ความคิดเห็นที่ 1 แว้บ จากคุณ : มนุษย์กกโก - [ 2 เม.ย. 50 22:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รออ่านอยู่นะครับ จากคุณ : ชักช้าจัง - [ 2 เม.ย. 50 22:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ...แล้วมันน่ากลัวไหม ...ตื่นเต้นไหม? ...อืมม ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนที่นั่งดูอยู่ข้างๆปิดตาดูอยู่เป็นช่วงๆ และสะดุ้งอยู่ 2-3 ครั้ง ส่วนผมนั้น ...เอ่อ ก็นั่งดูไป หาวไป จะหลับก็รำคาญเสียงตุ้งแช่ของหนังที่มามันทุก 5 นาที เบื่อมากๆ ไม่มีไรทำ ก็เลยนั่งแอบดูปฏิกิริยาของคนดูแทน ดูมากๆ คนอื่นเขาสงสัยว่าไอ้นี่เป็นบ้าอะไร หนังไม่ดู มาแอบดูตูอยู่ได้ ก็เลยต้องฝืนกลับมาดูหนังใหม่ ก็ดูโน่นนี่ไปตามประสาได้พอเพลินๆจนหนังจบ ถามว่าเสียดายเงินไหม ...ตอบได้ทันทีเลยครับว่าไม่เสียดาย ถือว่ามาช่วยให้กำลังใจคนรู้จักกัน กั่กๆๆๆๆ จริงๆก็ทำใจไว้อยู่มั่งแล้ว พอรู้อยู่มั่งว่าหนังมันทำด้วยเหตุผลอะไร แล้วถูกบิดเบือนด้วยอะไรในกลไกการผลิตบ้าง แต่ก็คาดไม่ถึงว่ามันจะออกมาไร้หัวใจ จืดชืดได้ถึงปานนี้ เสียดาย และเศร้าใจกับโอ๋ ด้วยเด้อ... เห็นใจๆๆๆ บรรยายความรู้สึกรวมๆเสร็จแล้ว ก็จะมาชำแหละเป็นส่วนๆไปเลย ...หวังแต่ว่า หนังมันจะมีไรให้จดจำได้พอที่จะเอามาสับได้มั่งนะ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 2 เม.ย. 50 22:56:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1.บท - อยากจะบ้าตายยยย... ไอ้ทรีทเม๊นต์ฉบับที่ส่งไปขอร่วมทุนจากเมืองนอก ที่แสนจะหลอน จะลึกซึ้งกินใจ ...ไหงมันกลายเป็นเละ เป็นหนังตลาดจืดๆอย่างนี้ไปได้อ่ะครับ ...เวรกรรม อุตส่าห์ยอมเลื่อนโปรเจ็คท์ที่อยากทำออกไป มาทำหนังตลาดให้เขาก่อน แล้วไหงยังต้องยอมให้หัวใจของเราที่อยู่ในบทโดนยิงร่วงไปอีกอ่ะ แล้วงี้มันจะเหลือไรอ่ะ... อยากจะร้องไห้ แล้วเลยหมดไฟไปเลยเหรอ... ใน 4 คนนั้น ใครเป็นคนทำไดอะล็อกอ่ะครับ ทำไมมันบัดซบอย่างนี้อ่ะ เกิดไรขึ้น หรือจับจุดได้ว่าหนังแนวนี้จุดนี้ไม่ต้องเน้น ก็เลยปล่อยๆมันผ่านไป หรือต้องดีไซน์ไดอะล็อกให้มันพร้อมทำซับอังกฤษแต่แรก หรือโดนเมืองนอกขอมาว่าให้เอาแบบนี้ หรือใช้ back-translate version หา..... มันเฟคมาก แข็งมาก โคตรจะexposition จนแสนจะเสร่อ คนไทยที่ไหน มนุษย์ที่ไหนเขาจะคุยกันอย่างนี้ครับ มันไม่ใช่สไตล์ของหนังสูตรนี้เลยนี่ ดูละครช่องสามมากไปเปล่า กั่กๆๆๆ แล้วเอาไดอะล็อคเสี่ยวๆอย่างนี้ ไปยัดใส่ปากนักแสดงที่เป็นพวก star actor อย่างมาช่าอีก ...บรรลัยกันพอดี ตัวอย่างที่ชัดมากคือซีนในเครื่องบินตอนกลับไทยอ่ะ พอมันไม่น่าเชื่อ มันก็เซ็ตโทนของหนังไม่ได้ พอจบองค์หนึ่งแบบตุปัดตุเป๋ ไม่มีพลังพอจะส่งเข้าองค์สอง ...ที่เหลือเลยเละ... มันเน่ามาตั้งแต่แก้บทตามใจคนอื่นมากไปแล้ว ...เน่าสนิทจริงๆ theme มันมี issue ที่แสนจะลึกซึ้งให้เล่นแต่กลับไม่เล่น ไปยัดมุกผีตุ้งแช่ตะวักตะบวยอะไรไม่ทราบมันทุก 5 นาที ดูแล้วเหี่ยวใจ ...เฮ้อออ... ผีตุ้งแช่อ่ะ มาไม่กี่ทีก็พอแระ ถ้าคนดูเชื่อ เขาก็จะอินตาม จะ suspence ตามตัวละคร ไปกับเรื่องที่เหลือทั้งหมดเอง หนัง thriller อ่ะเอาแค่หลอนทั้งเรื่อง แล้วไปตุ้งแช่แรงๆตอนไคลแม็กซ์ ก็ work แล้ววว... จะบ้าตุ้งแช่อะไรกันมากมาย ก็ถ้าคนดูเขาไม่อิน ตุ้งแช่นั้นคือการก่อความรำคาญนะครับ ไม่ใช่ความบันเทิง จะทำหนังบันเทิง หรือหนังรำคาญล่ะ ...คิดเอาเอง กั่กๆๆๆๆ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 2 เม.ย. 50 23:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่างคนต่างความคิดเห็น ผมชอบเรื่อง  " แฝด "  นะ  หลอนดี ว่าจะไปดูอีกรอบล่ะ  ไปหลอนอีกรอบนึง อิอิ !!! จากคุณ : mekung - [ 2 เม.ย. 50 23:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าเป็นหนังที่พอผ่านเท่านั้นเอง ไม่ได้แย่อะไร แต่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลยครับบบ จากคุณ : พุงพลุ้ย - [ 2 เม.ย. 50 23:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าลงชอบ "สัตว์ประหลาด" ,"อสุจ๊าก" ได้ เราว่า "แฝด" คงไม่ใช่หนังกลุ่มเป้าหมายของ จขกท. แล้วแหละ จากคุณ : Kurt Gallagher - [ 2 เม.ย. 50 23:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 2.โปรดักชั่น - ว่าไปรวมๆเลยละกัน ขี้เกียจสาธยาย มันก็ดีตามมาตรฐานฟีโนแหละครับ ดังนั้นถ้าจะวัดกันว่าหนังดีไม่ดีที่โปรดักชั่น แฝดก็นับได้ว่าเป็นหนังดี แต่เผอิญผมไม่ได้วัดความดีของหนังจากตรงนั้น ก็เลย ...แหะๆ ชอบสไตล์จัดแสงของตากล้องจัง ฝากกราบที คิกๆๆๆ ฝากชม pyrotechnician ด้วย ไฟในซีนจบอ่ะ เป็นตัวละครที่เจ๋งที่สุดในหนังเรื่องนี้แระ ก๊ากกกกกกก... 3. แอ๊กติ้ง - ขอเน้นตรงนี้หน่อยนะครับ (ภาวนาว่ามาช่าอย่าเล่นพันทิพย์เล้ย ถ้าเล่นก็ภาวนาว่าเธอมืออาชีพพอ) มาช่าคือจุดสลบของหนังเรื่องนี้เลยล่ะครับ อย่างที่บอกไว้แต่แรกแล้วว่าแนวทางบริหารของ GTH คงเปลี่ยนไปก่อนทำหนังเรื่องนี้ จากที่ไม่เคยจะมาก้าวก่ายในการผลิตของฟีโนเลย แต่เรื่องนี้ระบบสตูดิโอมันเริ่มออกฤทธิ์ แล้วด้วยความที่มันไม่คุ้นด้วยกันฝ่าย แฝดเลยกลายเป็นผลทดลองที่ล้มเหลว (ในทางศิลปะภาพยนตร์นะ ...ในทางธุรกิจก็คงดีมั๊ง) ทำไมต้องแก้บทให้เป็นหนังผีตุ้งแช่ ทำไมต้องเอาซีนเปิดเรื่องที่เกาหลียัดเข้ามาในองค์นึง? ไง... ชัตเตอร์รายได้ดีที่เกาหลีเหรอ เลยกะยัดเข้ามาเอาใจคนดูเกาหลีซะหน่อย? งั้นไม่เอาเป็นบราซิลเลยล่ะ ที่นั่นรายได้ถล่มทลายกว่าอีกไม่ใช่เหรอ ....แหม ทำปายด้ายยยย... มาช่านี่ก็เหมือนกัน ยัดเข้ามาได้... เฮ้อออ... คุ้มไหมล่ะนั่น เพราะมาช่าเป็นนักแสดงจำพวกที่เรียกว่า Star actor ครับ ไม่ใช่ character actor เขาเล่นเป็นคนอื่นไม่ได้ พอใส่เขาลงมา ทีนี้ก็ต้องแก้บทกันอุตลุดเพื่อรองรับเขาล่ะสิ ถ้าเขาเล่นดีก็คงคุ้มล่ะนะ ดึงคนดูได้อีกกลุ่มใหญ่ด้วย ปัญหาคือเขาเล่นไม่ดีเล้ยยย... แต่บทกลับให้เขาแบกน้ำหนักของทั้งเรื่องไว้ให้สมกับความเป็นสตาร์ของเขา ทีนี้ล่ะสิ ...ไปกันใหญ่ ผลพวงจากการเข้าไปบิดเบือนขบวนการผลิตจุดเดียวมันเลยลามปามจนล่อเอาหนังเละไปทั้งเรื่อง จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 2 เม.ย. 50 23:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาช่าเป็นนักแสดงที่ถนัดทาง technical acting ครับ แม่นยำทางเทคนิคมาก แต่ไม่มีความสามารถทาง intuition เท่าไหร่ เหมาะจะไปร้องเพลง เล่นละครทีวี ถ้าให้มาเล่นหนังที่บทมันมีความลึกมากๆอย่างนี้ ก็ต้องดูบทที่เหมาะกับเขาดีๆ ความลึกของปมทางจิตของตัวละครนั้นไม่ควรไปสัมผัสปมของเขา (แล้วเขาก็เป็นคนที่มีปมเยอะมาก โล่ห์หนาเป็นกระบิ จะเห็นได้จากการที่เขาวางตัวห่างจากสิ่งแวดล้อมไว้ระดับนึงตลอดเวลา) แต่นี่ยังจะมาทำห้าวหาญ เอาเขามาเล่นบทที่มีปมใกล้เคียงกับของเขาอีก แล้วผู้กำกับก็อ่อนอาวุโส แถมคนนึงก็ถนัด visual คนนึงถนัด storytelling ทีนี้ใครจะเอาเขาอยู่ล่ะ ก็ได้แต่ขอเขาเล่นอย่างโน้นอย่างนี้ ...ออกมาดูไม่ได้เร้ยยย เสแสร้งทั้งเรื่อง ไม่มีโมเม๊นต์ไหนเลยที่เขาเล่นให้น่าเชื่อว่าเขาสัมผัสจิตใจของตัวละครได้จริงๆ ใช้เทคนิคทางการแสดงกลบเกลื่อนความไม่อินของตัวเองเอาไว้ตลอด ยิ่งใช้ก็ยิ่งดูห่างจากตัวละคร เลยยิ่งต้องเล่นเทคนิคปิดบัง วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ จนทำลาย moral ของเขาเอง ดูเสื่อมอย่างเห็นได้ชัด เพราะแม้ในซีนที่ไม่ต้องแอ๊กติ้งอะไรเลย เขาก็ยังดูเกร็งๆ ไม่มีความเป็นธรรมชาติเลย กะไอ้แค่ intuition ง่ายๆว่า คนบ้าที่ไหนมันจะรู้สึกว่าตัวมันบ้า แค่นี้เขายังตีโจทย์ไม่แตกเลยอ่ะ ...กรรม เอน็จอนาจเป็นยิ่งนัก ...ลองไปทบทวนดู ช่วงที่หนังออกมาดูดี จึงเป็นช่วงแฝล็ชแบ็ค ซึ่งเด็กแฝดสองคนนั้นกลับเล่นเป็นธรรมชาติกว่ามาช่า พอไม่มีบทพูด ไม่มีมาช่า ...หนังออกมาดูใช้ได้เล้ย ลองกลับไปดูดีๆอีกทีดิ ว่าจริงเปล่า... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 2 เม.ย. 50 23:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 4. ไดเร็คติ้ง - ไม่อยากให้โต้ง-โอ๋เสียกำลังใจนะ เราว่าหนังเรื่องนี้การกำกับมันยังโอเคครับ สำหรับคนดูนะ โอ๋นี่เขาแม่นยำใน visual narration มากเลย แถมมีลายเซ็นต์ของตัวเองอีกต่างหาก เขาเป็นคนที่ชอบเล่นกับ frame of perception มาก ตั้งแต่สมัยหนังสั้นแล้ว "ความจริงนั้นขึ้นอยู่กับเฟรมที่มอง" เรื่องนี้ก็เอาอีกแระ เล่นกับการมองเห็นตัวเองผ่านเฟรมของกระจกเงา ...แหม ไหนๆจะเล่นทั้งที ไม่เอาให้มันขั้นเทพไปเลย เสียดายอ่ะ หนังมันยิ่งจืดๆอยู่ โชว์อ๊อฟนิโหน่ยคงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง ตอนดูผมเบื่อๆ ไม่มีไรดู เลยนั่งจับผิดว่าเมื่อไหร่จะถ่ายแฝดสองคนผิดข้างซักที ....โอ้โห สุดยอดอ่ะ หนังทั้งเรื่องมีช็อตแฝดเป็นร้อยๆซ็อต แต่เขาวาง blocking แม่นเป๊ะทุกซ็อตเลยครับ พลอยอยู่ทางขวาของพิม อยู่ทางซ้ายของเฟรม ...เสมอ ไม่เชื่อกลับไปดูดิ... ไม่ว่าจะตอนทารก ตอนเด็ก ตอนผ่า แม้กระทั่งตอนเป็นแค่ภาพหลอน พลอยอยู่ด้านขวาของพิมตลอด เพราะฉะนั้น ผมเลยรู้ตั้งแต่ผีตุ้งแช่โผล่ครั้งแรกบนเตียงแล้ว ...ว่ามาช่าคือพลอย ก็เธออยู่ซ้ายของเฟรม ด้านขวาของผีอ่ะ ...เลยดูไม่สนุกเลย กั่กๆๆๆๆ การกำกับ ออกแบบภาพ การเล่าเรื่อง ตามตำราเป๊ะๆๆๆ ยังกะฮิทช์ค๊อกซ์ ...เสียดายแต่ไม่ได้เอาหัวใจใส่ลงไปด้วยเท่าไหร่เนอะ หนังเลยออกมาเฉยๆ ไม่ค่อยกินใจ น่ะๆๆ ยังไงๆก็ยังเอาใจช่วย เชื่อว่าเรื่องนี้คงรายได้ดีเหมือนเดิม เรื่องหน้าทั้ง 2 คนจะได้ทำโปรเจ็คท์ในฝันของตัวเองซักที เห็น synopsis แล้วเจ๋งโคตร ...จะรอดูนะครับ ด้านที่เหลือของหนังก็โอเคนะ จะติดใจนิดหน่อยก็ตรงทำไมไม่ให้ลีช่วยตัดต่ออีกอ่ะ จังหวะเขาหลอนดีจะตาย เดียวเขาก็เก่งนะ แต่ผมว่าเขาเล่าเรื่องธรรมดา ...ไม่รู้สิ สงสัย GTH เปลี่ยนระบบมั๊ง กั่กๆๆๆ จบแระ... ไว้นึกอะไรออก จะมายำเพิ่ม (ปล. คคห.