CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ ดูแล้วมาคุยกัน ... Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough +++

      ชอบมาก ห้ามพลาด (4 คน)
      ชอบ (3 คน)
      เฉยๆ (7 คน)
      ไม่ชอบ (5 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 19 คน

     21.05%
     15.79%
     36.84%
     26.32%
     0.00%


    ... เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นอื่นๆ และ ชวนเพื่อนๆมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=02-2007&date=09&group=1&blog=1

    ชื่อ อาดาจิ มิซึรุ อาจทำให้หลายคนเกาหัวแกรกๆไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ถ้าบอกไปว่าเขาคือเจ้าของผลงานการ์ตูน Touch ที่วิบูลย์กิจออกมาเล่มเดียวแล้วเบี้ยวเก็บไปดองต่อในขวดyuck หรือการ์ตูนว่ายน้ำที่ได้ยินมาว่าละครทีวีไทยเอาไปดัดแปลงแบบไม่แน่ใจว่าให้เครดิตหรือไม่อย่าง Rough ยังมีเรื่องอื่นๆอีกอย่าง H2 , พริกขี้หนูสีรุ้ง , พรอลวนคนอลเวง หรือ ล่าสุดที่ออกเป็นรวมเล่มคือ Katsu ฯลฯ

    เมื่อเห็นหลายชื่อเหล่านี้แล้วหลายๆคนคงเริ่มหยุดเกาหัว

    แต่อีกหลายๆคนก็อาจจะยังคงเกาหัวแกรกๆต่อไป เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อนและไม่รู้ว่า นักเขียนคนนี้มีอะไรดี

    ถ้าจะมีคำชื่นชมที่ผมจะมอบให้ อ.อาดาจิ ผมคิดถึงเขาในฐานะ ผู้รังสรรค์งานเกี่ยวกับ ความรักและความฝันของวัยรุ่นได้จี๊ดอย่างสม่ำเสมอมากที่สุด

    งานของอาดาจิ มิซึรุ ไม่ได้มีดี ที่ พล็อต เพราะจะว่าไป เนื้อหาในการ์ตูนของเขาก็ซ้ำๆกับที่เราเคยอ่านเจอในนิยายหรือในการ์ตูนหลายต่อหลายเรื่อง จนเรียกได้ว่า พล็อต ออกจะบ้านๆเสียด้วยซ้ำ ครั้นจะดูที่ลายเส้นนั้นก็เรียบง่าย ไม่โชว์เหนือ ไม่โชว์ลีลาพู่กันให้มากความ แถมคนที่ไม่คุ้นกับอ.อาดาจิ อาจมองว่าเป็นความมักง่าย เมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าพระเอกกับนางเอกในการ์ตูนของเขาทุกเรื่อง อ.แกยังวาดหน้าเหมือนกันอีกต่างหาก เรียกได้ว่า ถ้าพลิกๆอ่านเพียงผิวเผิน การ์ตูนของอ.อาดาจิก็อาจจะเป็นแค่ การ์ตูนธรรมดาๆดาษๆเรื่องหนึ่งที่ไม่มีจุดเด่นน่าสนใจ

    นั่นคือความผิดพลาดสำหรับคนเริ่มต้นอ่านงานของอ.อาดาจิ เพราะงานของเขาไม่เหมาะกับเปิดอ่านสองสามหน้าระหว่างรอแฟนหน้าร้านการ์ตูน มิเช่นนั้น คนอ่านจะไม่สามารถซึมซับ ของดี ที่ทำให้งานของอ.อาดาจิเป็นที่นิยม

    แล้วอะไรทำให้งานของอ.อาดาจิ จึงครองใจผู้อ่านมาอย่างเหนียวแน่น รวมทั้งผมที่เป็นแฟนเหนียวหนึบของเขา ผมตอบได้ทันทีว่า สิ่งนั้นคือ

    เสน่ห์ของการเล่าเรื่อง และ อารมณ์จากงานของอาดาจิ

    พล็อตซ้ำๆ เนื้อหาเดาทางได้ แต่ อ.อาดาจิ เป็นนักเขียนที่รู้จังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้เราสามารถลุ้นไปกับตัวละคร แอบยิ้มไปกับตัวละคร สุขใจไปกับตัวละคร ฯลฯ อินไปกับเรื่องราวในหนังสือ นอกจากนี้ การกำหนดจัดวาง ความจี๊ด ได้อย่างถูกที่ถูกทางมีอยู่เสมอในทุกๆเล่ม ที่เราอ่านไปต้องรู้สึกว่า ฉากนี้มัน “โดน” เป็นอย่างยิ่ง และ อย่าแปลกใจหากจะเห็นคนอ่านการ์ตูนของเขานั่งยิ้มไปน้ำตาซึมไปเหมือนคนบ้า

