ความคิดเห็นที่ 2 พระเอกของเราเห็นจะเป็น สุวิกรม หรือพี่เปอร์ ตามที่มารดาท่านเรียก  แลสุวิกรมเองก็แทนตัวกะมารดาท่านว่า ลูก ฟังดูน่ารักน่าเอ็นดู หากมิติดว่ามักจะเจรจากับมารดาด้วยถ้อยคำกวนประสาทนักหนา เป็นต้นว่า "ตัวนี้ไฉนก้มหน้ากินข้าวแทบติดสำรับเยี่ยงนั้นเล่า  โบราณเขาว่าไม่ดี" "โบราณของมารดาท่านนี้หมายถึงใคร?" "ตัวนี้ยียวนมารดานัก  โบราณสิหมายถึงคนสมัยโบราณเล่า " "มารดาเล่ากล่าวไม่เคลียร์เอง คนโบราณของมารดานี้ชื่อนายทองเหม็นใช่ฤาไม่" สุวิกรมเจรจากับมารดา ฉะนี้บ่อยครั้ง  ข้าพเจ้าได้แต่สรรเสริญมารดาท่านว่ามีใจอดกลั้นโทสะไว้ได้เด็ดขาด นี้หากจะให้เรียลลิธี่จริงๆ ก็ชอบจะ ให้มารดาท่านตบกบาลอันล้านเลี่ยนของสุวิกรมให้คะมำลงไปกะสำรับอาหารที่หามาสู่กันกินนั้นเสีย แลให้มารดาเจรจาด่าทอว่า "ตัวนี้ดีแต่ต่อล้อต่อเถียงมารดา อันคนโบราณนั้นมิได้หมายถึงนายทองเหม็น ขุนสรรค์ พันเรือง แลพระอาจารย์ธรรมโชติแห่งบ้านบางระจันไม่ หากปรารถนาจะแดกข้าวก็จุ่งแดกลงไปอย่าได้ไต่ถามให้มากความ หากเจรจากวนส้นอีก มารดาจักทำแกงส้นใส่ดอกแคมาสู่กันกิน..." แต่เอาเถิดนี่มิใช่นิทานพื้นบ้านเรื่องก่องข้าวน้อยฆ่าลูก ด้วยมารดานั้นให้กำเนิดบุตรแล้วย่อมรักยิ่งกว่าสิ่งใด  บุตรนั้นที่จะรู้ซึ้งในวัยรุ่นทันทีก็มีจำนวนน้อย  ต่อหน้าโน่นแหละถึงจะรู้คุณว่ามารดานี้รักตนไฉน ประดุจกรณีของสุวิกรมนี้แล เมื่อยามป่วยไข้ก็มารดานี้พาไปรักษาหาแพทย์ มิพักจะแซวมารดาให้ไขว้เขวไปด้วยมุขก้านทั้งปวง  นี้หากข้าพเจ้ากำกับเองคงยุให้มารดาท่านส่งสุวิกรมให้แพทย์ฉีดยาชาใส่ปากเสียให้หลาบจำ สุวิกรมนี้นอกจากจะวาจาเราะร้ายแล้วยังชอบที่จะกระทำย่ำยีสัตว์เล็กสัตว์น้อย เป็นต้นว่าจิ้งจกแมลงสาป ด้วยจับขังใส่แก้วแมกโดนัลเขียวนั้นไว้ปรารถนาจะให้มันตายเสีย แต่แท้จริงแล้วคงปรารถนาจะแกล้งช่างกล้องที่ตามอยู่มิรู้แล้ว ครั้นเปิดแก้วจิ้งจกก็วิ่งจู้ดเข้าใส่ ทำให้ช่างกล้องสะดุ้งหนีแทบไม่ทัน แต่มิปรากฎว่ามีเสียงร้องวี้ด....ของช่างกล้องแทรกมาพอให้รู้นะว่านี่เรียลลิธี่จริงๆ หากข้าพเจ้าจำมิผิด ครอบครัวนี้มีมารดา 1 บิดา1 สุวิกรม1 แลน้องชาย 1 ใช่ฤาไม่  อันน้องชายนี้ได้แต่นอนนิ่งมีผ้าผวยคลุมไว้ไม่กระหยับกาย ในทุกฉาก ข้อนี้ในภาพยนตร์มิได้แจ้งว่าน้องชายเจ็บไข้ได้ป่วยประการใด จึงได้นอนนิ่งอยู่ ฤาจักทิ้งไว้เป็นปริศนาให้ติดตามต่อภาคสองภาคสามตามสมัยนิยมแต่อย่าทำเลย หมีดีหมีร้าย  ทำสามภาคมิพักจะโดนเปรียบเทียบภาพยนต์ยิ่งใหญ่มีคุณประเสริฐประดุจประไตรปิฎกยกอ้างของประดาเกรียนเรื่อง หลอด ออฟ เดอะ ลิง ดังปรากฎข้อเปรียบเทียบในพันทิบแล้วฉะนี้ อันพระเอกของเรานี้เป็นนักเรียนในโรงเรียนชายล้วนมีชื่อแห่งหนึ่ง  แจ้งจิตจำนงว่าจะเรียนวิศวะให้จุ่งได้  แต่ดูท่าทีแล้วตะแกไม่ใคร่ตั้งใจเรียนเท่าไรนัก  เข้าเรียนก็สาย มักเที่ยวเล่นหัวสนุกตามประสาวัยเยาว์ เป็นต้นว่าเที่ยวเต้นตามหน้าเวทีร้องเพลง  ละม้ายเพลาที่วงดนตรีเสียงอีสานมาทำการแสดงมักจะมีประดาขี้เมาทั้งหลายออกฟ้อนรำหน้าเวที แลตีกันให้หัวร้างข้างแตกกันสนุกสนาน  แต่หนังเรื่องนี้ไม่ยักกะมีฉากบู๊ตีกันให้ครบรส  ด้วยว่าติดที่เรียลลิธี่นี่ล่ะ ลางทีเรียลลิธี่นี่ก็เลยทำให้ชีวิตจริงไม่ใคร่ได้รสเหมือนจริงเท่าไรนัก อย่างตอนสุวิกรมเข้าสอบช้า แล้วยายครูฟิสิกส์ ซึ่งเหมือนครูมัธยมเฮี้ยบๆร้ายๆทั่วไปนั่นแล ไล่ตะเพิดสุวิกรมเสียงดัง ด้วยคงรู้ทันฤทธิ์เด็กแสบพอกัน ชะรอยหากไม่มีกล้องนี้คงกะจะด่าให้จั๋งหนับกว่านี้  แลเอาเก้าอี้ฟาดดังปรากฎตามข่าวให้สำราญ แต่ครูก็คือครูวันยังค่ำ  ครั้นไล่ไปแล้วเห็นลูกศิษย์คอตกเหมือนนกเขาไม่ขัน ก็เกิดเมตตาสงสารให้มาสอบเช่นเคย  นี้แลดูเอาไว้เถิดท่านผู้มีปัญญา มานึกย้อนทีหลังครูที่เราเกลียดๆนักหนานั่นล่ะ ล้วนแต่เป็นผู้ที่หวังดีปรารถนาดีต่อเรานัก  จบไปกี่สิบปีก็ยังระลึกถึงอยู่ไม่หาย แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:41:03 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:39:12 จากคุณ : cybrarian - [ 6 ก.พ. 50 19:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ค่าที่โฆษณาว่าภาพยนต์ไม่มีบทไม่มีสะกริป ตีแผ่ชีวิตจริงอะไรเทือกนี้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า จะเป็นประดุจหนังสกุลช่าง วัลลี เด็กหญิงยอดกตัญญูต้องวิ่งเท้าเปล่าจากโรงเรียนหลายร้อยลี้เพื่อไปเลี้ยงดูมารดาพิการน่าเวทนา หรือเด็กหญิงสมปรารถนา เด็กกำพร้าอยู่กะย่ายายตาบอดอะไรจำเทือกนั้น หากแต่ก็เป็นอัตชีวประวัติวัยเยาว์ของเด็กในเมือง  ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ต้องเรียนในห้องแล้วเลิกเรียนต้องเรียนพิเศษ กวดวิชา  อ่านหนังสือ เสาร์อาทิตย์มิได้ว่างเว้นต้องเข้าคอสเร่งรัดสารพัดสารพัน แม้นกระทำการดังนี้แล้วกำลังอกกำลังใจยังไม่มา ก็ต้องพึ่งพิงไสยศาสตร์แลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงกระทำการบนบานศาลกล่าวเซ่นวักตั๊กแตน ประดุจจักออกรบฉะนี้  อย่างบางคนนี้บิดามารดาตั้งความหวังเอาไว้สูงมาก พาลกดดันให้ลูกต้องมีความเครียดแทบเป็นบ้าเป็นหลัง ดูอย่างพระเอกอีกคนของเรา สมมตินามตามท้องเรื่องว่าบิกโชว์ ชะรอยจะเป็นญาติโกกับเจย์โชว์ นักร้องมีชื่อแห่งกรุงจีนแผ่นดินเล็ก แลมีชื่อสำหรับประกาศในงานบุญว่า กิตติพงษ์ ตะแกผู้นี้ทรงพระเจริญ(แปลว่าอ้วน) เป็นอัตรา  ถึงขนาดครูท่านเสนอว่าลดน้ำหนักได้จักให้เกรดสี่เป็นรางวัลอันขนาด แต่เพราะความเครียด ทำให้ตะแกกินๆๆๆๆๆ ซึ่งภาพยนต์ก็ถ่ายให้เห็นแต่ว่ากินผัดซีอิ้ว  ชะรอยผัดซีอิ้วนี้จักมีผลต่อกระบวนการเมแทบอลิซึมเป็นอันแน่ จึ่งทำให้น้ำหนักนั้นพุ่งพรวด แต่หากกล่าวในด้านการแสดงข้าพเจ้าชอบในบทบาทของพ่อคนนี้เป็นอันมาก ด้วยดูมาทั้งเรื่องก็เพ่อจะเห็นว่าบิ๊กโชว์นี้ควรแก่รางวัลดาราตุ๊กตาเสียกะบาลทอง วันหนึ่งตะแกใกล้จะสอบตะแกเครียดมากฝ่ายกล้องรึก็เทียวจับอยู่นั่นล่ะ ข้าพเจ้านึกในใจว่าคงได้ดูบทบริภาษด่าทอ กล้องก็ซูมจับตะแกอยู่ไม่แล้ว  ครั้นย้ายจากชุดรับแขกอันหนานุ่มมานั่งหน้าจอคอมพิ้ว  ด้วยสีหน้าเคร่ง กล้องก็เอาแต่ซูม จนแลเห็นดวงตาอันเล็กไม่ปรากฎเหลาเต้ง พลันบิ๊กโชว์ก็เหลือบมามองตาเขียว แต่ชะรอยคงผีเข้าอยู่ๆก็แสยะยิ้มใส่กล้องเสีย  มิได้ด่าทอตามข้าพเจ้าคิด แต่แล้วครั้นวันหนึ่งผลคะแนนสอบวิชาทางวิศวกรรมที่ตนลุ้น ตะแกคงได้น้อยกว่าที่คาด ฉากนี้แลดูดรามาดี ด้วยพระเอกของเรากลั้นอารมณ์ไว้มิอยู่ร้องไห้ขึ้นด้วยเสียงอันดัง แลวิ่งหนีกล้องเข้าไปในห้องลับลี้ ยินแต่เสียงสะอื้นไห้ฮั่กๆ มิยักกะร้องกรี้ดๆออกมาให้สาแก่ใจประชาชี ด้วยว่าเป็นเรียลลิธี ฉะนี้ จากคุณ : cybrarian - [ 6 ก.