ที่7 อ่ะ เป็นตรรกะมากเล้ย... เอิ๊กๆๆๆ งั้นโดเรมอนก็เป็นหนังอาร์ตอ่ะดิ ผมชอบดูมันจะตาย ...จะบอกให้ว่ามีหนังน้อยเรื่องมากในโลกอ่ะที่จะทำให้ผมเบื่อได้ "แฝด"คงโชคไม่ดี เลยโดนแจ็คพ็อต แต่จะว่าไป ผมก็ยังอุตส่าห์เขียนถึงมันนะ ...แหม กั่กๆๆๆ) จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 00:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พูดเหมือนมีภูมิ จากคุณ : โมกูโมกุ - [ 3 เม.ย. 50 00:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ แท็กซี่นิรนาม  วิจารณ์ได้เยี่ยมไม่มีตก สมแล้วกับฐานะที่แท้จริง จากคุณ : มนุษย์กกโก - [ 3 เม.ย. 50 00:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สงสัยเจ้าของกระทู้จะชอบแนว หอ แต๊ว แตก หรือไม่ก็ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมอ่าเนอะ จากคุณ : kingmo - [ 3 เม.ย. 50 00:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยที่ว่า ถ้าคนมันไม่กลัวไม่ขี้ตกใจ ออกมากี่ฉากก็มีแต่ความรำคาญครับ ไม่ได้ความหลอน เน้นเสียงตกใจ ออกมาทีก็ต้องมีเสียงกรีดร้องจากเสียงในฟิลม์นะครับ ไม่รู้ทำไม่ต้องใช้เสียงแบบนั้นด้วยสงสัย กลัวคนในโรงไม่ร้องเดี๋ยวจะเงียบเกินไป ซึ่งฉากส่วนมาก ก็เดาได้ว่าจะเล่นให้ตกใจในเมื่อไหร่ เล่นสร้างบรรยากาศซะขนาดนั้น คนที่กลัว ก็เตรียม ปิดหูปิดตากันเป็นแถบๆแล้วครับ ส่วนตัวคิดว่าหาฉากหลอนๆไม่ได้เลย ที่โอเคสุดคงเป็นฉากในความฝันที่ ได้ยินเสียงพระเอกพูดอยู่กับคนอื่น แบบนั้นล่ะครับไม่ต้องใช้เสียง ก็หลอนได้ ให้ความรู้สึกเหมือนชัตเตอร์ ฉากที่ พระเอก ล้างรูป แล้วเห็นจ๋าเดินเข้ามา ได้ยินเสียงโทรศัพ์ไปรับ กลายเป็นจ๋าโทรมา ... ส่วนเรื่องบทก็ยังไม่เคลียร์เท่าทีควร ว่าตกลง จิตหลอน หรือ ผีจริงๆ กับ ประเด็นที่ ว่า พลอย รักพิม จริงๆรึเปล่า หรือ ทำเพราะอยากได้วี ซึ่งบางคน บอกว่าจริงแล้ว พลอยรัก พิม มากๆ ไม่อยากแยกจากกันไปไหนจึงเกิดอารมณ์ชัววูบ ช่วงแรกๆใช่ครับ หลายๆฉากที่หนังต้องการสื่อว่า เค้ารักกันมาก แต่พอ วีเข้ามา มันกลายเป็นความอิจฉาไปแทน ซึ่งคนรักกันจิง ฆ่าพิมตาย แทนที่จะรู้สึกผิด ดันไปสวมรอยเพื่อได้วีมาอีก ถึงกระทั่งฆ่าแม่เพื่อปกปิด หรือ พึ่งโรคจิตหลังจากที่ฆ่าพิมไปแล้ว อีกอย่างผมไม่ชอบตอนท้ายหลังจากเฉลยคนดูเรียบร้อยเลยครับ ที่หนังเปลี่ยนโทนไปซะขนาดนั้น เหมือนหลงประเด็น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำให้ โรคจิตขนาดนั้นด้วย ที่พูดมาไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะครับ ส่วนดีมีเยอะกว่าด้วยซ้ำ แต่เสียดายถ้าขัดเกลาบทให้ดีกว่านี้อีก หน่อย จะเป็นหนังที่ สุดยอดได้สบาย หลายคนอาจถามว่าดูเรื่องนี้แล้วไม่หลอน แล้วเรื่องไหนหลอน ฟะ ผมคงยกให้ตู้ซ่อนผีครับ เป็นเรื่องเดียวที่เอามาหลอนต่อที่บ้านได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งที่ จริงในเรื่องอาจไม่มีผีเลยด้วยซ้ำ หลายคนดู แล้วบอกว่าน่ากลัวไงฟะ หึๆ แล้วแต่ความชอบครับ สุดท้ายดูแฝดจบทำไมผมรู้สึกว่า ฉากเปิด เรื่อง กับ ช่วงท้าย ไป คล้าย house of wax ซะงั้น เปิดมาฉายถึงอดีต แม่กำลังเย็บผ้า พร้อม กับเสียง นา นา นา.... ถ้าจำไม่ผิด house of wax ก็เสียงคล้ายๆ แบบนี้ แต่อย่าคิดมาก ผมคงคิดไปเองครับ พูดมาซะขนาดนี้ ผมก็ยัง คิดว่าเป็นหนังผีไทยที่ดีที่สุด พอๆ กับชัตเตอร์เลยครับ ชัตเตอร์ 9/10 เรื่องก็คง 8/10 จากคุณ : ....... (KaJo) - [ 3 เม.ย. 50 00:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 VOTE จากคุณ : ไฮยีน่าแมน - [ 3 เม.ย. 50 00:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นผู้กำกับเขาบอกว่า เรื่องนี้จะรอดหรือร่วงก็อยู่ที่พี่มาช่าคนเดียวเลย ว่าคนดูจะเชื่อในการแสดงของเขาหรือเปล่า ว่าเขาเคยเป็นแฝดมาจริงๆ และเป็นแฝดทั้งคนพี่คนน้องต้องให้ชัดเจน สำหรับเรื่องบทเราว่าดูแข็งๆ(เอ หรือว่าเราตั้งใจดูแบบเอารายละเอียดมากไปหนอ) ก็ไม่รู้อ่า ไม่ได้จบนิเทศมา แค่ชอบดูหนัง ...ศัพท์เทคนิคข้างบน ไม่รู้เรื่องอะ...ขอไปถามเพื่อนที่จบนิเทศ วิทยุโทรทัศน์ก่อนนะ แต่ก่อนไปดู เราได้ทำการสปอยตัวเองเรียบร้อยจากกระทู้ทั้งหลายเนี่ยหละ เหอเหอ ก็เลยทำให้ไปนั่งหัวเราะ(จริงๆนะ โดยเฉพาะเวลาที่ผีออกมา)...คือไปดูคนเดียว กลัวว่าจะกลัวหรือเปล่าเดี๋ยวสติแตกไม่กล้าเข้าห้องน้ำ เลยต้องหัวเราะไว้ก่อน แต่เราว่าคนดูก็อินนะ ดูกลัวๆหลอนๆ นอกจากตัวมาช่าแล้วก็คือแฝดตอนโตขึ้นมาหน่อย(ตอนอยู่โรงพยาบาล ผ่าแยก) ซึ่งก็ทำให้เชื่อนะ พอดูเครดิตเห็นชื่ออาจารย์อรชุมา ยุทธวงศ์ ก็คิดว่า อ๋อ จำได้ว่าอาจารย์บอกว่าไปเทรนมาช่านี่หว่า เรื่องนี้เอง เอิ๊กๆ(แต่เรื่องนี้มันดองนานไปหน่อยนะ สองปีได้แล้วมั้งเนี่ย เพื่อนเราบอกว่าตอนมันจะจบพี่โต้งยังถ่ายเรื่องนี้อยู่เลย บอกจะออกปีหน้า ไหงมันดีเลย์เป็นปีงี้ล่ะเนี่ย) แต่สรุปแล้วเราว่าดูแล้วก็โอเคนะ แนะนำให้เพื่อนไปดู หนังน่าจะได้รางวัลนะ เมื่อเทียบกับหนังไทยด้วยกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยชอบผีเลยอ่า เราว่ามันต้องไปอยู่เกาหลีตอนต้นเรื่องมานานแน่เลย เหมือนผีเกาหลีไงไม่รู้อ่า เราไม่เคยดูบุพผาราตรี ไม่รู้ว่ามีผีแบบนี้หรือเปล่า(เรื่องอื่นคิดว่ามันไม่มีผีอย่างงี้อ่า) จากคุณ : mistress - [ 3 เม.ย. 50 00:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อืม ใช่ ถ้าจะตกใจก็เพราะเสียงประกอบมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่ รำคาญเสียงดังๆ ส่วนเรื่องบท ไม่รู้ว่าอันเดิมเป็นยังไง เรื่องการแสดงของมาช่า ก็ดีในระดับหนึ่ง แต่ดูไม่ลึกพอ ส่วนชีวิตจริงเรื่องที่มาช่ามีพี่น้องฝาแฝดแล้วตายไปคนหนึ่งก็เคยได้ยินมา แถมเค้าเล่ากันว่า มาช่าคือคนละคนกับคนที่ชื่อพิมที่ตายไป จากคุณ : matchhead - [ 3 เม.ย. 50 00:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขนาดนี้พี่ช่า ยังแสดงไม่ดีอีกเหรอค่ะ โธ่ จากคุณ : karina - [ 3 เม.ย. 50 00:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ้อ ชอบตู้ซ่อนผีเหมือนกัน เหอเหอ กลัวผีมันจับขาจริงๆเรยฟร่ะ ทุกวันนี้ยังไม่กล้านั่งห้อยขา...กลัวผีใต้ตู้มากกว่าผีในตู้นะ เหอเหอ อ้อ ชอบการตัดภาพเล่าเรื่องน่ะค่ะ รู้สึกว่าจังหวะในการตัดภาพแล้วค่อยๆเล่าเรื่องโดยเฉพาะตอนที่เล่าเรื่องอดีต ค่อนข้างกินใจแล้วก็ทำให้รู้สึกอินไปกับเรื่องได้มากเลย ส่วนพระเอกกับนางเอก(หรือนางร้ายดีล่ะ) ถ้าว่าเค้าตีบทไม่แตก เราว่าเค้าก็เนียนๆนะ แต่จริงๆแล้ว...เราไม่อินกับสองคนนี้เลย ไม่ได้รู้สึกว่ารักกันหรือกลัวกันหรืออะไรก็ไม่รู้ที่มันควรจะมีต่อกันจากทั้งสองคนอ่านะ(หรือเราเองต่างหากที่มันไม่มี ความรู้ อะไรเร้ย) จะว่าเรานั่งดูตั้งใจไปก็อาจจะใช่ เราก็พึ่งรู้ว่าที่เรารู้สึกกับการแสดงของพี่มาช่าเนี่ยมันเป็น technical นะเนี่ย(คือเรารู้สึกว่า ถ้าเขาจะแสดงว่ากลัว ก็จะแสดงด้วยการทำในสิ่งที่เราคิดว่านี่แหละคือท่ากลัว...ใช่ไหมหว่า เหมือนเวลารำอ่า จะรักก็ต้องเอามือมาประสานที่หน้าอก จะไปก็ต้องชี้ไปข้างหน้าประมาณนี้)... ผีนี่...ดีที่กะจังหวะได้ว่า มันน่าจะมาเมื่อไหร่ เลยได้เห็นผีชัดหน่อย(ไม่ได้เอามือมาปิดตา แต่เอามือมาปิดปากก่อนปล่อยก๊ากแทน) เราคิดไปเองหรือเปล่าหนอ ที่ผีมันเกาหลีมาก หรือเราเนี่ยหละที่ดูแต่ผีเกาหลีมากไปแล้วทั้งจูออน ทั้งตู้ซ่อนผี ผีมันคุ้นเคยไปหมด(โดยเฉพาะอีตอนท้ายที่ผีคลานมาในตู้อะ เดาได้ก่อนผีจะคลานมาท่านั้นอีกอ่า...โอวพระเจ้า ผีกิมจินี่เอง) จากคุณ : mistress - [ 3 เม.ย. 50 00:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอาน่า ใครดูแล้วประทับใจก็ดีแล้ว จริงๆตอนออกมาจากโรงก็รู้สึกดีนะ อืม ไม่เสียดายเงิน แต่พอมาอ่านกระทู้แถวนี้(และกระทู้นี้) เอ่อะ คนละอารมณ์ ทำไมคิดมากกันจัง อย่างว่าเนอะคนอยู่ในวงการ คำว่า synosis คือไรผมยังไม่รุ้เลยค้าบ -*- เลยทำให้เห็นข้อติมาก แต่ประชาชนตาดำๆที่อยู่ข้างนอกนั่น ได้หนังแค่นี้ดู ก็ประทับใจละนะ - - จากคุณ : [JUSTIN] - [ 3 เม.ย. 50 00:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอต้อนรับพี่ผกก. เอ้ย แท็กซี่นิรนาม เข้าสู่ "สมรภูมิรบ ณ พันติ๊บ" ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกจากสงครามเมื่อไหร่ ก็จงชม GTH และด่า สหมงคล ต่อไป ดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของพี่เองค่ะ เพราะที่นี่ของเค้าแรงงงงงงงงงงงง อิอิ จ๊ากกกกกกกกกกกกกก ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก ป.ล. อย่าลืมไป "โกยเถอะเกย์" นะคะ จากคุณ : เซ็กลก (ซกเล็ก) - [ 3 เม.ย. 50 01:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหมือน คห. 20ค่า แล้วก็.... ก็ว่าน่ากลัวค่ะ แต่มันตกใจน่าจะมากกว่านะ ตกใจเพราะเสียง ปกติเป็นคนดูหนังแล้วไม่ค่อยคิดอะไร(ไอ้เรื่องข้างซ้ายข้างขวา ถ้าในนี้ไม่พูดถึง คงไม่ได้สนใจอยู่อย่างนั้น) แต่เดินออกจากโรง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้คิดว่า ถ้าไม่มีไอ้เสียงแชว้งๆ (มันอันเดียวกับตุ้งแช่ของ จขกท. รึเปล่า- -ๆ)  คงจะไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย โอ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้  แต่ดูให้สนุกไม่คิดอะไรล่ะก็ โอเคค่าาาาาาาา จากคุณ : otaruhuhu - [ 3 เม.