้นไปถึงยอดสูงสุดของปิรามิดนั่น นายจะเจอสวรรค์”  


V
V
V


ที่มาของคำว่า “เนินสวรรค์” ในปัจจุบัน


จากบทสนทนาตอนหนึ่งในเรื่อง

คาซึกิ ชิโร : "นายอยากไปไหน สวรรค์ หรือ อวกาศ"
อาริโยชิ จุน : "...."
คาซึกิ ชิโร : "อย่างนาย คงไปสวรรค์ล่ะซีนะ"
อาริโยชิ จุน : "...."
คาซึกิ ชิโร  : "ฉันอยากไปอวกาศ"
อาริโยชิ จุน : "...."

คาซึกิ ชิโร อยากไปอวกาศ เขาต้องเลือกไปโดยจรวด
อาริโยชิ จุน มีแนวโน้มว่าจะไปสวรรค์ เขาต้องเลือกไปโดยปิรามิด

อีกความหมายหนึ่งก็คือ

คาซึกิ ชิโร เลือกที่จะเป็น “ผู้ชาย” เพื่อที่จะได้ไปอวกาศ
อาริโยชิ จุน มีแนวโน้มว่าจะเป็น “ผู้หญิง” เพื่อที่จะได้ไปสวรรค์

คาซึกิ ชิโร เป็นตัวละครที่แสดงคุณสมบัติของ “ผู้ชาย”
- บ้าพลัง และนิยมความรุนแรง
- ชอบผจญภัย จากการที่เขาเลือกไปอวกาศ
- เจ้าหน้าที่ใช้ให้เขา “ทำความสะอาดข้างนอก” (งานของผู้ชายคืองานนอกบ้าน)

ขณะที่ อาริโยชิ จุน เป็นตัวละครที่แสดงคุณสมบัติของ “ผู้หญิง”
- เหนียมอาย ไม่ค่อยมีปากเสียง (ข้อนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากฐานะผู้หญิงในสังคมญี่ปุ่น)
- ชอบความสงบ จากการที่เขาเลือกไปสวรรค์
- เจ้าหน้าที่ใช้ให้เขา “ซักผ้า” (งานของผู้หญิงคืองานในบ้าน)


หลังจากที่คาซึกิ ชิโรตาย จรวดทะยานขึ้นจากท้องฟ้า เขาได้กลายเป็น “ผู้ชาย” สมใจอยากแล้ว


คำถามหลังจากนั้น?

Q : อ้าว....แล้วที่มันเป็นอยู่ก่อนตายเนี่ยะ ไม่ใช่ “ผู้ชาย” เหรอ?
A : ใช่
Q : แล้วทำไมถึงบอกว่ามันได้กลายเป็น “ผู้ชาย” สมใจอยาก ในเมื่อมันก็เป็นผู้ชายอยู่แล้ว?
A : ภาวะที่เป็นผู้ชายก่อนตายของคาซึกิ ชิโร ยังไม่ใช่ภาวะสมบูรณ์แบบ เพราะแปดเปื้อนเสียก่อนจากคดีข่มขืนภรรยาของผู้บัญชาการคุกจนเป็นเหตุให้เธอฆ่าตัวตาย เขาสูญเสียความมั่นใจในความเป็นชาย จนทำให้ความเป็นชายหยุดเจริญเติบโต  และพยายามกลบเกลื่อนมันด้วยพฤติกรรมรุนแรง
Q : รู้ทั้งรู้ว่าข่มขืนผู้หญิงมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย แล้วเขาทำไปทำไม?
A : ความอ่อนแอ เขาไม่สามารถควบคุมจิตสำนึกของตัวเองได้
Q : กำลังจะบอกว่าผู้ชายอ่อนแอไม่ได้ยังงั้นสิ
A : ไม่จำเป็นเสมอไป  ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละคน ความเป็นชายในอุดมคติของคาซึกิ ชิโร คือ “ความแข็งแกร่ง” เมื่อตัวตนในความเป็นจริง กับตัวตนในอุดมคติของเขาต่างกัน ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
Q : พูดง่ายๆก็คือ เขาคาดหวังว่าจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบในชาติหน้า ก็เลยฆ่าตัวตาย?
A : เรื่องนี้มีชาติหน้าเพราะผู้กำกับ แต่ชาติหน้าน่ะมีอยู่จริงๆหรือเปล่ายังไม่รู้