พ. 50 19:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาต่ออีกนะครับ  (เย้!...คนแรก) แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:34:08 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:33:35 จากคุณ : ฟอร์มอร์ลีนคุง (ฟอร์มอร์ลีนคุง) - [ 6 ก.พ. 50 19:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โย่ว โย่ว คนที่ 2 (แต่เป็นคห.5) ตามมาอ่านค่า **แก้ไขไปแก้ไขมา แก้ไข 2 รอบเลย แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:40:30 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 19:38:35 จากคุณ : ++I am PeunG++ - [ 6 ก.พ. 50 19:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อๆๆนะครับ รออ่าน .. จากคุณ : ชายชิน - [ 6 ก.พ. 50 19:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คนแรกๆ หนังยังไม่ได้ดู ยังไม่ตอบเลยว่าจบมาแตร์มั้ย ^ ^ จากคุณ : Xenophobia - [ 6 ก.พ. 50 19:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มารออ่านขอรับ จากคุณ : Ninjaadvance - [ 6 ก.พ. 50 19:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบเหมือนเดิมค่ะ รออ่านนะคะ จากคุณ : Conglomerate - [ 6 ก.พ. 50 20:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สำนวนสูท่าน นี้เล่า ฉวัดเฉวียงเร้าใจ สนุกอารมณ์แลเพลิดเพลิน ข้านี้นัก ฉะนี้ด้วย ทำเอาขำขันต์ดียิ่ง นักแล ปล.พี่โบ็ทน่ารัก ~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร - [ 6 ก.พ. 50 20:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 5555555555+++ "สุวิกรมเจรจากับมารดา ฉะนี้บ่อยครั้ง  ข้าพเจ้าได้แต่สรรเสริญมารดาท่านว่ามีใจอดกลั้นโทสะไว้ได้เด็ดขาด นี้หากจะให้เรียลลิธี่จริงๆ ก็ชอบจะ ให้มารดาท่านตบกบาลอันล้านเลี่ยนของสุวิกรมให้คะมำลงไปกะสำรับอาหารที่หามาสู่กันกินนั้นเสีย"     ยังไม่ได้ดู...แต่นึกภาพออกเลยทันที.... จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 6 ก.พ. 50 21:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขำเรื่องน้องชายเปอร์ เห็นมีบทแค่นอนอย่างเดียวเหมือนกัน จากคุณ : นางาเสะจัง - [ 6 ก.พ. 50 21:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องน้องชายน้องเปอร์เนี่ยใจตรงกันเลยค่ะ เห็นเมื่อไหร้น้องก็เอาแต่นอน น้องเปอร์กวนจริงๆๆ แล้วน้องโบ๊ทบะค่ะ ไม่พูดถึงบ้างเหรอ จากคุณ : karina - [ 6 ก.พ. 50 21:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14  กลับมาต่อไว ๆ นะคะ จากคุณ : ศรานรา - [ 6 ก.พ. 50 21:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สุคโตไปดีเถอะพ่ออ้วนหลักสี่ ข้าพเจ้าขออนุโมทนาในมรรควิถีที่พ่อเลือกแล้ว กล่าวฝ่ายพระเอกของเราอีกคนหนึ่งคือ โบ๊ท สราวุฒิ  เพื่อนในก๊กเดียวกันนั้นแล อันว่าสราวุฒินี้ชะรอยจะได้มนต์เรียกเนื้อเรียกปลาประดุจพระสังข์เป็นแน่ ด้วยเลี้ยงปลาตู้ ได้เชื่องลูบคลำได้ประดุจสุนัขฉะนี้  ความที่รักปลาเป็นทุนเดิม แลได้กระทำปาณาติบาติตกปลาหาเนื้ออยู่เป็นนิจศีล เลยปรารถนาจักเข้าเรียนทางด้านประมง  หากแต่บิดาท่านมิเห็นดีงามด้วย กล่าวว่าวิชาการประมงนี้คับแคบหนักหนา ตัวนี้เรียนไปแล้วก็คงมิพ้นขายกะเตี๋ยวปลา แลปลาสลิดแดดเดียวบางพลีเป็นแน่  ชอบที่จะเรียนแผนกนิติศาสตร์ จักได้กว้างขวางเป็นพระอัยการ ตลาการ ทะแนะทนาย หรือไม่ก็ชอบที่จะเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ การค้าพานิชย์ทั้งปวง  จักได้แต่งสินค้าไปค้าขายให้ร่ำรวย เรื่องปูมาดังนี้ ข้าพเจ้าก็ใคร่อยากจะเห็นลูกทะเลาะกะบิดาด้วยขัดแย้งทางความคิดเห็น หากแต่สราวุฒินี้เป็นผู้ยึดมั่นด้วยคุณธรรมข้อ กตัญญู ประดุจยาแก้ไอชวนป๋วยฯ จึงมิได้ทะเลาะวิวาททุ่มเถียงด้วยบิดาท่านให้สนุกสนานแก่ผู้ใคร่รู้เรื่องคนอื่นเช่นผู้ชมทั้งปวง ก็ตามใจบิดาท่าน ไปสอบรับตรงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แลผู้เข้าสอบนั้นก็มากเป็นประมาณ ประดุจสอบจอหงวนในแผ่นดินพระเจ้าตุงฉี่  แน่นอนล่ะสราวุฒิย่อมเป็นคนส่วนใหญ่ที่ไม่ติดกะเขา  แต่บิดาท่านก็มิได้ว่ากระไร หากมีบทเสียหน่อยให้บิดาเอาหวายลงหลังค่าที่ไม่ได้ดั่งใจ หรือให้สราวุฒิเล่นบทโศกคว้าอาหารปลามากรอกปากให้เขฬะฟูมปากตื่นเต้นเป็นขวัญตาแก่ผู้รับชมบ้างก็คงเพิ่มอรรถรสให้สำราญขึ้นเป็นกองสองกอง แต่เอาเถอะ มันเป็นเรียลลิธี่ จะไปบังคับกะเกณฑ์เรียกน้ำตาได้อย่างไรกัน มาดูหนังเรื่องนี้ก็จงท่องไว้ว่า ตถา แปลเป็นไทยว่า มันก็เป็นเช่นนั้นเอง เรื่องจึ่งดำเนินมาเรื่อยไป ฉายให้เห็นอดีตเสนาบดีกระทรวงธรรมการมาชี้แจงเรื่อง โอเน็ทเอเน็ทอันยุ่งขิงเมื่อปีที่แล้ว  ซึ่งข้าพเจ้าก็จำมิได้แล้วว่ามันยุ่งขิงประการใดด้วยเป็นคนไทยแท้ที่ลืมง่าย หากว่าหนังเรื่องนี้จะฉายภาพให้เห็นว่าประดานักแสดงทั้งก๊กนั้นเคร่งเครียดกดดันถึงขนาดต้องพึ่งพาจิตแพทย์ ฤามีสติวิปลาสอันใดก็คงดี แต่ไม่มีเท่านั้นเอง ธรรมดาภาพยนตร์ทั้งปวงนี้ ตัวละคอนมักจะเกิดข้อขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นกับจิตใจตัวเอง กะครอบครัว กะสิ่งแวดล้อมหรืออันใดก็ตาม ครั้นแล้วต้องมีการต่อสู้ฟาดฟัน เขม็งเกลียวเพื่อให้พ้นสภาพนั้น หากแต่นี่เป็นเรื่องเรียลลิธิ่ ที่จะไปบอกบทให้สราวุฒิครั้นได้คณะประมงตามประสงค์แล้วแต่บิดาท่านตัดหางปล่อยวัด มารดาก่นด่านั้นก็เป็นไปมิได้ จึงได้แต่เห็นตะแกได้คณะประมงตามประสงค์ได้ใช้วิชาเรียกปลาเรียกเนื้อตามที่ตนชอบ ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็ได้แต่อนุโมทนาบุญด้วยที่ได้เรียนตามประสงค์แลบิดามารดาก็มิได้ขัดขวาง เป็นตัวอย่างแก่บิดามารดาทั่วไทย แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 14:20:08 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 50 22:44:00 จากคุณ : cybrarian - [ 6 ก.