ย. 50 02:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พลอยรักพิมเป็นธรรมดาแบบพี่น้องรักกัน อาจจะรักกันมากด้วยเพราะเป็นแฝด และยิ่งหวงพิม เมื่อวีปรากฎขึ้นมา รวมถึงน้อยใจที่พิมเริ่มให้ความสำคัญกับวีมากกว่าพลอย จนถึงกระทั่งพิมจะขอผ่าแยก แต่ความเป็นแฝด มีผลต่อการทำให้พิมและพลอยชอบอะไรเหมือนๆกันได้ จึงทำให้พลอยอาจชอบวีลึกๆอยู่ในใจ แต่แรกด้วย แต่ก็ไม่ได้มากมาย เพราะรู้ว่าวีชอบพิมมากกว่า เมื่อพลอยฆ่าพิมตาย ด้วยความรักแบบแฝดกันต่อพิม ประกอบกับพิมเป็นที่น่าชื่นชมของคนอื่นมากกว่าและต้องการลบอดีตและความรู้สึกผิดที่ฆ่าพิมตาย พลอยอยากเป็นแบบพิม เลยทำทุกอย่างสวม แล้วเดินทางไปเกาหลีในคราบของพิมไปหาวีซึ่งอาจอยู่เกาหลีแล้วก่อนหน้านั้น โดยพลอยตั้งใจว่าจะทิ้งอดีตแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการทำหน้าที่เป็นพิม อาจด้วยความรัก ความอิจฉา และต้องการชดเชยความผิดต่อพิม แต่แล้วมีเหตุให้เจ้าตัวต้องเดินทางกลับมา เรื่องราวในอดีตทำให้ภาพหลอนเห็นวิญญาณแฝดของตัวเองที่ตายไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นการปรากฏตัวของวิญญาณจริงๆ เพราะความผูกพันที่ตนเองเป็นคนเอ่ยปากขอคำสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดขึ้นเอง  ให้คิดว่าวิญญาณของแฝดที่ตายไปน่าจะมีจริงแต่ก็ไม่ได้ต้องการจะทำร้ายแฝดที่ยังอยู่ เช่น ฉากที่วีเห็นผีเกาะด้านหลังแฟนตัวเอง ฉากในลิฟท์ ฉากในรถไฟฟ้า แต่ในฉากที่วิญญาณปรากฏตัวแบบสยองๆและไม่ได้มีตำแหน่งติดกัน น่าจะเกิดจากอาการหลอนของคนที่ยังอยู่เอง เพราะกลัวความผิดที่ทำไว้ เช่น ผีบนพัดลม ฉากผีปากอ้า การปรากฏตัวของวิญญาณอาจมีผลต้องการให้วีรู้ความจริงด้วย ฉากที่หมอเอากระจกยื่นให้ส่อง แล้วให้บอกว่าเห็นใครในกระจก ในกระจกนั้นไม่ได้ปรากฏวิญญาณใดๆ แต่ปรากฏใบหน้าตัวเองที่แฝงไปด้วยดวงตาที่ซ่อนความร้ายและความกลัวต่อความผิดไว้ ตรงนี้เป็นอีกจุดที่หนังบอกใบ้นัยๆ ถึงการสลับตัวของแฝดได้ด้วย ในตอนท้ายเรื่อง พลอยฆ่าแม่เพราะกลัวแม่จะเปิดเผยความลับที่ตนไม่ใช่พิม คงเพราะพลอยไม่อยากกลับเป็นพลอยที่มีอดีตไม่สวยงาม และพลอยต้องการทำร้ายวีเพราะวีรู้ความจริงก็เช่นกัน นั่นแสดงว่าพลอยก็ไม่ได้รักวีมากไปกว่าความลับที่ตนเองได้ก่อไว้ ความรักที่มีต่อวีอาจสานต่อเพราะหน้าที่ที่ติดตัวเมื่อต้องสวมบทของพิมเท่านั้น  คำพูดที่ว่า “พลอยเค้ารักวีมาตลอด” ผู้พูดอาจหมายถึงว่า ตั้งแต่ได้อยู่กะวีทำให้รักวีขึ้นมาด้วย แม้แต่แรกอาจจะไม่มากนัก แต่พูดเพื่อแสดงความหวงต่อวีซึ่งเป็นคนเดียวที่ผูกพันกันหลังจากแฝดของตนตายไป ตอนท้ายพลอยจึงสติแตกหลังจากเก็บกดมานาน กลายเป็นฆาตรกรโรคจิตไป วิญญาณพิมปรากฎตัวเพื่อช่วยวี แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายพลอย แต่เพียงแค่ต้องการกลับมาอยู่ใกล้ชิดพลอยตามคำสัญญา แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 50 02:41:17 จากคุณ : matchhead - [ 3 เม.ย. 50 02:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบใจที่เข้ามาร่วมแจม จะด่าจะชมก็ไม่ว่ากัน แล้วผมอ่ะ ...อยากตอบก็ตอบ คิกๆๆๆ คคห.11 - ผมมีแต่ศาลพระภูมิ กั่กๆๆๆๆ คคห.14 - ไม่รู้ดินะ ไม่ได้อ่านกระทู้อื่นของแฝดก่อนเลย เลยไม่รู้ว่าเขาเถียงว่าผีมีจริงๆ หรือเป็นแค่ภาพหลอนกันขนาดไหน ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นอ่ะครับ หนังมันมั่วตั้งแต่พยายามยัดผีเข้าไปในบทเยอะๆแล้ว แรกๆก็คงกะหลอนเฉยๆ แต่เค้าคงกลัวคนดูเข้าไม่ถึงมั๊ง แล้วพอยัดไอ้พวกแฮ่ๆเข้ามามากๆ มันก็คงต้องมีหลุดเหตุผลไปมั่งแหละ คนดูบางคนก็เลยตีความว่าในเรื่องมันมีผีจริงๆมั๊ง เพราะพระเอกก็เห็น ...แหม ก็พลอยหลอนว่าพระเอกเห็นผีด้วยไม่ได้เหรอ กั่กๆๆๆๆ มันเละเป็นโจ๊กมาแต่ต้นแล้ว ในหนังนี่ บางทีความสมจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่อง ยังสำคัญน้อยกว่าความสมจริงทางอารมณ์ของเรื่อง ถ้าแม้ว่าเรื่องมันจะมั่ว แต่ถ้ามันมีเหตุผลทางอารมณ์ ความรู้สึกมันได้ มันก็เวิร์ก แต่ต่อให้มันมีเหตุผลแค่ไหน ถ้าอารมณ์มันไม่มี คนดูสัมผัสอารมณ์ของตัวละคร ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ ...ก็จบเห่ มันก็แค่หนังผีแฮ่ๆไว้หลอกเด็กวัยรุ่นเรื่องนึงแค่นั้นเอง จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 02:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใครก็ได้ไปเปิดพจนานุกรมหาศัพท์ภาษาไทยแล้วหามาอธิบายเป็นคำๆให้เราได้ไหม งง มากมาย แบบว่าพอดีความรู้น้อยด้อยด้านนี้อ่ะ ไม่ได้ฉลาดเหมือนคุณ จขกท แต่อยากรู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร งง จากคุณ : peace_valentine - [ 3 เม.ย. 50 02:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คคห.16 - ลืมๆๆๆ ขอโทษจ้า ผมนี่นิสัยเสียชอบติดศัพท์ภาษาประกิต อยากรู้ไรถามได้จ้า แหม... ครูแอ๋วก็คนธรรมดา ไม่ใช่เทวดามาจากไหน ต่อให้สิบครูแอ๋วก็เทรนมาช่าให้เป็นนักแสดงอีกแบบไม่ได้ อย่ามากก็แค่เตรียมสภาวะจิต ช่วยตีบท ติววิธีการเล่นกับจิตอะไรไปตามประสา ปัญหามันเกิดตั้งการคัดเลือกตัวนักแสดงแล้ว มาช่าไม่เหมาะกับบทลึกๆแบบนี้เลยครับ แต่เขาคิดไรของเขาก็ไม่ทราบ ขอเล่นเฉย GTH ก็บ้าจี้ยอมเขาอีก ผลซวยเลยตกกับผกก.แทน กั่กๆๆๆ บทอย่างนี้ถ้าให้สินจัยเล่น รับรองว่าออกมาดีกว่าเยอะ ถ้าติดว่าแก่ไป ก็น่าจะลองคาสต์หมิว บทมันต้องอาศัย intuition หรือจิตหยั่งรู้อย่างมหาศาล ซึ่งไม่ใช่ทางของมาช่าเล้ยย แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะ ค่ายนี้ไม่เคยมีผกก.แบบ actor's director เลย ไม่เคยเน้นเลย มีแต่พวก camera's พวก storytelling ทั้งค่าย ที่ผ่านๆมาหนังเขาเลยมีแต่แอ๊กติ้งแค่ระดับพอผ่าน เรื่องนี้ออกมาแค่นี้เขาคงนึกว่าเจ๋งแล้วมั๊งนั่น กั่กๆๆๆ (น่าจะมีกฎหมายห้ามค่ายหนังทำหนังสั่วๆออกมาทำลายรสนิยมคนดูหนังเนอะ เอิ๊กกกก...) แล้วตอนจบน่ะ ผมว่าเขาไม่ได้อยากให้โทนมันโดดขนาดนั้นหรอก แต่มาช่าเล่นปูพื้นมาได้ไม่ดีพอ พอบทจะบ้าขึ้นมา ...เลยเละซะ ผกก.ก็คงเหนื่อยแล้วแหละ กั่กๆๆ เลยมั่วซะอร่อยไปเลย คคห.19 - ใช่แล้วคร๊าบบบบ เขาเล่นเทคนิคครับ ใช้การควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า การเล่นภาษากาย การแสร้งคิดเพื่อปั้นอารมณ์ การใช้คลังความจำเพื่อเรียกน้ำตา สารพัดเทคนิคครับ พูดง่ายๆคือใช้การ"เบ่ง"แอ๊กติ้งออกมา มันก็พอดูได้ระดับนึงล่ะนะ .......สำหรับเด็ก 17 ขวบครับ กั่กๆๆๆๆ แต่การแสดงแบบนี้เป็นศิลปะการแสดงภาพยนตร์ชั้นรองครับ มันยังดีกว่านี้ได้อีก การทะลุะลวงของกล้องทำให้เราหลอกมันยาก สำหรับบทที่มีความลึก การแสดงแบบใช้จิตหยั่งรู้ จมลงไปในจักรวาลของตัวละครตัวนั้น แล้วโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมสดๆ จึง"จริง"กว่า (เพราะมันจริง ไม่ใช่การ"แสดง") จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 02:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอพูดแต่เรื่อง Acting ละกันนะครับ เรื่องอื่นๆไม่ขอพูดถึงเพราะไม่มีความสามารถด้านนั้น ผมว่ามาช่าเล่นเอาหนังอยู่ในระดับใหญ่ เรียกได้ว่าเล่นออกมาไม่ขี้เหร่อย่างที่คุณพูดไว้หล่ะ ถ้าเธอ"แย่"อย่างที่คุณพูด หนังเรื่องนี้คงถูกสับเละเรื่องการแสดงเพิ่มไปอีก 1 นอกจากเรื่องการหักมุมที่"ง๊ายง่าย" .. แอบรู้สึกว่าคุณเกลียดอะไรมาช่าเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า .. หุหุ .. แต่เห็นด้วยว่าแฝดวัยสาวเล่นดีมากๆ อีกอย่าง หนัง GTH ส่วนมาก ผมว่าการแสดงค่อนข้างดีกว่าค่ายอื่นๆด้วยซ้ำไปถึงจะใช้ดาราใหม่ก็ตาม ไม่ได้ยกหาง GTH แบบไม่ลืมหูลืมตา แต่แอบรู้สึกนิดหน่อยว่าหนังเรื่องนี้ก็มีดีเกินมาตราฐานของหนังไทยส่วนมากไปเยอะพอสมควร อาจจะพลาดไปนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่โดนสับซะหยั่งกะหนังมันห่วยบรม .. ยักษ์ใหญ่ก็งี้ เซนิดหน่อย คนรอซ้ำเพียบเลย จากคุณ : Boy4Boyz - [ 3 เม.ย. 50 02:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อยากตอบคุณ Boy4Boyz คคห.27 - แหมพูดเข้าประเด็นพอดี ก็ใช่ครับ ที่"เฉลี่ย"แล้วการแสดงในหนังของ GTH ดีกว่าหนังค่ายอื่น คือจะว่าไปแล้วทุกๆด้านของหนังเขาก็ดีกว่าอ่ะแหละ ...เออ ว่าแต่ว่าเขาเคยทำหนังที่ดี"เยี่ยม"มั่งไหมอ่ะ นึกออกไหมครับ? เขากินเงินพวกเราไปเท่าไหร่แล้ว ...เขาเคยยอมเสี่ยงทำหนังแหวกตลาดเจ๋งๆมาให้พวกเราดูมั่งไหมครับ ขนาดทำสารคดียังต้องใส่ผงชูรสรู้สึกดีตรา"เก้ง"เลย จะสำมะหาอะไรอ่ะ กั่กๆๆๆ เคยมีไหมครับที่แอ๊กติ้งในหนังเรื่องไหนของ GTH จะขึ้นไปถึงระดับหมิวในตลก69 ของไฟว์สตาร์ หรือหม่ำในเฉิ่มของสหมงคล ...เคยมีปะ ทั้งๆที่ทำหนังก็ไม่น้อย เงินที่จะเสี่ยงก็มี... ผมไม่เคยบอกเลยนะครับว่าการหักมุม"ง่ายๆ"นั้นเป็นจุดอ่อนของแฝด หนังนั้นไม่มีกฎบังคับว่าต้องหักมุมนะครับ สำหรับหนังตลาดเรื่องนึง ขอแค่การคลี่คลาย ทางอารมณ์ ทางเรื่องราว ...ให้มันอิ่มในหัวใจคนดู ก็พอแล้ว... แต่แฝดมันมีอะไรให้ต้องคลี่คลายอ่ะครับ มันมีพัฒนาการ มีการเชิญชวนคนดูลงทุนทางความรู้สึก มีความลึกซึ้งทางจิตวิญญาน มีอะไรมั่งไหมครับ? ดังนั้นทันทีที่คนดูบางคนจับไต๋มันได้ก่อน ...มันจึงไม่เหลือคุณค่าอะไรเลย หนังเล่นมุกหักมุมที่พอถูกจับได้ก่อน ก็ไม่เหลืออะไรไว้ให้คนดูอย่างนี้  ...จะให้ผม:-)ว่ามันดีเหรอครับ ...มันก็แค่หนังดูขำๆเรื่องนึงอ่ะ แค่นั้น... แน่นอนว่ามันดีกว่าหนังไทยโดยเฉลี่ย มาช่าก็เล่นดีกว่านางเอกหนังไทยโดยเฉลี่ย ...แต่ถ้าเขาทำให้มันดีกว่านี้ได้ และมีปัญญาทำด้วย ทำไมเขาถึงไม่ทำครับ? ทำไมถึงแค่พอใจกับรายได้มากๆ ตกลงไอ้อุดมการณ์ที่เคยฝอยไว้ทั้งหลายนี่คืออะไรเหรอ... "หนัง GTH ส่วนมาก ผมว่าการแสดงค่อนข้างดีกว่าค่ายอื่นๆด้วยซ้ำไปถึงจะใช้ดาราใหม่ก็ตาม" นั่นน่ะสิ ...แล้วเอามาช่ามาเล่นเพื่ออะไร ทำไม? หรือจะทดลองสูตรใหม่ในการทำเงิน? ...จนลืมไปหมดแล้ว ว่าตัวเองนั้นเกิดขึ้นมาจากอุดมการณ์อะไร ...ไม่อยากจะถุยส์ หึๆๆ มันก็หน้าเงินพอกันทั้งนั้นแหละว้า... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 04:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อืมมม อ่านความเห็นคุณแท็กซี่นิรนามแล้วรู้สึกงงกับคำประมาณว่า "หนังตลาดจืดๆ" "มาช่าคือจุดสลบของหนังเรื่องนี้" อ่านจบแล้วสงสัยว่า เอ ทำไมเราดูเหมือนคนไม่รู้เรื่องการดูหนังได้ขนาดนี้หนอ (เพราะว่าคิดไม่เหมือนกันเลย) คงไม่มีเหตุผลมาหักล้างคุณแท็กซี่นิรนาม เพราะความรู้ทางทฤษฎีของผมคงไม่ถึง เอาเป็นว่าผมชอบ "แฝด" แฮะ ชอบการแสดงของมาช่าด้วย ชอบ theme ของหนังด้วย ชอบ production ของหนังด้วย แล้วตรงจุดนี้ พอผมมาอ่านตรงประโยคที่คุณแท็กซี่นิรนามว่า "อุตส่าห์ยอมเลื่อนโปรเจ็คท์ที่อยากทำออกไป มาทำหนังตลาดให้เขาก่อน แล้วไหงยังต้องยอมให้หัวใจของเราที่อยู่ในบทโดนยิงร่วงไปอีกอ่ะ แล้วงี้มันจะเหลือไรอ่ะ... อยากจะร้องไห้" ก็เลยอึ้ง ประมาณว่า เอ แล้วผมชอบหนังที่ถูกทำโดยไร้หัวใจของบทอยู่หรือนี่ แถมผมชอบมากเสียด้วย เลยเข้าขั้นเสียความรู้สึกเล็กๆ ครับ สรุปแล้วคือ อยากฟังรายละเอียดเรื่องบทอะไรนี่จากปาก ผกก. มากกว่าครับ เพราะคำวิจารณ์หนังว่าดีไม่ดีนี่ ทุกคนก็น่าจะมีสิทธิพูด แต่การมาบอกว่าหัวใจของบทหนังถูกตัดออกนี่น่าจะเป็นสิทธิของ ผกก. เท่านั้น และในเมื่อบางอย่างถูกตัดออก มันก็อาจเปิดโอกาสให้ ผกก. ใส่อย่างอื่นเพิ่มเข้ามาแทนส่วนนั้นก็ได้นี่ครับ เพียงเพราะเรามัวไปไปมองรูที่หายว่างไป อาจทำให้เราพลาดส่วนอื่นที่สมบูรณ์ขึ้นก็ได้นะครับ อืมม ที่พูดเสียดีนี่ แบบว่าพยายามเรียกความรู้สึกที่เสียไปให้ดีขึ้นน่ะครับ เหอๆ จากคุณ : MrET_TK - [ 3 เม.ย. 50 07:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณแท็กซี่นิรนามเป็นของแท้ในพันทิพครับ เขียนได้น่าอ่านกว่าผมชอบประตูหลังคุณอีก รายนั้นเขียนยาวมาก ไม่เคยอ่านจบเลย จากคุณ : ไฮยีน่าแมน - [ 3 เม.ย. 50 07:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ ... กร๊าก ผมแค่อยู่ข้างหลังคุณครับ แต่ไม่ได้ชอบประตูหลังใคร อย่าระแวงไปเลยคุณไฮยีน่าแมน ปล.. เข้ามาอ่านและเก็บความรู้ด้านฟิล์มเช่นเคยครับ ปล2 ... เข้ามาแก้ไขเพื่อขอถามเพิ่มเติมว่า โปรเจ็คท์หน้าของคู่ดูโอนี้ ที่คุณแท๊กซี่ บอกว่า น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ พล็อตประมาณไหนเอ่ย พอจะแย้มได้หรือเปล้า อยากรู้ๆ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 50 08:22:03 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 3 เม.ย. 50 08:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ อ๊ะล้อเล่นนนนนน จากคุณ : ไฮยีน่าแมน - [ 3 เม.ย. 50 08:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เอิ๊กๆๆๆ เข้ามาฮากับชื่อ ผมชอบประตูหลังคุณ จากคุณ : Gigolina - [ 3 เม.ย. 50 08:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โปรเจคในฝันที่เคยได้ยินข่าว คือ เอดส์ ไดอารี่เรื่องหนึ่ง แล้วก็พจนานุกรมชีวิต ส.เศรษฐบุตร เรื่องหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดนะครับ การแสดงของมาช่าในแฝด เป็นอะไรที่ผมยังรู้สึกก้ำกึ่ง แบบพูดได้ว่าแสดงดี ตั้งใจแสดง เต็มที่กับงานแสดง แต่พอออกมาแล้วมันไม่ได้ทำให้เราประทับใจอะไร (นึกถึงอีกคนคือตั๊กบงกช ที่ตั้งใจแสดงมากในอำมหิตพิศวาส แต่มันดูมากไป เค้นไป จนไม่อาจนับว่าเป็นการแสดงที่ดี) และยิ่งมาฟังเธอให้สัมภาษณ์เรื่องการแสดง (ในไบโอสโคปและสตาร์พิค) ฟังผู้กำกับพูดถึงเธอ ทำให้คิดว่าการแสดงต้องออกมาดีแน่ๆ ซึ่งก็ออกมาดี แต่ไม่ได้ใจ (เพิ่งรู้ว่าเขาเรียกว่าขาด intuition และถ้าผมตีความหมายคำนี้ไม่ผิด นักแสดงไทยที่ผมว่ามี intuition สูงๆ และเทคนิคการแสดงประมาณหนึ่ง ได้แก่จินตหรา และโก๊ะตี๋ส่วนสินจัย ผมว่าเขาออกไปในทางเทคนิคเด่นกว่า intuition) แต่โดยส่วนตัว ชอบแฝดระดับหนึ่งครับ หนังกระตุ้นอดรีนาลีนผมได้ มีอะไรให้คิดตาม แต่ก็พอมองออกว่าหนังเรื่องนี้เริ่มจากองค์ประกอบ ฉาก และเงื่อนไข (แฝดสยาม หนังสยอง มาช่า เกาหลี เครดิตจากชัตเตอร์ ฉากหลอนๆบางฉาก เงาสะท้อนในกระจก) มาก่อนที่จะพัฒนาเนื้อเรื่องให้รองรับฉากต่างๆเหล่านี้ให้ได้หมด ตัวเรื่องจึงไม่ค่อยมีอะไรให้ติดใจมากนัก แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 50 09:53:13 จากคุณ : I'm wu - [ 3 เม.ย. 50 08:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกะความเห็นที่ 20 นะ จขกท คิดมากไป อวดภูมิหรือป่าวคะ สำหรับคนไทย ทำหนังได้ในระดับนี้ เราก็ว่าใช้ได้แล้วแหล่ะ จุดประสงค์ของหนังคืออะไร คือทำออกมาว่าน่ากลัว คนดูหลอน ใช่หรือไม่ บี้ก็ว่าเค้าประสบความสำเร็จในระดับนี้นะคะ แต่ถ้าจะเอาถ้วย เอากล่อง คงต้องดูหนังเรื่องอื่นประกอบด้วยว่าทำได้ดีกว่านี้หรือป่าว แต่หนังไทยส่วนใหญ่ที่ผ่านสายตาบี้ไปแล้ว คิดว่าเรื่องแฝด ถือเป็นหนังดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ไม่คิดว่าจะเสียดายเงินเลย อีกอย่างนะคะ ภาพยนตร์เค้าสร้างมาเพื่อให้เกิดความบันเทิงใจ ถ้าดูเสร็จแล้วมานั่งคิดมากขนาดนี้ ไปดูหนังเกี่ยวกับสารคดีดีกว่าค่ะ จากคุณ : : : บู้บี้กับลุงเด๋อ : : - [ 3 เม.ย. 50 09:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมชอบอ่านการวิจารณ์ของคุณแท๊กซี่ครับ กระทู้สุดท้ายที่ได้อ่านคือเรื่องต้มยำกุ้ง เป็นกระทู้แนะนำด้วย แต่จู่ ๆ ก็ถูกอุ้มหายไปเลย คิดแล้วเซ็ง ..... อีกอย่างนะ ผมคิดว่าคุณจขกท.นี่เป็นคนมีประสบการณ์หรือไม่ก็อยู่ในวงการ แล้วก็กล้าวิจารณ์ด้วย แต่ไม่รู้ว่าถ้าเขาอยู่ในจุดที่ต้องทำเอง จะเป๋ไปแบบคนที่เขาวิจารณ์หรือเปล่าเนี่ยะ จากคุณ : time2enjoy - [ 3 เม.ย. 50 10:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอาเป็นว่า ผมไปดูแล้วไม่รู้สึกเสียดายเงิน เหมือนกับ หอ(ย) แต๋ว แตก ของ พจน์ อาจม เอ้ย อานนท์ ละกันครับ (ถึงแม้จะไม่ใช่เงินตัวเองก็เหอะ) จากคุณ : ไม่จริงนา - [ 3 เม.ย. 50 11:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านความเห็นคุณ matchheadแล้วกระจ่างขึ้นมาก ดวงตาค่อยๆเห็นธรรม...อยากดูอีกรอบจัง จากคุณ : mistress - [ 3 เม.ย. 50 11:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แต่ทำหนังผีแล้ว ทำไมต้องให้ช่าเปลือยอาบน้ำครับ แต่จะไปดูอีกรอบ ANYWAY SHE IS SO GEORGEOUS!!!!!! จากคุณ : TONY - [ 3 เม.ย. 50 11:13:59 A:210.246.66.89 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห. 39 รึจะให้ มาช่า ใส่ชุดราตรี อาบน้ำ o_O!!! ปล. แซวเล่น จากคุณ : ไม่จริงนา - [ 3 เม.ย. 50 11:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ดูหนังโรงเท่าไร แต่ดูเรื่องนี้จบ แล้วเดินออกจากโรง ---ความรู้สึกแรกที่เข้ามาในหัวคือ ความประทับใจในเสน่ห์ของตัวหนังเอง --ที่ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับหนังเรื่องอื่น ไม่ว่าจะนักแสดง เสียงซาวน์ประกอบ และฉากต่างๆ(เห็นในหลายๆกระทู้พูดถึงองค์ประกอบหลายๆอย่าง ที่ละเอียดยิบ และวิจารณ์ต่างๆนาๆ แต่นั่นก็เป็นสิทธ์ของประชาชนในระบบประชาธิปไตยที่ทุกคนสามารถแสดงความเห็นกันได้ )ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไม พวกคุณๆนี่คิดมากกันจัง ---ขอถามหน่อยว่าภาพยนตร์เนี่ยเค้าสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงมิใช่หรือ แล้วดูออกมาเพื่อจับผิด เครียดๆกันทำไมล่ะ-- อย่าเครียดกันเลยนะค่ะ ตอนนี้ก็อากาศร้อนๆอยู่ จากคุณ : Kimae (Kimae) - [ 3 เม.ย. 50 11:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เอ่อ..ใจเย็นๆค่า เวลามีคนความคิดเห็นไม่ตรงกับคุณไม่เห็นต้องหงุดหงิดว่ากล่าวกระทบกระทั่งกันเลย เราไม่ได้มีความรู้ทางด้านหนังเท่าไหร่ แต่เรื่องแฝดที่ดูนี้ เรารู้สึกว่าตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่เกาหลีดูคุ้นเคย และไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ (ที่แกล้งเซอร์ไพรส์แฮปปี้เบิร์ทเดย์ บทพูดดูแข็ง บรรยากาศไม่อบอุ่น ไม่ทำให้มาช่าสามารถแสดงตัวตนของพิม (หรือพลอย) ได้ลึกและชัดเจน) หลังจากนั้น มาช่าแสดงออกมาว่าตัวพิม (หรือพลอย) เป็นคนที่ค่อยข้างแข็ง มีอารมณ์รุนแรงและเก็บกดได้พอสมควร แต่ก็เป็นเพียงด้านเดียวที่เห็น เราไม่ค่อยเห็นบทบาทด้านอื่นที่ดีเช่นความอ่อนโยน ความผูกพันธ์กับครอบครัวหรือคนรัก คือเราดูแล้วไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมหรือเอาใจช่วยตัวละครเท่าไหร่ ตัวละครวีแสดงความรู้สึกรักและเป็นห่วงแฟนได้ดี เราว่าเรื่องนี้เขาแสดงดีนะ แต่ตัวมาช่าไม่เห็นมีด้านไหนนอกจากสวยที่ทำให้ต้องรักมากเลย ซีนปล่อยผีในเรื่องดูพื้นๆและกลาดเกลื่อนไม่มีชั้นเชิงและคาดเดาได้แทบทุกฉาก เราปิดตาทันจนไม่เห็นผีซักตัว ตอนแรกดูเหมือนว่าจะเป็นอาการประสาทหลอนคิดไปเอง เพราะถ้ามีผีจริงทำไมอยู่ๆถึงโผล่มาตอนนี้ ไปไม่ถึงเกาหลีหรือไง แต่แค่กลับมาอยู่บ้านและแม่ป่วยก็สามารถทำให้เกิดประสาทได้เลยเหรอ ทั้งๆที่ต้วเองเป็นคนฆ่าพิมและสวมรอยได้อย่างแนบเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาตั้งนาน แสดงว่าประสาทเขาต้องแข็งมากหรือผิดปกติมากๆแท้ๆ น่าจะมี"จุดผลิก"ให้หลอนขึ้นมามากกว่านี้ ความคิดของพลอยดูสับสนไม่มีทิศทางที่แน่นอนและไม่น่าเชือถือ ตกลงว่าพลอยรักพิมมากไม่อยากแยกจากหรือว่ารักวีมากกันแน่ ถ้ารักพิมมากก็ไม่น่าสวมรอยเป็นเค้าได้น่าจะรู้สึกผิดที่ฆ่ามากกว่า จึงน่าจะเป็นความอิจฉามากกว่าคือความรู้สึกช่วงเด็กถึงวัยรุ่นทำให้รู้สึกว่ารักพิมมาก แต่ความรู้สึกช่วงผู้ใหญ่ไม่แสดงด้านนั้นเลย เราว่ามาช่าแสดงอารมณ์ได้ดีในแต่ละฉากนะ แต่ไม่สามารถทำให้เชื่อได้ว่าเป็นคนๆนั้นจริง คือฉากที่ไม่ต้องแสดงอารมณ์ดูน่าเบื่อ (อาจเป็นเพราะบท) ช่วงหลังดูโดดๆ คือพี่แกบ้าขึ้นมาอย่างกระทันหันอ่ะพอรู้ว่าเขาไม่รักตัว   น่าจะค่อยๆแสดงความบ้าขึ้นเรื่อยๆมากกว่า(ตอนแรกยังโดนผีหลอกอยู่ดีๆกลายเป็นฆาตรกรโรคจิต) คุณแม่ที่ใส่ท่อช่วยหายใจอ่ะ พูดได้ด้วยเหรอค้า หรือว่าช่วยใบ้อะไรที่ทำให้พระเอกไปที่สุสาน ไม่เข้าใจ บทคุณแม่ก็ดูงงๆ ว่าทำไมรักพิมมากกว่า หรือว่าโกรธที่พลอยฆ่าพิม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เห็นต้องกลัวมากมาย คือที่พลอยฆ่าพิมเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบและไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าถึงขนาดกลัวว่าจะฆ่าแม่เพื่อปิดความลับอ่ะ แสดงว่าลูกของตนต้องบ้ามากๆเลยนะ (ตกลงโกรธหรือกลัวกันแน่) สรุปว่าหนังเรื่องนี้เราดูก็ชอบนะ คือดีกว่าไม่ได้ดู และคาดว่าจะทำเงินมากมาย แต่บทสามารถดีกว่านี้ได้  ถึงแม้ว่าจะมีจุดที่ติแต่ก็ติเพื่อก่อนะจ๊ะและก็ไม่จำเป็นต้องความเห็นตรงกันทุกคน  ถ้าคิดเห็นไม่เหมือนกันก็คุยกันได้แต่อย่าโกรธหรือว่ากล่าวอย่างไม่เป็นประโยชน์เลยนะ เพราะเราก็เป็นคนไทยที่รักหนังเหมือนๆกัน จากคุณ : แมวเหมืยวขอมีเอี่ยวจ้า - [ 3 เม.