ตอนจบของหนังฉายให้เห็นภาพชายหญิงเดินกันขวักไขว่ขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยบอกว่านี่เป็นเหตุการณ์หลังจากวันนั้น 4600 ล้านปี


ป่านนี้คาซึกิ ชิโร ได้กลายเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบแล้วหรือยัง ….ไม่อาจมีใครล่วงรู้


@ ผีเสื้อ

สัตว์ประจำกายของอาริโยชิ จุน มักจะคลอเคลียบินไปบินมาไต่ตอมเนื้อตัวของอาริโยชิ จุนเสมอๆ เหมือนกับตัวเขามีน้ำหวานติดอยู่ยังไงยังงั้น  ผีเสื้อช่วยส่งให้ภาพลักษณ์ของเขาชัดเจน เมื่อมีผีเสื้อย่อมมีดอกไม้ และดอกไม้ในที่นี้คือ อาริโยชิ จุน ตาของเขาไม่ชอบบุคลิกแบบนี้เสียเลย พยายามที่จะไล่ผีเสื้อไป ด้วยการปลูกฝังความเป็นชายชาตรีให้กับเขา ให้นายแบบหุ่นบึ้กมาเต้นให้ดู หวังให้เขาเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่เจ้าผีเสื้อก็ยังไม่ยอมไปไหน เพราะอาริโยชิ จุน ไม่ได้อยากแมน แต่เขาหลงใหลในความแมนนั้น และพึงพอใจที่จะเฝ้าดูมันอยู่ห่างๆ (แอบมองกล้ามเนื้อหน้าท้องอันเซ็กซี่ของคาซึกิ ชิโรตอนนอน)


@ ปลาวาฬ

“จงเป็นให้ได้อย่างปลาวาฬ” หลังจากที่ให้ชายร่างบึกมาเต้นระบำให้ดูไม่ได้ผล ตาของอาริโยชิ จุนจึงเปลี่ยนพ่อแบบให้ใหม่เป็น “ปลาวาฬ” ปลาวาฬคือสัตว์ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเล เมื่อดูรูปร่างโดยผิวเผินมีลักษณะคล้ายตอร์ปิโด ตาของอาริโยชิ จุน ต้องการให้หลานของเขายิ่งใหญ่ดั่งปลาวาฬ และใหญ่สมชายชาตรี (ขนาดตอร์ปิโดเลยรึ)  หารู้ไม่ว่าปลาวาฬนั้นเป็นพ่อแบบที่ใช้การไม่ได้เสียเลย เพราะมันใหญ่แค่ตัวเท่านั้น แต่ไร้น้ำยา


@ เลือดที่ไหลจากอกของอาริโยชิ (คำถามจากทางบ้านคุณ nanoguy)

อาริโยชิ จุน มีนิสัยชอบถ้ำมองจรวดผ่านรูกำแพงห้องขัง ครั้งแรกเขาจ้องดูมันจนฟ้าสาง ครั้งที่สองดูเพลินไปหน่อย แสงอาทิตย์จากข้างนอกส่องทะลุหน้าอกด้านซ้ายของเขาจนเลือดไหลออกมาเป็นสาย อาริโยชิ จุนสามารถหลบลำแสงนี้ได้ แต่เขากลับไม่หลบมัน

เพราะเขาปรารถนา....แสงสว่างจากรูเล็กๆข้างนอกที่ผ่านเข้ามาในห้องขังอันมืดมิดนี้ คือ สิ่งที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น เขาปล่อยให้มันส่องผ่านหัวใจตัวเองที่เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ


ความรู้สึกที่เรียกกันว่า “ความรัก”
ฉันไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่
วินาทีที่ถูกสะกดไว้จนตรึงกับที่
เมื่อได้สติก็สายเกินไปเสียแล้ว
เลือดที่ไหลอยู่นี่....จะหมดตัวเมื่อไหร่กัน


อาริโยชิ จุนชอบมองดูจรวดพอๆกับที่มองคาซึกิ ชิโร ทุกครั้งที่เห็นหน้าคาซึกิ เขาจะรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างส่องผ่านหัวใจตัวเองทุกครั้ง


@ สายรุ้ง 3 สาย  (คำถามจากทางบ้านคุณ mooyo)