พ. 50 22:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โปรดกลับมาเขียนต่อโดยพลัน เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น จากคุณ : FluRrY - [ 6 ก.พ. 50 22:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดีใจจัง สนุกอีกแล้ว จากคุณ : HONORS - [ 7 ก.พ. 50 00:05:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณกำลังต้องการบอกอะไร หรือต้องการประกาศให้โลกใบนี้ (ประเทศไทย) รับรู้เรื่องสิ่งใด แต่อยากจะบอกคุณไว้อย่างเดียวว่า คุณจำได้หรือไม่ว่า "เมื่อคุณยังเล็กอยู่" คุณทำอะไร หรืออย่างไร คุณตอบได้หรือไม่??? ที่ถามเพราะรู้สึกว่าคุณจะเข้าใจโลกใบนี้เป็นหนักหนา อยากถามคำถามสุดท้าย กล้าตอบไหม?? " คุณรู้ไหมว่า คนเราโตสุดเมื่อไหร่" ขอบคุณนะคะ (หากคุณกล้าตอบ) จากคุณ : แม่น้องก้อง (ที่เห็นและเป็นไปยังเหมือนเดิม) - [ 7 ก.พ. 50 03:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับรี 15 จขกทเป็นไรมากไหม พยายามใช้ภาษามากเกินไปหรือเปล่า อ่านไม่รู้เรื่องเลย สรุปบทความนี้ไม่ผ่านนะ ไปไม่ถึงเหมือนตัวหนังเลย 55555 จากคุณ : สุดที่รักของป๋า - [ 7 ก.พ. 50 06:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาคอนเฟิร์มว่าอ่านไม่รู้เรื่องด้วยคนครับ โอย... กว่าจะได้รู้ประเด็นที่ต้องการนำเสนอ จับใจความได้ ว่างไม่พอยังต้องอดทนด้วยนะนั่น T_T จากคุณ : KIKAIDER - [ 7 ก.พ. 50 06:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เขียนแนวใหม่ ... สมองไปไม่ถึง จากคุณ : ดอกลินสีด - [ 7 ก.พ. 50 08:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบสำนวนการเขียนของคุณ จขกท. มากๆ ( ไม่ใช่แค่ชอบนะ แต่รักเลย ) จากคุณ : pink cocktail - [ 7 ก.พ. 50 09:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อันตัวเราคิดว่าบทความแนวนี้อ่านสนุกยิ่งนัก ด้วยจุดประสงค์หลักมิใช่เพียงเพื่อวิจารณ์ หากแต่ให้อ่านเพื่อความบันเทิง เราได้เข้ามาอ่านบทความนี้ เนื่องด้วยเห็นนามคุณ cybrarian ผู้เลื่องลือจากผลงานวิจารณ์ตำนานพระนเรศวร อันมีเทรดมาร์ค (สะปอยละเอียดยิบ) เป็นที่สังเกตนั้นแล ด้วยติดรสสำนวนชวนหัว จึ่งได้คลิกเข้ามาอ่าน ก็มิได้ผิดหวัง แม้ความสำราญจะมิเทียบเท่าบทความที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะแนวเขียนแบบโบราณจะไม่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันดั่งเช่นการสอบเอ็นทรานส์ (หากเป็นการสอบจอหงวน คงเข้ากันได้ดีเป็นปี่ขลุ่ย) คิดว่าด้วยเหตุชะนี้แล ผู้ที่เข้ามาอ่านหลายต่อหลายท่านจึ่งมิได้มีอารมณ์ร่วมไปด้วย จนพาลคิดไปว่าผู้เขียนบทความ(แลตัวเราด้วย :P)อาจมีสติมิสมประดี จึงได้เขียนบทความด้วยสำนวนแปลกประหลาดพิสดาร ยากจะเข้าใจ ยามปรกติแล้ว เมื่อใดในพันทิปที่ปรากฏกระทู้ชวนสำราญ เรามักจะตามพี่ตามน้องมาร่วมยลเพื่อลดอัตราความเครียด ครั้นเมื่อเราได้อ่านบทความตำนานสมเด็จพระนเรศวรของคุณ cybrarian ณ ที่ทำงาน แลได้ lol และ rofl ให้เป็นที่ตำหนิติเตียนของเหล่าเพื่อนร่วมงานแล้ว เรากลับไม่คิดว่าพี่แลน้องชายของเราจะได้รับความสำราญจากการอ่านบทความนี้เยี่ยงเรา เนี่องจากทั้งสองมิได้นิยมการอ่านบทความ(อันมีแต่ตัวหนังสือ) ยาวๆ แลนิยาย นิทานทั้งหลาย ต่างจากตัวเราผู้นิยมอ่านหนังสือนิยายที่ละหลายๆปึก จึ่งสามารถอ่านหาความบันเทิงจากบทความ สั้นๆ ของคุณ cybrarian ได้อย่างมิยากเย็น ...ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ หาได้มีความประสงค์จะกล่าวหาผู้อ่านที่ไม่เข้าใจบทความว่าเป็นผู้ไม่นิยมอ่านหนังสือ หากแต่ยกตัวอย่างให้ชม ว่าผู้คนที่มีความนิยมแตกต่าง ย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกัน บ้างชอบบ้างเกลียดปะปนกันไป อย่างเราผู้นิยมอ่านหนังสือนิยาย หนาแลหนักแค่ไหนก็อ่านไหว แต่เมื่อใดต้องไปอ่านหนังสือวิชาการก็มิได้เป็นสุขนัก แค่สามสี่หน้าก็ปวดเศียรเวียนเฮด โอ้..ไม่เคยคิดว่าตัวเราจะเขียนตอบกระทู้ได้ยาวถึงเพียงนี้ พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณ cybrarian จึงชอบเขียนบทความในแนวนี้ เพียงได้เขียนก็สำราญ มิอยากหยุด แต่ถ้าไม่รีบกลับไปทำงานทำการ อาจโดนเขม่น ขอลา.. คุณ cybrarian เขียนอีกนะ อย่าหยุด จากคุณ : ari - [ 7 ก.พ. 50 09:49:15 A:210.213.11.194 X: TicketID:102543 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แฟนคลับ..รออ่านอยู่นะค่ะ..สนุกดี จากคุณ : ซุ่มซ่ามแต่ไม่ซื่อบื้อ (สาวน้อยฮอลลี่) - [ 7 ก.พ. 50 10:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตื่นจากที่แล้วก็ตกใจ  ด้วยอำแดงแม่น้องก้อง คห.19 จู่ๆก็มาตั้งคำถามเชิงปรัชญาแลศาสนาอันใดกับข้าพเจ้าก็มิรู้ แต่เอาเถิดเมื่อกล้ามาถาม ข้าพเจ้าก็จักตอบเป็นวิทยาทาน เผื่อจักได้สั่งสมเป็นกุศลาอันจะนำพาไปให้ข้ามโอฆสงสารในภาคหน้า ขอโทษนะคะ -ไม่เป็นไรดอกอำแดง ลุกขึ้น มัวนั่งก้มหน้าหมอบอยู่กระไรเล่า ไม่ทราบว่าคุณกำลังต้องการบอกอะไร -บอกว่าไปดูหนังมาแล้ว แลเอามาเล่าสู่กันฟังตามประสา หรือต้องการประกาศให้โลกใบนี้ (ประเทศไทย) รับรู้เรื่องสิ่งใด -ยังมิได้ประกาศอันใดเลย หากประกาศจะออกมาเป็นทางการมีหนังสือประทับตราแน่ๆ แต่อยากจะบอกคุณไว้อย่างเดียวว่า -ว่าอันใดรึ อย่าอ้ำอึ้ง จงเผยวาจาออกมาอย่างฉาดฉานเถิด คุณจำได้หรือไม่ว่า "เมื่อคุณยังเล็กอยู่" คุณทำอะไร หรืออย่างไร คุณตอบได้หรือไม่??? -จำไม่ได้มันนานมาแล้ว ประดุจสายน้ำไหลที่จะย้อนกลับมาก็ได้แค่ระลึกถึงเป็นเรื่องอันเลือนลาง ใครที่มัวแต่ครวญหาบ่นบ้ากะอดีตจนเกินไปก็มีแต่คนบ้าเท่านั้นแล ที่ถามเพราะรู้สึกว่าคุณจะเข้าใจโลกใบนี้เป็นหนักหนา อยากถามคำถามสุดท้าย -เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็พยายามทำความเข้าใจอยู่ กล้าตอบไหม?? -ถามมาซี " คุณรู้ไหมว่า คนเราโตสุดเมื่อไหร่" -เมื่อวุฒิภาวะถึงพร้อม  กอรปด้วยปัญญาญาณรู้กาล รู้สถานที่ แล้วอำแดงรู้ว่ากระไรเล่า ขอบคุณนะคะ (หากคุณกล้าตอบ) -ไม่เป็นไร ลุกขึ้นได้มัวแต่หมอบอยู่นั่นแล จากคุณ : cybrarian - [ 7 ก.