CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++ ดูแล้วมาคุยกัน ... Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน +++

      ชอบมาก ห้ามพลาด (3 คน)
      ชอบ (7 คน)
      เฉยๆ (2 คน)
      ไม่ชอบ (0 คน)
      ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (3 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 15 คน

     20.00%
     46.67%
     13.33%
     0.00%
     20.00%


    เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป อ่านความเห็นอื่นๆและ เชิญชวนเพื่อนๆมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=03-2007&date=16&gblog=223


    ...เราคงเคยเจอ พ่อ/แม่/ปู่/ย่า/อาก๋ง/อาม่า ที่พอเริ่มเข้าวัยชรา (แปลว่า หกสิบขึ้นไป) พวกเขาบ่นๆว่า อยากกลับไปทำงาน อยากทำโน่นทำนี่เหมือนสมัยก่อน เช่น อยากออกมาขายของหน้าร้าน หรือ อยากจัดการบัญชี เหมือนที่เคยทำมาตลอด จนเราก็มักจะสงสัยว่า โธ่ คุณลุงคุณป้าคุณตาคุณยาย จะทำไปทำไม อายุมากแล้วอยู่บ้านเฉยๆให้ลูกให้หลานเลี้ยงดีกว่า

    จนเมื่อถึงวัยนั้น เราก็จะค่อยๆได้ค้นพบด้วยตัวเองว่า ที่ อาก๋งอาม่าคุณตาคุณยาย ถามหางานที่เคยทำ หวนหาอดีตที่เคยมี ไม่ใช่เป็นแค่เพราะพวกเขาไม่อยากแก่ แต่ พวกเขายังอยากรู้สึกถึงการมีคุณค่า ยังอยากสัมผัสตัวตนที่เคยมี ไม่ใช่หลงเหลือแค่ ความทรงจำอันหอมหวนในอดีต

    เพราะการใช้ชีวิตแบบอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตแบบนั่งกินนอนกินไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตโดยคุยแต่หัวข้อสมัยหนุ่มๆสาวๆ มันคือ ชีวิตที่ว่างเปล่าสำหรับพวกเขาและเราๆที่จะไปถึงวัยนั้น

    ร็อกกี้ก็เช่นกัน

    การที่หนังเปิดฉากมาด้วยภาพ ร็อกกี้เลี้ยงเต่า เราคนดูก็คงต้องเริ่มเข้าใจแล้วว่า ภาคนี้ ร็อกกี้ ไม่ใช่ หนุ่มๆฟิตเปรี๊ยะแล้ว (เต่าเป็นสัตว์อายุยืน จึงมักเป็นตัวแทนของคนวัยชรา) ดังนั้นจะหวังเห็นฉากชกมวยครั้งแล้วครั้งเล่าก็คงต้องทำใจ

    ด้วยวัยกลางคน หนังนักมวยอย่างร็อกกี้คงมีทางออกเหลือให้พระเอกเล่นอยู่ไม่กี่ทาง จะให้ไปชกบนสังเวียนดุดันมันๆไต่บันไดแชมป์ ร็อกกี้ก็อาจหัวใจวายตายตั้งแต่กลางเรื่องฮ่าฮ่าฮ่า

    ...หนังหาทางออกได้ดี กับ ตัวบทที่วางโครงเรื่องไว้อย่างน่าสนใจ

    เรื่องของคนสามคน ที่กำลังตามหาบางอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ร็อกกี้ , ลูกชาย หรือ แชมป์คนปัจจุบัน

    โรเบิร์ต ลูกชายคนเดียวของร็อกกี้ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในร่มเงาของพ่อ ใครๆก็รู้จักพ่อของเขา เดินไปเจอใครๆก็ทักแต่พ่อ ขอถ่ายรูปของพ่อ เขาเข้าใจว่าใครๆที่ยอมรับเขาเป็นเพียงเพราะ เขาคือลูกของร็อกกี้ เขารู้สึกเหมือน ชื่อเสียงของพ่อครอบเงาเขาตลอดมา เขากำลังตามหา ตัวตนหรือความเป็นตัวของตัวเอง