ถ้าไม่ใช่เพราะผู้กำกับลีลามาก อยากทำให้คนดูปวดหัว คำว่า “รุ้ง 3 สาย” ก็มีที่มาจากคำเรียกในภาษาญี่ปุ่น  คนญี่ปุ่นสมัยก่อนนิยมเรียกรุ้งว่า “รุ้ง 3 สาย” เป็นเพราะวิทยาศาสตร์ในตอนนั้นยังไม่ก้าวหน้าพอจะแยกสีของรุ้งได้ 7 สี  มองด้วยตาเปล่า เราจะเห็นรุ้งแค่ 3 สีเท่านั้น นี่คือข้อจำกัดของความสามารถในการมองเห็นของมนุษย์  แต่ถ้าหาก 4600 ล้านปีที่แล้ว สร้างจรวดกันได้ แล้วทำไมจะแยกสีของรุ้งไม่ได้ อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

หากมองในแง่ของการแบ่งแยกทางเพศแล้ว มีความเป็นไปได้มากกว่าเกี่ยวเนื่องกับการดูถูกเพศหญิง  โดยให้คนที่พูดถึง “รุ้ง 3 สาย” ขึ้นมานั้นคือ อาริโยชิ จุน ผู้เป็นดั่งตัวแทนเพศหญิง เชื่อกันว่าวิทยาศาสตร์เป็นโลกของผู้ชาย ในขณะที่ผู้หญิงนั้นไร้เหตุผล ใช้อารมณ์และจินตนาการเสียเป็นส่วนใหญ่  การที่อาริโยชิ จุน ยังเรียกรุ้งว่า “รุ้ง 3 สาย” เป็นตัวบ่งบอกว่าแม้จะมีเหตุผลมารองรับแล้วว่าสิ่งที่เชื่อมาไม่ใช่ความจริง  ก็ยังยึดมั่นในอารมณ์ ความเชื่อของตัวเอง ติดอยู่กับอดีตเดิมๆซ้ำซาก หากเปลี่ยนให้คาซึกิ ชิโรพูด เราคงจะได้ยินคำว่า “รุ้ง 7 สาย” แทน


ความเชื่อเกี่ยวกับสายรุ้งที่สามารถนำมาเชื่อมโยมกับเรื่องนี้ได้มี 2 ประการ

- ประการแรก “ความเชื่อเรื่องที่ว่ารุ้งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกกับสวรรค์  เมื่อสายรุ้งปรากฏขึ้น เมื่อนั้นเป็นเวลาที่วิญญาณดวงใดดวงหนึ่งบนโลกกำลังจะออกเดินทางไปสู่สวรรค์หรือโลกหน้า”

- ประการที่สอง “ความเชื่อของชาว Luyia ในประเทศเคนยาที่ว่าพระเจ้าหยุดฝนด้วยการสร้างรุ้งขึ้นมา 2 ชั้น คือ รุ้งผู้ กับ รุ้งเมีย  (เห็นได้จากตอนท้ายเรื่อง ที่คาซึกิ ชิโรหันไปดู มีรุ้งซ้อนกัน 2 ชั้น)  ลำพังรุ้งผู้ไม่สามารถหยุดฝนที่ตกอยู่ได้ ต่อเมื่อรุ้งเมียปรากฏขึ้นแล้ว ฝนจึงจะหยุดตก”


อากัปกิริยาของคาซึกิ ชิโรหลังหันไปมองรุ้ง เหมือนกับอกระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ปกติคนทั่วไปจะรู้สึกดีใจที่ได้เห็นรุ้ง แต่สำหรับคาซึกิ ชิโรแล้วไม่ใช่ เขากำลังจะตายเพราะภาพหลอน ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นรุ้งคือตอนที่ยังเป็นเด็กขโมยขนมปังไส้แยม ตอนนั้นเขายังไม่ได้ดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดเช่นนี้  “ลูกผู้ชายร้องไห้ไม่ได้” คาซึกิ ชิโรพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองเอาไว้ อาริโยชิ จุนรู้สึกสงสารและอยากปลอบประโลม เขาเดินเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นปาดใต้ดวงตาของคาซึกิที่น้ำตาถูกสะกดเอาไว้ และกอดคาซึกิไว้ในอ้อมอก


คาซึกิไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว....และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาร้องไห้