พ. 50 11:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ท่านออกญาไทรฯ มาต่อโดยไว เรานั้นยังเห็นคุณค่าแห่งงานเขียนแลสำนวนท่าน เกลือกว่ามีผู้ใดอ่านมิรู้ความ หาประโยน์จากกระทู้นี้มิได้ คงต้องปล่อยไปตามประสา ลางเนื้อชอบลางยามิใช่หรือ ข้าพเจ้ายังได้หวัว อยู่ทุกเพลาที่ท่านมิข้อวิจารณ์ เยี่ยงนี้แล้วตั้งfanclubได้ก็จะดี รออ่านอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ปล. แม่น้องก้องต้องการบอกอะไร กับท่านไทรฯข้าพเจ้าก็งงเธออยู่มิใช่น้อย จากคุณ : Manuela - [ 7 ก.พ. 50 11:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบอะ ภาษามันดีชอบๆขำดี เป็นกำลังใจให้ฮะ จากคุณ : ชอบๆ (a wut) - [ 7 ก.พ. 50 12:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 จับความที่พระเอกของเราอีกคนหนึ่งต่อดีกว่า สมมตินามตามท้องเรื่องว่าชื่อลุง ด้วยว่าคงหน้าแก่ประดุจลุง นี้กระมัง ส่วนชื่อที่ปักหน้าอกนั้นคือวรภัทร  อันพ่อวรภัทรนี้ข้าพเจ้าก็เห็นว่าเล่นดีเป็นขนาด  ด้วยลักษณะประจำตัวที่เฮฮา แต่ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายสังเกตสังกาหรือไม่ว่าพ่อคนนี้จะพูดจาอะไรแลดูมีหลักการ แลดูมีปรัชญาแฝงเจืออยู่เทียว  แต่มิได้เป็นปรัชญาอย่างอำแดงคห.19 นะ อันนั้นไม่รู้ว่าจะอยู่ในสกุลช่างไหน   อย่างฉากที่พากันไปเที่ยวทะเล ไม่รู้ว่าไปหน้ามรสุมหรือเปล่าแต่ภาพถ่ายออกมาคลื่นสูงน่ากลัวเทียว  ข้าพเจ้าก็จินตนาการไปว่าจะมีคลื่นซึนามิมาหอบเอานักแสดงเราลงไปหรือไม่ แต่ก็ไม่มี เพราะเป็นเรียลลิธิ ไม่มี ซีจี คลื่นยักษ์  แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น  อยู่ที่ว่าเพลาที่เด็กหนุ่มทั้งปวงนั้นไปเที่ยวกันเป็นหมู่คณะอย่างนี้ มักจะมีล่ะที่ต้องคุยอย่างเปิดอกเปิดใจกัน  ด้วยอยู่ในช่วงเพลาหัวเลี้ยวหัวต่อ สี่แยกห้าแยก ที่ต่างคนต้องต่างเลือกไป ลางคนเดินไปเดินมาได้ใส่เครื่องแบบยามบ้าง ลางคนเลือกเดินอีกทางหนึ่งได้เป็นนายก (สมาคมอันใดก็ว่ากันไป) พ่อวรภัทร ก็เลยตั้งกระทู้ปุจฉาหมู่เพื่อนขึ้นว่า ถ้าโตขึ้นต่างคนต่างทำงานแล้ว ก็คงยากที่จะมีโอกาสได้มานั่งสรวลเสเฮฮาเช่นฉะนี้  ด้วยต่างคนต่างมีหน้าที่ มีบทบาทที่ต่างกัน  เพื่อนลางคนก็แย้งว่าถึงจะเป็นนายกแต่ก็ไม่อายว่ามีเพื่อนเป็นยาม  ซึ่งข้าพเจ้าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงมองโลกในแง่ดี  แต่ข้าพเจ้าก็เห็นด้วยกะวรภัทรว่า  เอาเข้าจริงโตขึ้นมันก็ห่างหายกันไปด้วยหน้าที่ภาระ  ช่วงเวลาที่จะจบนี้แลเป็นช่วงที่น่าจดจำที่สุด พ่อวรภัทรนี้ หากเราแลดูอย่างพิเคราะห์จะเห็นว่า เขาเป็นผู้ที่ไม่เครียดกะการสอบเท่าไรนัก จะด้วยรู้ทันโลก หรือมองว่ามันเป็น ตถตา หรือกระไรมิทราบได้  ตอนที่เขาถามว่าอยากเรียนอะไร พ่อก็ตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วอารมณ์ขันว่า แพทย์ศาสตร์ จุฬา ด้วยท่าทีเอาสนุกเสียมากกว่าจริงจัง  ด้วยตัวนั้นก็รู้ว่ายังติด ร มผ. อยู่อีกอนันตัง   แม้ตอนที่คะแนนผลสอบออกมา พ่อก็ยังงงๆ อยู่ว่าคะแนนได้น้อยฤามากต้องโทรศัพท์ไปถามหมู่เพื่อนว่า เรานี้ได้คะแนนดีหรือไม่ดีประการใด ครั้นเพื่อนแจ้งว่าดีก็ถึงกะตบโต๊ะดีอกดีใจ เที่ยวแจ้งว่าเจอกันแน่ที่จุฬาๆ แต่ข้าพเจ้าพิจารณ์แล้วคิดว่า น่าจะเหมาะที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตวัดมหาธาตุ มากกว่า  ด้วยเขาผู้นี้แหละ ทำให้หนังเรื่องนี้มีปรัชญา คติชีวิตและความจรรโลงใจขึ้นมาตั้งกองสองกอง ด้วยฉากหนึ่งพ่อเที่ยวถามเขาไปทั่วว่าความรู้คืออะไร?? เพื่อนก็ตอบไม่ใคร่จะได้ ด้วยว่ามันลึกซึ้ง แม้แต่นักปราชญ์ราชบัณฑิตแต่ครั้งบุราณก็ยังเถียงกันหน้าดำหน้าแดง เกิดเป็นสำนักคิดฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ มี อีพิสิโมโลจี เป็นอาทิ  ดีว่ามาจบที่ครูท่านมาช่วยเอาไว้ได้ทัน จึงได้เฉลยให้หายสงกาไปได้หน่อยหนึ่ง  แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าพ่อวรภัทร คงมิได้พึงใจกะคำตอบทั้งหมดทั้งมวลที่ได้รับ หากแต่พ่อคงแสวงหาความหมาย และแสวงหาความรู้ตลอดไป อันจะเป็นเครื่องพัฒนาตนให้ก้าวหน้านั่นแล อันที่จริงชีวิตของพ่อวรภัทรนี้ก็น่าสนอยู่ไม่น้อย แต่เราผู้เป็นผู้ชมนี้ ได้รู้จักกะพ่อแต่เพียงน้อย มิได้เห็นห้องหับ การดำรงชีวิตกินอยู่หลับนอน แลบิดรมารดาท่าน เฉกเช่นหมู่เพื่อนร่วมก๊กทั้งสาม  มิรู้ว่าโต้โผหนังนี้ให้เหตุผลว่าประการใด จากคุณ : cybrarian - [ 7 ก.พ. 50 12:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถามว่าหนังเรื่องนี้ดีหรือไม่ ข้าพเจ้าตอบได้เลยว่า ดี แลเชิญชวนคนที่ยังมิได้ดูให้ไปดูกันเถิด ด้วยจะได้รำลึกถึงสมัยเมื่อยังเป็นเด็ก ยังเห็นว่าเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญของชีวิตอันดับหนึ่ง แลได้รำลึกถึงเพื่อนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันในวัยเยาว์  ที่ทุกวันนี้ล้วนหายหน้าหายตากันไปตามเส้นทางที่ตนเลือกแล้ว  นานๆทีจะได้เจอกัน แต่หากถามว่าหนังเรื่องนี้ยังมีข้อบกพร่องหรือไม่ ข้าพเจ้าก็ตอบได้ว่ามีอยู่พอให้ได้พิจารณ์กันสนุกปากสำราญใจ อย่างกรณีที่โฆษณาว่าหนังตามติดชีวิตสามร้อยวัน ถ่ายทำด้วยความยากลำบาก คนตัดต่อหนีไปบวช ช่างกล้องไปสงบจิตสงบใจ หรือทีมงานหลังเสร็จโครงการแตกกระสานซ่านเซ็นมีอันเป็นไปต่างๆนานา เหล่านี้ ข้าพเจ้าแลเห็นว่านี้ต่างหากที่น่าสนใจกว่าชีวิตเด็กเอนท์ที่ถ่ายทอดออกมาให้เห็นทั้งสี่คนนั้น ด้วยชีวิต หรือคนลักษณะแบบเดียวกะเด็ก4คนนั้น ใครที่เคยเป็นเด็ก เคยมีเพื่อน หรือเคยเอนท์ย่อมเคยเห็น เคยรู้ ลางทีคนที่เคยเห็นเคยรู้นั้นกลับมีชีวิตที่โลดโผนพิสดารเสียมากกว่าอีก หากมองกลับกัน  เอาชีวิตคนทำหนังตามติดชีวิตเด็กเอนท์ สามร้อยวันที่ว่าลำบากลำบนนั้น มาทำเป็นหนังให้ดูคงสนุกไม่น้อย ที่ว่าสติแตกนั้นจริงไหม ที่ว่าอยู่ๆถึงกะตัดผมหัวเกรียนตามเด็กนั่นจริงหรือเปล่าทำไมถึงตัด แล้วที่ว่าไปบวชนั้นเพราะอะไร  จักได้เห็นความยากลำบากลำบนของคนทำหนังที่คนข้างนอกไม่รู้ อย่างนี้พอจะสูสีกะหนังสกุลช่างสารคดีฝ่ายไทย อย่าง เด็กโต๋  เสือร้องไห้  หรือจะของฝรั่งอย่าง เพนกวิ้นจักรพรรดิ์ จำเทือกนั้น หาไม่เช่นนั้นแล้วลางทีก็อดเปรียบเทียบกะรายการสารคดี ฅนค้นฅน มิได้ ทั้งๆที่อันหนึ่งเป็นรายการสารคดีทางโทรภาพ กะอีกอันหนึ่งเป็นหนังสารคดี ไม่มีบท ไม่มีสะกริป ไม่มีสะแตนอิน ไม่มีสะลิง ซึ่งเป็นของคนละประเภทที่ใกล้เคียงกันนั่นแล จากคุณ : cybrarian - [ 7 ก.