ย. 50 13:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ^ เราก็เห็นแต่คนที่ไม่เห็นด้วยกับ  จขกท นะ ทีมาใส่อารมณ์ กระทบกระเทียบ  อวดภูมิ โง้นงี๊ ตัวเองอ่านไม่เข้าใจ ใช้สายตามองหนังไปคนละแบบ ก็หาว่าเค้าอวดภูมิ ตลกแฮะ! การดูหนังมันมีหลายระดับนะ  คห # 41 ช่วยแยกแยะแล้วก็เข้าใจนิดนึงนะ  ว่าการวิจารณ์มันไม่ใช่การจับผิด!!  ไม่ได้เครียดเพระดูหนังหรอก (ออกจะสนุกสนานที่ได้คิด ได้แยกแยะ ได้เข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ของหนัง)   แต่จะเครียดเพราะความเห็นที่ "........." แบบนี้นี่แหละ เหอๆๆ //พูดไปพูดมาเหมือนออกมาปกป้อง จขกท ซะงั้น เราชอบนะที่ จขกท เขียนมา ถึงแม้เราต้องวิ่งไปเปิด ดิกชันนารี่ หลายรอบก็เถอะ 5555 อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจหลายตลบ แต่ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับหนังเพิ่มขึ้น เหมือนกัน เราเห็นด้วยนะ เราก็เคยคุยกับเพื่อนว่า จริงๆ แล้ว GTH ก็ไม่ได้ดีเด่นหรือดีเยี่ยมอะไรนักหนา แค่เฉลี่ยแล้ว GTH ทำหนังออกมาได้ค่อนข้างดีกว่าเจ้าอื่น แต่จะหาหนังดีเยี่ยม จริงๆ ซักเรื่องนั้น ยากอยู่เหมือนกัน เราเคยคาดหวังกับ  'มหาลัย เหมืองแร่ ผลเป็นยังไง คงไม่ต้องพูดนะ 555555 แหม!  จขกท เล่นสับแหลก ทั้งหนังทั้งค่าย ขวัญใจของชาวเหลิมไทยขนาดนี้   เจ็บตัวนิดนึงนะฮะ อดทนหน่อย จากคุณ : แพรเพลง - [ 3 เม.ย. 50 13:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ช่วงแรกๆนี่เราก็คนนึงอ่ะที่รำคาญผีอ่ะ มันเน้นตกใจ ตุ้งแช่ๆ ไม่ได้กลัวเลยอ่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ เห็นด้วยว่าโดยรวมดีแต่ไม่ประทับใจอ่ะ จากคุณ : vacuum_car - [ 3 เม.ย. 50 14:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่าน คห. จขกท. ไปก็อดคิดไม่ได้ว่า  เอ! จขกท. เขารู้ดีจังเลยนะ เขาเป็นคนในทีมงานหรือเปล่า เห็นรู้ดีจังเลย แล้วจะดีมากถ้า จขกท. จะกรุณาสร้างหนังเองซักเรื่องนึง เอาแบบที่คุณว่ามาข้างบนว่า ต้องมีแบบนั้น ต้องทำแบบนี้ ต้องทำอย่างไรก็นะช่วยหน่อย ขอซักเรื่องนึง  ได้ไหม จะได้ดูเอาไว้ประดับสมอง ให้ชื่นตาชื่นใจว่าหนังดี ๆ เป็นแบบนี้ กรุณาทำด้วยจะขอบคุณมาก เพราะเห็นติ เขามาเป็นร้อยเป็นพัน เสนอความคิดเห็นเพื่อจะให้เขานำไปปรับนี่น้อยมาก บางความเห็น มันเหมือนกับต้องการจะด่าใครผ่านหนังเรื่องนี้หรือเปล่า คือ ถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ "ห่วย" เราก็มองแบบเป็นกลางว่า มันก็ไม่ได้ห่วย หรือแย่มากอย่างที่คุณว่ามา ถ้ามันจะห่วยมากจริง ๆ พวกคนที่ดูแล้วมาเล่า ใน 10 คน น่าจะด่าซัก 7 คน แต่นี้ ไปดูกันมา 10 คน เห็นมีบ่นอยู่แค่ 3 คน แล้วจริง ๆ การดูหนัง ถ้าสำหรับผู้เชี่ยวชาญคงจะสามารถดูเป็นว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเรียนมา ทฤษฎีแม่น มองงานหนังเป็นกรณีศึกษาส่วนตัวไป  แต่สำหรับคนทั่วไป เขาดูหนังเพื่อความบันเทิง เขาดูหนังเพื่อคลายเครียด ถ้าจะดูหนังดีแบบหาข้อติไม่ได้เลย ก็ ต้องสร้างเอง  จบ! จากคุณ : ลูกโป่งสีน้ำเงิน - [ 3 เม.ย. 50 15:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เเตะไม่ได้ นี่เเหละ คำขวัญของ GTH กับเฉลิมไทย ถ้าวิจารณ์ GTH คำต่างๆที่จะได้รับ 1. อวดภูมิ 2. ดูหนังไม่เป็น 3. คนที่ติสงสัยชอบดูหอเเต๋วเเตก 4. ถ้าวิจารณ์มากๆๆ เถียงไม่ขึ้น หนังเขาดูเอาสนุกคิดมากทำไม 5. บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ จำไว้นะจ๊ะ จากคุณ : oh-sama - [ 3 เม.ย. 50 15:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไหนบอกว่าเสรีสำหรับความคิดเห็นในการตั้งกระทู้ ของแบบนี้มันมองไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไอ้คำว่าหนังดี หนังสนุก มันต่างกันตรงไหนก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง ความรู้และประสบการณ์ของแต่ละคน บางคนดูแค่ภาพรวมๆ เออก็ใช้ได้ ไม่น่าเบื่อ สนุกดี ไม่เสียดายตังค์ แต่บางคนเขามีความรู้ในเรื่องของหนัง เขาก็วิจารณ์ไปตามความรู้ของเขา ไม่เห็นน่าจะต้องซีเรียสเลย เห็นหลายความเห็นออกมาว่าจขกท. ใจกว้างๆ กันหน่อยนะ เราเองอยากดูเรื่องนี้มากเพราะชอบดูหนังผีอยู่แล้ว แต่ก่อนดูเกือบทุกเรื่องก็จะมาฟังความเห็นในพันทิปก่อนแต่ไม่ได้เอาความเห็นมาตัวตัดสินว่าจะดูหรือไม่ดู ขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นหลัก พอไปดูมาก็ค่อยมาแสดงความคิดในมุมมองของตัวเอง แต่อย่าไปแขวะชาวบ้านเขาเลย ดูความเห็นบางคนแล้ว งี่เง่ามาก จากคุณ : หนูทึนทึก (powermast) - [ 3 เม.ย. 50 16:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แปลกดี คุณเจ้าของกระทู้เค้ามีมุมมอง มีประสบการณ์ในแบบนึงที่อาจจะลึกกว่าคนดูหนังทั่วไปธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ แล้วเค้าอยากจะแบ่งปันให้พวกเราอ่านนี่ไม่ได้เหรอ  ทำไมถึงกลายเป็นคนอวดภูมิบ้าง  ชอบจับผิดคิดมากบ้าง ไม่ได้ดูหนังเพื่อความบันเทิงบ้าง สุดท้ายก็เลยถูกไล่ให้ไปสร้างหนังซะเองเอาซะเลย หรือว่าอย่างที่หลายๆ ความเห็นเค้าว่ามา อย่าได้ไปแตะหนังเรื่องนี้ หนังค่ายนี้ หรือดาราคนนี้เป็นดีที่สุด จากคุณ : jorjor - [ 3 เม.ย. 50 16:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ......... แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 50 16:25:36 จากคุณ : oh-sama - [ 3 เม.ย. 50 16:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านแล้วได้ความเพลิดเพลินดี จากคุณ : jeerard (jeerard) - [ 3 เม.ย. 50 17:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เป็นอีกกระทู้ ที่อ่าน ทุกความคิดเห็น แล้วก็อยากเขียน ซึ่งไม่ได้เจอกระทู้ แบบนี้มานานแล้ว อย่างที่หลายความเห็นบอกไว้ ไงครับว่า กระทู้ก็คือความคิดเห็นอิสระ เราเข้ามาอ่านเพื่อให้รับรู้ เพื่อแสดงความคิดเห็น แล้วเจ้าของกระทู้ เค้าก็แสดงความคิดเห็น กับสิ่งที่เค้ารู้ และเป็นมุมมองของเค้า แต่หลายๆ ความเห็นกลับมาวิจารณ์ เจ้าของกระทู้ ต่างๆนานา เช่นการอวดภูมิ ผมว่าแปลกๆ นะ ผมไม่ได้ เข้าข้างเจ้าของกระทู้นะ แต่ ชอบในมุมมอง เพราะเป็นหลายๆ อย่างที่เราไม่รู้ พอได้อ่านแล้วก็ คิดตามได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเชื่อตามที่ เค้า วิจารณ์ซะหน่อย โดยรวมแล้ว ผมก็เฉยๆ นะครับกับหนังเรื่องนี้ ไม่ได้แย่ แต่คะแนน รวมสู้ ชัตเตอร์ไม่ได้เลย เชื่อในความแตกต่าง จากคุณ : ... (The Different light) - [ 3 เม.ย. 50 17:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ชอบ อ่านแล้วได้ความรู้ ฉลาดขึ้น จากคุณ : เขียนบ่อยๆ - [ 3 เม.ย. 50 18:15:33 A:203.156.89.183 X: TicketID:133500 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบที่จขกท เขียนนะครับ   ผมก็ไปดูเรื่องแฝดมาแล้วก็รู้สึกเฉยๆอะ  ผีที่ใส่มาก็ไม่น่ากลัวเลยสำหรับผมนะ  แต่ชอบโทนหนังนะ   ตอนแรกก็คิด  ตกลงเขาจะหักมุมแค่นี้หลอ บางทีอาจมีเซอไพร์ แต่ที่ไหนได้หักมุมแบบธรรมดาจริงๆ   มาช่าก็เล่นได้อย่างที่จขกท ว่ามาจริงๆ ผมไม่อินตามเลย   โดยส่วนตัวหนังเรื่องนี้ไม่เสียดายตัง แต่ก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ จากคุณ : butterflyzero - [ 3 เม.ย. 50 18:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอบรวมๆไปเลยก็แล้วกัน ยังไงก็ขอบใจทุกท่านนะครับ แต่ก่อนอื่น ขอบอกว่าทั้งหมดที่ผมเขียน เป็นการนั่งเทียนของผมเองทั้งสิ้น ผมไม่ได้เป็นคนวงใน ไม่มีความรู้อะไรเลยเรื่องภาพยนตร์ ที่เขียนไปนั้นก็ไม่มีข้อเท็จจริงแม้แต่น้อย จะเอาไปปรักปรำใครว่าเลวร้ายอะไรจึงไม่ได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอ่านแล้ว อยากจะเชื่อก็เชื่อ ไม่อยากเชื่อ อยากจะด่า ...ก็ตามสบาย ถือซะว่าฟังนิทานเรื่อง ระบบเงินเป็นใหญ่ มันทำลายอัจฉริยะสองคนลงได้อย่างไรก็แล้วกัน เรื่องมันมีประวัติศาสตร์ของมันครับ ทนอ่านหน่อยก็แล้วกัน โอ๋ หรือ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ กับ โต้ง หรือ บรรจง ปิสัญธนะกูล ถือเป็นผกก.สายเลือดใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทย ถ้าจะว่ากันตามการวิเคราะห์ของมูลนิธิหนังไทย พวกเขาคือ"คลื่นลูกที่ห้า" จะมาอธิบายความเป็นคลื่นลูกที่ห้าตรงนี้มันก็คงจะเยิ่นเย้อ แต่อยากพูดถึงลักษณะร่วมกันอันหนึ่งของคนทำหนังกลุ่มนี้ คือพวกเขากล้าที่จะทำอะไรที่แตกต่าง และส่วนใหญ่ก้าวขึ้นมาจากการทำหนังสั้นและหนังอิสระ ...