ฝนตกมายาวนานเหลือเกิน
ขอบใจอ้อมกอดอันอบอุ่น
ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตอีกครั้ง


แต่แล้วเขาก็ผลักไสอ้อมกอดของอาริโยชิ จุน และหันหน้าเข้าสู่อ้อมกอดของความตาย


ฉันตื่นขึ้นมาพบชีวิตที่แหว่งวิ่น
เสียใจที่แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ในโลกหน้าชีวิตใหม่คงรอฉันอยู่


ฝนของคาซึกิ ชิโรหยุดตก เพราะอาริโยชิ จุนปรากฏตัวขึ้น แต่บาดแผลของคาซึกิที่ได้รับจากฝนที่ตกเป็นเวลายาวนาน ไม่อาจบรรเทาลงได้ เขาเลือกที่จะเดินข้ามสะพานรุ้ง 3 สายไปยังโลกอีกฟากหนึ่ง



3. แง่มุมเรื่องความรักเพศเดียวกันจากหนัง?

ความรักระหว่างเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างไร  มันเกิดขึ้นมาเป็นพันล้านปีแล้ว และไม่จำเป็นต้องมี sex เข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวละครเอกทั้ง 2 ตัว ไม่ได้แสดงความสัมพันธ์ทางกายใดๆทั้งสิ้น มีเพียงความสัมพันธ์ทางใจที่เชื่อมโยงทั้งสองเข้าหากัน อาริโยชิ จุนมอบความรักให้แก่คาซึกิ ชิโรชายผู้ซึ่งไม่เคยรู้จักความรัก แม้จะเป็นความรักจากเพศเดียวกัน แต่มันก็เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งเปลี่ยนไปได้



4. หนังสะท้อนสิ่งใดบ้างในโลกปัจจุบัน?

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ถึงแม้จะมีเครื่องซักผ้าแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ยังมอบหน้าที่ “ซักผ้า” ให้กับผู้หญิง อาริโยชิ จุน ชายผู้สามารถซักผ้าทั้งวันได้โดยไม่เบื่อหน่าย ขอให้คุณจงช่วยบอกเคล็ดลับที่ช่วยทำให้งานบ้านชนิดนี้ดูน่าสนุกขึ้นมาหน่อย


อาริโยชิ จุน : ลองติดคุกดูสิ แล้วคุณจะรู้เอง



5. ข้อคิดที่ได้จากหนัง?


“ความรักเลือกคนที่พยายามปฏิเสธมัน”



6. ความประทับใจจากหนัง?

- คาซึกิ ชิโรน่ารักจัง (กั่กๆ) ดูไปยิ้มไป
- หนังเงียบมาก ขนาดได้ยินเสียงลมหายใจคนนั่งข้างๆ
- ชอบเพลงตอนหนุ่มบึ้กเต้น เร้าใจดี
- อาริโยชิ จุนตอนเป็นบาร์เทนเดอร์เท่มาก
- แม้จะไม่มีฉากอย่างว่า ก็รู้สึกคุ้มที่ได้ดู
- คนนั่งข้างๆอยู่ดีๆก็เอาน้ำมันขึ้นมานวดมือ กลิ่นเหมือนใบกะเพราผสมสะระแหน่เลยอ่ะ



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะ (ยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียน) นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น ผู้กำกับ คนเขียนบท หรือนักแสดงอาจจะไม่ได้ต้องการสื่อเช่นนี้ก็ได้ แต่หนังที่มีสัญลักษณ์นี่ก็ช่วยกระตุ้นต่อมจินตนาการของคนดูได้ดีจริงๆ ถ้ามีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม หรือแตกต่างไปจากนี้  ช่วยลงไว้ให้เราอ่านด้วยนะจ๊ะ ขอบคุณมาก (^ o ^)






Granchio

นักวิจารณ์(มั่วเป็น)มืออาชีพ




Reference :

http://www.zianet.com/rainbow/frrelig.htm
http://www.geocities.com/witit_mink/earthhow1.htm
http://web.ku.ac.th/schoolnet//snet4/july8/whale.htm
http://members.aol.com/Mauiguy4/nature/nature.htm
http://www.sriganapati.com/index.php?option=com_content&task=view&id=120&Itemid=36

แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 49 09:13:08

แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 49 09:12:05