พ. 50 12:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านขำๆค่ะ อย่าคิดมาก ปล เจ้าของกระทู้เขียนได้สนุกดีค่ะ ชอบมากเลย แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 50 13:00:31 จากคุณ : "nokkayang_ZA" - [ 7 ก.พ. 50 12:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 32 "วันที่เราตาย" ไงคะ มันคือการเติบโตที่สุดแล้วของคนเราทั้งร่างกาย จิตใจ อย่าคิดว่าแค่การเรียนจบ มีงานทำ มีบัตรประชาชน หรือมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจะเป็นการโตที่สุด ย้ำค่ะ "วันที่เราตาย" ไง จากคุณ : แม่น้องก้อง (ที่เห็นและเป็นไปยังเหมือนเดิม) - [ 7 ก.พ. 50 12:55:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ชะรอยอำแดงผู้นี้มิได้รู้ศาสนาเป็นแน่เที่ยง คนเราโตสุดเมื่อไร? เมื่อตอนตาย ตอบเช่นนี้มิทราบว่าแม่เอาเหตุผลกลใดมาสมอ้างเล่า   ในเมื่อความตายเป็นอนิจลักษณะ  ลางคนตายตั้งแต่อยู่ในท้องเรียกว่าตายท้องกลม  ลางคนตายตั้งแต่เยาว์ ลางคนตายโหง ลางคนตายพราย  ยังมิทันได้ครุ่นคิด ยังมิทันได้ทำความดีไว้ประดับโลกก็ตายเสีย แล้วมันจะโตอย่างไรเล่า กระทั่งโตทางกายยังไม่มีโอกาสเช่นตายท้องกลมนี้  สำมะหาอะไรกะการโตทางความคิด  ความตายกะการโต นี่มันคนละเรื่องนะอำแดงเอ๋ย   หากแต่คนเราจะโตนั้นทางพุทธศาสนาท่านบอกว่า คือการเติบโตของจิตใจภายใน คือรู้เท่าทันกิเลส อาสวะทั้งปวงต่างหาก หากอำแดงอยากจะสำแดงปรัชญาวิชาการอันใด ก็ชอบที่จะไปศึกษาให้ลึกซึ้งเสียก่อน อย่าได้มุ่งแต่จะคาดคั้นสำแดงอวิชชาให้ขายหน้าเปิ่นเทิ่นเลย จากคุณ : cybrarian - [ 7 ก.พ. 50 13:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เถียงกันทำไมนั่น คนมีอคติ อ่ะนะ ปล่อยเค้าไปเถอะ จากคุณ : cmr - [ 7 ก.พ. 50 13:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ท่าน Cybrarian ถ้าเป็นเยี่ยงนี้แล้ว ก้อจงเถลิง แฟน ขลับ ขึ้นเถิด เกลือกว่า เจ้าพวกขาจรทั้งหลาย อาทิ พระมารดาของสหรัถ (#19) สุดที่เลิฟของพระบิดา (#21) จะได้มิต้องเข้ามาออกความคิดเห็นให้ขายหน้าแก่วงศ์พระมารดาพระบิดาของพวกมิรู้ความเหล่านั้น แลพวกข้าพเจ้าก็จะได้มิต้องมาอ่านให้รำคาญใจ ถึงคุณ แม่น้องก้อง ไปไหนมาสามวาสองศอก ผิดห้องอ๊ะเป่า ถ้าอยากถกเรื่อง ปรัชญา ความเป็น ความตาย ที่อ่านดูแล้ว ปลงๆ และ งงๆ ของคุณน่ะ ไปห้องศาสนาดีกว่ามะ น่าจะสังเกตุได้นะว่าคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของ คุณ Cybrarian น่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ติดตามผลงานอยู่แล้วอ่ะค่ะ ถ้าคุณอยากหาคำตอบให้โลกใบน้อยของคุณ ก้อควรคลิกรูปกากบาทเล็กๆมุมขวาบนของหน้าจอคุณน่ะค่ะ แล้วก้อไปสู่วันที่เติบโตสุดๆ ของคุณเถอะค่า....สาธุ จากคุณ : January_Diva - [ 7 ก.พ. 50 14:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อำแดงนั่น  เป็นไรมากมะเนี่ย  ข้อความชวนหวัวยิ่งนัก จากคุณ : nokkrajok online - [ 7 ก.พ. 50 14:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาสดุดี คูหา 35 อีกครั้ง และก็ขอลงนามไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นแฟนขลับ ท่านขุนไทรเปรียญ ด้วยเทอญ จากคุณ : nokkrajok online - [ 7 ก.พ. 50 14:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาอ่าน อีกรอบ... เกาะติดขอบจอ... สนุกนักแล.. จากคุณ : ซุ่มซ่ามแต่ไม่ซื่อบื้อ (สาวน้อยฮอลลี่) - [ 7 ก.พ. 50 14:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับ คห 35 ชอบคุณ cybrarian ติดตามผลงานมาตลอด เขียนต่อไปค่ะ จากคุณ : Camalina - [ 7 ก.พ. 50 15:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับคห.35 ติดตามท่าน cybrarian มาโดยตลอด แลจักติดตามต่อไป จากคุณ : หนูนวลป่วนเมือง - [ 7 ก.พ. 50 15:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เอาเถิดหากนางประสงค์จะพูดจาปรัชญาอันใดก็ตามแต่ มาตรว่าข้าพเจ้าตอบได้ก็จักตอบ ตอบมิได้หรือคร้านจะตอบก็นิ่งเฉยไปเสีย แลขอขอบใจทุกท่านที่ติดตามติชมกันมาโดยตลอด อนึ่งขอชื่นชมไปยังตะละแม่ความเห็น 35  ที่พูดได้ถูกใจข้าพเจ้าเป็นหนักหนา  ขอนมัสเต มา ณ ที่นี้ จากคุณ : cybrarian - [ 7 ก.พ. 50 15:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อย่าให้ถึงกระนั้นเลย ท่านออกญาฯ อันตัวข้าพเจ้านี้ก้อเป็นแค่นางข้าไท ที่คอยเฝ้าแอบอ่านจดหมายเหตุของท่าน ในยามที่ท่านเจ้าพระยาแมเนเจอ ออกไปนอกคุ้มออบฟิฐ หรือ ยามที่ท่านติดราชการงานหลวงเสียจนมิมีเวลาเรียกใช้สอยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึ่งได้มีเวลาหาความรู้ใส่ตัว โดยการแอบอ่านจดหมายเหตุว่าด้วย ละคอนในยามนี้ มีเรื่องใดที่น่าลอบไปดูยามที่ท่านเจ้าพระยาฯออกไปราชการต่างเมืองบ้าง ครั้นได้มาอ่านเจอ ไฟนอลสะก๊อยส์ ของท่าน....ข้าพเจ้าจึงจักได้ ไฟนอลช้อย ที่จะลอบไปดูเสียในคืนเดือนมืดที่จะถึงนี้ให้จงได้ จากคุณ : January_Diva - [ 7 ก.พ. 50 16:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ป่วยแน่ๆ แม่ไอ้น้องก้อง อยู่ดีก็มาถาม ว่า โตสุดเมื่อไหร่ เพื่ออะไรหรอครับ กำลังขำๆ อยู่เชียว พอมาเจอยายนี่ เซ็งเป็ดเลย จากคุณ : คนว่างๆ กับบ้านโทรมๆ - [ 7 ก.พ. 50 18:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แวะมาเยี่ยมชมเจ้าคะ นมัสเต จากคุณ : ผู้กอง - [ 7 ก.พ. 50 18:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กระทู้นี้อ่านสนุกมากเลยครับ เขียนอีกนะครับ จะตามอ่านครับ จากคุณ : หลังโรง - [ 7 ก.