ซึ่งได้รับโอกาสในการเผยแพร่และการสนับสนุนโดย มูลนิธิหนังไทย... ในช่วงทศวรรษที่ 40 ขณะที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคมืด หนังไทยกำลังจะตาย อุตสาหกรรมทั้งระบบผลิตหนังออกสู่ตลาดปีละไม่ถึง 10 เรื่อง และส่วนใหญ่เป็นหนังรักวัยรุ่นคุณภาพต่ำ มูลนิธิหนังไทย องค์กรอิสระถูกก่อตั้งขึ้นด้วยอุดมการณ์ที่จะอนุรักษณ์ภาพยนตร์ไทยเก่าๆที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม และผลักดันคนทำหนังสายเลือดใหม่เข้ามาในระบบ พูดเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆก็คือปัญญาชนกลุ่มหนึ่งมองเห็นอนาคตแน่ชัดแล้วหนังไทยกำลังจะเปลี่ยนยุค ก็เลยตามไล่เก็บประวัติศาสตร์เพื่อเป็นพื้นฐานให้ความเข้มแข็งของอนาคต และเตรียมฉีดเลือดดีเข้าระบบอุตสาหกรรมที่กำลังจะปรับใหม่เพื่อยุคใหม่ที่หลากหลายและยั่งยืนกว่าเดิม มูลนิธิซึ่งไม่มีทั้งกำลังคน กำลังเงิน อำนาจ ชื่อเสียง ไม่มีทรัพยากรอะไรเท่าไหร่เลย กลับกล้าจัดตั้งเทศกาลภาพยนตร์สำหรับหนังอิสระขึ้นในปี 2540 ในชื่อ "เทศกาลภาพยนตร์สั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1" นับแต่นั้นมา วงการภาพยนตร์อิสระของไทยก็เติบโตขึ้น และคลื่นลูกที่ห้าก็ก่อตัวขึ้นชัดเจน ผมจะลองยกตัวอย่างชื่อคนทำหนัง ที่ได้รับการเผยแพร่และกำลังใจจากมูลนิธิเป็นตัวอย่างให้ฟังนะครับ เอาเท่าที่ผมพอจะรู้จักชื่อนะ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ครั้งที่ 1 วิทยา ทองอยู่ยง (ร้านนายวัฒนา - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ครั้งที่ 2 บุญส่ง นาคภู่ (ตากับหลาน - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) สันติ แต้พานิช (กท-2541 - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) โสรยา นาคะสุวรรณ (อเมซิ่งไทยแลนด์ - รองชนะเลิศรางวัลช้างเผือก) ครั้งที่ 3 ไมเคิล เชาวนาศัย, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล (Bunzai Chaiyo, Episode II, The adventure of iron pussy - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) คงเดช จาตุรันต์รัศมี, เกียรติ ศงสนันทน์ (เจ๊ง - ชมเชยรางวัลรัตน์ เปสตันยี) เจนไวย์ ทองดีนอก (มี - รางวัลวิจิตรมาตรา) ธนนท์ สัตตะรุจาวงษ์ (โรค-ติด-ต่อ? - ชมเชยรางวัลช้างเผือก) ครั้งที่ 4 อาทิตย์ อัสสรัตน์ (มอเตอร์ไซค์ - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ลี ชาตะเมธิกุล (เมืองมายา กรุงธิดา - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (หลวงตา - ชนะเลิศรางวัลช้างเผือก) อุรุพงศ์ รักษาสัตย์ (กาล - รางวัลวิจิตรมาตรา) ครั้งที่ 5 พัฒนะ จิรวงศ์ (Looking through the glasses - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) พูลลาภ นาคพนม (Injury time - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ครั้งที่ 6 ทรงยศ สุขมากอนันต์ (ด.เด็ก ช.ช้าง - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) Roystan Tan (15 - ชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี-ต่างประเทศ) บรรจง ปิสัญธนะกูล (Colorblind - รางวัลวิจิตรมาตรา) ชุมพล ทองทาบ (เปลือก - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) นวรัตน์ รุ่งอรุณ (ทะเลของทวี - ชมเชยรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ครั้งที่ 7 อนุตร ตอศิริกุล (รักไร้สาย - รองชนะเลิศรางวัลรัตน์ เปสตันยี) ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (2003 - รองชนะเลิศรางวัลช้างเผือก) วิทิต คำสระแก้ว (หัวหน้าห้องคนใหม่ - รองชนะเลิศรางวัลช้างเผือก) เล็ก มานนท์ (เช้าวันหนึ่ง - ชมเชยรางวัลรัตน์ เปสตันยี) (ง่ะ ...หาเรื่อง "แม่นาค" ของ พิมพกา โตวิระ ไม่เจอ จำได้คลับคล้ายคลับคราว่าได้ชมเชยรัตน์อ่ะครับ) จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ...ปีหลังจากนี้ ขี้เกียจพิมพ์แระ ใครทายถูกมั่งเอ่ย ว่ารายชื่อเหล่านี้ แตกกระสานซ่านเซ็นไปอยู่ค่ายไหน ไปทำหนังใหญ่เรื่องอะไรกันมั่ง? ใครบอกถูกหมดทุกชื่อ ...มีรางวัลให้ ...เอ้า พูดจริงๆนะนี่ กลับมาที่เรื่องของโต้งกับโอ๋ ใครเคยดูหนังสั้นของเขาทั้ง 2 คน จะเห็นว่าพวกเขาส่อแววเทพเจ้าตั้งแต่ตอนทำหนังสั้นแล้ว อย่าที่เคยบอก โอ๋นั้นสุดยอดมากในเรื่อง visual design หรือการออกแบบภาพ และเขามีลายเซ็นต์ของเขาตั้งแต่สมัยทำหนังสั้นแล้ว อย่างเรื่องหลวงตา ไคลแม็กซ์ก็อยู่ที่ตัวเอกมองเห็นผ่านการแง้มประตู เรื่อง In the eyes (ชมเชยรัตน์ ครั้งที่ 7) ไคลแม็กซ์ก็อยู่ที่ตัวเอกมองเห็นผ่านรูเจาะเพื่อแอบดูห้องน้ำ ส่วนโต้งนั้นสุดยอดในการเล่าเรื่อง ใน Colorblind ตัวเอกซึ่งตาบอดสี ค่อยๆมองโลกเปลี่ยนไปหลังจากเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง หลังจากจบ โอ๋ได้งานเป็นผู้ช่วยที่ฟีโนมีนา โต้งนั้นผมไม่ทราบ แต่เข้าใจว่าทำงานอิสระ จนได้ข่าวว่า 2 คนได้เปิดโปรเจคท์ฟีเจอร์ (feature film - ภาพยนตร์บันเทิงขนาดยาว) เห็น Synopsis (เรื่องย่อ) ของชัตเตอร์แล้วก็รู้เลยว่านี่คือทางของเขา ยังจำได้เลยว่าผมเคยเชียร์มันในเฉลิมไทยก่อนหนังเข้าตั้งหลายเดือน (แต่ตอนนั้นไม่มีใครสนใจ) เพราะถึงแม้ว่ามันเป็นหนังผีตลาดๆ แต่ผมก็เชื่อว่านั่นคือสิ่งที่เขาอยากทำ เขาถนัด แล้วเขาก็ทุ่มเททำด้วยหัวใจ หนังที่ว่าด้วยการมองเห็นวิญญานผ่านรูชัตเตอร์ของกล้อง ...ทำโดยคลื่นลูกใหม่ที่ถนัดนักกับเรื่อง visual frame ...ไม่น่าดูก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว แล้วหนังก็ประสบความสำเร็จ ทำรายได้ถล่มทลาย ...พวกเขาถึงเปิดโปรเจ็คท์ที่พวกเขาอยากทำจริงๆ โปรเจ็คที่ทะเยอทะยานกว่า เล่นกับ frame ที่ลึกซึ้งกินใจกว่า... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โอ๋ เปิดโปรเจ็คท์ ส.เศรษฐบุตร เล่าเรื่องของนักโทษการเมืองที่ทำพจนานุกรมไทย-อังกฤษฉบับแรก ...ในคุก!!! แค่คิดว่าเขาจะเล่นกับเฟรมยังไงก็จินตนาการบรรเจิดแล้ว... เพราะนี่มันไม่ใช่แค่การเล่นกับเฟรมของการมองเห็น แต่มันลงลึกไปกว่านั้น ...จะว่าเล่นกับเฟรมของทัศนคติต่อชีวิตก็ได้ ทำไม? มนุษย์คนหนึ่ง... แม้ถูกรังแกและเหยียบย่ำทรมาน ดำรงชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ทำไมเขาจึงสามารถทุ่มเททำสิ่งดีๆให้กับโลกที่รังแกเขา ...เขามองเห็นอะไรผ่านซี่ลูกกรง เขาจึงยังศรัทธาในมนุษย์ ...แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เรากำลังจะได้ดูหนังไทยอย่างที่เราอยากจะดูซะที จำได้ว่าตอนนั้นโปรเจ็คท์นี้เริ่มพรีโพร (วิจัย และทำทรีทเม๊นท์) ไปแล้วซะด้วยซ้ำ ส่วนโปรเจ็คท์ของโต้งก็เจ๋งไม่แพ้กัน เขาเปิดโปรเจ็คท์ หลังจากซื้อลิขสิทธ์ "เอดส์ไดอารี่" ได้ เช่นเดียวกับโอ๋ เขาเล่นในสิ่งเขาถนัดเช่นกัน แต่คราวนี้ทะเยอทะยานกว่า ลงลึกกว่า เขาเล่นกับเรื่องของเด็กสาว ที่แม้ร่างกายจะค่อยเสื่อมสลายลงด้วยโรคร้าย จิตใจถูกกัดกร่อนโดยทัศนคติของสังคม แต่เธอก็ไม่เคยหยุดที่จะเติบโตทางจิตวิญญาน เธอยังคงเป็นผู้ให้ผ่านตัวหนังสือ ...แม้ในยามที่เธอเหลืออะไรที่จะให้ได้น้อยเต็มทน เรื่องอย่างนี้มันทางเทพเจ้าของโต้งเลยนะครับ แล้วเป็นไง... รางวัลที่คนดูได้หลังจากไปสนับสนุนให้ชัตเตอร์ได้ร้อยล้านคืออะไร? ชัตเตอร์ภาคสองไงครับ... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จะว่าไป มันก็เป็นความซวยของคนดู และสองคนนั้นโดยแท้ ช่วงกลางปีของ 2 ปีที่แล้ว GTH ทั้งหนังเจ๊งติดๆกัน 2 เรื่องติดๆ (ถ้าจำไม่ผิดก็ เหมืองแร่ วัยอลวน4  แล้วก็หมากเตะส่อแววมีปัญหา) ทำเอา GTH เป๋ไปเลย คือมันไม่ได้เป๋ทางการเงินหรอกครับ เงินเขาเยอะ แต่มันเป๋ทางนโยบายน่ะ จากเดิมที่มีนโยบายไม่พึ่งดารา ไม่ลงมายุ่งกับการผลิตของบริษัทในเครือ เขาเริ่มเปลี่ยนนโยบาย ...ประมาณว่าเจ๊งอีกไม่ได้ เดี๋ยวทำงบดุลย์แต่งตัวให้บริษัทสวยพอเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้นไม่ได้ โปรเจ็คท์อย่างแก๊งชะนีจึงถือกำเนิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว บทเสร็จในเวลาไม่กี่เดือน ดึงเอาทีมข่าวสาวดาราช่อง3มาเล่น ถ่ายแป๊บเดียว แล้วก็ฉายทันที เบ็ดเสร็จใช้เวลาแค่ครึ่งปี (ทั้งๆที่หนังเรื่องอื่น วงจรชีวิตของมันนั้น 2-3 ปี) ยุบที่ฟ้า บริษัทในเครืออีกบริษัททิ้ง ปรับแผนกโมชั่นพิกเจอร์ของฟีโนมีนาโดยปิดแผนกพิจารณาโปรเจ็คท์ (ภาษาชาวบ้านง่ายๆ - ต่อไปนี้ โปรเจ็คท์ทุกโปรเจ็คท์ต้องผ่าน GTH ฟีโนไม่มีสิทธิทำเองโดยพละการ) โปรเจ็คท์ในฝันของโต้งโอ๋ถูกเลื่อนไปไม่มีกำหนด มีนโยบายลงมาถึงความเป็นไปได้ของชัตเตอร์ภาคสอง มีแผนร่วมทุนกับเกาหลีเพื่อลดความเสี่ยง แต่ถึงขนาดนั้นพวกเขาสองคนก็ยังไม่ถึงกับหมดไฟ พวกเขาไม่ทำชัตเตอร์ภาคสอง (เพราะมันทำไม่ได้ หนังมันจบโดยบริบูรณ์ไปแล้ว จะทำได้ก็คงต้องหน้าด้านเต็มทน) พวกเขาคิดโปรเจ็คท์"แฝด"เสนอขึ้นไป ซึ่งดราฟท์ฉบับแรกๆก็ยังดูโอเค ยังมีคุณค่าทางภาพยนตร์สูงระดับหนึ่ง เรื่องของเรื่องมันจะไม่เน่าถึงขนาดนี้ ถ้าจะไม่มีดาราคนหนึ่งเกิดนึกแสร๋นอยากเล่นหนังขึ้นมา โดยไม่ได้ดูความสามารถของตัวเองเล้ยยย... แล้วความเน่าเละเทะก็เริ่มจากตรงนั้น จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตัวบทโดนยื้อลากกันไปลากกันมาระหว่างฟีโนกับ GTH ซึ่งดันไปเห็นดีเห็นงามกับความแสร๋นของดาราคนนั้นด้วย (คงกะว่าขายได้ ...ว่างั้นเถอะ) จากบทเดิมซึ่งเป็น Psychological thriller ชั้นดี เลยกลายมาหนังผีหลอกเด็กซะนี่ ...แหมใครๆก็อยากดูมาช่าโดนผีหลอกเนอะ กั่กๆๆๆ ก็ยัดกันเข้าไป ทั้งเกาหลี ทั้งผีเล่นซ่อนหา ทั้งฉากโชว์ทั้งหลายของดาราใหญ่ ...อืมม แฝด ...หนังผีชั้นดีสุดโปรดของพวกคุณๆก็ปรากฏเกิดให้ชมมาได้ก็ด้วยประการฉะนี้ ในขณะที่อีกฟากหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หน่วยงานเล็กๆที่ไม่ค้ากำไร พยายามทำทุกอย่างเพื่ออนาคตของภาพยนตร์ไทย ทั้งๆที่กำลังทรัพยากรก็มีน้อยด้อยเต็มทน แต่พวกเขาก็ยังพยายามดันเลือดใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรมอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ฟากนี้ของอุตสาหกรรมสิ สตูดิโอที่มีบิลลิ่งปีละไม่รู้กี่ร้อยล้าน มีทรัพยากร มีสื่อในมือ เพียบพร้อมทุกอย่างที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมให้เป็นไปในทางที่พัฒนาขึ้น สิ่งที่พวกเขาทำคือละลายเลือดดีลงไปในคลองน้ำเน่าของอุตสาหกรรมนี้ คนแล้ว.. คนเล่า... คนแล้ว.. คนเล่า... อย่ามาอ้างรสนิยมของคนดูเลยครับ เปลี่ยนรสนิยมของคนฟังเพลงทั้งประเทศก็เคยทำได้มาแล้ว ...กะไอ้แค่เรื่องหนังนั้นมันขำๆ อยากจะถุยส์อีกที ...จบนิทาน จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 3 เม.