    ดังนั้นถ้าจะทำหนังซักเรื่องจากการ์ตูนอาดาจิ แต่ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ หนังเรื่องนั้นเตรียมตัวขึ้นเขียงรอรับคำบ่นเบื่อจากคนดูได้เลย เพราะอย่างที่บอกไว้ว่า งานของอาดาจิ ด้วยเนื้อหาเน้นๆแล้ว เรียบง่าย ไม่มีความซับซ้อน ไม่ได้ขมวดปมเข้มข้น ขาดจุดเร่งเร้าหรือจุดบีบคั้นอารมณ์

    ...ในบรรดางานทั้งหลายของอ.อาดาจิ งานที่ผมชอบมากที่สุดคือ Rough และ มิยูกิ รองลงมาคือ H2 ผมเองเป็นหนึ่งในแฟนๆที่เฝ้าฝันอยากดูหนังจากงานของอ.อาดาจิ เช่นเดียวกับ ฝันอยากเห็น 20th century boy หรือ Monster ถูกสร้างขึ้นมา

    ไม่น่าเชื่อว่า ปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ ฝันของผมจะเป็นจริงสามเรื่องรวด เริ่มต้นจาก H2 ที่ดัดแปลงมาเป็นหนังซีรี่ส์ , Touch เป็นหนังลงโรง(ในญี่ปุ่นแต่เป็นแผ่นผีในไทย) และล่าสุด Rough

    Rough กับ ความหมายที่ครูในหนังสือ และ เจ้าของหอพักในหนัง สื่อไปในทางเดียวกัน นั่นคือ ภาพร่างที่ยังหยาบๆและไม่ชัดเจน สะท้อนถึงชีวิตของเด็กหนุ่มสาวที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น คาแรกเตอร์ตลอดกาลของอ.อาดาจิ เป็นวัยที่เรียกกันว่าเข้าสู่ช่วงการแสวงหา อัตลักษณ์

    นั่นทำให้พวกเขายังคงไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ คิดไม่ตกว่าตัวเองชอบอะไร อยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร และ จะตัดสินใจทำอะไรต่อไปในวันรุ่งขึ้น

    ภาพร่างที่ไม่ชัดของสองตัวละครเอกในเรื่อง คือ

    ยามาโตะ เคย์สุเกะ ที่ฝึกว่ายน้ำสม่ำเสมอ แต่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าการว่ายน้ำของเขามีเป้าหมายคืออะไร เขาว่ายไปเรื่อยๆอย่างขาดความมุ่งมั่น จนกระทั่งวันที่เขาแพ้คู่แข่งไปไม่ทันช่วยคนที่เขารัก จนกระทั่งวันที่เพื่อนมาเตือนสติ

    นิโนมิยะ อามิ เลือกไม่ถูกว่าจะรักใครระหว่างพี่ชายแสนดีในอุดมคติ หรือ เพื่อนร่วมชั้นเรียนคู่อาฆาตของตระกูลคู่แข่ง

    … เวลาและประสบการณ์คือยาดีที่จะบ่มให้ตัวละครของอ.อาดาจิได้เรียนรู้ ค้นหาความรู้สึกภายใน และ ค้นพบตัวเองในที่สุด เช่นเดียวกับ อามิ และ เคย์สุเกะ ที่สุดท้ายทั้งคู่ก็เลือกได้ว่า ภาพร่าง(rough)ที่เขียนไว้ในใจเป็นรูปอะไร และ เป็นรูปของใคร

    ...สังเกตว่า ถ้าเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับกีฬา เช่น Touch / Rough / H2 / Katsu ธีมหลักของอ.อาดาจิจะวนเวียนอยู่กับสามประเด็นสำคัญนั่นคือ ความฝัน มิตรภาพ ความรัก

    ความฝันใน Touch คือการพามินามิและน้องฝาแฝดไปสู่โคชิเอ็ง

    ความฝันใน H2 คือ การเอาชนะการแข่งขันคว้าแชมป์โคชิเอ็ง

    ความฝันใน Rough คือ การเอาชนะตัวเองและเอาชนะนาคานิชิในการแข่งว่ายน้ำระดับชาติ

    กว่าจะไปถึงฝั่งฝันตัวละครเหล่านั้นก็ต้องผ่านอุปสรรคที่เข้ามาทดสอบและมี มิตรภาพ จากเพื่อนร่วมก๊วน หรือ คู่หู มาคอยให้ข้อคิดอยู่ตลอด ที่โดดเด่นและผมชอบเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็น โนดะ จาก H2

    และแน่นอนทุกเรื่องราวต้องมี ความรัก

    ทัตสึยะ ใน Touch ต้องสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็น นั่นคือ ภาพร่างอันสมบูรณ์แบบของน้องชาย