พ. 50 21:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตามมาอ่านเจ้าค่ะ ยังได้อรรถรสเช่นเดิมนะเจ้าคะ อ่านแล้วทำให้ ตัดสินใจว่าเห็นทีจะต้องไปดู ไฟนอลสะก๊อยส์ ให้ประจักษ์แก่ตาตนเอง ด้วยเป็นคอ เรียลลิตี้  แทบทุกชนิด ทั้งในทีวีและชีวิตจริง  กระทั่ง หมากัดกัน แมวให้นมลูก ข้าพเจ้ายังนั่งดูได้อย่างสนุกสนาน ขอคารวะน้ำใจ ท่านขุนไซเปรียญ  ในอุตสาหะสร้างความบันเทิงให้เกิดขึ้นใน พันทิพย์นครนี้ อยู่เนืองๆ จากคุณ : Ainsi - [ 8 ก.พ. 50 00:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 53 แม่นางข้าไทหมายเลข 35 เฝ้าแหนท่านออกญาเป็นนิจไม่เคยว่างเว้น (เว้นบ้างเหมือนกันแล..ยามพระยาแมเนเจอไม่รั้งเมืองออกฟิฐ) เพราะเราทั้งสองเปนข้าไทเมืองเดียวกัน ตามมาดมกลิ่นกระทง (กท.) ท่านอยู่เนืองๆ อันว่าการต่อสู้เพื่อปกป้องท่านออกญาจึ่งเห็นเปนหน้าที่สำคัญราวการรักษาผิวหน้าไม่ให้เกิดเม็ดผด แล สิวสาวกระนั้น (จริงไหมคู๊ณณณณณ) อนึ่งว่าเรื่องไฟนอลสะก๊อยส์ ที่ท่านบรรจงแต่งจดหมายเหตุวิพากษ์ไว้นี้ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ไปชมให้เห็นประจักษ์แก่คลองจักษุ จึ่งได้แต่มาเสาะหาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไปพลางก่อน ครั้นเมื่ออ่านงานของท่านออกญาแล้วเห็นว่าจักขอเงินทอนคืนจากท่านสัก 50บาทจากราคาเต็มค่าบัตรเพราละเอียดมากเสียจนข้าพเจ้าไม่ต้องจิ้นแล้ว....5555555555555 อนึ่งอีกครา   ท่านออกญามีบริวารที่ภักดีเสียฉะนี้แล้วเห็นทีต้องตั้งกระถางธูปเทียน เกลือกว่าชาวเราจักได้นำส้มสูกลูกไม้และเครื่องเซ่นอันเป็นมงคลมาบำเรอในวันตรุษนี้... วะ ฮะฮ่า...ๆๆๆๆ จากคุณ : Manuela - [ 8 ก.พ. 50 11:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตะละแม่ Manuela ข้าพเจ้ามิใช่ตี่จู่เอียะ นา จากคุณ : cybrarian - [ 8 ก.พ. 50 11:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 "ค่าที่โฆษณาว่าภาพยนต์ไม่มีบทไม่มีสะกริป ตีแผ่ชีวิตจริงอะไรเทือกนี้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า จะเป็นประดุจหนังสกุลช่าง วัลลี เด็กหญิงยอดกตัญญูต้องวิ่งเท้าเปล่าจากโรงเรียนหลายร้อยลี้เพื่อไปเลี้ยงดูมารดาพิการน่าเวทนา..." นี่เป็นกระทู้เช็คอายุได้เลย ท่านขุนไซ พูดถึงเด็กหญิงวัลลี เด็กที่ดูหนัง Final Score จะรู้จักกันไหมเนี่ย จากคุณ : ภคิน - [ 8 ก.พ. 50 14:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณภคินพูดน่าคิด : "ค่าที่โฆษณาว่าภาพยนต์ไม่มีบทไม่มีสะกริป ตีแผ่ชีวิตจริงอะไรเทือกนี้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า จะเป็นประดุจหนังสกุลช่าง วัลลี เด็กหญิงยอดกตัญญูต้องวิ่งเท้าเปล่าจากโรงเรียนหลายร้อยลี้เพื่อไปเลี้ยงดูมารดาพิการน่าเวทนา..." นี่เป็นกระทู้เช็คอายุได้เลย ตายละวา อิฉันก็เคยดูหนูวัลลีเหมียนกัลนิ ....เผ่นดีฝ่า จากคุณ : Manuela - [ 8 ก.พ. 50 15:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ท่านออกญาไทรเปรียญก็กระไรเลย มาจำนรรจาอยู่ ณ ที่นี้เสียแต่เมื่อใด อิฉันมิได้ทราบความมาก่อนเลย มาพบเอาเสียเมื่อเกือบสาย (มิใช่เพลานะเจ้าคะ ปั้ดโธ่!!) อิฉันอ่านสำนวนวาจาท่านเมื่อใดก็ยิ้มเยื้อนไปพลาง ราวกับจะออกไปทางวิปลาสแล้วนะเจ้าคะ ฮ่ะ ๆๆๆ (อุ๊บ!! เกือบเสียกิริยาแม่หญิงแล้วนั่น ขอตัวเอาฉากก่อนดีกว่า ฮา ..ฮา) จากคุณ : นกยูง - [ 8 ก.พ. 50 15:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามานมัสเตท่านออกญาไซเปรียญของเหล่าแฟนานุแฟน อิฉันปลาบปลื้มกับจดหมายเหตุของท่านออกญาฯ มานาน แต่มิได้แสดงตัวแต่ประการใด อ่านมาหลายเพลาจึ่งคิดว่า น่าจะกล่าวนมัสเตท่านเสียที ด้วยว่าออกญาฯนี้ มีฝีมือด้านอักษรน่าชมนัก จักขอติดตามผลงานของท่านสืบต่อไปก็แล้วกัน ปัจฉิมลิขิต ขอคารวะน้ำใจของท่าน ที่มิถือสาอันใดกับอำแดงน้อยด้านบน จากคุณ : fingers-crossed - [ 8 ก.พ. 50 15:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 59 นมัสเต ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย เรื่องวัลลี แลสมปรารถนานั้นข้าพเจ้าเพ่อจะได้ดูจากช่อง UBC อันเขาเอามาฉายใหม่ช่วงหนังไทยสมัยก่อน มิใช่ว่าข้าพเจ้านี้เกิดทันดูในโรงมหรสพแต่อย่างไร  อนึ่งหากจะว่าไปแล้วไซร้ เพ่อจะสลัดชุดนักเรียนเมื่อมิช้านานนี้แล โปรดอย่าเช็คอายุกันให้ยุ่งขิงเลย จากคุณ : cybrarian - [ 8 ก.พ. 50 17:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ข้าพเจ้าไม่เชื่อเด็ดขาด... "เพ่อจะสลัดชุดนักเรียนเมื่อมิช้านานนี้แล" ------->>> ไม่นานของท่านกี่ทษวรรษหรือเจ้าคะ?... อิอิ....อ่ะล้อเล่นนา จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 9 ก.พ. 50 00:28:23 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จากกระทู้ 26.... ตามที่ท่าน Cybrarian ว่าไว้ข้างต้นแหล่ะค่ะ ว่าเป็น "วิทยาทาน" อันดีเลิศเสียจริง ข้าพเจ้าเป็นผู้น้อย ที่เข้ามาอ่านสำนวนท่านอยู่หลายคราแล้ว แต่มาคราวนี้ ท่านได้สำแดงความอันน่ายกย่องให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ในสติปัญญาของท่านจริงๆ โดยธรรมดาสามัญของข้าพเจ้า...หากต้องประสบพบเจอกับผู้มีความคิดเป็นปรปักษ์...แสดงความเห็นเป็นเชิงหมิ่นหยามข้าพเจ้าโดยตรงเช่นนี้ ข้าพเจ้าคงได้แต่วิตกจริต เดือดเนื้อร้อนใจไปตามกระแสวาจาของผู้คิดการอกุศล ด้วยความที่ด้อยประสบการณ์ ทั้งยังเป็นผู้มองโลกแต่แง่ดี คิดเอาฝ่ายเดียวว่า "เมื่อเราไม่มีเจตนาประสงค์ร้ายต่อผู้อื่น...