ย. 50 18:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ชอบ 2 ความเห็นหลังเนียละครับ ที่เอาอะไรแบบนี้มาเผยให้ฟัง จะได้รู้ไอ้ที่มันมีปัญหาข้างบนที่บ่นมาเกิดจากอะไร จากคุณ : boy-jed - [ 3 เม.ย. 50 20:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณคุณแท็กซี่นิรนามมากครับสำหรับทั้งข้อมูลและความคิดเห็นที่น่าสนใจยิ่ง ข้อมูลนี้ทำให้เห็นภาพรวมไปจนถึง "รุ่น" ของผู้กำกับไทย รวมทั้งการก่อเกิดของบางสิ่งบางอย่างได้เป็นอย่างดี ผมไม่แน่ใจว่าในความรับรู้ของคนดูหนังทั่วๆ ไปจะตระหนักถึงความสำคัญของภาพรวมนี้หรือไม่ แต่ผมเห็นว่าน่าตื่นเต้นมากจริงๆ ครับ จากคุณ : อืม - [ 3 เม.ย. 50 22:06:55 A:58.64.106.98 X: TicketID:061173 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เอาจริงเหรอฮะพี่แท๊กซี่ฯ เรื่องชัตเตอร์ 2 ง่ะ... น่าเกลียดจริงๆ นะเนี่ย.. (ต้วเองดู the eye ภาคแรกเท่านั้น ตอนได้ยินเป็นชื่อนี้ตามเป็นกระพรวนก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว นี่คิดจะมาเล่นกับหนังผีเจ๋งๆ ให้เสียความรู้สึกอีกเหรอเนี่ย) ไม่ได้อยากจะให้เกิดการแบ่งว่าใครเป็นสาวกฝั่งไหนนะฮะ อยากให้ลองเปิดใจ คิดให้นานอีกนิดนึงก่อนเคาะแป้นพิมพ์ลงมา (ยกเว้นแซวกัน อันนั้นน่ารักดี อิอิ) ... ส่วนตัวก็ตามพี่แท็กซี่ฯ มาบ้าง ไม่ได้เข้าใจศัพท์แสงทางภาพยนต์มากนัก แต่พี่แกเขียนออกมา ข้าเจ้ารู้สึกว่า แปลก..! แปลกที่ข้าเจ้าตามทัน แค่ลองค่อยๆ อ่านนิดนึง ... ข้าเจ้ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้นะ เพราะที่ยังไม่รู้สึกว่ากระเหี้..ยนกระหือรือไปดู สารภาพจริงๆ เพราะดาราตัวเอกที่ว่านั่นแหละ.. คือ เห็นจากตัวอย่างที่ตัดเอาเนื้อเรื่องมาให้ดูบางตอน ใจนึงยังคิดอยู่เลยว่าบทจากเรื่องนี้ มันเหมือนมีภาพซ้อนของแม่ผีสาวจากเรื่อง The Others ยังไงไม่รู้ ...พาลให้คิดว่า คนที่เล่นในเรื่องแฝดนี้ ok แล้วเหรอ.. ? ไว้เดี๋ยวลองไปดูบ้าง เผื่อดูว่ามันต่างจากชัตเตอร์ฯ แค่ไหน... ดูหนังเพื่อความบันเทิง... สำหรับข้าเจ้าไม่ได้คิดว่าหนังมีมาเพื่อให้เราไปหาความบันเทิง แต่ข้าเจ้าพยายามดูเรื่องที่คิดว่าน่าจะทำให้ข้าเจ้าบันเทิงได้โดยคุ้มกับกระเป๋าตังค์ที่เรายอมแลกไปให้ดีที่สุด ... ถ้ามันยังหาไม่ได้ในช่วงนั้น ก็หาอย่างอื่นทำ ก็แค่นั้น... แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 50 11:20:24 จากคุณ : _K_F_C_ - [ 3 เม.ย. 50 23:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 63 พูดตามตรงเลยนะครับ ผมไม่ใช่แฟนคลับมาช่าแต่อย่างใด .. แต่ ณ ตอนนี้ คุณกำลัง"กด"มาช่าลงไปต่ำกว่าที่เธอควรจะถูกวิพากย์ เหมือนโกรธ เกลียด ผู้หญิงคนนี้มาแต่ปางไหน .. การแสดงที่มาช่าให้กับหนังเรื่องนี้อยู่ใน level ที่สูงกว่าที่คุณกำลังพูดถึง มาช่าไม่ได้ทำให้หนังแย่ .. จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้แย่เลย .. ผมไม่รู้หรอกว่า draft แรกของหนังมัน"สุดยอด"ขนาดไหน แต่งานที่สำเร็จออกมามันก็น่าภาคภูมิใจไม่น้อย .. และมาช่าให้การแสดงที่ผมคิดว่าดีมากเลยทีเดียว เป็นคุณ จะยกบทนี้ให้ใครเล่นครับ จากคุณ : Boy4Boyz - [ 4 เม.ย. 50 01:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นคุณ จะยกบทนี้ให้ใครเล่นครับ - จากคุณ : Boy4Boyz ...ก็ตอบก่อนดิ ว่าเอามาช่ามาเล่นเพื่ออะไร (จริงๆผมก็ตอบไปแล้วนะ ลองไปอ่านคคห.26 อีกทีนะจ๊ะ) ตอบ _K_F_C_ คคห.62 ไม่จริงหรอกคร๊าบบบ ...ผมพูดเล่นอ่ะ GTH เป็นสตูดิโอที่มีรสนิยม มีอุดมการณ์ เขาจะคิดทำไรอย่างนั้นไปได้อย่างไรล่ะครับ เขาแค่ทำ "โกยเถอะโยม" หลังจากนั้นเอง (ทีนี้...ทำเร็วยิ่งกว่าแก๊งชะนีอีก) คิกๆๆๆๆ คอยไล่ดูโปรเจ็คท์เปิดใหม่ภายใน 2 ปีนี้ของเขาดิ ผมล่ะปลื้มมากเลยกับสตูดิโอของเหล่าแม่ยกในนี้ทั้งหลาย เห็นแก่เงินนั้นมันธรรมดาอ่ะครับ แต่เห็นแก่เงินแล้วมาโกหก สร้างภาพยกตัวเองว่าเหนือคนอื่นนี่มัน ...สุดบรรยายครับ กั่กๆๆๆ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 4 เม.ย. 50 02:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่าที่เอามาช่ามาเล่นเพราะ 1. ชื่อเธอเรียกคนมาดูได้จำนวนนึง 2. เธอก็มีฝีมือการแสดงที่ดี 3. การคืนจอเงิน และสามารถขยายฐานการแสดงและชื่อเสียงของเธอให้ขายได้มากกว่าที่จะดังเฉพาะในประเทศไทย(เล่นละครหรือร้องเพลง ก็ขายได้แค่เมืองไทย แต่เล่นหนัง มันไปไกลกว่า) ปล. ผมจำได้ครับ คุณ สินจัย กับ คุณ หมิว ใช่มะ .. อืมม .. ผมว่าเอา แอน ทองฯมาเล่นดีมะ จะได้เป็นฝาแฝดอีกรอบต่อจากแรงเงา .. อันนี้พูดจริงนะครับ หากไม่ใช่มาช่าหล่ะก็ งั้นคุณ แท็กซี่ลองตอบผมบ้างนะครับ ว่าทำไมคุณถึง"กด"มาช่าลงมาต่ำมากกว่าที่เธอเป็น คือเรื่องนี้คนดูแทบไม่มีใครบ่นเรื่องการแสดงเลย ออกไปในแนวชื่นชมเสียด้วยซ้ำ แต่ที่คุณพูดมา การแสดงของมาช่าเป็นอะไรที่เลวร้ายมากๆ ผมเลยงง มันเลวร้ายขนาดที่คุณพูดเลยหรือ เพราะที่ผมเห็น มันไม่เป็นอย่างนั้น เลยสงสัยว่าคุณเกลียดอะไรดาราคนนี้เป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ถึงกับใช้คำว่า"แสร๋น"มาขอเล่นหนัง .. คือ .. ผมไม่อยากไปค้านความเห็นของคุณนะครับ แต่ผมไม่ชอบเห็นใครโดนด่าโดยดูเหมือนว่าจะขาดความยุติธรรมไปเหมือนกัน จากคุณ : Boy4Boyz - [ 4 เม.ย. 50 03:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าที่เอามาช่ามาเล่นเพราะ 2. เธอก็มีฝีมือการแสดงที่ดี - Boy4Boyz อืมม... คุณBoy4Boyz มีความสามารถทางด้านแอ๊กติ้งแบบไหนอ่ะครับ? ถึงมองว่ามาช่าเป็นนักแสดงที่ฝีมือดี... มาช่านั้นเป็นพวก overrated ครับ อาศัยว่าเธอมี charisma ที่ดีเยี่ยมจึงเป็น star แต่ผมไม่เคยเห็นใครที่เข้าใจทะลุเรื่องแอ๊กติ้งนั้นจะมองว่ามาช่าเป็นนักแสดงที่ฝีมือดีเลยนะครับ นึกไม่ออกจริงๆว่าเธอมีฝีมือตั้งแต่เมื่อไหร่? แต่ช่างมันเถอะครับ actor นั้นเป็น professional ที่เป็น different beast ผมไม่อยากบั่นทอนกำลังใจอะไรเขาหรอกครับ เข้าใจครับว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักแสดง อีกทั้งศักยภาพเขาก็ไม่ได้มีมากมายอะไรนักอยู่แล้ว ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ครับ แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดพอสมควรแล้วที่ไปเขียนอะไรให้บั่นทอนเขาหรือเปล่า ผมก็แค่ว่ากันไปตามความคิดเห็นเท่านั้นเอง ฉะนั้นใครจะว่าเขาเก่งอย่างไรก็ตามสบายเถอะครับ แต่จะกรุณาปล่อยให้คนดูการแสดงเป็น เขาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันทั้งวงสักหน่อยไม่ได้รึไงครับ ...กั่กๆๆๆ ปล. อ้อ ไม่มีความแค้นอะไรเป็นส่วนตัวเลยครับ ชีวิตทั้งชีวิตนี้ผมน่าจะเคยเดินผ่านๆเขาทีนึงเท่านั้นมั๊งครับ จำไม่ค่อยได้ ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดที่ผมจะต้องไปจำครับ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 50 04:57:23 จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 4 เม.ย. 50 04:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ Boy4Boyz เขาจะไปประกวด AF 4 นะครับ แอกติ้งเขาดีมาก จากคุณ : oh-sama - [ 4 เม.ย. 50 08:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้าได้ติดตามข่าวของ ภาพยนตร์เรื่องแฝดมาจะทราบว่า ผู้กำกับโต้ง-โอ๋ เป็นคนเลือกที่จะให้ มาช่ารับบทนี้ ถ้าผู้กำกับเค้าไม่มั่นใจ หรือ ไม่เชื่อมั่น ในตัวนักแสดง เค้าก็คงจะไม่เลือกให้มาเล่นหนังของเค้าหรอกค่ะ บทสัมภาษณ์ของโต้ง-โอ๋ ค่ะ "ตัวละครนี้มีความสำคัญมากเพราะต้องเป็นตัวนำเรื่องที่ค่อนข้างมีพลัง เราต้องการคนที่มีศักยภาพสูงสามารถเอาหนังทั้งเรื่องอยู่  ในที่สุดก็มาลงตัวที่มาช่าเพระรเร้อยู่แล้วว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและเหมาะกับบทนี้ประกอบกับเป็นช่วงที่เขาอยากกลับมาทำงานด้านภาพยนตร์อีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นความเหมาะสมที่ลงตัว พอเริ่มงานด้วยกันก็ไม่ผิดหวังเลย ยิ่งกว่าที่คิดไว้ คือคิดว่าเขาสุดยอดแค่ไหน เขาให้ได้มากกว่านั้น มาช่าทุ่มเท ทำการบ้านหนัก พวกผมเขียนบทมาประมาณหนึ่ง แต่เวลากำกับจะมีทิศทางที่ชัดเจนพอสมควร แต่มาช่าเป็นคนที่ Input ให้เราอีกหลายเท่า  เขาเป็นคนเข้าใจหนังและช่วยคิดช่วยทำให้ดีกว่าเดิม หนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต จะมีการเล่าย้อนไปถึงวัยเด็กของมาช่ากับฝาแฝดเยอะมาก ซึ่งเขาก็จะขอเทปช่วงวัยเด็กที่ถ่ายทำแล้วทั้งหมดไปดูด้วย เพื่อจะได้รู้เรื่องราวและตีความตามที่นักแสดงแฝดรุ่นเด็กเล่นไว้" นอกจากซีนทางอารมณ์ต่างๆ แล้วหนังเรื่องนี้ยังมีฉากแอ๊คชั่นที่น่าตื่นเต้นอีกไม่น้อย แถมมาช่ายังออกตัวขอเล่นเองทุกฉากแบบไม่กลัวอันตรายเลยทีเดียว  "มีฉากที่มาช่าต้องขับรถชนแล้วต้องหัวกระแทกกับพวงมาลัย เราบอกให้กระแทกแบบพองาม ปรากฏว่า มาช่าเอาหัวกระแทกจริง คนอีดเสียงบอกว่าเสียงดังมาก แล้วเล่นไป 3 เทค เขาชนจริงหัวโนแดงมาก บางฉากแอ๊คติ้งโค้ชเขาจะเตือนว่า มาช่าล้มไม่ได้นะ มันจะอันตรายมาก เจ็บมาก แต่มาช่าจะฟังว่าพวกผมต้องการอะไรไม่ร่วมเถียง พอเราบอกว่าโอเคพร้อมถ่าย สุดท้ายเขาจะทำอย่างที่พวกผมบอกอย่างที่พวกผมต้องการหมดทุกอย่าง บางทีเถียงกันอยู่ เขาก็จะช่วยแก้ปัญหาบอกว่าเดี๋ยยวทำให้ ทั้งไฟไหม้ จมน้ำ เจ็บตัว หกล้ม ตกบันได ปกติเขาจะไม่เอานักแสดงหลักมาเล่นฉากเสี่ยงแบบนี้ มันอันตรายมาก มาช่าก็กลัวนะแต่เขาขอเล่น อยากให้งานออกมาดีที่สุด บางซีนอินเซิร์ทมือ อินเซิร์ทขา แต่ต้องใช้อารมณ์ต่อเนื่องจากการแสดง เห็นแค่มือยังรู้ว่าเขาเล่นดีมาก เขาเป็นสุดยอดแห่งความทุ่มเท ทุกครั้งที่เล่นจบ ทุกคนในกองจะปรบมือให้เสมอ" อย่าเถียงกันเลยค่ะ เพราะต่างคนต่างมุมมอง เอาเป็นว่า ลองดูไปเรื่อยๆ ว่าหนังเรื่องนี้ จะมีบทสรุปอย่างไรดีกว่า มันน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ ปล. ถ้าพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วย มันยาวมาก จากคุณ : ใครจะไปยกมือขึ้น - [ 4 เม.