    ฮิโร่ ใน H2 ต้องเลือกระหว่างอดีตของตนกับฮิคารุที่ไม่อาจหวนกลับมา หรือ ปัจจุบันกับคนที่รักเขาเต็มหัวใจอย่างฮารุกะ

    ยามาโตะ เคย์สุเกะ ใน Rough ต้องต่อสู้กับตัวเองเพื่อหาความรู้สึกที่แท้จริงและเอาชนะนาคานิชิ พี่ชายแสนดีของอามิ

    แล้วมิตรภาพ ความฝัน ความรักของผมก็เป็นจริงกับการได้เห็นการ์ตูนของอ.อาดาจิเป็นหนังคนแสดง เริ่มต้นที่ H2

    H2 … ความยาวของการ์ตูนชุดนี้ที่น่าจะยาวมากที่สุดของอ.อาดาจิ ถูกนำมาสร้างเป็นซีรี่ส์ดีวีดี 6 แผ่น ซึ่งก็ดูเหมือนผู้สร้างพยายามจะเก็บรายละเอียดให้ครบได้มากที่สุด เวอร์ชั่นซีรี่ส์ของ H2 มีจุดเด่นตรงสามารถนำคาแรกเตอร์ตัวละครจากการ์ตูนมาใส่ตัวคนได้ใกล้เคียงมาก ฮิโร่ อาจไม่เหมือนตรงรูปลักษณ์ภายนอก แต่ดูๆไปเราจะพบว่าคาแรกเตอร์ที่เขาแสดงออกนั้น ใช่เลย สไตล์พระเอกของอ.อาดาจิ เอ๋อ ป้ำเป๋อ แต่บทเอาจริงก็มุ่งมั่น ฮิเดโอะก็เหมือนในการ์ตูนอยู่มาก ส่วน ฮารุกะนั้นน่ารักกว่าในการ์ตูน ก่อนจะผิดหวังไปกับฮิคาริ

    ต่อมาไม่นาน ผมก็พบว่า Touch มีแผ่นออกมาวางขาย

    Touch … ทำผมเสียเส้นไปกับพระเอกในเรื่องที่ดูก๋องแก๋งและส่วนเอาจริงของพระเอกก็ดูเหยาะแหยะไม่มีแววมุ่งมั่นเหมือนในการ์ตูน ยังดีที่ สิ่งที่เวอร์ชั่นนี้ขาดหายไปคือ หลายฉากเหมือนถอดสตอรี่บอร์ดมาจากการ์ตูน ชนิดเคารพต้นฉบับเส้นต่อเส้นช็อตต่อช็อ แต่สิ่งเดียวที่ไม่ได้เกี่ยวตามมาด้วยคือ เสน่ห์ในงานเขียนของอาดาจิ

    หลังจากผิดหวังกับ Touch ผมตั้งความหวังต่อไปไว้เยอะกับ Rough เพราะชื่อผู้กำกับ เคนทาโร่ โอตานิ ที่เคยถ่ายทอดงานการ์ตูนมาเป็นหนังได้ดีอย่าง Nana หนึ่งในหนังที่ผมประทับใจมากที่สุดของสองปีก่อน การทิ้ง Nana 2 มาหา Rough ทำให้ผมคาดหวัง หนังเรื่องนี้น่าจะมี ของ(ดี)

    น่าเจ็บใจที่ความคาดหวังของผมผิดไป

    Rough … เริ่มเรื่องได้อย่างกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ฉากแนะนำตัวละครที่หอพัก ได้อารมณ์ใกล้เคียงกับเวลาอ่านการ์ตูนน่ารักๆขำๆ และ ที่ต้องปรบมือคือ หนังสามารถทำให้ฉากว่ายน้ำซึ่งเป็นกีฬาไม่น่าจะตื่นเต้นได้เท่าไหร่ ออกมาดูสวยงามและตื่นเต้นจากการถ่ายทำที่เห็นน้ำแหวกเป็นสาย จนหยดน้ำแทบจะกระเด็นออกมานอกจอ

    การเลือกนักแสดงก็ถือว่าทำได้ดี หากไม่เทียบกับรูปร่างหน้าตาในหนังสือ ยามาโตะ เคย์สุเกะ กับ นาคานิชิ ในหนัง ถ่ายทอดบุคลิกของตัวละครจากในการ์ตูนได้ดี คุณครูไม่เหมือนการ์ตูนเลยแต่หนังก็สร้างบุคลิกของเขาให้เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ ส่วน มาซามิ นากาซาว่า ทำท่าจะสืบทอดบทนางเอกของอ.อาดาจิเหมือนการ์ตูนเข้าไปทุกที เพราะ การ์ตูนทุกเรื่องพระเอกนางเอกก็หน้าตาเหมือนกันหมด พอมาเป็นหนัง ทั้ง Touch และ Rough ก็เลือกใช้นักแสดงคนเดียวกันรับบทนางเอก ความสดใสน่ารักมีชีวิตชีวาของเธอ ได้ใจคนดูไปเต็มๆ แถมผู้กำกับยังช่างเลือกชุดว่ายน้ำให้เธอใส่เสียเหลือเกิน จนทำให้ อามิ ในหนังดูเป็นสาวและเซ็กซี่มากกว่าในการ์ตูน