ผู้อื่นก็คงไม่ประสงค์ร้ายต่อตัวเรา" ด้วยอุปนิสัยเช่นนี้ ทำให้ข้าพเจ้าอ่อนด้อยต่อเล่ห์เหลี่ยมทั้งหลายทั้งปวงของคนในสังคน เมื่อพ้นจากโลกแห่งการศึกษาที่ยังพอมีน้ำใจอันดีหยิบยื่นให้แก่กัน ได้ออกมาเผชิญโลกที่กว้างกว่าเดิม ผู้คนมากมายแต่หาความจริงใจมิได้ อย่าว่าแต่น้ำใจเลย เพียงแค่น้ำคำที่เอ่ยเอื้อนออกมาก็เฉือนเฉือนใจให้หดหู่อาดูรเหลือแสน การได้มาดื่มด่ำกับสำนวนไทยแท้แต่ทันสมัยของท่าน Cybrarian ทำให้จิตใจอันเศร้าหมองของข้าพเจ้าได้ผ่อนคลายลงเป็นอันมาก และยิ่งได้เห็นท่านตอบปุจฉาของ "อำแดงแม่น้องก้อง" อย่างแยบคาบแล้ว พลอยทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นสัจธรรมไปด้วย ในข้อที่ว่า คำพูดเปรียบเหมือนอาวุธ สุดแท้แต่จะใช้ในทางไหน หากท่านCybrarian เป็นผู้ขลาดเขลาทางสติปัญญา ปล่อยให้โมหะเข้าครอบงำ ท่านคงด่าทอผู้ที่หมิ่นหยามท่านให้สาสมโทษาวาจา เรื่องราวคงมิยุติได้โดยง่าย แต่ด้วยท่าน Cybrarian เป็นผู้มีสติ ทั้งยังกอปรไปด้วยปัญญา จึงพลิกแพลงวิสัชนาอันชวนสนเทห์นั้นได้ง่ายดายยิ่งนัก ท่านตอบได้ตรงในทุกคำถาม ทั้งยังหยอกแกมหยิก ไปถึงผู้ถาม โดยเปรียบนางดั่งคนโฉดเขลา มาเข้าเฝ้าเพื่อถามปุจฉากับพระผู้มีบุญ ข้าพเจ้าอ่านแล้วก็ให้อัศจรรย์ใจยิ่งนัก ด้วยคิดว่ากระทู้นี้คงไม่พ้นสงครามน้ำลายเป็นแน่แท้ แต่ท่านกลับเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องขำขันเสียได้ ทำให้ข้าพเจ้าพลอยได้เกล็ดวิชาอันจะมีประโยชน์เมื่อต้องใช้ในการตอบข้อสนทนาอันก้ำกึ่ง ระหว่างคำถามเนื่องด้วยไม่รู้โดยแท้ กับถามโดยมีเจตนาอื่นแอบแฝง เช่น การถามลองภูมิปัญญาของผู้ตอบ เพื่อใช้เป็นโอกาสในการเยาะเย้ยถากถางให้คนตอบเจ็บช้ำน้ำใจ เป็นต้น ด้วยเหตุฉะนี้แล ข้าพเจ้าจึงได้สรรเสริญท่านยิ่งนัก และหวังเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะได้สำแดงยุทธวิชา อันนำมาซึ่งความรู้และความสำราญแก่ผู้อ่านต่อๆไป หมายเหตุ หากข้อความนี้ยืดยาวจนจับใจความมิได้ หรือสำนวนที่เขียนมามิต้องตามอักขระภาษาของไทย ก็ขอได้โปรดอภัยให้แก่ข้าน้อยผู้อ่อนด้อยความชำนาญด้วยนะเจ้าคะ จากคุณ : A-Kii-Rah - [ 10 ก.พ. 50 04:04:32 A:124.157.160.17 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนแรกมิได้คิดอยากจะไปดูหนังสก๊อยส์เรื่องนี้สักกี่มากน้อย  เนื่องด้วยพอเดาออกว่าจะได้เห็นอะไร เฉกเช่นที่ท่านไซวิพากษ์วิจารณ์ไว้โดยเฉพาะเรื่องความคิดอ่านและการแสดงออกของเด็กยุคนี้  ซึ่งคิดว่าเป็นมุมมองที่ทั้งพ่อแม่และวัยรุ่นที่เข้าไปดูคงไม่ได้สะดุดใจสักกี่มากน้อย เหตุเพราะชาชินในพฤติกรรมร่วมสมัย   แต่ครั้นมานึกอีกครา  ก็ไม่เลวนักที่จะไปเรียนรู้ความคิดอ่านอนาคตของชาติรุ่นนี้  ว่ามีอะไรผิดแผกแตกแยกไปจากยุครหัส 17 ไปบ้าง  เอาเถิดท่านผู้เจริญ คงจะใผ่หาพลังใจให้ฮึกเหิมพอไปดูได้สักวันแหละน่า May the force be with me... แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 50 14:38:59 จากคุณ : Bkkbear - [ 10 ก.พ. 50 14:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ฝีมือไม่ตกเลยจ้ะคุณจขกท. ตามมากรี๊ดๆๆๆๆ หุหุ จากคุณ : ssszzz - [ 11 ก.พ. 50 16:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาให้กำลังใจครับ.. เขียนต่อไปเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : นมสด (ไม่เห็นนมสดไม่ใส่น้ำตาล) - [ 12 ก.พ. 50 12:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อุเหม่!  อิชั้นตกหล่นกระทู้นี้ไปได้อย่างไรหว่า? เรื่องนี้นั้น  อิชั้นชอบมากทีเดียว ดูตั้ง 2 รอบนะเออ...เอาสิ! จนตัดสินใจจะขอเปนแม่ยก  แก่  น้องเปอร์ แล คุณแม่ฯ อันเนื่องด้วยน้องเปอร์  แม้เธอจะดูพูดพล่ามกับคุณแม่ แต่....พูดเพราะ เรียกตัวเองว่าลูกทุกคำ  ฟังดูไม่ก้าวร้าว แลเปนเด็กมีสติปัญญาทีเดียว ส่วนคุณแม่เปอร์นั้น  อิชั้น  นิยมนักว่าเปนแม่ผู้ใจเย็น แลชาญฉลาด  มีสติ  ควบคุมอารมณ์ได้ดีเปนที่ยิ่ง ถึงแม้จะจู้จี้ขี้บ่น  แต่นั่น ก้อด้วยต้องรักษาคอนเซ็บป์ "แม่" เอาไว้เป็นมั่นคง จากคุณ : แม่ปลื้ม - [ 15 ก.พ. 50 14:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขออีกนิด ติดใจอิชั้นที่สุด  เพราะดูสองที .... ก้อหัวร่อน้ำหมากกระจายทั้งสองหน กะมุขคนโบราญ  ระหว่างแม่กะลูก ชอบจริง ๆ อะ  ทองเหม็น กะ ทองดี 555555555555 จากคุณ : ยายเมี้ยน (แม่ปลื้ม) - [ 15 ก.พ. 50 14:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 รอบสุดท้ายนะทั่น ขอสารภาพว่าเพ่อรู้จัดอ้าย my blog วันนี้แหละ เพราะอยากรู้ว่ามันคืออะไร ? เลยคลิกเข้าไปที่ my blog ของทั่น สว่างวาบบ บ ...เลยทีเดียว  เออ หนอ..เรานี้ช่างงมโข่งเสียจริง หลงคิดถึงทั่นอยู่หลายเพลา  โดยมิรู้ว่าจะตามไปเฝ้าแหได้ที่หนใด ครานี้  อิชั้นก้อมีที่สิงสถิต  หวังว่าคงไม่ว่ากัน ที่จะป้วนเปี้ยนอยู่ที่นั่น  เพลาว่าง.....อาหึ  อาหึ (ยืมมาจากทั่นระนาดแก้ว) จากคุณ : ยายเมี้ยน (แม่ปลื้ม) - [ 15 ก.พ. 50 15:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 68 รอบพิเศษ การอ่านกระทู้ทั่นไซเปรียญ ก็คล้าย ๆ การเสพศิลปะ  นั้นแล......... ต้องค่อย ๆ เสพ ประหนึ่ง ชอกโกแลต ละเลียดอ้อยอิ่ง อยู่บนลิ้น รอบแรกทั่นอาจไม่ค่อยรู้เรื่อง (เหมือนอิชั้นช่วงแรกแหละ) แต่ค่อย ๆ เสพเถิด  ทั่นจักได้ความบันเทิงเปนที่ยิ่ง ด้วยความปราถนาดี จากคุณ : ยายเมี้ยน (แม่ปลื้ม) - [ 15 ก.พ. 50 15:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดีใจที่ยายเมี้ยบังเกิดพุทธิปัญญาดวงตาสว่างเห็นธรรมแล้ว เชิญแวะเข้าบล๊อกข้าพเจ้าตามสะดวกดายเถิด จากคุณ : cybrarian - [ 15 ก.พ. 50 19:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ตามมาจากลิงก์ในบลอกแกงของท่านออกญาฯ เช่นกัน เนื่องด้วยข้าพเจ้าภาระกิจยุ่งขิงมากมาย มิได้เข้ามายังเรือนเฉลิมไทยเป็นเพลาหลายวัน จึ่งตกหล่นสาสน์ของท่านออกญาไซฯ ไป พอดีได้เข้าไปทัศนาบลอกท่านจึงเห็นสาสน์นี้เข้า ยังสำบัดสำนวนเฮฮาเปนที่สำราญเช่นเดิมนะท่าน ข้าพเจ้าได้ชมมหรสพนี้มาแล้ว แต่ได้อ่าน คำวิพากษ์ของท่านก็ดุจดั่งได้ชมใหม่ในแง่มุมที่แปลกไป ขอคารวะหนึ่งจอก ปัจฉิมลิขิต ขออีกหนึ่งจอกเพื่อคารวะในความใจเย็นของท่านออกญาฯ ที่มิได้คิดเจรจาตอบแทน อำแดงท่านนั้นไปด้วยวาจาขุ่นข้อง แม้นเปนตัวข้าพเจ้าเองแล้ว คงมิอาจสงบใจได้เท่านี้เปนแน่ จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล - [ 16 ก.พ. 50 15:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เราขอทำนายว่า...ออกญามีชื่อผู้นี้ ในภายภาคหน้า เหนทีจักได้เปนนักประพันธ์กับเขาเสียเปนแม่นมั่น ด้วยคารมคมหอกลีลาการหยอกเอินนั้นร้ายนักเทียว จากคุณ : ระนาดแก้ว - [ 16 ก.