ย. 50 11:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ....ละลายเลือดดีลงไปในคลองน้ำเน่า.... บริษัทนี้ทำกับทั้งหนังและเพลงแหละ จากคุณ : the end - [ 4 เม.ย. 50 11:59:22 A:203.156.89.207 X: TicketID:133500 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมอ่านแล้วก็โอเคนะครับ เจ้าของกระทู้ แต่ผมรู้สึกเหมือนผู้กำกับ และคนที่คุณพูดถึงกำลังโดนเยาะเย้ยยังไงไม่รู้แฮะ (คงเพราะคำพวก ก๊ากกก.... กั่กๆๆๆๆๆ....เอิ๊กก.... ล่ะมั๊ง ถ้าไม่ต้องมี มันคงน่าอ่านกว่านี้อะ) จะว่าไป ผมก็อยากให้ จขกท. ลองทำหนังมาเหมือนกัน ผมไม่ได้พูดว่า เก่งนักก็ไปทำเอง อย่างนั้นนะครับ แต่เห็นมีความรู้เยอะดี ทำหนังออกมาเอง คงจะน่าดูแน่ๆเลย ได้ไหมครับ?? จากคุณ : DujZ - [ 4 เม.ย. 50 12:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แหม .. คุณ คห.ที่67 พูดมาก็เข้าทางผมเลย อยากดูผม แอ็คติ้งก็โหวตเลยนะครับ พิมพ์ AF(วรรค)551 ส่งไปที่ 4827999 แล้วผมจะแอ็คให้คุณดู 24 ชม.เลย .. อิอิ อย่าช้านะครับ ไม่งั้นอดดูจริงๆด้วย จากคุณ : Boy4Boyz - [ 4 เม.ย. 50 14:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อืม อ่านบทสัมภาษณ์มาเหมือนกับ คคห. 68 นะ และรู้สึกเหมือนกับคุณ Boy4Boyz ว่าหนังเรื่องนี้โดน จขกท กดเหลือเกิน ผมไม่เคยเรียนการแสดง ไม่ได้อยู่ในวงการ เลยบอกเหมือน จขกท ไม่ได้ว่าแอ็คติ้งของมาช่านั้นแย่ขนาดนั้น(เชียวเหรอ) แต่มันคงเหมือนกับตอนที่ผมไปดูภาพศิลป์ต่างๆ กระมัง ไอ้พวกภาพวาด abstract ติสต์แตกของศิลปินระดับโลกนั่น ผมดูยังไงก็ไม่อินไม่ฮือฮาเหมือนกับพวกนักดูภาพคนอื่นๆ แต่ผมว่า การที่จะมาบอกว่างานแบบหนึ่งเป็นน้ำดีในขณะที่อีกแบบหนึ่งเป็นน้ำเน่านี่ อะไรคือมาตรฐานเหรอครับ แล้วถ้าจะบอกว่าโปรเจ็คที่ ผกก. ต้องการจริงๆ นั้นไม่ผ่าน เลยมาทำแฝดแทน มันก็ไม่น่าจะหมายความว่า ผกก. เขาจะทำชุ่ยๆ นี่ครับ เขาอาจผิดหวังที่ไม่ได้ทำโปรเจ็คแรก แต่เขาก็อาจตั้งใจกับรายละเอียดของโปรเจ็คที่ได้ทำก็ได้นี่ครับ และเท่าที่ผมดู รายละเอียดในหนังแฝดนั้นก็ออกมาดี (ในสายตาผม) นี่นา ที่เขียนมานี่ไม่ได้จะปิดกั้นคำวิจารณ์ของผู้ดูหนังคนอื่น แต่เรื่องบางอย่างที่ถูกเขียนในนี้ มันก็แรงเกินไปหน่อย ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็น่าสงสาร ผกก. ทั้งคู่ที่นอกจากจะโดนทั้งผู้ลงทุนกดดันโปรเจ็คแล้ว ยังโดนคนรู้จักกันสับหนังเสียเละอีกต่างหาก แล้วในนิตยสารบางอัน ผกก.ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเลือกบทและตัวแสดง ซึ่งมันค้านกับความเห็นในนี้ด้วยซ้ำ อืมม สุดท้ายแล้ว เดี๋ยวก็คง จขกท หรือคนอื่นมาตอบด้วยความรู้ทางหนัง (ที่ผมไม่มี) อยู่ดี ความเห็นผมก็อาจดูเป็นความเห็นของคนด้อยความรู้ไปเลยก็ได้ ซึ่งก็ไม่เป็นไร สรุปเป็นว่า ท่ามกลางเสียงต่อว่าทั้งหลาย อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งล่ะที่ชื่นชมในผลงานและอยากให้กำลังใจ ผกก. ทั้งสอง และจะคอยติดตามดูผลงานลำดับต่อไปนะครับ จากคุณ : MrET_TK - [ 4 เม.ย. 50 18:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 73 โห... ว่ากันไปโน่น... อ่านกันดีๆหน่อยดิ ผมไม่ได้ว่าอะไรผู้กำกับเล้ย ผมว่าคนแสร๋น ...ก็แค่นั้นเอง กรรม... ลากกันไปถึงโน่น หาเรื่องให้ชาวบ้านเขาเหม็นขี้หน้าผมแล้วไหมล่ะ แล้วโต้งโอ๋ เขาก็เป็นผกก.แบบมีการศึกษา เขามีมารยาทครับ อะไรที่เขารับทำแล้วเขาก็ย่อมต้องทำให้มันดีที่สุดในสถานการณ์นั้น นักแสดงจะยังไงก็ตามแต่ ต่อหน้าสื่อมวลชน เขาย่อมต้องมีหน้าที่ปกป้อง และยกย่องนักแสดงนั้นแต่ถ่ายเดียวอยู่แล้ว เพราะยังไงมันก็คือความรับผิดชอบของเขา คุณจะให้เขาให้สัมภาษณ์อย่างไรล่ะ ...แหมคุณก็ ...แต่ในใจเขาจะเป็นยังไง ...ผมก็ไม่รู้สิ เขียนแค่นี้ก็ชักจะไม่ค่อยเข้าใจตัวเองอยู่แล้ว ...อืมม คนดูเขาชอบ ตูจะไปยุ่งไรกับเขานักฟระ ...หาเหาใส่หัวแท้ๆ เอิ๊กกกกกส... สงสัยผมนี่ว่างจัด เลยชอบแกว่งปากหาเสี้ยนเนอะ คงอยู่ดีก็ไม่ว่าดี หาเรื่องให้เพื่อนฝูงรังเกียจ ผมคงอยากดัง ใจจริงมันคงไม่ได้สนใจอะไรอนาคตของหนังไทยนักหรอก หึหึหึ... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 5 เม.ย. 50 00:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ผมก็ว่าผมพยายามอธิบายเป็นสิบหน้า พยายามให้เห็นภาพในเชิงลึกถึงความเป็นมาที่ทำอุตสาหกรรมนี้ทำท่าจะถอยหลังลงคลองอีกแล้ว เชื้อชวนให้คิด ให้ช่วยเขย่าต้นไม้แห่งความงกเงินของไอ้ยักษ์ใหญ่พวกนี้ ...ไม่สนใจจะอ่าน ไม่สนใจจะคิด แต่เหน็บนางฟ้าว่าแสร๋นจึ๊กเดียว ...มาแก้ต่างอธิบายกันเข้าไป อืมมม... แล้วก็มากันจัง ไอ้มุกเนี้ยยย... "เก่งนักก็ไปทำเองดิ" จะตอบว่า ไม่เก่งว้อย แต่เอาเงินมาดิ เดี๋ยวก็หาว่ากวนตรีนอีก ทำเป็น เคยทำ... แต่สิ้นหวังกับวงการนี้แล้ว ชีวิตยังมีศักดิ์ศรีพอ ไม่ทำก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร สุขใจจะทำค่อยทำ... แหม... ทีนี้ล่ะทำเป็นจะขอดู ตอนเขาฉายกันตั้งกี่รอบก็ไม่รู้จักไปดูกัน เห็นมีแต่ฝรั่งนั่งดูหัวแดงเถือกกันทั้งโรง กั่กๆๆๆ ปล. แล้วเออเนาะ หัวเราะก็หาว่าเยาะเย้ย ไม่หัวเราะก็หาว่าเครียด อืมมส... จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 5 เม.ย. 50 00:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนนี้ชักจะคล้อยตาม จขกท แล้วหรือว่าจะเป็นอุปทานเห็นภาพหลอน อิอิ ปล. ผมชอบเรื่องชัตเตอร์มากกว่าครับ เรื่องนี้ก็โอเค สำหรับคนธรรมดาอย่างผมแหล่ะ จากคุณ : ไม่รู้เรื่องเลย - [ 5 เม.ย. 50 01:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ชอบคำของ จขกท   " หนังเล่นมุกหักมุมที่พอถูกจับได้ก่อน ก็ไม่เหลืออะไรไว้ให้คนดูอย่างนี้  ...จะให้ผม:-)ว่ามันดีเหรอครับ ...มันก็แค่หนังดูขำๆเรื่องนึงอ่ะ แค่นั้น...." หนังมันแบไต๋ไปแล้วตั้งแต่กลางเรื่อง  ดังนั้นมันเอาไม่อยู่แล้วตอนปลายเรื่อง มันไม่หลอนติดหัว เหมือนชัตเตอร์เรย  อันนั้นหลอนไปหลายวัน เรื่องการแสดงของมาช่าไม่วิจารณ์ เพราะดูไม่เป็น รู้สึกเพียงแค่ว่าพอบทมันประหลาด การแสดงมันเลยประหลาดในช่วงท้าย แต่ชอบความคิด จขกท   เป็นเหรียญอีกด้าน  เป็นมุมมองอีกด้าน ที่น่าฟัง   และติเพื่อก่อ  มากกว่า จากคุณ : นู๋จุ๋มมาใหม่ - [ 5 เม.ย. 50 02:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อืมม... เข้ามาบอกว่าเท่าที่อ่านดู จขกท. ก็ไม่ได้ว่า ผู้กำกับ เลยนี่ครับ ออกจะยกย่องเสียด้วยซ้ำ ส่วนหนังทั้ง Shutter ทั้งแฝด คงไม่ดู เพราะกลัวเหลือเกินหนังประเภทนี้ แต่โปรเจ็กท์ใหม่จากชื่อไม่น่าจะหลอน คาดว่า ถ้ามีโอกาสต้องลองชมเสียแล้ว จากคุณ : L-Nets - [ 5 เม.ย. 50 14:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 78 http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000037981 เหมือนว่า เดิมทีตัวนำจะเป็นผู้ชาย? จากคุณ : L-Nets - [ 5 เม.ย. 50 15:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ใช้เวลา อ่านอยู่นานแบบเป็นกลางนะ ผมว่าความคิดเห็น ของบางส่วนเจ้าของกระทู้ เหมือนกับ มีอคติกับหนัง นะ ..... หนังที่ทำออกมาไม่ได้แย่ ถึงขนาดนั้น แต่ สภาพที่คุณบรรยาย ออกมา เหมือนกับว่าทั้ง หนัง คนแสดง ผู้กำกับ และบริษัทที่ผลิต มันทำหนังเละจนดูไม่ ได้ เลย ส่วน ไอเรื่อง ประวัติ ไร้สาระยาวๆที่ยกมาเล่าผมไม่อ่านนะ มันเหมือนกับไปก็อปเขามาลง เพื่อยกระดับให้ตัวเองดู เหมือนว่ามีภูมิรู้ขึ้นมา ทั้งๆที่บทความที่คุณ บรรยายมา ทั้งหมด เกิดจาก มุมมองของคุณเพียงคนเดียวและตัว คุณเองได้พยายามยัดเบียดความคิดอันนั้น ให้คนอื่นเห็น ด้วย อย่าลืมว่าตลาดทำหนัง ไม่ได้ทำหนังออกมา เห็นคนที่ ทำเหมือนจะมีภูมิ เก่งๆอย่างคุณดูคนเดียวนะครับ เขาทำให้ คนทั่วๆไป ดู ลองไป สำรวจดู ร้อยล่ะ 80 % ของคนที่ดูหนังเรื่องนี้ พอใจ ทั้งนั้น ถ้าคุณบอกไม่ชอบ มันเป็นเรื่องของคุณ คุณไม่ไปดูสัก คน หนังเขาก็ไม่เจ้งหรอก อย่าเอาความคิดที่เกิดจาก สมอง ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ของคุณไปยัดเยียดให้คนอื่น ถ้าหนังเขาทำรายได้ดีขึ้นมา อย่าลืม ไปก้มเลียน้ำลายที่ตัว เอง ถุยไว้เเล้วกัน จากคุณ : น้ำพุ - [ วันจักรี 17:36:14 A:58.136.60.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 ^ ^ ^ น่านนน... ยังจะแอบมาด่าทั้งๆที่กระทู้มันจะตกหน้าแล้ว จาบ้าเหรอ เขียนไรอ่านไม่รู้เรื่อง ...ไอ้นี่ คนเขารู้จักกันโว้ย... มีแต่ไอ้พวกสาวกที่ไม่รู้เรื่องน่ะถึงเป็นเดือดเป็นแค้น พนันกันไหมล่ะว่าเรื่องนี้รายได้น้อยกว่าชัตเตอร์ กระแสมันเริ่มตกแล้วทั้งๆที่ไม่ได้ชนกับหนังใหญ่อะไรเลย ขนาดคนทำเขายังรู้ตัวเลย พวกบ้านี่มาจากไหนอ่ะนั่น กั่กๆๆ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 7 เม.ย. 50 00:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อย่าเพิ่งลบนะครับ ผมยังไม่ได้เซฟไว้ แค่บุคมาร์คไว้เฉยๆ เชยโคตรเลยผมอ่ะ กระทู้ดีๆทำไมอ่านผ่าน นานๆคุณแท๊กซี่จะเขียนที แถมเขียนทั้งอสุจ๊าก ทั้งแฝด โอ๊ย ดีใจชมัดเลย ผมน่าจะเอาตั้มไดร์ฟมาด้วย จะได้เก็บไว้อ่านตอนเหงาๆ เด๋วจะมาอ่านครับ ขอเวลาวันสองวัน ช่วงนี้ชีวิตมันวุ่นวายเสียเหลือเกิน จริงๆมันเป็นความบังเอิญมากเลย ผมไม่นึกว่าจะได้อ่านกระทู้นี้ มีอยู่กระทู้นึง เขาบอกว่า เขาทิ้งคอมเม้นท์ไว้แล้วในกระทู้ของคุณแท๊กซี่นิรนาม ผมเลย เฮ้ย คุณแท๊กซี่มาเขียนไว้ตอนใหนหว่า เพิ่งจะมีเวลามาเสริชเจอ สงสัยวันหยุดยาว ไม่ได้ไปเที่ยวใหนแน่ๆเลย อิอิ http://pandagroup.pantown.com/ ป.ล. อ่านจบไปเรียบร้อย ไม่มีอะไรเสริมครับ เพราะคุณแท็กซี่พูดไปหมดแล้ว เขียนได้ดีตามเคย แม้บางท่อนจะคิดว่าแรงไปนิดก็ตาม แต่พอเข้าใจ เพราะผมว่าสไตล์การพูดก็ตามใจปากเหมือนผมแบบนั้นเลย ฮิฮิ เห็นด้วยทุกประการครับ แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 50 01:47:19 จากคุณ : joblovenuk - [ 7 เม.ย. 50 02:14:23 ]