    เมสัน แชมป์วัยหนุ่ม แม้จะมีตำแหน่งแชมป์อยู่ในมือ แม้จะชนะมาตลอดสามสิบกว่านัดของการชกมวย แต่ ไม่เคยเลยสักครั้งที่คนดูจะชื่นชมยกย่องตัวเขา สิ่งที่เขาได้รับตรงข้ามกับ ร็อกกี้ ที่เป็นเสียงปรบมือ เพราะสำหรับเขาคือ ก้อนน้ำแข็งพร้อมเสียงโห่ จากคนดู ใครๆต่างก็คิดว่า แชมป์ที่เขาได้มา มิใช่ด้วยฝีมือ ได้มาเพราะเลือกชกแต่คู่แข่งไร้น้ำยา สิ่งที่เมสันไขว่ขว้า ไม่ใช่ ชัยชนะครั้งที่สามสิบสอง แต่คือ การเคารพและการยอมรับจากผู้คน

    ร็อกกี้ ในวัยเข้าสู่หกสิบ เขามีการงานที่มั่นคง มีอดีตที่น่าจดจำ มีเรื่องเล่ากล่าวขานไปอีกหลายปีถึงอดีตอันเป็นตำนาน แต่ ร็อกกี้ก็ยังคงรู้สึกเหมือนกับมีบางสิ่งที่ขาดหายไป ร็อกกี้เหมือน คุณพ่อคุณแม่หรือผู้เฒ่าผู้แก่หลายๆคน ที่เมื่อเข้าวัยชราการต้องทิ้งสิ่งที่เป็นตัวตนในอดีตไป จากที่เคยขายของต้องมานั่งดูทีวี จากที่เคยไปสอนหนังสือต้องมานอนกินบำนาญ แม้จะสุขสบาย แต่ สิ่งที่ขาดหายไป คือ คุณค่าในชีวิตที่แท้จริง ร็อกกี้ สัมผัสได้ถึงพลังและรู้สึกมีชีวิตเสมอ ยามเมื่อเขาได้รำลึกถึงอดีตและคนรักที่จากไป แต่ มันก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดเมื่อพบว่า ทุกสิ่งนั้นล้วนอยู่ในอดีต มิใช่ปัจจุบัน

    ...การที่เขาได้พบ สองแม่ลูก มันก็ทำให้เขาเหมือนกับได้เติมเต็มหลายอย่างที่ชีวิตขาดหาย และ ช่วยทำให้สัมผัสถึง บางสิ่งที่ชีวิตตามหา แต่ แม้ลูกชายของเธอจะมาอยู่เคียงข้างเขาช่วยงานที่ร้าน หรือ ช่วยเลือกหมา จะอย่างไร เขาก็ยังไม่ใช่ลูกชายของร็อกกี้อยู่ดี และ นี่คืออีกสิ่งที่ ร็อกกี้ ก็ตามหา คือ ความเป็นครอบครัวและความรักจากลูกชายตัวเอง

    ...เมื่อเทียบกับ The Pursuit of Happyness ที่เข้าฉายไล่เลี่ยกัน จากหน้าหนังดูเหมือนว่า Rocky จะออกแนว”สู้โว้ย” แต่ปรากฎว่า อารมณ์นี้มีอยู่ใน The Persuit of Happyness มากกว่า ตรงกันข้ามกัน ผมเองเดาว่า The Pursuit of Happyness น่าจะซึ้งในความสัมพันธ์ของพ่อลูก แต่กลับเป็นว่า ความสัมพันธ์พ่อลูกใน Rocky กลับน่าสนใจมากกว่า

    พ่อ ผู้ซึ่งขยับเข้าสู่วัยกลางคน ผู้มีพร้อมทั้งชื่อเสียงและอาชีพการงาน แต่ นับวันลูกชายยิ่งขยับตัวออกห่าง หลังจากภรรยาตายไป มันทำให้ ร็อกกี้ เหมือนต้องสูญเสียซ้ำสอง เขาไม่ทันฉุกคิดว่า ระยะห่าง ที่เกิดขึ้นมานั้น มันมาจากไหน เช่นเดียวกับ ระยะห่าง  ที่เกิดขึ้นภายใน หลายๆครอบครัว

    ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาส่วนใหญ่ นอกจากการไม่ทันตระหนักถึง ระยะห่าง แต่กลับยิ่ง ถ่าง มันมากขึ้นแทนที่จะ ปรับความเข้าใจเพื่อย่นระยะเข้ามา

    ตัวอย่าง เช่น แม่ลูกในหนัง Volver ที่ระยะห่างยาวนานนับสิบปี เพียงเพราะ ความไม่เข้าใจทั้งที่ยังรักกัน

    ร็อกกี้ ยังโชคดี เมื่อ สามารถมองเห็น ระยะห่างนั้นแจ่มชัด ในวันที่ลูกชายมาระเบิดอารมณ์ใส่ และ ฉากนี้นี่เอง เป็น ฉากที่ผมประทับใจที่สุด เมื่อ ร็อกกี้ สามารถย่นระยะนั้นและถ่ายทอดความรักของตัวเองออกมา

    ...ผมนั่งฟังเจ้าลูกชายพ่นอัดพ่อไม่ยั้งถึง เงาที่บดบัง ชีวิตตัวเอง จนผมคิดไม่ออกว่า ถ้าตัวเองเป็นร้อกกี้จะตอบลูกกลับไปอย่างไร ยังเดาว่า ร็อกกี้อาจจะถอนตัวจากเรื่องชกมวยไปก่อน หรือ จะอัดกลับซักเปรี้ยง

    แต่บทหนังในตอนนี้เขียนออกมาได้เข้าที เมื่อร็อกกี้ ตอบกลับไปอย่างหนักหน่วงไม่แพ้หมัดอันทรงพลัง และ น่าจะเป็นบทสนทนาที่น่าจดจำฉากหนึ่งในหนัง ตัวซิลเวสเตอร์ สตอลโลนเองก็เล่นฉากนี้ได้ดี กับ การที่พยายามจะบอกถึง ความรักที่มีต่อลูก ความเชื่อมั่นและยอมรับในตัวลูก อีกทั้ง การพยายามจะสอนลูกให้คิดเป็น

    และ มันก็ทำให้เราได้ฉุกคิดพร้อมกับย้อนมาดูตัวเอง

    หลายครั้งๆที่เราเป็นอย่างโรเบิร์ต ลูกชายของร็อกกี้ เป็น คนที่ล้มเหลวในชีวิต หรือ ทำผิดพลาด แล้วก็โทษนั่นโทษนี่ แต่ไม่เคยเหลียวมองตัวเองว่า แล้วตัวเราละได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เราต้องการหาคนอื่นมารับผิดชอบความล้มเหลวความผิดของตัวเอง แล้ว เราทำหน้าที่ เจ้าของชีวิต เต็มที่แล้วหรือยัง

    ...ร็อกกี้ ปล่อยหมัดเด็ดอีกหมัดที่ผมชอบเหลือเกินว่า ไม่สำคัญว่าจะปล่อยหมัดได้เด็ดแค่ไหน ซึ่งก็หมายถึง มันไม่ได้สำคัญหรอกว่าเราแน่แค่ไหนเวลาแก้ไขปัญหายากๆ แต่สำคัญที่ว่า เรารับมือกับหมัดหนักๆได้มากแค่ไหนมากกว่า ซึ่งก็หมายความว่า ในเวลายากลำบากหรืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา เรายืนหยัดรับมือมันได้มากเพียงใดกัน เพราะ ในชีวิตคนเราย่อมต้องเจอปัญหามากกว่าหนึ่งหน การจัดการเจ๋งๆแค่ครั้งเดียว ไม่ได้บอกว่า เราจะยืนทำเท่ณ.จุดนั้นได้ยาวนาน

    แล้ว โรเบิร์ต เองก็จะค้นพบว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจาก เงาของพ่อ ที่บดบังตัวตนของเขา แต่ ปัญหาคือเขาเอง ที่ไม่พยายาม จะเดินออกมาจากเงานั้นด้วยตัวเอง


    (มีต่อ)

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 16 มี.ค. 50 10:04:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com