พ. 50 19:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 72 โอ้วๆๆ  ท่านไทรเจอเกรียนซะแล้ว...ชื่นชมจริงๆเลย  อายุก็ไม่มากมายแต่วุฒิภาวะสูงส่งแท้   จะติดตามต่อไปนะคะท่าน.... จากคุณ : ทะลเรียบถึงมีคลื่นเล็กน้อย - [ 17 ก.พ. 50 21:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ชักงง "ตายท้องกลม" หรือ "ตายทั้งกลม" ขอท่าน จขกท. ตรวจสอบ ด้วยว่าข้าฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง "ท้องกลม" ระดับนั่งรถเมล์มีคนลุกให้นั่งด้วยนึกว่าเป็นสตรีมีครรภ์ อย่างไรก็ตาม จขกท. เขียนสนุกมาก ชอบๆ จากคุณ : ิbabynoke - [ 23 ก.พ. 50 00:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ชอบสปอยที่พระนเรศวรมากกว่า เคยคิดว่า -จขกท- สปอยเรื่องอื่นก็น่าจะเป็นภาษาแบบเรื่องนั้นๆน่าจะอินกว่า ที่สำคัญ คนดูคนละกลุ่มจึงไม่แปลกที่จะมีคนไม่เข้าใจภาษา ขอติดตามที่พระนเรศวรนะ เรื่องอื่นอย่าเลย จากคุณ : ติดตามชม - [ 23 ก.พ. 50 15:08:55 A:58.136.80.30 X: TicketID:118794 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ท่านออกญาไทรเจ้าขา        รักษาเอกลักษณ์ของท่านไว้นะเจ้าคะ สิ่งที่เด็ดที่สุดของท่านคือ การใช้ภาษาโบราณชวนหวัว เจ้าค่ะ อย่างน้อยท่านก็มีแฟนคลับที่ชอบแนวนี้นะเจ้าคะ อย่าเปลี่ยนแนวเลยนะเจ้าคะ นะ นะ นะ เมี้ยว เมี้ยว จากคุณ : ปลาดาวเร้าใจ (pladown) - [ 23 ก.พ. 50 18:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถึงอย่างไรก็จะขอติดตามอ่านกระทู้ของท่านไป ขอท่านโปรดรักษาอัตลักษณ์แห่งท่านไว้ด้วยเทอญ จากคุณ : Chiyuri - [ 23 ก.พ. 50 21:38:24 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ถึง จขกท คห29 'ส่วนชื่อที่ปักหน้าอกนั้นคือวรภัทร'   เด็กโรงเรียนนี้ไม่มีชื่อปักไว้ที่หน้าอกนะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 50 23:48:30 จากคุณ : Cat's tail - [ 23 ก.พ. 50 23:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โหย ตกข่าว ท่านไซมาสะปอยไฟนอลด้วย เพิ่งเห็น เพิ่งเห็น อะโหย ขอบคุณ คคห 35 จริงๆค่ะ แฟนขรับเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : นางเงือกน้อย ตบบนตบล่าง - [ 24 ก.พ. 50 01:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ก๊ากกกกกก อันนี้อย่างฮา   ตกข่าวเหมือนกันค่ะ ดีที่ได้ตามลิงค์คุณยายเมี้ยนแม่ปลื้มมาอะ จากคุณ : แก๊ซซ่า - [ 24 ก.พ. 50 12:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผมว่า อ่านกระทู้นี้แล้ว ก็ได้เจอสะก๊อยส์ เข้าจริงๆแล้วแหล่ะ ก็ "แม่น้องก้อง" ไง วันหลังคงต้องให้ไปซื้อ ปี่กะขลุ่ย ก่อนเข้าห้องนี้ จะได้มาแบบมีปี่มีขลุ่ย  จะได้ไ่ม่งงกันถ้วนหน้า จากคุณ : t@ - [ 24 ก.พ. 50 13:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เป็นแฟนคลับท่า่นจขกท. ด้วยคนครับ  : ) ----------------------------------- ปล. 1.บางคห.คงไม่รู้จักสำนวนเก่าๆ 2.งงกับคุณแม่น้องก้องเหมือนกันแฮะ ^^   ไม่แจ้งที่มาที่ไปของความคิด จู่ๆ ก็ถามไม่มีปี่มีขลุ่ย แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 19:25:36 จากคุณ : ปล่อย - [ 24 ก.พ. 50 19:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ความจริงเมื่อแรกเห็นกระทู้  สะปอยละเอียดยิบ  นเรศวรภาคแรก  ผมเข้าไปอ่านได้ความเห็นเดียวก็ไม่เข้าใจกดปิดไปเพราะปวดหัวอ่านไม่รู้เรื่อง  ด้วยว่าภาษาของผมนั้นไม่แตกฉานได้แต่บ่นรำพึงกับตัวเองว่าไอ้นี่มันเขียนอะไรของมันวะ แต่พออ่านท่านไทรฯ ชวนไปดูโขนลิเก  ก็ได้ติดตามอ่านผลงานท่านทุกกระทู้  (ขอบคุณ คุณระนาดแก้วที่ช่วยทำลิงค์ให้ครับ)  ตอนนี้กระผมติดงอมแงมเลยครับ  ตามอ่านตลอด    คนที่อ่านแล้วไม่เข้าใจก็ช่างเขาเถิด  ภายภาคหน้าปัญญาอาจแจ้ง  และติดตามเหมือนผมก็ได้ จากคุณ : No.06 - [ 25 ก.พ. 50 11:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาติดๆๆ  ฮาก๊ากก จากคุณ : นางสาวชอลลี่ - [ 27 ก.พ. 50 16:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กลับมาขำอีกที  กับ#26   555555....... จากคุณ : ทะลเรียบถึงมีคลื่นเล็กน้อย - [ 27 ก.พ. 50 22:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 85 555+ เพิ่งเคยติดตามอ่านครับ ตามมาจากกระทู้ของไตรภาคสมเด็จฯ อ่านแล้วได้ใจความจับใจเป็นที่ยิ่ง (มั่วจัง ชั้น) ไว้จะคอยติดตามอ่านกระทู้ครับ จากคุณ : มาม่าไข่มะตูม - [ 2 มี.ค. 50 15:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีเจ้า พี่ท่านcybrarian อันตัวข้าเจ้านี้เห็นด้วยเปนนักหนากับความคิดเห็นที่ 61 ผู้เปนเจ้าของนามอันเก๋ไก๋ว่า A-Kii-Rah คำเจรจาของท่านผู้นี้ดั่งกระจกสะท้อนความคิดอันฝังอยู่ในจิตของข้าเจ้าเป็นยิ่ง ตั้งแต่เริ่มต้นด้วยวัฏจักรชีวิตของผู้คนในสังคมที่จิตใจล้วนแต่เข้าใกล้ยุคมืดดั่งปรากฎในพุทธกาลทุกทีๆ ข้าเจ้านี้แลชื่นชมในไหวพริบปัญญาญาณของพี่ท่านเหลือคณาเกินกว่าจะสลักบรรยายเป็นตัวอักษร แลจะจดจำไว้เปนแบบอย่างที่ดีของผู้มีปัญญาที่แท้นั้นเปนเยี่ยงใด การโต้ตอบของท่านที่มีต่อแม่นางผู้ทึกทักว่าตนเปนผู้รู้ยิ่ง ทำให้ข้าเจ้าอัศจรรย์ใจแลหรรษาในความฉกาจทางศิลป์อักษรของพี่ท่าน อนึ่งหากพลิกเหลี่ยมมุมทางความความคิดอีกด้าน ข้าเจ้าเห็นว่า บางที แม่นางผู้นี้อาจมิได้ตั้งใจจะทำประหนึ่งลองภูมิ หากแม้นนางอาจเปนหนึ่งในผู้สมัครรักใคร่ฝีมือเรียงร้อยถ้อยจำนรรจาของท่าน จึงหมายใจจะเปิดประเด็นถกกับท่านผู้รู้เยี่ยงท่านอาจเป็นได้ เพียงแต่อักษรนั้นก็คืออักษรหาได้สะท้อนความรู้สึกอันเที่ยงแท้ 100 % กรณีความเข้าใจผิดอันเกิดจากการสื่อสารนั้นมีมากหลาย แต่อย่างไรเสีย...ข้าเจ้าก็ได้แต่พยายามตรองเป็นสองด้านแลพยายามมองในแง่ดีเข้าไว้ แม้นว่าความจริงแท้จะเป็นเช่นใด ตัวข้าเจ้าก็นับถือในหนทางที่พี่ท่านได้ตอบโต้กับแม่นางผู้นี้ด้วยจิตคารวะ ขอขอบคุณพี่ท่านที่ได้เปิดทางให้ข้าเจ้าได้ฝึกฝนการใช้ภาษา หากแม้นมิถูกต้องตามอักขระประการใดจักต้องขออภัย แลจะฝึกฝนให้คุ้นชินมากขึ้น จากคุณ : อภิญญาณ์ - [ 3 มี.ค. 50 19:45:50 A:210.86.142.37 X: ]