    หลังจากดำเนินเรื่องไปเกือบครึ่งเรื่อง จู่ๆก็เหมือนหนังเกิดอาการช็อต ทุกอย่างที่จะเป็นความจี๊ด เกิดแน่นิ่งสนิท แล้วถูกแทนที่ด้วย ความเฉื่อย และ ขาอ่อนของ นิโนมิยะ อามิฮ่าฮ่าฮ่า  ซึ่งประการหลังยังเป็นปัจจัยที่พยุงให้ Rough ไม่ถึงกับน่าเบื่อจนเกินไปนัก

    สิ่งที่ Rough มีปัญหาคล้ายๆกับ Touch คือ คนเขียนบทยังไม่เข้าใจงานของอ.อาดาจิจริงๆว่า ความจี๊ดที่คนอ่านประทับใจนั้นอยู่ตรงไหน นั่นทำให้ ต่อให้ยกฉากที่คิดว่าเจ๋งที่สุดของหนังสือมาแต่การถ่ายทอดกลับไม่สามารถจับประเด็นหรือแก่นของฉากนั้นได้

    ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่ ฉากเดทครั้งแรก ก็เห็นชัดเจนแล้วว่า หนังไม่สามารถทำให้เรารู้สึก อะจึ๊กอะจึ๋ย (ขอยืมศัพท์รุ่นน้องมาใช้หน่อย) เหมือนกับตอนอ่านหนังสือการ์ตูน หากคนอ่านยังจำได้ มุกเด็ดของตอนนี้ คือ เพื่อนของเคย์สุเกะมาคะยั้นคะยอให้เขาไปเดทแทน เขายอมไป ก่อนที่เพื่อนจะมาช็อคเมื่อเกิดเหตุพลิกผัน แต่ในหนัง การลำดับเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น หนังเซอร์ไพรซ์ให้ทั้งคู่มาเจอกันตอนวันนัดเลย โดยตัดตอนมุกที่คนอ่านยิ้มด้วยความขบขันตัวละครออกไป แถมช่วงเวลาเดทหากไม่มี พนักงานเสิร์ฟมาลั๊ลลา คงทำให้หนังน่าเบื่ออีกมาก

    อีกจุดแหว่งที่ชัดเจน ซึ่งตอนดูๆไปไม่ทันคิด แต่มันมาชัดในความรู้สึกตอนท้าย เมื่อผมรู้สึกขัดใจว่า ทั้งสองคนนั้นรักกันตั้งแต่ตอนไหน นั่นคือ ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด หนังกลับเลือกไปเทน้ำหนักให้กับเรื่อง การแข่งว่ายน้ำ กับ การเอาชนะตัวเองของ พระเอก เสียมาก จนหนังแทบจะไม่ให้ความสำคัญกับ การพัฒนาความสัมพันธ์ของ เคย์สุเกะ กับ อามิ มากเพียงพอ ถ้าไม่นับฉากเดทครั้งแรก เราแทบจะไม่เห็นเลยว่าทั้งสองคนมีปฏิสัมพันธ์จนมารักหรือชอบกันได้อย่างไร

    ตรงข้ามกับในการ์ตูน เราจะเห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ตั้งแต่ ความข้ดแย้งของสองตระกูล ความหลังฝังใจ การ์ดที่แอบเขียนแอบเก็บไว้ การแอบเหน็บแอบกัดจนเริ่มแอบรักไปจนแอบดูแลของๆอีกฝ่าย(ไก่) มี พ่อแง่:-)อน ไปจนถึง ฉากโรแมนติกเช่นเดินผ่านแนวต้นซากุระ ก่อนที่จะจบต่างจากหนังก็ตรง ไม่บอกผลแพ้ชนะของการว่ายน้ำ แต่บอกผลของหัวใจ ว่าสุดท้ายอามิเลือกใคร

    และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผม รัก Rough ฉบับการ์ตูน มากที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหลายของอ.อาดาจิ เพราะสำหรับผม Rough คือ การ์ตูนที่มีพล็อตอันคลาสสิค มีเรื่องราวที่โรแมนติกแบบไม่กระโตกกระตาก ความรักที่อ่อนหวานละมุนละไมและยิ้มๆขำๆไปกับความใสซื่อของตัวละคร

    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 50 11:11:18

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 9 ก.พ. 50 10:18:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com